ชี้ชีวิต เข็มทิศการศึกษา

เข็มทิศการศึกษา
เข็มทิศการศึกษา

มหาวิทยาลัยเนชั่น จังหวัดลำปาง
ขอเชิญ นักเรียน นักศึกษา และสื่อมวลชน ทุกแขนง
ร่วมงาน Open House “ชี้ชีวิต เข็มทิศการศึกษา”
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเนชั่น จังหวัดลำปาง และ
คุณวิบูลย์ ทานุชิต รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 35 (สพม.35)
วันที่ 16 มีนาคม 2555 เวลา 13.00 -16.30 น.
ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคารคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยเนชั่น จังหวัดลำปาง

ประเด็นเรื่อง “เข็มทิศ Compass” น่าสนใจมากครับ
เคยฟังการบรรยายธรรมเรื่อง “เข็มทิศชีวิต” ของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง
ครั้งนี้จะไปฟังนักการศึกษาพูดเรื่อง “เข็มทิศการศึกษา”
เพราะเชื่อว่าการศึกษา ช่วยให้โลกเราพัฒนาอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
และจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง


ประโยคหนึ่ง “เบี่ยงเบนจากเป้าหมายหลักของตัวเองไปได้ไกลขนาดนั้น”

http://www.facebook.com/CompassNLPworld

http://it.nation.ac.th/webboard/viewtopic.php?f=54&t=2249

ขยายข่าว: แฟชั่น ศิลปะ หรือ อนาจาร

14 มี.ค.55 มาถึงหน้าร้อนทีไร สาวมั่นทั้งหลาย ได้เวลาท้าลมร้อนด้วยแฟชั่นหลากหลาย ที่โชว์ผิวพรรณสัดส่วน ที่อุตส่าห์ดูแลทะนุถนอมจนเปล่งปลั่ง ขาว นุ่ม เนียน
ส่วนหนุ่มๆ เอง ก็เข้าช่วงเทศกาลลุ้น ภาพเด็ดๆ บนแผงหนังสือว่าสาวคนไหนจะได้ถ่ายแบบ ชุดทูพีซ ขึ้นปก อวดเรือนร่างให้ได้มองเป็นสีสรรของชีวิตกันบ้าง
ฟังๆ ดูก็ไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกของสังคม เพราะการถ่ายภาพในลักษณะนี้มีมานานแล้ว และทำกันทั่วโลก ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะออกแบบชุด และสีสรรได้สดใส โชว์เรือนร่าง หรือเน้นสรีระ จุดชวนมองของสาวๆ ได้มากกว่ากัน
ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะนี่เป็นงานที่รวมเอาธุรกิจย่อยๆ ไว้ด้วยกันอย่างแยกไม่ออก อย่างแรกก็คือ นางแบบมีชื่อเสียง เสื้อผ้าขายออก ช่างภาพโด่งดังเป็นพลุแตก แถมหนังสือยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ฟังแล้วดูเหมือนจะดีไปหมด แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อโลกก้าวล้ำมากๆ เทคโนโลยี ก็เปลี่ยน อุปกรณ์ถ่ายภาพทันสมัยขึ้น และยังมีระบบตกแต่งภาพมาเป็นเครื่องมือในการทำให้ภาพดูหวือหวามากขึ้น ก็เลยเป็นที่มาของภาพที่ออกจะเซ็กซี่เกินงาม นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ ว่านี่คือศิลปะ หรืออนาจารกันแน่
ภาพออกมาสวย แต่ถ้าในสายตาคนส่วนใหญ่ กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไปใหญ่โต ย่อมสะท้อนถึงความตั้งใจของช่างภาพ
คำถามที่เจอเสมอก็คือ ภาพออกมาหวือหวา หรือโป๊เปลือยไปหรือไม่ถ้าเป็นช่างภาพหรือนางแบบเอง ส่วนใหญ่ให้เหตุผลแทบจะเหมือนกัน ว่าขึ้นอยู่กับคนมองเพราะถ้าสำหรับช่างภาพ นี่คือ การอวดฝีไม้ลายมือการถ่ายภาพ ให้โลกได้จดจำ
ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่า ภาพถ่ายทูพีซ คือศิลปะหรืออนาจารแต่ก็มีนักต่อต้านกลุ่มหนึ่ง มองว่า มันคือการอาศัยคำว่าศิลปะ มาบังหน้าและคิดเข้าข้างงานของตัวเอง โดยไม่แบ่งเส้นความเหมาะสม หรือรับความเห็นต่าง
เพราะจริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะภาพเขียน หรือภาพถ่าย ล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์แตกต่างกัน ศิลปินวาดภาพดังๆ ในบ้านเรา เคยสะท้อนมุมมองไว้น่าสนใจ ว่า ศิลปะไม่ใช่แค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาแค่เพื่อความสวยงามและความพอใจแต่เป็นการแสดงออกถึงความงอกงามทางสติปัญญา ยึดโยงกับความดี คุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งสามารถผันแปรไปตามพื้นฐานของจิตใจที่คิดฝันและแสดงออกอย่างอิสระ นี่จึงเป็นช่องว่าง ทำให้ผู้ที่เห็นแก่ผลประโยชน์นำไปดีความเข้าข้างตัวเอง
ขณะที่ผู้คนในสังคม ที่เป็นเสมือนผู้บริโภคสื่อเหล่านี้ ก็ต่างสะท้อนมุมมองที่หลากหลาย
มีทั้งเชิงสร้างสรรค์และอคติ มุมสร้างสรรค์ ต่างเห็นว่าแฟชั่นทูพีซถ้าอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม สถานที่เหมาะสม อายุคนอ่านเหมาะสม และไม่เกินเลยวัฒนธรรม ก็ไม่น่าจะใช่สิ่งต้องห้าม
ขณะที่อีกฝ่ายมองว่า กิริยาและการแสดงออกของนางแบบคือตัวบ่งบอก ว่านี่คืออนาจารหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดท่าทาง การให้แสงหรือองค์ประกอบร่วมอย่างคู่ถ่ายแบบ รวมทั้งสถานที่ถ่ายทำ
มีการสำรวจแผงหนังสือในช่วงหลายปีที่มานี้ ปรากฎออกมาว่า วงการแฟชั่นเปลี่ยนแปลงเร็ว มีการแบ่งกลุ่มคนอ่านไว้ชัดเจน ทั้งในเรื่องเพศ อายุไปจนถึงความชอบส่วนบุคคล
ฉะนั้นภาพที่ต้องการสื่อ ก็จะมีมุมมองที่แตกต่างกันด้วย เช่น ถ่ายกับทะเล กับธรรมชาติ ต้นไม้ ขุนเขา แต่ถ้าออกแนวเฉพาะกลุ่ม ก็จะเป็นอะไรที่ต่างออกไป เช่น คู่ถ่ายเป็นชาย ถ่ายบนเตียงนอน มีการจัดท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมกับคนอ่านอย่างกลุ่มเยาวชน เหล่านี้คือเส้นแบ่ง ที่ขึ้นอยู่กับคนอ่านจะเลือกเอง
ชัดเจนว่า ว่า ไม่ว่าจะช่างภาพ นางแบบ หรือผู้ออกแบบเสื้อผ้า จนออกมาเป็นแฟชั่นหน้าร้อน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจตนา และการแบ่งกลุ่มที่ชัดเจน
คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับการควบคุมแล้วละค่ะ ว่าจะควบคุมกาลเทศะที่เหมาะสมกับช่วงวัย ได้แค่ไหน ในเมื่อสิทธิของการซื้อหนังสือ ไม่ได้ถูกจำกัดอายุเหมือนการซื้อสิ่งเสพติด
ดังนั้นภาพ และเนื้อหาที่ปรากฎในหนังสือ จะเป็นสิ่งสำคัญที่เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของผู้คนในสังคม โดยเฉพาะเยาวชน
เรื่องนี้ผู้ใหญ่ก็มักจะพลาดเสมอ หากมุ่งเป้าไปซื้อหาอ่านส่วนตัวแต่จูงลูกจูงหลานไปด้วย เพราะในที่สุดผู้ใหญ่นั่นแหล่ะค่ะ ที่อาจเป็นคนปลูกฝังนิสัยและความนิยมในหนังสือประเภทนี้ให้กับลูกหลานไปโดยไม่รู้ตัว

http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=181006

http://news.mthai.com/world-news/104189.html

ฮือฮา!! สาวไต้หวัน ไม่สวมกางเกง ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน

Mission Impossible 4 – Ghost Protocol

http://www.youtube.com/watch?v=V0LQnQSrC-g

Mission Impossible 4 – Ghost Protocol
ในฉากที่พระเอกปีนอยู่นอกตึกแข่งกับเวลา
เพื่อนพระเอกก็คอยบอกว่าเวลา count down
ต่างก็ร้อนใจ เพราะเวลาเหลือน้อย
แล้วพระเอกก็บอกว่า “การนับ .. ไม่ได้ช่วยอะไร

มีภาพยนตร์หลายเรื่องพูดเรื่องของเวลา
การหยุดเวลา การย้อนเวลา การเดินทางไปในอนาคต
ซึ่งผมคิดว่า การหยุดเวลาเป็นอะไรที่สุดยอด

สโคปชนะประมูลแท็บเล็ตปอหนึ่ง (itinlife333)

11 มี.ค.55 ข่าวการคัดเลือกบริษัทที่เสนอเข้าประมูลแท็บเล็ต (Tablet PC) สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ของประเทศไทยเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2555 พบว่ามี 4 บริษัท คือ หัวเว่ย (Huawei) ทีซีแอล (TCL) ไฮเออร์ (Haier) และสโคป (Scope) โดยเครื่องแท็บเล็ตยี่ห้อสโคปชนะการประมูล มีคุณสมบัติเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich, Linux Kernel 3.0.1 มีจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว หน่วยความจำ 16 GB หน่วยประมวลผลเป็น Dual Core 1 GHz และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, GPS และ USB 2.0 ด้วยราคา 81 เหรียญ เป็นเงินไทยประมาณ 2,430 บาท

แม้มีการถกเถียงเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในประเด็นนี้ โดยแสดงความห่วงใยเรื่องความสมเหตุสมผลกับสภาพความเป็นจริงของเด็กเล็กในปัจจุบัน เพราะความไม่เหมาะสมของวุฒิภาวะของเด็กเล็กกับทักษะในการใช้งานที่ไปด้วยกันไม่ได้ การใช้งานผิดวัตถุประสงค์ การเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และปริมาณเนื้อหาที่เหมาะสมยังมีไม่มากพอ แต่มีการเดินหน้าตามนโยบายจนมีการเลือกยี่ห้อของแท็บเล็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีงบประมาณสูงถึง 1,900 ล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นนโยบายที่ดีต่อการพัฒนาเยาวชน เพียงแต่มีประเด็นที่น่ากังวลอยู่บ้าง

ข่าวนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับเยาวชน เพราะแท็บเล็ตมีความเหมาะสมในการสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้ที่มีความเข้าใจในอุปกรณ์ และรู้จักการใช้งานอย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ ถ้านักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ไป ก็พอจะแนะนำได้ว่าสามารถใช้เพื่อสืบค้นข้อมูล ใช้หาความหมายของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย หรือราชาศัพท์ ใช้สื่อสารแลกเปลี่ยน ใช้เป็นเครื่องคิดเลข ตารางคำนวณ พิมพ์เอกสาร หรือเตรียมเอกสารสำหรับนำเสนอหน้าชั้นเรียน ใช้ฝึกทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียนภาษาที่สองผ่านระบบมัลติมีเดีย สนับสนุนนโยบายการเข้าสู่สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อังกฤษ: Association of South East Asian Nations) หรือ อาเซียนได้อย่างชัดเจน เมื่อหันกลับมาพิจารณาว่าการนำไปใช้ของนักเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ก็อาจต้องห่วงว่าเด็กเล็ก หรือคุณครูจะตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้อย่างไร และจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างไร ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายได้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและสังคม

http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255503060004

http://tv.ohozaa.com/player/iAz4/

งานวันเกิดคุณย่าศรีวัน

10 มี.ค.55 ย่าศรีวัน อายุ 80 ปี จัดงานวันเกิด หลังป่วยหนักครั้งแรก (เพราะท่านไม่เคยป่วยหนัก) เชิญเพื่อนและญาตพี่น้องไปร่วมงานที่ ภัตตาคาร north seafood ตรงข้ามโรงเรียนประชาวิทย์ เลี้ยงโต๊ะจีนประมาณ 85 ที่ มี เต้าหู้ทอด ผัดเปรียวหวานปลาทอด สลัดกุ้งชุบแป้งทอด ผัดตะกูลถั่ว ต้มยำทะเล ปลาทับทิมนึ่งมะนาว กะเพาะปลา ข้าวผัด และผลไม้

