เสพสงครามจนติด เหมือนติดบอล ติดมวย ติดเกม

มอง hurt locker กับบอลโลก

13 มิ.ย.53 ภาพยนต์เรื่อง The Hurt Locker มีคำกล่าวว่า “War is a drug” หรือ สงครามเป็นยาเสพติด เมื่อดูเรื่องนี้จนจบแล้ว ทำให้ผมพบคำตอบว่า ทำไมมนุษย์ชอบดูชาวต่างชาติทำสงครามผ่านลูกหนัง หรือที่เรียกว่า ศึกบอลโลก ที่แบ่งชาติแบ่งทีมกันเอาชนะ ใส่เสื้อเป็นกองเชียร์ เหมือนกลุ่มเชียร์มวย ที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเลือกข้าง พูดคุยอย่างมีข้างที่ตนถือหางอยู่ เอาแพ้เอาชนะ โดยเลือกชาติที่ไม่ใช่ชาติเรามาเป็นตัวแทนของตน แล้วมองผลการแข่งขันเป็นการแพ้ชนะของตน หากทีมที่ตนเลือกแพ้ ก็จะไม่สบายใจ แต่ถ้าชนะก็จะสุขใจ
     ฟุตบอลคือการรวมทีมที่แต่ละคนใช้ลำแข้งเป็นอาวุธ และกำหนดกติกาเอาแพ้ชนะ เด็กที่ติดเกม ก็จะใช้ดาบ ใช้ปืน หรือใช้อาวุธนานาชนิด แล้วเข้าไปห้ำหั่นกัน ตายคือผลของการทำลายล้าง  การเสพติดสงครามในเกมเกิดขึ้นกับเยาวชนมายมายจนบางคนเสียอนาคต เพราะติดเกม เสียงาน และเลิกเรียน  ส่วนบอลโลกก็จะมีการออกประกาศว่าห้ามเล่นการพนัน แล้วหลังจบบอลโลก ก็จะมีหลายคน หลายครอบครัวมีปัญหาจากผลของการพนัน เป็นภาระทางสังคมอยู่เสมอ .. แม้มนุษย์มีสารสนเทศที่เพียงพอแล้ว รู้เหตุของปัญหา รู้ผลของปัญหา แต่ก็ยังปล่อยให้ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้น ทั้งต่อตนเอง และต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน .. ก็พวกเราก้าวข้ามวิวัฒนาการจากสัตว์สู่มนุษย์ เป็นผู้มีสิทธ์เบียดเบียนสัตว์ทุกชนิดได้ด้วยความชอบธรรมมาได้ไม่นานนี้เอง
? แล้วคุณล่ะชื่นชมกับสงครามลูกหนังปี 2553 หรือไม่

