รวบเจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่ยิงกิ๊กแฟนสาว

อย่าอยากเป็นกิ๊ก .. ขอเตือน

9 พ.ค.53 มีคนบอกว่า sanook.com ลงข่าวที่ได้มาจาก innnews.co.th ว่า พ.ต.ต.สุธีระ ปุณณะบุตร ผบก.สส.ภาค 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) นำหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าจับกุม ครูบาน้อย เจ้าอาวาสวัดดัง ใน ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พระโต้ง เป็น พระลูกวัดคนสนิท ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากการสอบสวนทราบว่า ครูบาน้อย เป็นคนสั่งให้พระโต้งใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้ตาย เนื่องจากโกรธแค้นที่ น.ส.กวาง เลิกคบหากับตน แล้วไปคบกับผู้ตายที่ถือว่าเป็นกิ๊ก ทางตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและเข้าจับกุมได้คาวัดดังกล่าว
     ในใจผมคิดว่าบทเรียนในปัจจุบันจะเป็นแนวทางในอนาคต จะได้ไม่เดินพลาดด้วยความตั้งใจของตนเอง เพราะถ้าพลาดจากเหตุสุดวิสัย เช่น ป่วยเป็นมะเร็งที่ผ่านการควบคุมอาหารและการใช้ชีวิตแล้ว การจากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บก็คงเป็นเหตุสุดวิสัย .. ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ถึงอย่างไรก็ยังเป็นสิ่งเดียวที่มีให้ยึดเหนี่ยว คงเปลี่ยนที่หมายของความหวังที่จะได้ขึ้นสวรรค์ ไปพบนางฟ้า ไปนั่งกินนอนกินบนยอดเมฆอย่างมีความสุขนิรันด์กาล .. เพราะถ้าชีวิตสิ้นหวัง สิ้นความเชื่อ ก็จะเป็นทุกอย่างแสนสาหัส ขอเตือนว่าทุกคนอย่าสิ้นหวังในศาสนา ในชีวิตหลังความตายนะครับ .. ไม่งั้นจะเป็นทุกข์ไปชั่วชีวิต
+ http://www.thaiall.com/dhamma

ทำบุญให้พี่หนุงหนิงที่สนาม

รำลึกถึงพี่สาวผู้ล่วงลับ

7 พ.ค.53 พี่หนุงหนิง หรือพี่พจนีย์ หน่อพรหม ศิษย์เก่ารุ่น 1 และบุคลากรของมหาวิทยาลัยโยนกเสียชีวิตที่สนาม เมื่อคืนวันพุธที่ 27 เม.ย. 2553 เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเก่าและญาติต่างเสียใจ ดังนั้นในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.2553 บุคลากรทั้งผู้บริหาร อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ จึงร่วมกันทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้กับพี่หนุงหนิงอีกครั้ง โดยมีท่านอธิการ ผู้ช่วยอธิการบดี เพื่อนร่วมงานที่หอพัก และเพื่อนบัณฑิตวิทยาลัย ต่างมาร่วมพิธีกันพร้อมหน้า