คุณย่ามีลูก 5 คน อาเล็ก อากุหลาบแดง อาพวงชมพู อาพวงแสด และพี่โอ แล้วมีพิธีมอบแหวนให้กับลูก ๆ ซึ่งลูกของคุณย่า ออกมาเปิดเผยความในใจอย่างน่าประทับใจ เพราะคุณย่าเป็นช่างตัดเสื้อ และเลี้ยงลูกจนได้ดีทุกคน .. จากนั้นก็ร้องเพลง happy birthday เป่าเค้กวันเกิด ส้ม กับเค็กมะพร้าว แล้วจับฉลากแจก lotto ต่อด้วยร้องคาราโอเกะอีกครู่หนึ่ง .. ผม ย่าลัดดา และลูก ๆ ไปร่วมงานในฐานะเครือญาติ ทราบจากอาตุ๊กตา ที่เป็นลูกของย่าศรี และผมได้พบกับย่าศรีบุศ สามสาวใหญ่ของตะกูลเรา .. เสร็จกิจกรรมประมาณ 15.00 น. .. คาดว่าสงกรานต์ปีหน้าจะไปดำหัวคุณย่าทั้ง 3 เช่นเดียวกับทุกปี

open house มหาวิทยาลัย

boss of nation multimedia group
boss of nation multimedia group

open house มหาวิทยาลัยเนชั่น

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2555 เวลา 12.30 – 16.30 น. มหาวิทยาลัยเนชั่น จัดกิจกรรมเปิดบ้าน ณ ศูนย์เนชั่นทาวเวอร์ กรุงเทพฯ โดยถ่ายทอดไปยัง มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนต์ (Video Conference)

เสวนาเวทีแรก
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขานิเทศศาสตร์ 3 คนร่วมกันทำเวทีเสวนา มีผู้ดำเนินรายการคือ นายธัญพิสิษฐ์ เลิศบำรุงชัย ร่วมกันเล่าประสบการณ์จากการเรียน และการลงมือปฏิบัติจริง กับมืออาชีพ ซึ่งมีการแสดง และกิจกรรมร่วมกับน้องนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มาร่วมกิจกรรม ทำให้ทราบว่าการเรียนนิเทศศาสตร์กับมหาวิทยาลัยเนชั่น จะได้สัมผัสพิธีกร นักข่าว และได้เข้าไปร่วมปฏิบัติกับมืออาชีพจริง ๆ อาจารย์พาออกพื้นที่จริง นักศึกษาจะได้พบคุณกนก และคุณสุทธิชัย หยุ่น ทั้งในห้องอาหาร หรือในลิฟท์ทุกวัน

วงสนทนาของนักศึกษา
วงสนทนาของนักศึกษา

เสวนาเวทีที่สอง
จากนั้นก็มีเสวนา เรื่อง “ทำไมต้องเรียนฯกับมืออาชีพ” โดย คุณสุทธิชัย หยุ่น  บรรณาธิการข่าวในเครือเนชั่น  คุณธนะชัย สันติชัยกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ  ประธานกรรมการอำนวยการ บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นักศึกษาที่มุ่งมั่นก็จะได้ร่วมงานกับหน่วยงานของเครือเนชั่นตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ได้ฟังบรรยายจากมืออาชีพ อาทิ คุณสุทธิชัย หยุ่น  นำผู้แปลหนังสือ steve jobs มาพูดคุย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีค่า หาได้ยาก และไม่อยู่ในตำราใด ๆ  ซึ่งคุณธนะชัย ย้ำเน้นว่า อัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมี 3 เรื่องที่เราจะพัฒนานักศึกษา  ของมหาวิทยาลัยให้โดดเด่น คุณอดิศักดิ์ให้ข้อมูลว่าทีวีที่บริษัททำอยู่มีถึง 5 ช่อง ที่นักศึกษาจะได้มีโอกาสเข้ามาปฏิบัติจริงกับมืออาชีพ ปัจจุบันนักศึกษาก็มีโอกาสผลิตรายการส่งให้กับสถานีข่าวระวังภัย

