พัฒนาสมรรถนะผู้สูงอายุ กรณี โรงเรียนผู้สูงอายุทุ่งกว๋าว

มหาวิทยาลัยเนชั่น ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งกว๋าว ทำโครงการ มหาวิทยาลัยเนชั่นบูรณาการวิชาการเพื่อบริการแก่สังคมในสถานการณ์ COVID-19 ประจำปีการศึกษา 2564 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2565 โดยมี 6 กิจกรรมพัฒนาสมรรถนะนักเรียนผู้สูงอายุ ดังนี้

  1. การตรวจหาเชื้อไวรัสด้วยชุด ATK (เทคนิคการแพทย์)
  2. การล้างมืออย่างไรให้ปลอดภัย (พยาบาลศาสตร์)
  3. การเดินทางโดยเครื่องบิน (สาขาธุรกิจการบินฯ)
  4. ตรวจสุขภาพฟันและแนะนำการดูแลช่องปาก (ทันตแพทยศาสตร์)
  5. การยืดเหยียดสำหรับผู้สูงอายุ (สาธารณสุขศาสตร์)
  6. เทคนิคการถ่ายภาพเพื่อส่งเสริมการขายสินค้า (นิเทศศาสตร์ + MBA)
    เพิ่มเติม ฐานกิจกรรมวาดภาพระบายสี (ศิลปศาสตร์ฯ)
    ดูแลพิธีการโดย อ.วีระพันธ์ แก้วรัตน์ (บริหารธุรกิจและรัฐประศาสนศาสตร์)

และเป็น โครงการ ดูแล ส่งเสริมสุขภาพ ผู้สูงอายุ โดยหมอมือใหม่ จิตอาสา มหาวิทยาลัยเนชั่นบูรณาการวิชาการเพื่อบริการแก่สังคมในสถานการณ์โควิด (Covid-19) โดย สโมสรนิสิตมหาวิทยาลัยเนชั่น ร่วมกับ คณะกรรมการนิสิต 5 คณะวิชา ซึ่งพบการเล่าเรื่องแบบ Story telling ในสื่อสังคมของมหาวิทยาลัยเนชั่น

โรงเรียนผู้สูงอายุ

https://www.thaiall.com/education/indexo.html

กำหนดการ

ชวนลดมื้อเที่ยงจะได้ผอมในตาคนอื่น

29 พ.ค.53 ศิษย์ที่ชื่อยุ้ย เข้ามาทักทายใน facebook.com ว่าร่างกายของผมผ่ายผอมไปหรือเปล่า ต้องทานข้าวเพิ่มแล้วนะ ผมจึงตอบไปว่า มนุษย์เรากินเพื่ออยู่ การงดอาหารมื้อเที่ยงหนึ่งมือ ทำให้จากที่เคยมีวัฒนธรรมการทาน 3 มื้อเหลือเพียง 2 มื้อ ยังมิใช่ปลายทางของผมแน่ เพราะพระสงฆ์ท่านยังอยู่ได้ด้วยอาหารมื้อเดียวเลย มนุษย์เมื่อร้อยปีก่อนไม่ได้กินดีอยู่ดีอย่างเรา เขายังอยู่ได้จนมีลูกหลานเต็มเมือง แต่ยุคนั้นโชคดีที่ไม่มีสารปนเปื้อนมากมายเท่ายุคนี้ .. อัตราการเผาผลาญในร่างกายของคนเราแตกต่างกัน ร่างกายของผมอาจคงที่ที่เท่านี้ก็ได้ การผอมหรืออ้วนจึงต้องวัดจากความต้องการของร่างกาย มิใช่สายตาของคนรอบข้าง .. ผมอยากจะชวนทุกคนมาผอมในสายตาของคนอื่นด้วยกันดีไหม (ถ้ารู้สึกว่าสายตาของคนอื่นสำคัญมากมาย) .. ขอเชิญชวน จะได้ลดการบริโภค ลดโลกร้อน ลดอัตราการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตลง 1 ใน 3 ของที่ทำอยู่