ความทุกข์จากความรัก

การลงมือปฏิบัติจนพบว่าการอด มิใช่ทางออกเสมอไป

16 ก.พ.53 คำว่า action = reaction เมื่อใช้เวลากับอะไรสักอย่าง เช่น 1) ให้เวลากับเพื่อนก็ย่อมต้องการให้เพื่อนรัก 2) ให้เวลากับองค์กรก็ย่อมต้องการเห็นองค์กรรุ่งเรือง 3) ให้เวลากับการดูแลตนเองก็ย่อมรักตัวกลัวตาย 4) ให้เวลากับสิ่งใดก็ย่อมคาดหวังผลจากสิ่งนั้น 5) ชื่นชอบกับการกินเนื้อสัตว์ก็ย่อมต้องฆ่าสัตว์เป็นเงาตามตัว .. ถ้าลดอาหารลงสักมื้อสองมื้อ น่าจะลดการฆ่าสัตว์ลงได้ร้อยละสามสิบถึงหกสิบทีเดียว .. มีคำกล่าวว่าเราหยุดแล้วแต่ท่านยังไม่หยุด .. จึงมีคำถามน่าตอบว่า แล้วเราหยุดอะไรไปบ้างหรือยัง เพื่ออะไรต่อมิอะไร
     ปัจจุบันพฤติกรรมของมนุษย์สามารถจำแนกตามเป้าหมายของความสัมพันธ์ได้ 8 แบบ คือ ตนเอง ครอบครัว องค์กร เพื่อน ชุมชน ประเทศ โลก และธรรมชาติ การจัดลำดับความสำคัญคือสิ่งที่มนุษย์ต้องเลือก และมีเหตุผลในการเลือกแตกต่างกันไป แต่เท่าที่สังเกตมนุษย์ให้เหตุผลในการเลือกแตกต่างกัน เช่น 1) บางคนดื่มสุราโดยไม่สนใจผลข้างเคียงต่อร่างกาย 2) บางคนรักเพื่อนไปอยู่กับเพื่อนแต่ทิ้งลูกภรรยาและบุพการีไว้ที่บ้าน 3) บางคนทิ้งครอบครัวเดิมไปมีครอบครัวใหม่ 4) บางคนทิ้งครอบครัวไปทำงานในที่ห่างไกล 5) บางคนมองต่างประเทศเป็นสวรรค์เป็นฝันสูงสุดในบั้นปลายของชีวิต .. และผมก็เชื่อว่าทุกคนต่างไม่ผิดแต่ความคิดเราต่างกัน
     อย่างเช่นคนสองกลุ่มที่เชื่อในหลักนิติศาสตร์ กับหลักรัฐศาสตร์ มักคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะมีธงกันคนละผืน นิติศาสตร์จะให้ความสำคัญกับความถูกต้อง ส่วนรัฐศาสตร์จะให้ความสำคัญกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่เห็นไม่ตรงกันก็เพราะรักและเชื่อกันคนละด้าน แต่ละคนย่อมมีเหตุผล และจมอยู่ในเหตุผลที่ยึดถือ ถ้าปล่อยวาง ปล่อยให้เป็นไป ปล่อยเกียร์ว่าง วางเฉย อาจทำให้ทุกสังคมที่มีความขัดแย้งสงบลงได้ .. ถ้าไม่สงบก็จะมีปัญหาเหมือนข่าวในทีวี

พระปลัดบรรยายธรรมวันแห่งความรัก

วันวาเลนไทน์

3 ก.พ.53 อ.อ้อม คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ร่วมกับทุกคณะวิชา อาทิ อ.บอย คณะบริหารเป็นพิธีกร อ.น้ำผึ้ง คณะนิเทศรับลงทะเบียน อ.แต คณะวิทย์เก็บแบบสอบถาม จัดโครงการธรรมะเพื่อชีวิต นิมนต์พระครูปลัดอนันต์ ญาณสํวโร มาเทศให้ข้อคิดเตือนสติเตือนใจหลายเรื่อง อาทิ ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจเร็ว ไม่พูดปด ไม่หมดสติ หรือ วัยพึ่ง วัยพบ วัยเพียร วัยพัก และวัยพราก ก่อนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อปรามมนุษย์เยาวชนให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท มีนักศึกษาจากทุกคณะ ผู้บริหาร อาจารย์และเจ้าหน้าที่ สนใจเข้าฟังพร้อมเพียงกัน และมีประเด็นเล่าให้ฟังมากมาย เรื่องหนึ่งคือประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ซึ่งพอสรุปได้ว่า เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีถูกจัดให้เป็นวันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นวันเริ่มต้น เทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย
     ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอโหดร้าย นิยมการทำสงคราม ทรงตระหนักว่าชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมกองทัพ เนื่องจากไม่อยากพรากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงมีพระราชโองการห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นหรือแต่งงานในโรม ทำให้ประชาชนทุกข์ใจยิ่งและขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์หรือวาเลนตินัส ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ ทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ ระหว่างเป็นนักโทษเชื่อกันว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะถูกตัดศีรษะ เขาส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” และวาเลนไทน์ก็ถูกประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
     หลังจากนั้นศพของเขาถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัส โดยต้นอามันต์สีชมพูเป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสวยงาม ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกเลือกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนพอใจในวันวาเลนไทน์จนถึงทุกวันนี้