เครียด ม.5 เผาโรงเรียน

เรียนเพื่อการแข่งขัน ส่งผลนักเรียน ม.5 โรงเรียนดังย่านพุทธมณฑลเครียดจัด ลอบเผาอาคารเรียนจนวอดเกือบทั้งหลัง ถูกจับรับสารภาพ หวังเพียงจะได้หยุดเรียน พ่อรับเคยบ่นไม่อยากเรียนอีกแล้ว รมว.ศึกษาฯ วอนอย่าเพิ่งด่วนสรุป ขอเวลาให้เด็กตั้งสติบอกเล่าความจริง
     เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ข้างมหาวิทยาลัยมหิดล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2553 พ.ต.ท.เชษฐ์ สังข์ศรีแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล ได้แจ้งให้รถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 10 คันไปดับไฟ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงศ์ ผกก. นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล กับพวก
     เมื่อไปถึงพบว่าไฟลุกไหม้ที่ชั้น 2 อาคารมหิดลวิทยานุสรณ์ 2 และลุกลามอย่างรวดเร็วจนถึงชั้น 4 เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้
     อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 7 ชั้น ถูกไฟไหม้เสียหายมากที่ชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องสมุด กระทั่งเช้าวันเดียวกัน ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน ปรากฏว่าเป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี อยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ บ้านเดิมอยู่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่านักเรียนผู้นี้กำลังปีนรั้วออกมา ศีรษะมีร่องรอยถูกไฟไหม้ และมีพิรุธ
     เบื้องต้นนักเรียนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จุดไฟเผาโรงเรียน โดย พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงศ์ ผกก.สภ.พุทธมณฑล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าที่เผาโรงเรียนเพราะไม่อยากเรียนหนังสือ เมื่อโรงเรียนถูกไฟไหม้จะได้ปิดโรงเรียน โดยได้ไปซื้อน้ำมันที่หน้าโรงเรียน 1 ลิตร ไฟแช็ก 1 อันมาเตรียมไว้ กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. ได้ซ่อนตัวอยู่ในอาคารชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องสมุด รอจนถึงเวลา 01.50 น. จึงลงมือราดน้ำมันและจุดไฟเผา ก่อนที่จะหลบอยู่ในห้องน้ำของโรงอาหาร จนถึงเช้าจึงได้ปีนรั้วออกมาและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว 
     เพื่อนๆ นักเรียนบอกว่า ผู้จุดไฟเผาเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และระยะหลังการเรียนตกต่ำจากที่เคยได้เกรด 4 ก่อนเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ ปัจจุบันเหลือเพียง 3.1 เท่านั้น จึงเกิดความเครียดก็เป็นได้ เพราะเพื่อนๆ บางคนก็ไม่ยอมช่วยเหลือ หรือเวลาไม่เข้าใจถามก็ไม่มีใครบอก
     นางยุวดี นาคะผดุงรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ กล่าวว่า โรงเรียนมีนักเรียนชาย-หญิง 720 คน เป็นโรงเรียนประจำ ทางโรงเรียนจะมีหอพักแยกระหว่างนักเรียนชายและหญิงอยู่คนละตึก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเด็กทำไปเพื่ออะไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับรายงานจากอาจารย์ผู้ปกครองว่าเด็กมีปัญหาอะไร
     นายวีรพล บิดาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า บุตรชายพักอยู่ที่หอพักภายในโรงเรียน จะกลับมาบ้านเฉพาะในช่วงที่ปิดภาคเรียนใหญ่เท่านั้น แต่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา ลูกชายกลับมาอยู่บ้าน บ่นให้ตนกับภรรยาฟังว่าเรียนหนัก และรู้สึกเครียดมากจนไม่อยากจะกลับไปเรียนอีกแล้ว ซึ่งตนไม่เอะใจอะไร เพียงแต่ให้กำลังใจลูก อย่างไรก็ตาม ระยะหลังลูกเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจนเคยคิดว่าอาจจะมีปัญหาทางจิต เพราะญาติพี่น้องของตนหลายคนมีปัญหาเช่นนี้
     ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และได้หารือกับผู้บริหารโรงเรียน รวมทั้งตำรวจท้องที่ถึงคดีดังกล่าว ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับให้ทุกฝ่ายระมัดระวังการให้ข่าว ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการตรวจพิสูจน์หลักฐานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุที่อยู่เหนือความคาดหมาย ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของอาคาร และสำหรับนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนเพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้โรงเรียนได้แก้ไขปัญหาก็จะมีการหยุดเรียน 7 วัน เพื่อให้ทางโรงเรียนเตรียมหาห้องเรียนและห้องสมุดสำรอง
     “ยังไม่อยากให้ทุกฝ่ายสรุปว่าเกิดจากความเครียดของเด็ก ขอเวลาเด็กได้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงก่อน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ร่วมด้วย เมื่อสรุปผลและดูข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ก็จะดูในรายละเอียดเพื่อแก้ไขปรับปรุงในระยะยาวต่อไป” นายชินวรณ์กล่าว.
+ http://www.thaipost.net/x-cite/070610/23135

