ไอเดียของพรีเมี่ยม สำหรับสายเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง

มีเพื่อนกัลยาณมิตร ในหลายองค์กร
จัดทำ ของที่ระลึก หรือ ของพรีเมี่ยม มอบให้กันอยู่เสมอ
ทำให้นึกถึงของที่ได้รับอยู่ภายในบ้าน
.
เมื่อได้เห็นของที่ได้รับมาครั้งใด
ก็มีเรื่องราวที่ชวนให้คิดถึงอีกมากมาย
.
ถ้าได้เล่าสู่กันฟัง
ก็คงมีความทรงจำ
ที่พร้อมพรั่งพรู
เกี่ยวกับผู้คน และเหตุการณ์ได้เยอะเลย
.
ของพรีเมี่ยม มีหลายสาย
จากการอ่านบทความ
ในบล็อก บน โรงงานของพรีเมี่ยม
พบบทความเรื่อง ของพรีเมี่ยม
สำหรับสายเทคโนโลยี
ประจำปี ค.ศ. 2024
.
มีไอเดีย ของ พรีเมี่ยม
ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
มาแนะนำ 5 รายการ ดังนี้
.
1. Power bank
หรือ อุปกรณ์แบตสำรองแบบพกพา
ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรอง
สำหรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
มิใช่แค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น
.
2. แท่นชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย
ปัจจุบันสมาร์ทโฟน รุ่นใหม่
รองรับ เทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย
ได้แล้ว ไม่ต้องเสียบสายชาร์จแบบในอดีต
.
3. พัดลมมือถือ
เป็นของพรีเมี่ยมที่เหมาะกับ
อากาศในบ้านเราอย่างยิ่ง
เมื่อรู้สึกร้อน
ก็หยิบพัดลมมือถือ ที่ห้อยคอ
มาช่วยคลายร้อนได้ทันที
.
4. หูฟัง
เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสริมอย่างหนึ่ง
อยากฟังเพลง ประชุม หรือเรียนหนังสือ
แบบเป็นส่วนตัว
ใช้ได้ทั้งในขณะทำงาน
ขณะที่ออกกำลังกาย
หรือระหว่างการเดินทางก็ได้
.
5. เม้าส์ไร้สาย
เป็นอุปกรณ์ที่วัยทำงานหลายคน
ขาดไม่ได้ เพราะใช้งานง่าย
พกพาสะดวกกว่าแบบมีสายมาก
.
สรุปว่า ของพรีเมี่ยมรายการไหน
โดนใจคนรุ่นใหม่
วัยทำงาน หรือ วัยเรียน บ้างครับ
ชวนแลกเปลี่ยน กันได้ครับ

ไอเดียของพรีเมี่ยม
สำหรับสายเทคโนโลยี
ปี 2024 มีอะไรบ้าง
#ไอเดีย
#suggestion
#คำแนะนำ
#โรงงานของพรีเมี่ยม
#premiumperfect
#ของที่ระลึก

เล่าเรื่อง โยนหินถามทาง ไปทางไหนดี

บันทึก เรื่อง จับเข่าคุยกัน
นั่งดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
แล้วนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
ที่ผมจำต้องเข้าไปอยู่
ท่ามกลางแม่น้ำสองสาย
ในวันที่แม่น้ำร้อยสายมาบรรจบกัน
.
สิ่งที่เจรจาร้องขอ
คือ แม่น้ำสายใดสายหนึ่ง
ช่วยปรับลดเงื่อนไขลงนิดนึง
แล้วจะทำให้ผู้คนอีกมากมายยิ้มได้
เดินทางสะดวกขึ้น
ถ้าแต่ละสายพิทักษ์สิทธิ์ของตน
ก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
มีแต่ทางตัน เป็นคำตอบสุดท้าย
เหมือนการพบกันของเสื้อสองสี
เมื่อหลายปีก่อนที่มือที่สาม
เข้ามา คืนความสุข ให้ทุกสาย
.
แม่น้ำสายแรก
ยึกหลักว่า กลัวเสียหายจากสายน้ำอื่น
self protection
เพราะการลดเงื่อนไข
ทำให้เกิดเรื่องไม่พึงประสงค์จากสายน้ำอื่น
เรื่องนี้ฟังคำอธิบายแล้ว เห็นใจเลยครับ
เช่น ช่วยเป็นพื้นที่รับน้ำท่วมหน่อย
.
แม่น้ำสายที่สอง
ยึดหลักว่า กลัวแผนธุรกิจจะเสียหาย
business protection
เพราะการเสียสละของเขา
ย่อมทำให้ธุรกิจกระทบกระเทือน
เรื่องนี้ต้องยึดหลักใจเขาใจเรา
เช่น ช่วยลดกำลังผลิตไฟฟ้าลงหน่อย
.
สรุปว่า ทั้งแม่น้ำสองสาย
มีเหตุผลที่ต้องปกป้องตนเอง
ดังนั้น หลังการขอให้แม่น้ำสองสาย
ปรับเงื่อนไขไม่สำเร็จแล้ว
ส่งผลทำให้ผู้คนอีกมากมาย
ต้องปรับตัวเอง เพราะยอมรับปัญหา
และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตต่อไป
.
กรณีตัวอย่างข้างต้น
ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในข่าว
ทำให้นึกถึงเหตุการณ์
น้ำท่วมเมื่อหลายปีก่อน ที่เราคงไม่ลืม
ที่แต่ละหมู่บ้าน อำเภอ หรือจังหวัด
ต้องยอมรับน้ำ แทนพื้นที่อื่น
ที่ไหลจากเหนือลงใต้
บางหมู่บ้านก็ไม่ยินดีรับมวลน้ำ
บางหมู่บ้านก็จำต้องยินดีรับ
บางหมู่บ้านกล่าวขอบคุณ
ที่หลายฝ่ายช่วยเปลี่ยนทางน้ำ
ออกไปจากพื้นที่ของตน
.
สรุปว่า ชวนมองสายน้ำ แหล่งน้ำ
และภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงช่วงหน้าแล้ง
การแก้ปัญหาย่อม
มีคนได้ประโยชน์
มีคนเสียประโยชน์เป็นธรรมดา


