แนะนำ แคท รัตติกาล เพราะจบสายใกล้เคียงกัน (3)

แคท รัตติกาล
แคท รัตติกาล

คุณแคท รัตติกาล เป็นชาวลำปางด้วยกัน
หากผมจะมีความภูมิใจที่จะนำเสนอ นักร้องชาวลำปางสักคน ก็หวังว่าจะไม่มีใครติฉินนินทานะครับ และอีกเหตุผลคือ เธอสำเร็จการศึกษาด้านเดียวกับผม นั่นก็คือเหตุผลสำคัญครับ ชื่อจริงของแคท รัตติกาล คือ นางสาวพุทธชาติ ยศแก้วอุด (แคท) เกิด 30 พ.ค.  เป็นคน อ.เมือง ลำปาง ศิษย์เก่าโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เคยประกวดมิสมอเตอร์โชว์ปี 2542 ได้ตําแหน่งรองอันดับ 1 ร้องเพลงประกอบละคร ถ่ายมิวสิควิดีโอ เดินแบบ ถ่ายแบบแฟชั่น มีผลงานอัลบั้มเพลงชุดแรกคือ เมดอินลูกทุ่ง และเพลงประกอบละครเรื่อง หงส์ฟ้ากับสมหวัง  และพระจันทร์ลายกระต่าย  ผลงานอื่น เช่น เช้าวันใหม่..ใจเต็มรัก เย็บจักรถักฝัน นิยายรัก อย่ากึ๊ดนัก

ทดสอบ submit blog (2)

มีเว็บไซต์มากมายที่รับ submit
1. http://www.blogcatalog.com
– ต้องสมัครสมาชิก แล้วเลือก directory
http://blogcatalog.com/directory/education_and_training/e_learning
– มี link back เพิ่มใน footer ของ http://article-thaiall.blogspot.com/
2. http://thaiblog.info/submit.php
– ต้อง link กลับหา thaiblog.info
– ผมก็บอกเขาว่าจะ link กลับเข้า http://www.thaiall.com/blog/burin/60/
จาก http://www.divland.com/blog/2007/05/05/submit-blog-thaibloginfo/
+ http://www.blogcatalog.com/ + http://dir.blogflux.com/
+ http://www.blogarama.com/ + http://www.blogdup.com/
+ http://www.blogadr.com/http://submit.wordthai.com/
จึงจัดทำรูปเพื่อส่งเข้า submit ที่ http://www.thaiall.com/blog/wordthai.jpg

