เครียด ม.5 เผาโรงเรียน

เรียนเพื่อการแข่งขัน ส่งผลนักเรียน ม.5 โรงเรียนดังย่านพุทธมณฑลเครียดจัด ลอบเผาอาคารเรียนจนวอดเกือบทั้งหลัง ถูกจับรับสารภาพ หวังเพียงจะได้หยุดเรียน พ่อรับเคยบ่นไม่อยากเรียนอีกแล้ว รมว.ศึกษาฯ วอนอย่าเพิ่งด่วนสรุป ขอเวลาให้เด็กตั้งสติบอกเล่าความจริง
     เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ข้างมหาวิทยาลัยมหิดล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2553 พ.ต.ท.เชษฐ์ สังข์ศรีแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล ได้แจ้งให้รถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 10 คันไปดับไฟ พร้อมเดินทางไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงศ์ ผกก. นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล กับพวก
     เมื่อไปถึงพบว่าไฟลุกไหม้ที่ชั้น 2 อาคารมหิดลวิทยานุสรณ์ 2 และลุกลามอย่างรวดเร็วจนถึงชั้น 4 เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้
     อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 7 ชั้น ถูกไฟไหม้เสียหายมากที่ชั้น 1 และชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องสมุด กระทั่งเช้าวันเดียวกัน ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน ปรากฏว่าเป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี อยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ บ้านเดิมอยู่ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ซึ่งเจ้าหน้าที่พบว่านักเรียนผู้นี้กำลังปีนรั้วออกมา ศีรษะมีร่องรอยถูกไฟไหม้ และมีพิรุธ
     เบื้องต้นนักเรียนให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จุดไฟเผาโรงเรียน โดย พ.ต.อ.สุรพจน์ พิสุทธิวงศ์ ผกก.สภ.พุทธมณฑล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าที่เผาโรงเรียนเพราะไม่อยากเรียนหนังสือ เมื่อโรงเรียนถูกไฟไหม้จะได้ปิดโรงเรียน โดยได้ไปซื้อน้ำมันที่หน้าโรงเรียน 1 ลิตร ไฟแช็ก 1 อันมาเตรียมไว้ กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. ได้ซ่อนตัวอยู่ในอาคารชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องสมุด รอจนถึงเวลา 01.50 น. จึงลงมือราดน้ำมันและจุดไฟเผา ก่อนที่จะหลบอยู่ในห้องน้ำของโรงอาหาร จนถึงเช้าจึงได้ปีนรั้วออกมาและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ดังกล่าว 
     เพื่อนๆ นักเรียนบอกว่า ผู้จุดไฟเผาเป็นคนเก็บตัว ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และระยะหลังการเรียนตกต่ำจากที่เคยได้เกรด 4 ก่อนเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ ปัจจุบันเหลือเพียง 3.1 เท่านั้น จึงเกิดความเครียดก็เป็นได้ เพราะเพื่อนๆ บางคนก็ไม่ยอมช่วยเหลือ หรือเวลาไม่เข้าใจถามก็ไม่มีใครบอก
     นางยุวดี นาคะผดุงรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ กล่าวว่า โรงเรียนมีนักเรียนชาย-หญิง 720 คน เป็นโรงเรียนประจำ ทางโรงเรียนจะมีหอพักแยกระหว่างนักเรียนชายและหญิงอยู่คนละตึก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเด็กทำไปเพื่ออะไร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับรายงานจากอาจารย์ผู้ปกครองว่าเด็กมีปัญหาอะไร
     นายวีรพล บิดาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า บุตรชายพักอยู่ที่หอพักภายในโรงเรียน จะกลับมาบ้านเฉพาะในช่วงที่ปิดภาคเรียนใหญ่เท่านั้น แต่ในช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา ลูกชายกลับมาอยู่บ้าน บ่นให้ตนกับภรรยาฟังว่าเรียนหนัก และรู้สึกเครียดมากจนไม่อยากจะกลับไปเรียนอีกแล้ว ซึ่งตนไม่เอะใจอะไร เพียงแต่ให้กำลังใจลูก อย่างไรก็ตาม ระยะหลังลูกเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจนเคยคิดว่าอาจจะมีปัญหาทางจิต เพราะญาติพี่น้องของตนหลายคนมีปัญหาเช่นนี้
     ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และได้หารือกับผู้บริหารโรงเรียน รวมทั้งตำรวจท้องที่ถึงคดีดังกล่าว ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่า ได้กำชับให้ทุกฝ่ายระมัดระวังการให้ข่าว ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการตรวจพิสูจน์หลักฐานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในเบื้องต้นเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุที่อยู่เหนือความคาดหมาย ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความมั่นคงของอาคาร และสำหรับนักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนเพื่อความปลอดภัย และเพื่อให้โรงเรียนได้แก้ไขปัญหาก็จะมีการหยุดเรียน 7 วัน เพื่อให้ทางโรงเรียนเตรียมหาห้องเรียนและห้องสมุดสำรอง
     “ยังไม่อยากให้ทุกฝ่ายสรุปว่าเกิดจากความเครียดของเด็ก ขอเวลาเด็กได้มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงก่อน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งต้องมีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ร่วมด้วย เมื่อสรุปผลและดูข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ก็จะดูในรายละเอียดเพื่อแก้ไขปรับปรุงในระยะยาวต่อไป” นายชินวรณ์กล่าว.
+ http://www.thaipost.net/x-cite/070610/23135