https://fb.watch/q73N7j3Sjh/

#casestudy
#decisionmaking
#brainstorm
#management
#selfprotection
#storytelling

คณะวิชาที่มีผู้สมัครมากที่สุด

พบว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ปล่อยข้อมูลการสมัครเรียน
เพื่อเข้าเรียนในปีการศึกษา 2566
ในเพจ “ทีมมช by AutoBot” เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566
@Teammorchor
https://www.reg.cmu.ac.th/webreg/th/

เมื่อจำแนกตามคณะวิชาที่มีผู้สมัครมากที่สุด
โดยเรียงจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 1) คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาพยาบาลศาสตร์ 2034 คน 2) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ 1474 คน 3) คณะทันตแพทยศาสตร์ 1105 คน 4) คณะการสื่อสารมวลชน สาขาการสื่อสารมวลชน 1096 คน 5) คณะแพทยศาสตร์ 977 คน 6) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขากายภาพบำบัด 948 คน 7) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 947 คน 8) คณะสัตวแพทยศาสตร์ 901 คน 9) คณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชีและบริหารธุรกิจ สายศิลป์ 875 คน 10) คณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชีและบริหารธุรกิจ สายวิทย์ 841 คน 11) คณะเภสัชศาสตร์ 816 คน 12) คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา, จุลชีววิทยา, สัตววิทยา 771 คน 13) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 556 คน 14) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว 547 คน 15) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา 528 คน

ผู้สมัครมากที่สุด

เมื่อจำแนกตามคณะวิชาที่มีการแข่งขันสูงสุด
โดยเรียงจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 1) คณะสัตวแพทยศาสตร์ 1:22.53 2) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขากายภาพบำบัด 1:21.7 3) คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาพยาบาลศาสตร์ 1:19.37 4) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาจิตวิทยา 1:19.21 5) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 1:18.53 6) คณะทันตแพทยศาสตร์ 1:18.42 7) วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี สาขาแอนนิเมชัน และวิชวลเอฟเฟกต์ สองภาษา 1:18 8) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษา 1:17.67 9) คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการเมืองและการปกครอง 1:17.53 10) คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ 1:17 11) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษา 1:16.67 12) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาไทย 1:16.37 13) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 1:15.77 14) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว 1:15.63 15) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ 1:14.73

การแข่งขันสูงสุด
การแข่งขันสูงสุด

กำหนดการ
 2 พ.ค.2566 : ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก (ผ่านระบบ มช.)
 4 พ.ค.2566 : ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก (ผ่านระบบ TCAS)
 4-5 พ.ค.2566 : ยืนยันสิทธิ์ (ผ่านระบบ TCAS)
 6 พ.ค.2566 : สละสิทธิ์ (ผ่านระบบ TCAS)
 9 พ.ค.2566 : ประกาศรายชื่อผู้ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา (ผ่านระบบ มช.)
 7-13 พ.ค.2566 : รับสมัคร TCAS รอบที่ 3 (ผ่านระบบ TCAS)