งานบุญ งานสัมมนา งานวิจัย กับกาแฟ 3 แก้ว

1) เช้าที่ 28 มีค52 ผมมีนัดหมายไปร่วมงานบุญบวชเณรที่วัดต่าง ๆ กับรถตู้ของสถาบัน ตั้งแต่ 7.45 น. ก็วางแผนว่าจะไปเรียบร้อยดี แต่เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการขับถ่าย ทำให้ผมเดินทางไปสถานที่นัดหมายประมาณ 7.55 น. พบว่าล้อหมุนไปแล้ว จึงตกรถ นี่เป็นครั้งที่ 2 ห่างกันไม่ถึงปีที่ผมพลาดงานบุญเป็นชุดเช่นนี้ เพราะเคยไปไหว้พระ 9 วัด กับพระครูที่วัดไหล่หินลุ่ม ไปกันเป็นคาราวาน แต่วัดที่ 8 เกิดมีรถหลงทาง 2 คัน และรถของผมก็เป็น 1 ในนั้น มาครั้งนี้ไปไกล ครอบครัวก็ไม่ได้ไป จึงตัดสินใจไม่ตาม
สรุป : การวางแผนเดินทาง ต้องเผื่อเรื่องห้องน้ำ และรถเสีย ไว้พอประมาณ
2) อันที่จริง ผมมีนัดเข้าสัมมนาการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรที่ 2 แต่เคยปฏิเสธไป เรื่อง วิทยากรกระบวนการ โดย สกว.สำนักงานภาค ห้องสมุดประชาชนเทศบาลนครลำปาง จึงโทรไปถามว่าในทีมผมไปแล้ว 3 คน คือ พ่อกำนัน แพทย์ และป้ากิม เพิ่มผมไปอีกคน จะได้ไหม หลังจากเคยปฏิเสธไปแล้ว ทั้งจิ๋ม และจิ๊ปซึ่งเป็นผู้จัดงานมิได้ปฏิเสธแต่อย่างใด มีกิจกรรมที่ช่วงบ่ายออกไปเสนอกระบวนการจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนเงิน 10 ล้าน ของหมู่บ้าน ผมมีโอกาสสมมติตนเองเป็นกำนัน และจัดเวทีหมวดยกร่างกฎ ให้มานำเสนอ ตกเย็นก็มีผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ข้อเสนอแนะ ได้ประสบการณ์ และวิธีแก้สถานการณ์ดีมาก
สรุป : อาจสวมหมวกหลายใบ ไม่มีใครสวมทุกใบแล้วไม่พบปัญหา ต้องเลือกตามเหตุอันควร
3)
กลับบ้าน ก็พบว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องหัวใจ จนเขียนบทความกับรายงานวิจัยไม่ได้ คิดว่าถ้าเดินคลายเครียดอาจหาย ก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเย็นดื่มกาแฟแก้วที่ 3 เข้าไปแล้ว จึงมีอาการทางหัวใจที่เต้นไม่ปกติ พอทราบสาเหตุก็สบายใจ ว่าเดี๋ยวดื่มน้ำเยอะ ก็คงดีขึ้น ตกดึกจึงนั่ง clear งบประมาณงานวิจัย ตามเอกสาร ต้องรอกิจกรรมอีก 3 รายการ ที่จะเกิดขึ้น จึงจะ clear ได้ ซึ่งโครงการขอขยายการเขียนรายงานและสรุปไป 2 เดือน ตามคำแนะนำของผู้ประสานงาน ซึ่งผมก็ว่าดี จะได้ไม่เร่งกิจกรรมสรุปผลในเดือนเมษายน
สรุป : ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ กินเป็นตัวกำหนดที่เราเป็น กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น
4) วางแผนว่าพรุ่งนี้ไม่ไปร่วมงานบวชอีกวัน เพราะอยาก clear บทความที่ลงฅนเมืองเหนือ ให้เสร็จสัก 2 เรื่อง เพราะวันนี้ตอนสัมมนา เขียน draft เรื่องเทคโนโลยีกับนวัตกรรม แต่ draft อีก 2 เรื่องที่เขียนไว้ยังไม่ได้ prove และ public ถ้าไปงานบวชตกเย็นคงเพลีย ก็คิดว่าคืนนี้จะนั่งสมาธิแผ่เมตตา แทนการไปงานบวช เพื่อสร้างกุศลแทนกัน ก็คงไม่น่าเกียจ
สรุป : วันนี้คือปัจจุบัน พรุ่งนี้คือสิ่งที่อาจไปไม่ถึง ก็คงมีสักวัน ที่ไปไม่ถึงวันพรุ่งนี้

แม่ลางาน หนูปิดเทอม พากันไปตรวจฟันที่โรงพยาบาล

27 มี.ค.52 แม่มะม๊าลางานหนึ่งวัน พาหนูไปโรงพยาบาล 9.00 น. เพื่อตรวจฟันกับคุณหมอ ทั้ง 3 คนจะจองคิวจัดฟัน แต่ไม่ได้จอง เพราะหมอลางาน เห็นว่าคุณหมอจะมาสัปดาห์หน้า เมื่อตรวจฟันทุกคนแล้ว คุณหมอที่เป็นพ่อของแป้งร่ำถอนฟังให้พี่รีม เป็นฟันบนข้างขวา หมอไม่เห็นฉีดยาชาเลย ดึงออกเฉย ๆ แต่ไม่เจ็บ นอนรอบนเตียงตั้งนาน ส่วนมาหยาอุดฟันล่างข้างซ้ายด้วยสารสีขาว น้องพีเป็นคนเดียวที่หมอไม่ได้ทำอะไรในปาก เห็นบอกว่าปกติ หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็ไปห้างสรรพสินค้าเสรีทานข้าวเที่ยง เป็นข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ก๋วยเตี๋ยวหลอด แล้วไปซื้อหนังสือนิทานนางฟ้า ข้างในมีหลายเรื่อง และหนังสืออะไรเอ่ย จี้ต่อมขำ หยำต่อมฮา กลับถึงบ้านประมาณก่อน 14.00 นิดหน่อย ตกเย็นป๊ะป๊าก็มาชวนเขียนอะไรต่อมิอะไรนี่หละ บันทึกไว้ค่ะ