สำหรับหลักสูตรที่เปิดสอนที่กรุงเทพฯ มี 2 หลักสูตรในระยะแรกคือ
1. หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชานิเทศศาสตร์)
2. หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (สาขาวิชาบริหารธุรกิจ)

president of nation university
president of nation university

เสวนาเวทีที่สาม
แล้วต่อด้วยเสวนา เรื่อง “เรียนอะไรดีใน ม.เนชั่น” โดย  ผศ.ดร.พงษ์อินทร์  รักอริยะธรรม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเนชั่น  คุณอุดม  ไพรเกษตร ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินรายการ ในระหว่างที่ท่านอธิการตอบประเด็นของ อ.อุดม พบว่ามีประเด็นสำคัญเรือ่งหนึ่ง คือ อัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ ที่สื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า บัณฑิตของมหาวิทยาลัยจะมี 3 ทักษะ คือ professional skill, communication skill และ english skill และหลักสูตรที่เปิดสอนมีดังนี้

1. หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชานิเทศศาสตร์)
2. หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต (สาขาวิชาบริหารธุรกิจ)
3. หลักสูตรบัญชีบัณฑิต (สาขาวิชาการบัญชี)
4. หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์)
5. หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์)
6. หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาการท่องเที่ยว)
7. หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์)

ต่อด้วยงานแถลงข่าวความร่วมมือ การเลือกใช้ Samsung Galaxy Tab เพื่อการเรียนการสอนของนักศึกษามหาวิทยาลัย ระหว่าง มหาวิทยาลัยเนชั่น กับบริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด

ในตอนท้ายของกิจกรรม
ได้เปิดให้ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้สนใจเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการต่าง ๆ ของเครือเนชั่นกรุ๊ป
กลุ่มที่ 1 เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการข่าว หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ
กลุ่มที่ 2 เยี่ยมชมและทดลองเป็นผู้ประกาศ(ข่าวบันเทิง) สตูดิโอ Mango TV
กลุ่มที่ 3 เยี่ยมชมและทดลองเป็นผู้ประกาศ(ข่าวเศรษฐกิจ,การเมือง) สตูดิโอ Nation Channel
กลุ่มที่ 4 เยี่ยมชมและทดลองเป็นผู้จัดรายการวิทยุ (ห้องออกอากาศ Nation Radio)

สนใจติดต่อ 02-3383777 หรือ 054-820099
http://www.nation.ac.th

ผู้ฟังก็ตั้งใจฟัง
ผู้ฟังก็ตั้งใจฟัง

tweet หนึ่งจากทวิตเตอร์ของ อ.อุดม ไพรเกษตร

5 มีนาคม 2555 อ่านทวิตเตอร์ของ อ.อุดม ไพรเกษตร พบเรื่อง “แจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1 ไม่ใช้สมองก็ต้องใช้สติ” มีลิงค์ที่ http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/242249 มีความตอนหนึ่งที่ คุณลม เปลี่ยนทิศ เขียนว่า