มือชา ปัญหาที่มีสาเหตุจากการไม่ดูแลสุขภาพ

14 เม.ย.53 อาการมือชาทั้งสองข้างชัดเจน เกิดขึ้นเมื่อวานเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน หรือที่ใครอาจเรียกว่าเหน็บชา เกิดขึ้นกับฝ่ามือทั้ง 2 ข้างนานหลายชั่วโมง ขณะพิมพ์งานก็ยังรู้สึกได้ ครั้งนี้บ่นให้ภรรยาฟัง เพราะเกรงว่าจะเป็นอย่างอื่น พฤติกรรมของผมในช่วงนี้คือ 1) ใช้มือยกแขนพิมพ์คอมพิวเตอร์จนดึกเกือบทุกวัน 2) เมื่อยไหล่ทั้งสองข้าง แต่ไม่รุนแรง ทนไปได้ในแต่ละวัน อย่างวันนี้ก็รู้สึก 3) บางวันต้องพัก เพราะเจ็บนิ้วชี้หรือนิ้วกลางที่ต้องใช้คลิ๊กเมาส์ 4) บางวันต้องพัก เพราะเจ็บอุ้งมือขวาจากการวางพื้นราบก่อนถึงเมาส์
      ค้นจากเน็ตพบว่า 1) อาการปวดและชาเกิดเนื่องจากมีความดันสูงในช่องอุโมงค์ที่เส้นประสาทลอดผ่านที่บริเวณฝ่ามือ เนื่องจากมีการอักเสบและการหนาตัวของเนื้อเยื่อพังผืดที่คลุมช่องอุโมงค์นี้เกิดการกดทับเส้นประสาท ในรายที่เป็นมากก็จะเกิดเนื้อเยื่อพังผืดบางๆ รัดเส้นประสาทอีกชั้นหนึ่ง ทำให้การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล 2) ชามือ โดยส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาของระบบประสาทส่วนปลายถูกกดทับ ที่สามารถรักษาหายได้ และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ มือและแขนของคนเรา มีระบบเส้นประสาทไปเลี้ยง ให้ความรู้สึก 3 เส้น คือ 2.1 ) เส้นประสาทมีเดียม ให้ความรู้สึกด้านฝ่ามือของนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งหนึ่งของนิ้วนางที่อยู่ติดกับนิ้วกลาง 2.2 ) เส้นประสาทอัลนาร์ ให้ความรู้สึกมือ ด้านนิ้วก้อยและครึ่งหนึ่งของนิ้วนางที่ติดนิ้วก้อย 2.3 ) เส้นประสาทเรเดียน ให้ความรู้สึกหลังมือ ของนิ้วหัวแม่มือ ครึ่งหนึ่งของนิ้วนาง เมื่อมีอาการชามือ ลองสังเกตให้แน่ชัดว่าชาตรงไหน จะได้ช่วยแพทย์ให้การวินิจฉัยโรคได้ง่ายขึ้น ถ้าชาด้านฝ่ามือของนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง บางส่วนนิ้วนาง อาจจะเป็นนิ้วใดนิ้วหนึ่งหรือหลายนิ้ว เรียกว่า “พังผืดรัดเส้นประสาทที่ข้อมือ” หรือ “กลุ่มอาการเส้นประสาทถูกกดทับที่ข้อมือ”
     การปฏิบัติตนคือ รับประทานวิตามินบี 1, 6, 12 และบริหารร่างกายเป็นประจำ .. ในเวลาที่ยังเยียวยาได้ ผมคงต้องชะลอการใช้ร่างกายแบบไม่สมเหตุสมผลลงบ้างแล้ว จะได้มีไว้ใช้ตราบนานเท่านาน .. เผื่อว่าใครจะชวนให้มีชีวิตเป็นอมตะ ก็จะได้มีร่างที่เหมาะสม