ปรับ Config ของระบบ Windows เบื้องต้น (1)

มีโอกาสปรับระบบ Windows XP V.2002 SP2 (2006 V7)
ในเครื่อง Desknote ECS RAM 128 CPU 1.0 GHz ให้ทำงานเร็วขึ้น
1. เปลี่ยน Background เป็นพื้นสีเดียว ไม่ใช้ภาพ
2. Control Panel, System, Performance and Maintenance, System
– Automatic Updates, Turn off Automatic Updates
– Uncheck :Allow Remote Assistance invitation
– Check : Turn off System Restore
3. Control Panel, System, Performance and Maintenance
– Power Options, Hibernate Tab,
– Uncheck : Enable hibernation
– Power Schemes Tab, Turn off monior = Never
4. Control Panel, Date,Time,Language ..
– Regional and Language Options
– Languages Tab
– Check : Install files for Complex script (Thai)
– Languages Tab, Details, Add, Thai
5. Start, Run, Msconfig
– Uncheck : MsnMsgr

อาจารย์ 3 ท่าน 3 บทบาทกับมหกรรม 10 ปีวิจัยเพื่อท้องถิ่น (2)

20 – 21 มีนาคม 2552 ท่านอธิการสันติ บางอ้อ ได้มอบหมายให้อาจารย์
ของมหาวิทยาลัยโยนก 3 คนไปร่วมงานมหกรรม 10 ปีวิจัยเพื่อท้องถิ่น
ห้อง Grand Diamon Ballroom เมืองทองธานี
ได้แก่ อ.ศิรดาไชยบุตร อ.อัศณีย์ ณ น่าน และผศ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
ทั้ง 3 ท่านไปในบทบาทที่แตกต่างกัน 1) อ.ศิรดาไชยบุตรไปจัดนิทรรศการนำเสนอผลการวิจัย จากโครงการวิจัยกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการพัฒนาฐานข้อมูล
ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน 2) อ.อัศนีย์ ณ น่าน นำทีมวิจัยโครงการวิจัยการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของวิสาหกิจชุมชน น้ำดื่ม อสม. ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ไปร่วมสัมมนา
3) ผศ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์ ขึ้นเวทีร่วมเสวนาวันที่ 21 มี.ค.52 ช่วง 9.00- 9.40
เป็น session แรกของช่วงเช้าในห้องย่อย1 หัวข้อ งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นกับสถาบันการศึกษา
ในฐานะตัวแทนสาขาวิทย์คอม แล้วทำวิจัยเพื่อท้องถิ่น และนำทีมวิจัย
โครงการวิจัยรูปแบบการจัดการงานศพโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง ไปร่วมเสวนาในครั้งนี้นักวิจัยเพื่อท้องถิ่น

แฉเบื้องหลัง ดาราสาวเกาหลี จองจายอน ฆ่าตัวตาย ถูกทุบตี-นางบำเรอ (2)

ผมว่าเป็นเรื่องแปลกที่สาวบางคนเกิดมาโชคดี แต่กลับมีเบื้องหลังที่ผิดพลาด จึงบันทึกไว้เป็นบทเรียนให้ได้ศึกษากัน ว่าอีกมุมหนึ่งของชีวิต มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