https://thaiall.com/topstory/quota_cmu_17_prov_2560.php

https://www.thaiall.com/ethics/ethics_nurse.htm

5 บทความวิชาการ และบทความิจัย เกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ตามบทความวิชาการ โดย ศุทธิกานต์ มีจั่น. (2556) มีสิ่งที่พบหลายเรื่อง เช่น คุณสมบัติของผู้สมัครที่ทำให้ตัดสินใจเลือกหรือลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งจำแนกได้ 7 คุณสมบัติ ดังนี้ 1) สังกัดพรรคที่ชื่นชอบ 2) มีนโยบายในการหาเสียงที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มทำได้จริง 3) ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่โกงกิน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน 4) เข้าถึงได้ง่าย ช่วยเหลือ และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชน 5) ให้เงิน รางวัล หรือความช่วยเหลือต่างๆ 6) มีภาพลักษณ์ดี มีการศึกษา มาจากครอบครัวที่น่านับถือ 7) มีความผูกพันกับชุมชนพื้นที่เป็นระยะเวลานาน

การให้ความหมายและรูปแบบของการซื้อเสียง ซึ่งจำแนกได้ 8 ลักษณะ ดังนี้ 1) การให้เงิน 2) การมอบสิ่งของ 3) การร่วมงานหรือกิจกรรมของชุมชน 4) การสนับสนุนเงิน หรือสิ่งของในกิจกรรมต่างๆ ของชุมชน 5) การสนับสนุนงบประมาณเพื่อสิ่งก่อสร้างสาธารณะ 6) การมาร่วมงานประเพณี หรือกิจกรรมของของครอบครัว 7) การให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ แก่ท่านและครอบครัว 8) การนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

การรับรู้ถึงการซื้อเสียงและจำนวนเงินที่มีการจ่ายในการเลือกตั้งประเภทต่าง ๆ ซึ่งจำแนกได้ 9 ประเภท ดังนี้ 1) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2) สมาชิกวุฒิสภา 3) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 4) สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 5) นายกเทศมนตรี 6) สมาชิกสภาเทศบาล 7) นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 8) สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล 9) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน

ส่วนบทความวิจัยของ สุพัฒพงศ์ แย้มอิ่ม, ไชยวัฒน์ เผือกคง, และ พิสิฐ นิลเอก (2562) ศึกษาทัศนคติของประชาชนในการเลือกตั้งทั้งหมด 5 ประเด็น ได้แก่ 1) ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2) ด้านการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 3) ด้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 4) ด้านการตัดสินใจในการเลือกตั้ง 5) ด้านแนวทางการส่งเสริมการเลือกตั้ง

https://thaiall.com/article/senate.htm

ชวนอ่านบทความวิจัย และบทความวิชาการที่น่าสนใจ

เฉลิมพล นุชอุดม และ กานดา ผรณเกียรติ์. (2562). เกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกผู้แทนระดับท้องถิ่นในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 11(2), 32-44.

ศุทธิกานต์ มีจั่น. (2556). พฤติกรรมการเลือกตั้ง และทัศนคติเกี่ยวกับการซื้อเสียงของเขตจังหวัดภาคอีสาน: กรณีตัวอย่างจังหวัดมหาสารคาม. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 11(3), 110-128.

ณัฐสุดา เวียงอำพล. (2558). สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของไทยกับแนวคิดความเป็นตัวแทนระดับชาติ. วารสารสถาบันพระปกเกล้า, 13(3), 59-82.

พิกุล มีมานะ และ สนุก สิงห์มาตร. (2563). พฤติกรรมการตัดสินใจเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประชาชน กลุ่มจังหวัดราชธานีเจริญศรีโสธร. วารสารวิชาการรัตนบุศย์, 2(1), 57-71.

สุพัฒพงศ์ แย้มอิ่ม, ไชยวัฒน์ เผือกคง, และ พิสิฐ นิลเอก. (2562). ทัศนคติของประชาชนในการเลือกตั้งท้องถิ่น กรณีศึกษาพื้นที่ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฏร์ธานี. วารสาร มจร. หริภุญชัยปริทรรศน์, 3(3), 10-19.

เลือกแหวนหมั้น แหวนขอแต่งงาน อย่างไรให้คุ้มค่า

การเลือกแหวนหมั้น แหวนขอแต่งงาน หรือแหวนแต่งงานนั้น เป็นหนึ่งในสิ่งที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคู่ให้ความสำคัญอย่างมาก สำหรับผู้ที่กำลังมองหา แหวนหมั้น หรือแหวนขอแต่งงาน มาดูกันว่าเราจะมีวิธีการเลือกให้ทรงคุณค่า สวยงาม และคุ้มค่าได้อย่างไร