คำถามว่า มนุษย์เราทำไมไม่รักตัวเอง

6 มิ.ย.53 ความคิดเห็นที่มาจากหลายองค์ประกอบ สำหรับพิจารณาเหตุที่มนุษย์บางคนไม่รักตัวเอง นั้นมีเหตุปัจจัยอะไรบ้าง
     1) มนุษย์เราวิวัฒนาการจากสัตว์เดรัจฉานมาไม่นานนี้เอง คาดหวังมากจะเป็นทุกข์ นั่นคือเราเป็นอย่างที่เราเป็น มนุษย์ในหลายประเทศก็ยังมีวิวัฒนาการไม่สูง ยังใช้เหตุใช้ผลไม่ชำนาญ และคนไทยมีเงินทองใช้แลกเปลี่ยนไม่ถึง 100 ปีนี้เอง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นพัฒนาอย่างชัดเจน เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ กว่าจะแพร่หลายในชนบทก็หลายสิบปีแล้ว
     2) มนุษย์ขาดความสามารถในการใช้สารสนเทศ 2.1) เรารู้ว่าดื่มสุราแล้วเมาเกิดอุบัติเหตุ เสียสุขภาพแต่ก็ยังทำ 2.2) เรารู้ว่าการนอกใจเพื่อความสุขชั่วคราว แต่ก็ยังทำกันอยู่จนปัญหากลายเป็นเรื่องชินตา 2.3) เรารู้ว่าการทำผิดกฎหมาย เกิดภัยเข้าตัวอย่างร้ายแรง แต่ก็ยังฝืนกฎ ขาดวินัยในการใช้ชีวิต 2.4) เรารู้ว่าวันเวลาเกิดจากการหมุนของโลกรอบตัวเอง และโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ แต่ก็ยังเชื่อเรื่องดูดวงกันเป็นตุเป็นตะ
     3) การไม่ยึดมั่นในวินัยต่อสังคม หรือไม่รักษาคำมั่นระหว่างบุคคล เพราะมนุษย์ขาดความสามารถในการวางแผนอย่างเป็นระบบ ไม่มองไปถึงผลของเหตุ ไม่มองไปที่วิสัยทัศน์ขององค์กร สังคม ครอบครัว และตนเอง จนขาดฐานคิดที่มั่นคงสำหรับปฏิบัติตน เป็นเหตุให้พบว่าผลของความประพฤติออกมาในแนวแสดงความไม่รักตนเองในภายหลัง เนื่องจากขาดการวางแผนที่รัดกุมต่อปฏิบัติการของตน ผลที่ได้จึงไม่อาจคาดการณ์

ปัญหาความผิดปกติจากเสียงข้างมาก

ศีลข้อหนึ่งของชาวพุทธ คือ ไม่ดื่มสุรา

31 พ.ค.53 วันนี้นึกย้อนเรื่อง เพื่อนในวงเหล้า เพื่อนสาว และ เพื่อนเก่า โดยเพื่อนเก่าทักว่าผมควรไปหาจิตแพทย์ อันที่จริงผมเคยไปแล้วนะครับ ผมเคยไปปรึกษาเรื่องความนิ่งของคนในชุมชน แต่ก็ไม่ได้อะไรเพราะจิตแพทย์คงช่วยผมแก้ปัญหาของคนในชุมชนไม่ได้ สำหรับวันนี้ผมพบปัญหาที่จะเล่าเชิงเปรียบเทียบให้ฟัง เป็นความผิดปกติที่ผมรู้สึกว่าตนเองแตกต่างจากคนในชุมชนที่ผมอาศัยอยู่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างทำงาน คือทุกคนนิ่งกันไปหมด ส่วนเพื่อนสาว รับผลโดยตรงจากการนิ่งของคนในชุมชน ผมแค่เข้าไปช่วยเป็นกลไกอีกชิ้น ก็ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนนิ่งกันไปหมด มนุษย์ทั่วไปไม่ควรเป็นเช่นนั้น เพราะไม่สมเหตุสมผล ถ้าความปกติคือ ความเหมือนกันของคนหมู่มาก ก็ต้องบอกว่า เพื่อนสาวคนนี้ผิดปกติแล้ว เพราะผมพยายามมองจากภายนอก แล้วเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น การนิ่งแบบนี้ของคนในชุมชนเป็นมาหลายปีแล้ว และลุ้นว่าเพื่อนสาวจะทำให้การนิ่งนี้คลี่คลายได้หรือไม่ .. พยายามกันอยู่
     มาเรื่องเพื่อนในวงเหล้า ที่ผมมีโอกาสไปล่องแพกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ทุกคนดื่มสุราตั้งแต่เช้าจรดเย็นบนแพกลางแม่น้ำ ที่ผมไปร่วมกิจกรรมก็เพราะเป็นกิจกรรมของครอบครัว แต่เสียงข้างมากมองว่าผมผิดปกติที่ไม่ดื่มสุรา ไม่ทานข้าวเที่ยง ไม่ทานลาบดิบ ไม่ร้องเพลงเต้นรำ (ไปจีนต้องกินซุปสุนัข .. อะไรทำนองนี้) ซึ่งผมก็เข้าใจว่าทุกคนมีวิถีปฏิบัติและความเชื่อแตกต่างกัน มีเพื่อนรุ่นพี่เข้ามาคุยว่า เวลาสนุกก็ควรสนุกให้เต็มที่อย่าไปเครียด ต้องปล่อยวาง แล้วส่งแก้วให้ผมดื่ม .. ทายสิว่าเสียงข้างมากจะทำให้ผมเปลี่ยนพฤติกรรม และผิดศีลสุราหรือไม่ .. ก็คงไม่ครับ เพราะผมกลัวสุรามากกว่ากลัวการปฏิเสธ