ได้มีการเปิดเผยของผู้จัดการส่วนตัวของ “จองจายอน” ดาราสาวที่ฆ่าตัวตายไปเมื่untitledอสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงเงื่อนงำที่มากกว่าความตรอมใจที่เป็นต้นเหตุในการจบชีวิตของตัวเองอย่างที่ใครๆ คิด เมื่อมีการเปิดเผยว่าน่าจะมีคนใหญ่คนโตของเกาหลีอยู่เบื้องหลังการฆ่าตัวตายของบรรดาดาราสาวเกาหลีในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้
       ผู้จัดการส่วนตัวของ จองจายอน ดาราสาวของละครสุดดัง Boys Before Flowers ที่เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ไม่มีใครรู้มาก่อน อันเป็นจดหมายที่ดาราสาวเขียนเอาไว้ก่อนเสียชีวิตถึงข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้องหลังการคิดสั้นครั้งนี้ ซึ่งแม้ทางครอบครัวจะไม่ต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดถูกนำไปเผยแพร่อีก แต่ทางผู้จัดการส่วนตัวของเธอยืนยันว่าดาราสาวต้องการให้ครอบครัวของเธอรู้ว่าที่เธอตัดสินใจคิดสั้นครั้งนี้ไม่ได้มาจากความตรอมใจเรื่องครอบครัวในอดีตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และต้องการให้สังคมรับรู้ถึงตัวตนที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจฆ่าตัวตายของเธอครั้งนี้
       ในจดหมายดังกล่าวได้มีการเปิดเผยว่า จองจายอนถูกบังคับให้ร่วมหลับนอนกับคนใหญ่คนโตระดับผู้อำนวยการฝ่ายผลิต (PD) ซึ่งเหตุการณ์มิดีมิดร้ายเกิดขึ้นกับเธอหลายครั้งทั้งที่ในโรงแรมและบาร์ จนเธอถูกบังคับให้ร่วมหลับนอนกับคนเหล่านั้นในที่สุด จองจายอนยังเคยถูกทำร้ายร่างกายด้วยการถูกทุบตีด้วยขวดน้ำและได้รับข้อความข่มขู่ ซึ่งการถูกรุกรานทั้งร่างกายและจิตใจอย่างนี้เกิดขึ้นกับเธอมาเป็นเวลานับปีจนกระทั้งในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ที่ก่อนหน้านี้เธอเคยไปขอความช่วยเหลือจากต้นสังกัดของเธอ แต่เธอกลับถูกตอบแทนด้วยการทุบตีซ้ำและสั่งให้ทนรับสภาพดังกล่าวต่อไป
       จองจายอนเผยในจดหมายลาตายของเธอว่าที่เธอยอมทำเรื่องเสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงอย่างนี้เพราะตอนนั้นเธอต้องการเงินและจิตใจของเธอช่วงนั้นอ่อนแอมากๆ
       มีรายงานเปิดเผยว่าหลังจากออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวรายนี้ได้พยายามฆ่าตัวตายและกำลังอยู่ในระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลในขณะนี้ โดยเผยว่าที่เขาพยายามฆ่าตัวตายเนื่องจากความหวาดกลัวภัยมืดที่จะย้อนกลับมาหาเขาที่ออกมาเปิดเผยเรื่องดำมืดที่ถูกปกปิดมานานครั้งนี้
       จากการเปิดเผยดังกล่าว ล่าสุดทางสำนักงานตำรวจของเกาหลีใต้ได้จัดแถลงข่าวเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำการสอบสวนได้ยื่นคำร้องไปยังศาลสูงเพื่อขออำนาจในการเข้าไปตรวจสอบประวัติการใช้โทรศัพท์และอีเมล์ของผู้ตาย ขณะที่จดหมายลาตายฉบับนั้นก็ได้ถูกส่งไปยังฝ่ายนิติเวชวิทยาเพื่อการสอบสวนต่อไป
       ทางโฆษกของสำนักงานตำรวจเกาหลีใต้เปิดเผยว่าในจดหมายลาตายของจองจายอนมีผู้มีชื่อเสียงในวงการอยู่ถึง 10 รายที่ถูกระบุชื่อโดยผู้ตายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจฆ่าตัวตายของเธอ แต่จะยังไม่มีการสอบสวนบุคคลเหล่านั้นจนกว่าจะทำการยืนยันหลักฐานได้อย่างแน่ชัดเสียก่อน
       ทั้งนี้ยังมีการเปิดเผยว่าการสอบสวน คิมซังฮุน เจ้าของ Contents Entertainment ต้นสังกัดของจองจายอนยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเจ้าตัวยังไม่กลับมาจากประเทศญี่ปุ่น และไม่สามารถติดต่อได้เพราะเขาปิดมือถือตลอดเวลา
       การพบข้อสันนิฐานใหม่ครั้งนี้ทำให้ชาวเน็ตมากมายเห็นความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ฆ่าตัวตายของดาราสาวเกาหลีในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เพราะ จองดาบิน และ ชอนจินซิล สองดาราสาวที่ฆ่าตัวตายจนเป็นข่าวดังเมื่อปีสองปีก่อน ต่างเป็นอดีตเด็กในสังกัดของคิมทั้งคู่ และทั้ง 3 สาวก็ได้รับการระบุเหตุการฆ่าตัวตายว่าเกิดจากความ “ตรอมใจ” เหมือนกันทั้งหมด       
       ยิ่งกว่านั้น ดาราสาวทั้ง คิมนัมจู และ โกโซยัง ที่เคยอื้อฉาวในคดีทางเพศ ต่างก็เป็นเด็กในสังกัดของคิมทั้งคู่ จนหลายฝ่ายเชื่อว่านายคิมผู้นี้น่าจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของนักแสดงหญิงมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000030702
http://story.thaimail.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=2090&Itemid=0
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7637226/A7637226.html