แหวนหมั้น แหวนทองเกลี้ยง

 แหวนหมั้น และแหวนแต่งงาน แตกต่างกันอย่างไร

สำหรับประเพณีการแต่งงานแบบไทยๆ ของเราแต่เดิมนั้น การมอบแหวนจะให้กันในพิธีสู่ขอ หรือพิธีหมั้น แหวนหมั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งในเงินทองของหมั้น ซึ่งนิยมใช้แหวนเพชรที่มีมูลค่าสูง หรืออาจจะเป็นของเก่าแก่ของครอบครัว ในปัจจุบัน เราได้รับอิทธิพลการแต่งงานตามวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งจะใช้แหวน 2 วง ได้แก่ แหวนขอแต่งงาน (ซี่งก็อาจจะเทียบเท่าแหวนหมั้นของเรา) ซึ่งแหวนขอแต่งงาน ฝ่ายชายจะมอบให้กับฝ่ายหญิง โดยนิยมใช้แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว ที่มีความหรูหรา และในพิธีแต่งงาน ชายหญิงจะแลกแหวนกันโดยนิยมใช้แหวนแต่งงานตามประเพณีโบรานคือแหวนเกลี้ยง ซึ่งเป็นแหวนที่สะดวกต่อการใส่ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม คนยุคใหม่นิยมใช้แหวน 2 วง ในพิธีแต่งงาน นั่นคือแหวนหมั้น ที่ใช้ในงานพิธี เน้นความหรูหรา และแหวนแต่งงานที่เน้นสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงานและความรัก

เลือกแหวนหมั้น แหวนขอแต่งงาน อย่างไรให้คุ้มค่า

แหวนหมั้น และแหวนขอแต่งงานนั้น นิยมใช้แหวนเพชรที่เน้นความหรูหรา และมีลักษณะเป็น แหวนเพชรที่มีเพชรเด่นอยู่ตรงกลางหรือแหวนเพชรเพชรเม็ดเดี่ยว ดังนั้น หลักการที่สำคัญในการเลือกแหวนหมั้นก็คือ การเลือกเพชรและตัวเรือนให้มีความสวยงามและคุ้มค่าที่สุด โดยพิจารณาจากองค์ประกอบดังนี้ เลือกแหวนหมั้นที่เพชรกับตัวเรือนมีความเข้ากัน เพราะองค์ประกอบที่สำคัญของแหวนหมั้นก็คือตัวเรือนและเพชร เลือกเพชร ตามหลักการ 4Cs ซึ่งเป็นวิธีเลือกเพชรที่ร้านเพชร หรือวิธีที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ ซึ่งหลักการ 4Cs มี ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาได้แก่ Cut (การเจียระไน), Color (สี, น้ำ), Clarity (ความสะอาด) และ Carat (กะรัต) ทั้งนี้ หลักการในการเลือกเพชรมีความละเอียดอ่อน เราต้องศึกษาเพิ่มเติม ทำการบ้านก่อนเข้าร้านเพชร แต่หากไม่มั่นใจสามารถเข้าไปที่ร้านเพชรเพื่อให้พนักงานแนะนำก็ได้เช่นกัน

ตัวเรือนและรูปทรงของเพชรยอดนิยมสำหรับแหวนหมั้น
ทรงกลม (Round)

แหวนหมั้นเพชรทรงกลม

แหวนเพชรทรงกลม เป็นแหวนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สำหรับแหวนหมั้น ทั้งนี้เพราะเพชรทรงกลมให้การส่องประกายแวววาวได้อย่างโดดเด่น ดูหรูหรา และยังมีความหมายที่สื่อถึงวงกลม ความสัมพันธ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ทรงรูปไข่ (Oval)

 แหวนหมั้นเพชรทรงรูปไข่

เพราะทรงรี หรือเพชรทรงรูปไข่ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบแหวนหมั้นที่ได้รับความนิยม ลักษณะของเพชรรูปไข่นั้น จะช่วยให้ตัวแหวนดูหรูหรา โดยมีความเรียบหรู เพชรจะมีรูปทรงยาวจึงทำให้ดูมีขนาดใหญ่กว่าเพชรรูปทรงอื่นๆ ใครชอบงานแนวนี้ลองเลือกดีไซน์เหมาะจะได้แหวนหมั้นที่มีความเรียบหรู อลังการ

ทรงหัวใจ (Heart)

 แหวนหมั้นเพชรทรงหัวใจ

แหวนหมั้นที่เริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น คือแหวนเพชรในรูปทรงเพชรหัวใจ ทั้งนี้เพราะเป็นเพชรที่สื่อความหมายชัดเจน เรื่องความรักอันมั่นคง นอกจากนี้ เพชรทรงหัวใจยังมีความพิเศษตรงที่สามารถส่องประกายไฟได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดประกายแวววาวม สวยงาม