ชวนลดมื้อเที่ยงจะได้ผอมในตาคนอื่น

29 พ.ค.53 ศิษย์ที่ชื่อยุ้ย เข้ามาทักทายใน facebook.com ว่าร่างกายของผมผ่ายผอมไปหรือเปล่า ต้องทานข้าวเพิ่มแล้วนะ ผมจึงตอบไปว่า มนุษย์เรากินเพื่ออยู่ การงดอาหารมื้อเที่ยงหนึ่งมือ ทำให้จากที่เคยมีวัฒนธรรมการทาน 3 มื้อเหลือเพียง 2 มื้อ ยังมิใช่ปลายทางของผมแน่ เพราะพระสงฆ์ท่านยังอยู่ได้ด้วยอาหารมื้อเดียวเลย มนุษย์เมื่อร้อยปีก่อนไม่ได้กินดีอยู่ดีอย่างเรา เขายังอยู่ได้จนมีลูกหลานเต็มเมือง แต่ยุคนั้นโชคดีที่ไม่มีสารปนเปื้อนมากมายเท่ายุคนี้ .. อัตราการเผาผลาญในร่างกายของคนเราแตกต่างกัน ร่างกายของผมอาจคงที่ที่เท่านี้ก็ได้ การผอมหรืออ้วนจึงต้องวัดจากความต้องการของร่างกาย มิใช่สายตาของคนรอบข้าง .. ผมอยากจะชวนทุกคนมาผอมในสายตาของคนอื่นด้วยกันดีไหม (ถ้ารู้สึกว่าสายตาของคนอื่นสำคัญมากมาย) .. ขอเชิญชวน จะได้ลดการบริโภค ลดโลกร้อน ลดอัตราการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตลง 1 ใน 3 ของที่ทำอยู่

ศิลปินไอดอลแนวหน้า SNSD และ 2PM

cabi song

20 พ.ค.53 ซัมซุง เอเวอร์แลนด์ เจ้าของ Caribbean Bay ทำเพลง cabi song โดยมีกลุ่มศิลปินไอดอลแนวหน้า SNSD และ 2PM ร่วมกันร้องเพลง เพื่อเป็นพรีเซนเตอร์ของสวนน้ำเปิดใหม่ (ก็คงไม่อยู่ในไทย) ตอนผมดู Music Video ก็ไม่ได้ฟังเพลงหรอกครับ เพราะไม่ชอบฟังเสียงจากเครื่องคอม พอดูไปได้ครึ่งเรื่องก็เห็นว่าน่าสนใจ จึงบันทึกไว้นี่หละครับ เพราะโชว์เรื่องร่างจนผมไม่ได้รู้เลยว่าเขาโฆษณาสวนน้ำ นึกว่าโฆษณาผู้หญิงกับผู้ชายให้ผมได้รู้จัก .. ลองค้นหาวง SNSD แล้วพบว่าเป็นผู้หญิงออกมาเต้น มาร้องเพลง ส่วนเพลงก็อะไรไม่รู้ ฟังไม่ออก ส่วน 2PM ก็เป็นวงผู้ชายล้วน ออกมาเต้นกันเก่งครับ แฟนเพลงคงเยอะทีเดียว แต่ก็ร้องไม่เป็นภาษาไทยอีกนั่นหละ
+ http://www.youtube.com/watch?v=xbnI4FgpFDQ
+ http://www.youtube.com/watch?v=AMDatRm2zqo
+ http://www.youtube.com/watch?v=M4rZvGF7ICY