ร่วมเสวนาในงานมหกรรม 10 ปีวิจัยเพื่อท้องถิ่น (1)

dsc07935

ผมมีโอกาสไปร่วมเสวนาวันที่ 21 มี.ค.52 ช่วง 9.00- 9.40
เป็น session แรกของช่วงเช้าในห้องย่อย1
คือ 
งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นกับสถาบันการศึกษา
ในฐานะตัวแทนสาขาวิทย์คอม แล้วทำวิจัยเพื่อท้องถิ่น
 บนเวทีมี คุณประพจน์ ภู่ทองคำ ดร.มยุรี ถาวรพัฒน์ อ.ไพจิตร ศรีธนานุวัฒน์ ผศ.เยี่ยมลักษณ์ อุดาการ และผม
ความเป็นมา 
สกว.ริเริ่มสนับสนุน “งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น” เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2541 โดยมีการจัดตั้งสำนักงานภาค ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมียุทธศาสตร์ที่สำคัญ เน้นการมุ่งเข้าไปเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่น โดยเน้นให้ “คน” ในชุมชนท้องถิ่นใช้ประโยชน์จากงานวิจัย ด้วยการเข้าร่วมกระบวนการวิจัยทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์ชุมชนเพื่อกำหนดโจทย์/คำถามวิจัย การทบทวนทุนเดิมในพื้นที่ การออกแบบการวิจัย และการวางแผนผฏิบัติการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล การทดลองปฏิบัติจริงเพื่อสร้างรูปธรรมในการตอบโจทย์วิจัยหรือแก้ปัญหาในพื้นที่วิจัย การประเมินและสรุปบทเรียน เน้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ระหว่างนักวิจัยชาวบ้าน คนในชุมชนท้องถิ่น นักวิชาการ ข้าราชการ นักพัฒนาและผู้ทรงคุณวุฒิที่จะได้เรียนรู้ร่วมกัน เพื่อสร้างความรู้และกลไกการจัดการปัญหา เพื่อนำไปสู่การพึ่งตนเองของชุมชนในพื้นที่การวิจัยสกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่นได้มุ่งเน้นยุทธศาสตร์สำคัญในการเข้าไปเพิ่มขีดความสามารถของชุมชนท้องถิ่น โดยเน้นให้ “คน” ในชุมชนท้องถิ่นใช้ประโยชน์จากงานวิจัย ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การทำงานที่ยึดมั่นมาเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปี คุณูปการจากการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่ปัจจุบันขยายงานออกไปทั่วประเทศ ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้ขยายงานวิจัยท้องถิ่นในหลายพื้นที่ ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ ตาก แพร่น่าน กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ ในพื้นที่ภาคกลาง ตะวันออก ตะวันตก มีการขยายงานสู่ 18 จังหวัด คือ กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบ ราชบุรี สมุทรสงคราม นครปฐม ปทุมธานี อยุธยา สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ชัยนาท อุทัยธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี ตราด ในขณะที่พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็มีการขยายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นสู่หลายพื้นที่ ได้แก่ อุบลราชธานี มหาสารคาม ชัยภูมิ หนองบัวลำภู เลย ร้อยเอ็ด ยโสธร กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และในพื้นที่ภาคใต้ ได้เกิดการขยายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นในหลายจังหวัด เช่น ยะลา สงขลา นราธิวาส ปัตตานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง สตูล พังงา โดยการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ต่างๆ นั้นจะอาศัยกลไกของศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น (Node) และพี่เลี้ยงนักวิจัย ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น (Node) กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ เกิดโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจำนวนประมาณ 1,000 โครงการ (ตุลาคม 2541 – พฤษภาคม 