+ กุหลาบแดง (Red Rose) : แทนประโยคว่า “ฉันรักเธอ”
+ กุหลาบขาว (White Rose) : แทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
+ กุหลาบชมพู (Pink Rose) : แทนความรักแบบโรแมนติก
+ กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : แทนความรักแบบเพื่อน เป็นสีแห่งความสดใส

ขบวนแห่กัณฑ์เทศในงานตั้งธรรมหลวงเวียงละกอน

ขบวนของมหาวิทยาลัยโยนก
ขบวนของมหาวิทยาลัยโยนก

14 ม.ค.53 งานวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ขอเชิญชวนอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษามหาวิทยาลัยโยนก ร่วมกิจกรรม 2 งานคือ 1) แห่กัณฑ์เทศ วันที่ 14 เวลา 7.00-9.00น. จากโรงเรียนเทศบาล4 ไปศาลหลักเมือง และ 2) ร่วมฟังเทศน์มหาชาติ กัณฑ์มัทรี จากพระราชธรรมาลังการ เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์ พระอารามหลวง จ.ลำปาง ในวันที่ 15 เวลา 13.00-14.00น. ณ ศาลหลักเมือง แล้วในวันนี้คณะวิทย์ฯ ไปร่วมแห่กัณฑ์เทศ และมีโอกาสเก็บภาพ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาที่ไปร่วมกิจกรรมกว่า 30 คน เป็นความสุขใจในฐานะกลุ่มพุทธศาสนิกชน ที่มีโอกาสได้ร่วมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ดำรงสืบไป เพื่อนร่วมบุญครั้งนี้มีมากมาย อาทิ อ.ใหญ่ อ.เอก อ.โก อ.นงลักษณ์ อ.เอ็ม อ.พจน์ อ.นัน อ.น้ำค้าง พี่ริน พี่แบงค์ พี่รัชนีย์ ส่วนนักศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้มากที่สุด รองลงมาเป็นคณะนิติศาสตร์
     งานบุญครั้งนี้เป็นกิจกรรมทางศาสนาพุทธในจังหวัดลำปาง การร่วมกิจกรรมก็มีทั้งเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ข้าราชการ การแต่งกายก็เป็นไปตามฟอร์มของแต่ละองค์กร เช่น นักเรียนก็ชุดนักเรียน ส่วนนักศึกษาก็จะเป็นชุดนักศึกษา ซึ่งหลายสถาบันมีนักศึกษาแต่งกายตามปกติวิสัย ที่พระสงฆ์ดูชุดนักศึกาษาสมัยนี้แล้วอาจมีความคิดเห็นไปในทางไม่สงบมากไป ปัจจุบันโลกไร้พรมแดนเป็นจริง ความคิดก็เริ่มไม่มีพรมแดน ดังนโยบายของรัฐบาล หรือคำขวัญวันเด็กก็จะมีคำว่า ความคิดสร้างสรรค์เข้ามา ทำให้ความคิด หรือพฤติกรรมเริ่มหลุดออกนอกกรอบ พระสงฆ์เริ่มใช้กล้องดิจิทอล อ.พจน์ ให้ข้อสังเกตุว่า มีพระสงฆ์ใช้กล้องถ่ายรูปเก็บภาพนักศึกษาหญิง ซึ่งดูแล้วก็ใช้ทัศนคติของผู้เคร่งวินัยตัดสินความไปในทางหนึ่งซะแล้ว แต่ผมให้ความเห็นว่าเขาคงเก็บไปทำ case study ส่วนผมเห็นพระสงฆ์ใช้วิทยุสื่อสาร ก็คิดว่าทันสมัยดี มีอะไรให้พูดคุยสื่อสารกันแน่นอน มีกิจกรรมทางโลกให้พระสงฆ์ได้เข้ามาทำกิจกรรม มากกว่าที่คาดหวังอยู่ไม่น้อย .. วิถีของแต่ละคน .. ตนย่อมเป็นผู้กำหนด