บริการหลังการขาย ประทับใจทุกขั้นตอน

 เลือกตัวเรือนแหวนหมั้น

ตัวเรือนของแหวน ทำให้เพชรดูโดดเด่นและเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของแหวนหมั้น วัสดุที่ใช้ทำตัวเรือนแหวนหมั้นยอดนิยม ได้แก่ ทองคำขาว ทอง และพิงก์โกลด์ โดยตัวเรือนที่นิยมใช้ในที่สุดก็คือทองคำขาว เพราะตัวทองคำขาวจะช่วยขับให้เพชรเด่นสง่า ไม่สะท้อนสี ทำให้สีเพชรใสแวววาว ส่วนรองลงมาก็เป็นสีทองและสีพิงก์โกลด์

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกแหวนหมั้นนั้น เราควรมีการตั้งงบไว้ในใจสำหรับการเลือกซื้อแหวนหมั้น หลังจากนั้นจึงมาพิจารณาเลือกซื้อแหวนหมั้นตามงบที่เราตั้งไว้ โดยเริ่มจากการเลือกรูปทรง และน้ำหนักของเพชร ทั้งนี้ หากแหวนหมั้นที่เราถูกใจ มีราคาสูงกว่างบที่เราตั้งไว้ เราสามารถปรับได้ โดยอาจจะเริ่มจากการเลือกลดเกรดความสะอาด (Clarity) ที่บ่งชี้ขนาดตำหนิของเพชรลงก่อน หากราคายังสูงไป ค่อยลดเกรดของสีเพชร ทั้งนี้สิ่งสุดท้ายที่ควรลดก็คือคุณภาพการเจียระไน (Cut) เพราะมีผลต่อการกระจายแสงของเพชร ซึ่งเป็นองค์รวมความงามของเพชรทั้งกะรัต เราอาจจะเลือกซื้อเพชรเม็ดเล็ก (น้อยกะรัต)ลง แต่มีคุณภาพที่ดี เปล่งประกาย ก็ย่อมคุ้มค่ากว่าการมีเพชรเม็ดใหญ่แต่ไม่สวยเท่าที่ควร

เก็บของเก่าขายกัน ฮาวทูทิ้ง?

การเก็บของเก่าขาย ทำให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “ฮาวทูทิ้ง .. ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” เนื่องมาจาก ที่บ้านมีของเก่าที่เก็บสะสมไว้มากมาย จำแนกเป็นหลายหมวด เช่น สแตมป์ พระเครื่อง แจกัน แก้ว ผ้าห่ม ถังน้ำแข็ง หรือ ถ้วยจานเก่า สำหรับ อะไหล่รถเก่า ที่ได้มาหลังไปซ่อมรถ ก็ตั้งใจเก็บมาทำคอนเท็นท์ พอไม่ได้ทำ หรือทำเสร็จ ก็เก็บรวบรวมไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า

ของเก่าของเรา
ที่ไม่ได้ใช้อีกแล้ว
อาจเปลี่ยนไปอยู่กับคนอื่น
ที่นำไปใช้ได้ดีกว่า

@thaiall

ได้หลักสิบบ้าง หลักร้อยบ้าง เป็นวัฒนธรรมของที่บ้าน ส่วนที่ทำงาน หัวหน้าก็มีวัฒนธรรมนี้เหมือนกัน ของใดไม่ใช้ แล้วนำมาทำ recycle ได้ ก็เก็บขาย เปิดประมูล เพื่อจำหน่ายจ่ายแจก ส่วนราคาก็ขึ้นกับเจรจา หัวหน้าผมเจรจาเก่ง ถ้ามีของเยอะ ก็ให้เค้ามารับถึงที่ และราคาสูงกว่านำไปขายที่ร้าน

โครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึม thaiall.com/datastructure

บางรายการผมจะเปิดขายมือสอง แต่ก็ยังหาโอกาสไม่ได้ เช่น เสื้อผ้า หรือหนังสือ สำหรับหนังสือ มีน้อง ๆ เพื่อน ๆ สนใจสอบถามเข้ามาขอซื้อ ผมก็ปล่อยไปหลายเล่ม เช่น นิยายชุดภาษาอังกฤษ โครงสร้างข้อมูล หรือ หนังสือติว ซึ่งเด็กที่บ้านจัดหนังสือติวของเค้าแพ็กขายเป็นชุดแบบนัดรับในลำปาง ก็มีเด็กลำปางรับไป ได้ตังมาซื้อขนมหลายร้อยบาท

https://thaiall.com/handbill/getapart.php?k=top-63

เพื่อน ๆ มีของเก่านำไปปล่อยที่ไหนกันบ้างครับ ถ้าเคยมีประสบการณ์ น่าจะรู้สึกใจหาย พร้อมกับโล่งใจ เมื่อต้องจำหน่ายของเก่าที่มีความทรงจำอยู่ออกไป เพื่อสร้างประโยชน์ขึ้นมาใหม่กับเจ้าของใหม่