2551) และยิ่งไปกว่านี้กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่นยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาคน ให้เกิดการเรียนรู้ พัฒนาให้เกิดวิธีการคิดอย่างเป็นระบบ และทำให้ชุมชนสามารถแก้ปัญหาและค้นหาทางออกจากปัญหาได้ด้วยตัวเอง10 ปีที่กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือ หรือทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาด้วยปัญญาของชุมชนท้องถิ่นเอง ดอกผลจากการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ได้ปรากฎให้เห็นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ อาทิ เกิดโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่ชาวบ้านเป็นผู้ทำวิจัยด้วยตัวเองกว่า 1,000 โครงการ เกิดนักวิจัยเพื่อท้องถิ่นมากกว่า 7,000 คนและขยายฐานงานจากงานวิจัยชาวบ้านสู่กลุ่มคนทั้งในหน่วยงานและสถาบันต่างๆ นอกจากนี้ พลังคนวิจัยได้นำสู่การสร้างสรรค์งานวิจัยในประเด็นต่างๆ มากมาย ได้แก่ ประเด็นการท่องเที่ยว เกษตรกรรมยั่งยืน สุขภาพ หมอเมือง และสมุนไพร ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เศรษฐกิจชุมชน การบริหารจัดการท้องถิ่น เด็กและเยาวชน การศึกษากับชุมชน ชุมชนกับการจัดการทรัพยากร เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเด็นล้วนก่อให้เกิดคุณค่าแก่ชุมชนท้องถิ่น นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ และความสุขของคนทำวิจัย ที่ ณ วันนี้ ชาวบ้านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ชาวบ้านทำวิจัยได้” จึงอาจกล่าวได้ว่ากระบวนการทำงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ได้นำมาซึ่ง “คุณค่า พลังและความสุขของชุมชนท้องถิ่น”ด้วยจังหวะเวลาที่เหมาะสม และดอกผลจากการทำงานที่เริ่มก่อเกิด สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น ร่วมกับเครือข่ายงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น (ศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น/พี่เลี้ยงนักวิจัย) และภาคีพันธมิตร ต่างเห็นร่วมกันว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมแก่การทบทวนการทำงานสนับสนุนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ตลอดจนเป็นโอกาสที่จะนำเสนอผลงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นสู่สาธารณะ และค้นหาทิศทางในการขับเคลื่อนงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นในอนาคต ด้วยเหตุนี้ สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น จึงได้กำหนดการจัดงาน “มหกรรม 10 ปี วิจัยเพื่อท้องถิ่น” ซึ่งมีแนวคิดร่วมของงานอยู่ที่การสื่อให้เห็นถึง “ความสุข คุณค่า และพลังงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น” ในวันที่ 20 – 21 มีนาคม 2551 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานีวัตถุประสงค์ :
1) นำเสนอผลงานจากงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นให้เป็นที่ประจักษ์
2) นำเสนอผลกระทบที่เกิดขึ้นกับชุมชน หน่วยงานที่เกิดจากการทำงานวิจัย
3) นำเอาประสบการณ์ต่างๆ มาพิจารณาดูว่าเหมาะสมกับสังคมไทยแค่ไหน
4) ระดมความคิดเห็นของนักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มต่างๆ ต่องานวิจัยเพื่อท้องถิ่น
5) นำเอาข้อมูลต่างๆ มาดูทิศทางในการขับเคลื่อนงานต่อไป
คุณค่า
คุณค่าในการสร้างและพัฒนาคนบนฐานปัญญา
คุณค่าในการรื้อฟื้นและพัฒนาองค์ความรู้ท้องถิ่น
คุณค่าในการสร้างและพัฒนาชุมชนและสังคม
พลัง
พลังต่อการเปลี่ยนแปลงตัวตนและชุมชน
ความสุข
ความสุขทางจิตวิญญาณ/ปัญญา

http://www.vijai.org/newsTRF_detail.asp?topicid=737
http://www.10year-cbr.org/about_us.php

เรื่องแต่งของเด็ก ผิดบ้างถูกบ้างเป็นธรรมดา ต้องฝึกกันไป (4)