กฎเกณฑ์กับเกื้อกูล กับคนที่คุยกันเรื่องวินัย

17 พ.ค.53 เพื่อนชื่อ ช. จากองค์กรหนึ่งโทรมาพูดคุย โดยเขาเป็นคนที่ยึดมั่นในหลักกฎเกณฑ์มากกว่าเกื้อกูลเป็นแนวปฏิบัติ เล่าว่า 1) ทุกเช้าจะเห็นคนในบริษัทนั่งกินข้าวเช้าในเวลาทำงาน ออกไปทานข้าวก่อนเที่ยง กลับเข้าทำงานหลังบ่าย … ทำให้รู้สึกรับไม่ได้ 2) บางคนก็นั่งเล่นเกม เล่นแชท นั่งหลับ อ่านข่าว facebook ในเวลางาน แต่เขาทำงานหนักอยู่คนเดียว ไม่อยากช่วยเหลืออะไรใครสักเท่าใด เวลาเครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหา 3) บางคนเอาคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาให้ซ่อม แม้จะใช้ในงาน ใช้บ้าง หรือไม่ใช้ในงานเลย ก็ไม่อยากช่วยเหลือ ไม่อยากบริการ .. เพราะอย่างนี้องค์กรที่เขาทำงานอยู่ จึงได้มีปัญหาจากการที่ผู้คนไม่ยึดมั่นในกฎเกณฑ์และไม่มีวินัย .. เป็นปัญหาของความเกื้อกูล และปล่อยปะละเลย
     ฟังแล้วก็รู้สึกว่าเขาออกจะเอียงซ้ายไปสักหน่อย .. ผมก็ตามน้ำย้อนเหตุผลกลับไปว่า ถ้ายึดมั่นในกฎเกณฑ์ ก็ไม่ต้องให้บริการซ่อมเครื่องให้กับใคร ไม่ต้องสนใจว่าเขาจะนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาใช้ในองค์กรหรือไม่ นำคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมานำเสนองานให้ผู้บริหารก็ไม่ต้องช่วยเหลือ เพราะเป็นเครื่องส่วนตัว แม้นำมาใช้ในงานก็จะไม่ช่วยเหลือ  แล้วคุณจะยึดกฎเกณฑ์หรือเกื้อกูลล่ะ .. คำตอบ คือ เขาก็ต้องช่วยเหลือ ตามหลักความสมเหตุสมผล
     เพื่อนชื่อ ช. เล่าอย่างเอียงซ้ายต่อว่า เห็นใครต่อใครนั่งเล่น MSN ทั้งวัน ไม่อยากให้ใครเล่นเลย ผมก็ตามน้ำย้อนเหตุผลกลับไปว่า ก็ปิดบริการที่ต้องสงสัยซะคุณคุมเครือข่ายอยู่นี่ ไม่ต้องให้ใครใช้นอกจากใช้กับงาน มีบริการอีกมากมายที่ควรปิด เพราะคนในองค์กรนี้ส่วนหนึ่งเสียเวลาทำงานไปกับการเปิดเว็บดูดวง เว็บอ่านข่าว เว็บ facebook ดาวน์โหลดเกม ดาวน์โหลดหนัง ผมก็แนะนำว่าปิดบริการทุกบริการที่จะทำให้บุคลากรในองค์กรนั้นไม่ทำงาน ใครอยากใช้ทำงานให้ทำบันทึกถึงผู้บริหาร และรายงานเป็นรายบุคคล แล้วคุณจะยึดกฎเกณฑ์หรือเกื้อกูลล่ะ.. คำตอบ คือ เขาเองก็ยังใช้บริการข้างต้นเหมือนใครต่อใคร
    ? คุณยึดมั่นในกฎเกณฑ์หรือเกื้อกูลล่ะ .. แต่ผมเป็นพวกเข้ากลุ่มคนหมู่มาก ไม่นิยมแปลกแยก

รวบเจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่ยิงกิ๊กแฟนสาว

อย่าอยากเป็นกิ๊ก .. ขอเตือน

9 พ.ค.53 มีคนบอกว่า sanook.com ลงข่าวที่ได้มาจาก innnews.co.th ว่า พ.ต.ต.สุธีระ ปุณณะบุตร ผบก.สส.ภาค 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) นำหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าจับกุม ครูบาน้อย เจ้าอาวาสวัดดัง ใน ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พระโต้ง เป็น พระลูกวัดคนสนิท ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากการสอบสวนทราบว่า ครูบาน้อย เป็นคนสั่งให้พระโต้งใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้ตาย เนื่องจากโกรธแค้นที่ น.ส.กวาง เลิกคบหากับตน แล้วไปคบกับผู้ตายที่ถือว่าเป็นกิ๊ก ทางตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและเข้าจับกุมได้คาวัดดังกล่าว
     ในใจผมคิดว่าบทเรียนในปัจจุบันจะเป็นแนวทางในอนาคต จะได้ไม่เดินพลาดด้วยความตั้งใจของตนเอง เพราะถ้าพลาดจากเหตุสุดวิสัย เช่น ป่วยเป็นมะเร็งที่ผ่านการควบคุมอาหารและการใช้ชีวิตแล้ว การจากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บก็คงเป็นเหตุสุดวิสัย .. ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ถึงอย่างไรก็ยังเป็นสิ่งเดียวที่มีให้ยึดเหนี่ยว คงเปลี่ยนที่หมายของความหวังที่จะได้ขึ้นสวรรค์ ไปพบนางฟ้า ไปนั่งกินนอนกินบนยอดเมฆอย่างมีความสุขนิรันด์กาล .. เพราะถ้าชีวิตสิ้นหวัง สิ้นความเชื่อ ก็จะเป็นทุกอย่างแสนสาหัส ขอเตือนว่าทุกคนอย่าสิ้นหวังในศาสนา ในชีวิตหลังความตายนะครับ .. ไม่งั้นจะเป็นทุกข์ไปชั่วชีวิต
+ http://www.thaiall.com/dhamma

เรื่องเซ็กส์ระหว่างเด็กแก่แดด มีตัวอย่างในละครทีวี

7 พ.ค.53 วันนี้พบละครทีวีเรื่องมนต์รักสายฟ้าแล็บ แสดงให้เห็นความฉลาดของเด็ก 2 คน ที่ดูจะโตเกินวัย แก่แดด เพราะผู้กำกับกำหนดให้เป็นอย่างนั้น น่าแปลกที่สังคมไทยยอมรับเรื่องนี้ มนุษย์บางคนคงนั่งดูกันอย่างมีความสุข ไม่ได้คิดอะไรกันเลย บางท่านอาจคิดแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ส่วนผมก็ทำได้แค่เขียนนี่หละครับ เป็นการสะท้อนคิดจากมุมมองของปุถุชนครับ ถ้าเขียนมากกว่านี้ก็จะเกินไป และจำต้องยอมรับไปด้วย เพราะการทำตัวแตกต่างจากปุถุชนคงไม่ใช่ผลดี ขนาดเห็นเพื่อนเล่นเกมในเวลางาน เห็นเพื่อนกินเหล้า เห็นเพื่อนกินหมูไหม้ ผมยังเงียบเลย เกรงว่าเขาจะรู้ว่าผมคิดอย่างไร

ทำบุญให้พี่หนุงหนิงที่สนาม

รำลึกถึงพี่สาวผู้ล่วงลับ

7 พ.ค.53 พี่หนุงหนิง หรือพี่พจนีย์ หน่อพรหม ศิษย์เก่ารุ่น 1 และบุคลากรของมหาวิทยาลัยโยนกเสียชีวิตที่สนาม เมื่อคืนวันพุธที่ 27 เม.ย. 2553 เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเก่าและญาติต่างเสียใจ ดังนั้นในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.2553 บุคลากรทั้งผู้บริหาร อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ จึงร่วมกันทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้กับพี่หนุงหนิงอีกครั้ง โดยมีท่านอธิการ ผู้ช่วยอธิการบดี เพื่อนร่วมงานที่หอพัก และเพื่อนบัณฑิตวิทยาลัย ต่างมาร่วมพิธีกันพร้อมหน้า