น้องเค้าทักมา ขอซื้อหนังสือ
แพ็คหนังสือ พร้อมส่ง

ไดชาร์จเสีย ตายกลางสี่แยกแต่ผมรอด

อาการไดชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าเสีย
คือ ระบบควบคุมพวงมาลัยหยุดทำงาน
ไฟเตือนแจ้งสว่างหลายดวง เลี่ยวตามปกติไม่ได้ ไฟแบตเตอรี่ กับไฟเอบีเอสก็สว่าง ขณะมีอาการพารถเดินหน้า แต่เลี้ยวได้ยากมาก และพาไปรถไปจอดในจุดที่ปลอดภัยได้

เมื่อหยุดรถเข้าในที่ปลอดภัยแล้ว จะสตาร์ทในทันทีไม่ได้ เช็คน้ำและน้ำมันก็พบว่า อยู่ในระดับที่ไม่ขาด การสั่งสตาร์ทมีเสียงดังเหมือนไดชาร์จเสียในรถรุ่นเก่า กรณีของผมพักเครื่องสักครู่แล้วจะสตาร์ทติดขึ้นมาได้ (ซึ่งรถเก่าที่ผมเคยใช้จะสตาร์ทไม่ได้เลยหากมีอาการแบบนี้ ก็จะเป็นที่ไดสตาร์ท) หากโชคดีสตาร์ทติด แล้วขับต่อไปไม่เกิน 100 เมตร พบว่า มีอาการไฟพวงมาลัยติด ๆ ดับ ๆ คุมพวงมาลัยได้บ้าง ฝืดบ้าง อันตรายอย่างมาก

ไปถึงอู่ซ่อมรถในเช้าวันเสาร์ อู่เปิดเวลา  8.00น. นอนรอสักพัก ช่างก็ออกมาเปิดร้าน พอเล่าอาการปุ๊ป ช่างก็บอกว่าเป็นที่ไดชาร์จต้องหามาเปลี่ยน ตรงกับที่ค้นจากเน็ตมาเลย จึงฝากรถไว้ให้ช่างช่วยซ่อมให้หน่อย แล้วผมก็เดิกลับบ้าน ในใจคิดว่าเสียตังอีกล่ะ แต่โชคดีล่ะที่เสียในเวลา และสถานที่ที่สามารถจัดการรถได้ง่าย

– ของแท้ค้นจากเน็ต ทั้งลูก ราคา 11,500 บาท

– ของเชียงกงเชียงใหม่ (รับประกัน) อะไหล่บวกค่าแรง ราคา 2,800 บาท

ไดสตาร์ท หรือมอเตอร์สตาร์ท (Starter Motor) คือ ตัวเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล ซึ่งทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันต่ำ เชื่อมต่อแบตเตอรี่และสวิตช์กุญแจ มีหน้าที่ฉุดเครื่องยนต์ให้ทำงาน หรือมีหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ดังนั้นเมื่อสตาร์ทติดก็จะหมดหน้าที่ของไดสตาร์ท

ส่วนไดชาร์จ หรือเครื่องปั่นไฟ หรืออัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) คือ อุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อไปเลี้ยงระบบในรถยนต์  จะส่งไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรอง เพื่อใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ 

รถเสีย น่ะซ่อมได้
แต่คนเสีย บางทีก็ซ่อมไม่ได้
ป้องกันรถเสีย ด้วยการบำรุงรักษา
คนก็เช่นกัน อยู่ด้วยความไม่ประมาท

@thaiall

ทำให้นึกถึงเพื่อน
ที่เค้าซ่อมเก่งอยู่คนหนึ่ง
เราคุยกันเรื่อง
“น็อตใช้ถูกที่ถูกเวลาตัวละแสน”
เค้ามักมาเล่าประสบการณ์ในกลุ่มไลน์
เรื่องการซ่อมอยู่เสมอ

https://www.thaiall.com/blog/admin/10140/

บรรยากาศ ยามเช้า บนถนนในอำเถอ

ชวนฟัง อ.kirk เล่าประวัติ เคยอยู่วิทยาลัยโยนก ในงาน Some one หนึ่งในหลาย

For A.Kirk at YONOK College (Nation University)

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 มีโอกาสเข้า กลุ่มไลน์เพื่อนโยนก พบว่า เพื่อน ๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเสมอ มีเรื่องน่าสนใจมากมาย เช่น เพื่อนบิวแชร์คลิปเมื่อหกปีก่อน ที่ อ. Kirk R. Person,Ph D. พูดเรื่อง MLE ที่ประเทศอินเดีย ส่วนเพื่อนภูเบศร์ ชวนฟัง TEDTalk ของ อ. Kirk ที่พูดในงานประชุมวิชาการวิชาการ หรืองานเปิดตัวสารคดี พบคลิปที่แชร์ผ่านเฟซบุ๊กเป็นเวลาหลายชั่วโมงถ่ายทอด Live จากแฟนเพจ “สารคดี Some one หนึ่งในหลาย” ของ มหาวิทยาลัยมหิดล