3  พี่น้อง
     มี 3 คนพี่น้องอยู่ที่กระท้อม  พี่ใหญ่อาชีพจับปลา น้องกลางอาชีพขุดดิน น้องเล็กอาชีพทำนา  มีวันหนึ่งพี่ใหญ่ไป เจอ  mirror  อยู่ในน้ำ  ในขณะที่น้องกลางก็ไปเจอเมล็ด strawberry อยู่ในดิน  ทั้ง 2 คนจึงเอามาที่บ้าน พี่ใหญ่ก็พูดกับ mirror ว่า “ถ้า mirror  วิเศษจริงฉันขอให้บ้านของเราหลังใหญ่” และคำอธิฐานก็เป็นจริง บ้านหลังใหญ่โดยไม่คาดฝัน และน้องกลาง ก็เอาเมล็ด strawberry ไปปลูก  2-3 วันผ่านไป น้องกลางก็เห็นว่ามีผล มาก น้องกลางจึงเก็บไปขายและน้องเล็กก็กลับมาที่บ้านเห็นว่าบ้านหลังใหญ่ จึงมารวมอธิฐาน จึงขอ duck cow cat farm และขอ airport และ mirror ก็แตกร้าวและบ้านหลังใหญ่ก็หายไป น้องกลางมาที่บ้าน เห็นว่าบ้านหลังใหญ่หายไป จึงไปกับน้องเล็กไปช่วยกันตัดต้น  strawberry และนำไปขายพอนำไปขายและได้ เงินมาและไปสร้างบ้าน สร้างร้าน noodle และสร้าง bookshop และเจ้านาย ที่ติดหนี้ก็มายึดที่ 3 พี่น้องพึ่งสร้างใหม่พวกเราจึงหมดตัว  จึงต้องอดอยาก
การไปเที่ยวแสนสนุก
     วันหนึ่งพ่อซื้อสุนัขมามัน downy มากเลย มันชั่งน่ารัก พ่อบอกว่าปล่อยอยู่ที่บ้านกับพี่นะลูก เดียวจะพาไปตลาดคิดว่าจะไป    ember   จะเอามาเปลี่ยน เพราะไฟฉายถ่านหมดจึงไป พ่อซื้อขนมเลย์ถุงละ   eight   บาท พ่อบอกว่าจะซื้อ diary ให้พี่ แต่มันไม่ขาย พ่อบอกว่า อยากซื้อเป็ดไหม ฉันบอกว่าอยาก แต่พ่อบอกว่าบ้านคุณปู่ก็มี drake เดี๋ยวจะพาไปเที่ยว วันเสาร์ อาทิตย์ ปู่มีลูกเป็ดด้วยนะ อาจจะ endow ลูก 1 ตัวก็ได้นะพ่อกะว่าจะซื้อ denim ให้คุณปู่ แล้วตัว drama ที่คุณปู่กำลังทำเป็นธุรกิจด้วยแล้วพ่อก็ซื้อ car ใหม่ให้พี่ elect ตั้งนาน 
สวนของฉัน
     ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวที่  warm  grandpa  ของฉันมี    park   อยู่แห่งหนึ่งที่  park  ของ   grandpa  มี  flower   มากมาย และมีต้นไม้เยอะแยะ หลายต้น เช่นต้น  coconat  mango  และ ต้น papaya  และที่สวนของ  grandpa ฉัน   ฉันชอบรับประทาน  banana  มากที่สุด เพราะมันมีประโยชน์และอร่อย  ถ้า rain  ฉันก็จะเข้าไปหลบที่ใต้ต้น   apple  เพราะต้นมันใหญ่ และใบมันก็ใหญ่และหนาจึงเปียกฝนได้ยาก  และวันนี้ฉันก็เห็นผีเสื้อบินไปบินมาอยู่แถวๆ flower หลายต่อหลายตัว  แล้วพอจะกลับบ้าน grandpa  ของฉันก็ไปฟันเอากล้วย   เครือใหญ่มาวางเสร็จก็ไปเอา  coconat   มาด้วย ฉันก็ไปเก็บพริก   แล้วตาของฉันก็ไปเอา  apple  มาและไปเก็บ  mango  มา ฉันก็บอกกับ grandpa  ของฉันว่าทำไมได้เยอะคะตาของฉันก็บอกว่าตาไม่ได้มานานแล้วเลยเก็บได้เยอะ