งานบุญ งานสัมมนา งานวิจัย กับกาแฟ 3 แก้ว

1) เช้าที่ 28 มีค52 ผมมีนัดหมายไปร่วมงานบุญบวชเณรที่วัดต่าง ๆ กับรถตู้ของสถาบัน ตั้งแต่ 7.45 น. ก็วางแผนว่าจะไปเรียบร้อยดี แต่เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการขับถ่าย ทำให้ผมเดินทางไปสถานที่นัดหมายประมาณ 7.55 น. พบว่าล้อหมุนไปแล้ว จึงตกรถ นี่เป็นครั้งที่ 2 ห่างกันไม่ถึงปีที่ผมพลาดงานบุญเป็นชุดเช่นนี้ เพราะเคยไปไหว้พระ 9 วัด กับพระครูที่วัดไหล่หินลุ่ม ไปกันเป็นคาราวาน แต่วัดที่ 8 เกิดมีรถหลงทาง 2 คัน และรถของผมก็เป็น 1 ในนั้น มาครั้งนี้ไปไกล ครอบครัวก็ไม่ได้ไป จึงตัดสินใจไม่ตาม
สรุป : การวางแผนเดินทาง ต้องเผื่อเรื่องห้องน้ำ และรถเสีย ไว้พอประมาณ
2) อันที่จริง ผมมีนัดเข้าสัมมนาการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรที่ 2 แต่เคยปฏิเสธไป เรื่อง วิทยากรกระบวนการ โดย สกว.สำนักงานภาค ห้องสมุดประชาชนเทศบาลนครลำปาง จึงโทรไปถามว่าในทีมผมไปแล้ว 3 คน คือ พ่อกำนัน แพทย์ และป้ากิม เพิ่มผมไปอีกคน จะได้ไหม หลังจากเคยปฏิเสธไปแล้ว ทั้งจิ๋ม และจิ๊ปซึ่งเป็นผู้จัดงานมิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด มีกิจกรรมที่ช่วงบ่ายออกไปเสนอกระบวนการจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนเงิน 10 ล้าน ของหมู่บ้าน ผมมีโอกาสสมมติตนเองเป็นกำนัน และจัดเวทีหมวดยกร่างกฎ ให้มานำเสนอ ตกเย็นก็มีผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ข้อเสนอแนะ ได้ประสบการณ์ และวิธีแก้สถานการณ์ดีมาก
สรุป : อาจสวมหมวกหลายใบ ไม่มีใครสวมทุกใบแล้วไม่พบปัญหา ต้องเลือกตามเหตุอันควร
3)
กลับบ้าน ก็พบว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องหัวใจ จนเขียนบทความกับรายงานวิจัยไม่ได้ คิดว่าถ้าเดินคลายเครียดอาจหาย ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเย็นดื่มกาแฟแก้วที่ 3 เข้าไปแล้ว จึงมีอาการทางหัวใจที่เต้นไม่ปกติ พอทราบสาเหตุก็สบายใจ ว่าเดี๋ยวดื่มน้ำเยอะ ก็คงดีขึ้น ตกดึกจึงนั่ง clear งบประมาณงานวิจัย ตามเอกสาร ต้องรอกิจกรรมอีก 3 รายการ ที่จะเกิดขึ้น จึงจะ clear ได้ ซึ่งโครงการขอขยายการเขียนรายงานและสรุปไป 2 เดือน ตามคำแนะนำของผู้ประสานงาน ซึ่งผมก็ว่าดี จะได้ไม่เร่งกิจกรรมสรุปผลในเดือนเมษายน
สรุป : ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ กินเป็นตัวกำหนดที่เราเป็น กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น
4) วางแผนว่าพรุ่งนี้ไม่ไปร่วมงานบวชอีกวัน เพราะอยาก clear บทความที่ลงฅนเมืองเหนือ ให้เสร็จสัก 2 เรื่อง เพราะวันนี้ตอนสัมมนา เขียน draft เรื่องเทคโนโลยีกับนวัตกรรม แต่ draft อีก 2 เรื่องที่เขียนไว้ยังไม่ได้ prove และ public ถ้าไปงานบวชตกเย็นคงเพลีย ก็คิดว่าคืนนี้จะนั่งสมาธิแผ่เมตตา แทนการไปงานบวช เพื่อสร้างกุศลแทนกัน ก็คงไม่น่าเกียจ
สรุป : วันนี้คือปัจจุบัน พรุ่งนี้คือสิ่งที่อาจไปไม่ถึง ก็คงมีสักวัน ที่ไปไม่ถึงวันพรุ่งนี้