MLE = Multilingual Education

ในตอนต้นรายการ ได้ฟัง อ.Kirk เล่าประวัติ ตั้งแต่วัยเด็ก เติบโต มาพบรักที่วิทยาลัยโยนก ไปทำงานบนดอย จนแต่งงาน มีลูกที่น่ารักหลายคน มีลูกสาวได้ร้องเพลงในงานกีฬาสีที่กรุงเทพ ท่านศึกษาเรื่องภาษา พบว่า ประเทศไทยมีมากกว่า 70 ภาษา และในโลกเรามีมากถึง 7151 ภาษา และมีมากถึง 193 ประเทศในสหประชาชาติ ย้ำให้เห็นว่าประเทศไทย หรือคนไทย เราไม่ได้มีเพียงชาติเดียวในโลก

สรุปได้ว่า เราเป็นเพียงหนึ่งในหลายเชื้อชาติ หลายภาษา แตกต่างตามเส้นเขตแดน วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชน และครอบครัว

Some one หนึ่งในหลาย

ท่านนำภาพหมู่ของนักศึกษาวิทยาลัยโยนก (มหาวิทยาลัยเนชั่น)
ขึ้นสไลด์ TEDTalk ซึ่งเป็นช่วงชีวิตอีกช่วงหนึ่งที่ท่านประทับใจ

ในช่วงหนึ่งของชีวิต ของ อ.Kirk ตอนที่ได้มาอยู่ประเทศไทยใหม่ ๆ นั้น ท่านได้ฉายภาพหมู่ของนักศึกษาโยนกปี 2 (ประมาณปี พ.ศ.2532) ที่หน้าอาคารเรียนรวมหลังแรก ของ วิทยาลัยโยนก (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยเนชั่น ปีพ.ศ.2554 และย้ายไปวิทยาเขตใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533) ที่วิทยาเขตศรีปงชัย ต.ชมพู ลำปาง ซึ่งในภาพนั้นมีผมและเพื่อน ๆ รุ่นหนึ่ง ที่เพื่อนบิวได้ capture นำไปแชร์ในกลุ่ม เป็นภาพความทรงจำ ที่ อ.Kirk คิดถึงพวกเราเสมอ

ศูนย์ไลก์ Zero like กับ ล้านไลก์ Million likes

โดยปกติ เรามักสนใจผู้คนรอบตัวเรา เพราะเราเป็นสัตว์สังคม และมักใช้เครือข่ายสังคม เพื่อสื่อสารพูดคุยกับเพื่อน หรือคนรู้จัก มีอยู่วันหนึ่งเข้าไป ส่อง ดูเฟซบุ๊กของคนที่ไม่ใช่เพื่อน เพราะสถานะบนเฟซบุ๊กบอกว่าเรายังไม่ใช่เพื่อนกัน พบว่า มีหลายโพสต์ของเพื่อนคนที่ไม่ใช่เพื่อน มียอด like เป็น 0 และมีจำนวนโพสต์แบบ zero like นี้มากกว่าโพสต์ของผมอย่างชัดเจน เพื่อนคนนี้เป็นคนแรก ที่พบสถิติ zero like สูงขนาดนี้ รู้สึกว่าตัวเลขเราจะใกล้เคียงกัน คือ เข้าใกล้ 0 แต่ของผมจะยอด like สูงกว่าหน่อย

แต่สำหรับผมแล้ว การมีโพสต์ที่มี zero like ถือว่าเป็นปกติ โดยเฉพาะในแฟนเพจ รวมเพื่อนไทยออล หรือ สวนนายบู เพราะผมไม่ตั้งใจโพสต์เพื่อให้ได้ like จากกลุ่มเป้าหมาย เช่นเดียวกับเพื่อนที่ผมเข้าไปพบโพสต์เหล่านั้น ซึ่งพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดของคนที่มี zero like คือ
1) ไม่พยายามสร้างปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเฟส
2) เรื่องที่แชร์ไม่อยู่ในความสนใจของเพื่อนเฟส
3) มีวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่ของตนเอง

อยากถามว่า ท่านเคยพบคนที่มีพฤติกรรม 3 ลักษณะนี้หรือไม่

https://www.thaiall.com/socialmedia/

ในสื่อสังคม ยอดติดตาม ยอดเข้าถึงโพสต์ ยอดการมีส่วนร่วมกับโพสต์ ยอดไลก์ ยอดแชร์ ยอดแสดงความคิดเห็น สะท้อนถึงจำนวนสมาชิกที่เกี่ยวข้องในมุมมองที่หลากหลาย จากภาพในโพสต์ของ Wiriyah Eduzones เมื่อ 12 ก.พ.2566 พบว่า เกิดการมีส่วนร่วมกับโพสต์ในระดับหลักล้าน เท่ากับมีข้อมูลเข้าจำนวนมาก เมื่อท่านได้ สรุปเอาความคิดและข้อมูล นั่นหมายถึง เสียงของประชาชนกลุ่มนี้ ว่าสรุปไปในทิศทางใด ที่จะเสนอต่อไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ทางด้านการศึกษา

ผมชอบติดตามเรื่องราวในเพจของ ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ ชอบอ่านความคิดเห็นของคุณครู แล้วเก็บเรื่องราวไปเล่าให้นิสิต คุณครู เพื่อนได้รับทราบ เพราะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ บางเรื่องสื่อส่วนกลางก็นำไปแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง เช่น “จรรยาบรรณวิชาชีพครู กับคำถามครูสวมชุดว่ายน้ำ” เมื่อหันไปมองเทียบกับโพสต์ศูนย์ไลก์ ที่อยู่บนเพจของผม หรือในโปรไฟร์ของผม ก็ทำให้คิดถึง Input, Process, Output, Outcome หรือ Feedback ที่มีต่อเป้าหมายของแต่ละโพสต์ รวมถึง SEO, Promotion และ Ranking ว่าจะถูกพัฒนาต่อยอดไปอย่างไร

Wiriyah Eduzones

ทานข้าวกับเพื่อนที่อุดรนัว

ทานข้าวตอน กับ #เพื่อน2565
ถือเป็นเรื่องปกติของเพื่อนที่ทำงาน
ที่มักออกไปหาของอร่อยยามเที่ยงวัน
แต่ปี 2565 เป็นปีที่ไม่เหมือนเดิม
ในกลุ่มนี้นับได้ 8 คน เมื่อรวมช่างภาพ
นี่เป็นภาพแห่งความทรงจำอีกภาพหนึ่ง
เป็นภาพสุดท้ายที่ถ่ายได้ในวันนี้
เรานัดกันมา
พบกันที่ร้านอุดรนัว แม่ค้ายังคนเดิม
ย้ายจากติดถนน มาอยู่เกือบสุดซอย
ทำเลมีความพร้อมหลายด้าน
คนเข้าร้านต่อเนื่อง
ดูแล้ว น่าจะเป็นลูกค้าประจำ
มีต้นลั่นทมสองต้นอยู่ในร้านคอยให้ร่มเงา
มีหัวข้อพูดคุยระหว่างมื้อที่หลากหลาย
ก็จะเน้นเรื่องอาหารการกิน
ว่าคนไหนชอบแบบไหน
แซบมากน้อยต่างกัน
ใครกินอะไรได้ อะไรไม่ได้
จานไหนอร่อย จานไหนเผ็ด
ในกลุ่มของเรา
พูดถึงไข่ขาวที่ต้มเก็บไว้เป็นแผง
กินแล้วดีต่อสุขภาพแบบขั้นสุด
ฟังแล้วอยากวาร์ปไปต้มไข่กินตอนนั้นเลย
เพราะผมซื้อไข่ขาวสกัดให้ผู้ใหญ่บ่อย ๆ

เราคุยเรื่องงาน เรื่องสอน เรื่องเด็ก เรื่องไหว้ครู
โผล่มาเป็นหัวข้อสนทนาบ้าง
เหมือนประชุมคณะนอกสถานที่
ก็จะประมาณนั้น ผมก็นั่งฟังเพลิน ๆ
สรุปว่า ขากลับ แวะซื้อกล้วย มัน กรอย
แล้วต่อด้วยชากาแฟ ทำให้สดชื่นขึ้น
ถ้ามีโอกาสคงกลับมาทานข้าวกันอีกนะ

นัดกันทานเที่ยงที่ร้านอุดรนัว

ด้วยรักและผูกพันธ์

ทำงานกับเพื่อนมาก็หลายปี
อยู่สำนักวิชาการไม่กี่ปี
แต่เหมือนอยู่มาได้ 35 ปี
ส่วนคณะบริหารธุรกิจและรัฐประศาสนศาสตร์
ก็เหมือนเรียนจบคณะนี้
ทำงานเป็นคุณครูคณะนี้
หัวหน้าก็มีมาหลายคนแล้ว
วันนี้ ดร.อัศนีย์ ณ น่าน ผอ.สำนักวิชาการ
เลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ขอบคุณสำหรับอาหารแซบ ๆ
ที่ #อุดรนัว 15 ธ.ค.2565

ที่ #อุดรนัว 15 ธ.ค.2565