การแจกคอมพิวเตอร์ “แท็บเล็ต” ก็เป็นอีกตัวอย่างที่รัฐบาลพยายาม “ซื้อเร็วแจกเร็ว” ทั้งๆที่ยังไม่มีความพร้อมสักอย่าง ไม่ว่าระบบเครือข่ายไร้สาย ระบบไฟฟ้าในโรงเรียน “ครูผู้สอน” ที่ยังขาดทักษะความรู้ ซึ่งกระทรวงศึกษาฯ จะต้องมีการอบรมให้เรียนรู้เสียก่อน รู้ว่าจะใช้แท็บเล็ตเป็นเครื่องมือในการเรียนการสอนอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า
แม้แต่ “ตัวนักเรียน ป.1” เองก็ไม่มีความพร้อม “ขี้เยี่ยว” เด็กยังต้องให้ครูและพี่เลี้ยงดูแล เพราะเด็กยังช่วยตัวเองไม่ได้ แต่รัฐบาลกลับซื้อแท็บเล็ตแจกให้เด็ก 4–5 ขวบรับผิดชอบคนละ 1 เครื่อง และให้ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนเด็กต้องหอบหิ้วไปมาระหว่างบ้านกับ โรงเรียน ต้องคอยเสียบปลั๊กไฟชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งเด็กทำเองไม่ได้ต้องมีคนช่วย การแจกแท็บเล็ตเพื่อใช้เรียนใช้สอนเด็ก ป.1 จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ถูกเวลาในเวลานี้แน่นอน
ถ้าเป็น โรงเรียนที่ห่างไกล ไฟฟ้าไปไม่ถึง แท็บแล็ตก็เป็นเครื่องขยะใช้งานไม่ได้ เหมือนโครงการ ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ของ กระทรวงศึกษาธิการ ในอดีต ที่ไปลงทุนสร้างห้องเรียนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนชนบท อ้างว่านักเรียนในชนบทจะได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ต เพื่อท่องไปสู่โลกกว้าง สามารถเรียนรู้ทางไกลผ่านทางอินเตอร์เน็ตแต่คอมพิวเตอร์ทั้งห้องเปิดใช้งาน ไม่ได้ เพราะโรงเรียน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีอินเตอร์เน็ต


ในวันที่ 5 มีนาคม 2555
เมื่ออ่านข้อความข้างต้นแล้ว .. ก็รู้สึกว่าโลกเรามีคนอยู่หลายแบบนะครับ
http://twitter.com/suthichai
http://twitter.com/udompk

http://www.youtube.com/watch?v=Mhyac_GNpFw

เนวิน ชิดชอบ ดึง Ebisu Muscats มาเล่นคอนเสิร์ต

Ebisu Muscats
Ebisu Muscats

วันที่ 7 มี.ค.2555 หลังหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ​ยูไนเต็ด มีไอเดียเชิญศิลปินวง อิบิซึ มัสแคทส์ (Ebisu Muscats) เกิร์ลกรุ๊ปจากญี่ปุ่น ที่รวมดาราหนังโป๊ หรือ เอวี (AV) กว่า 25 คน นำทีมโดย โซระ อาโออิ ดาราเอวีชื่อดัง มาแสดงในงานเทศกาลสงกรานต์ของ จ.บุรีรัมย์ ที่สนามนิวไอ-โมบาย สเตเดียม เนื่องจากไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย และเด็ก ๆ เยาวชน

นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเตรียมนำลูกทีมประเดิมสนามศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ฟาดแข้งกับ คาชิวะ เรย์โซล ที่สนาม นิวไอ-โมบาย เย็นวันนี้ ออกมาชี้แจงว่า การนำศิลปิน อิบิซึ มัสแคทส์ มาโชว์ตัวยัง จ.บุรีรัมย์ ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อแสดงคอนเสิร์ต ผ่อนคลายให้กับแฟนบอล พร้อมกับติงผู้ที่ออกมาต่อต้านว่า หากไม่รู้จริง ก็ไม่สมควรออกมาพูดเช่นนี้

“คนที่ออกมาพูด รู้จริงหรือเปล่าว่า เขามาในฐานะอะไร คนที่จ้องจะว่าก็เตรียมจะว่าอย่างเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นดาราเอวีของญี่ปุ่นก็จริง แต่ที่เขามาเมืองไทย เขามาเล่นคอนเสิร์ต เขาไม่ได้มาแสดงหนังโป๊ การมาครั้งนี้ เหมือนมาผ่อนคลายให้แฟนบอล ถ้ามาเล่นหนังโป๊ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่นี่เป็นคอนเสิร์ต” ประธานใหญ่ทีมแชมป์เซราะกราวย้ำชัด

ทั้งนี้ มีกระแสต่อต้านแนวคิดดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคมไทย นำโดย กระทรวงวัฒนธรรม ที่มองว่าไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมไทย, องค์กรเกี่ยวกับพิทักษ์สิทธิสตรี ซึ่งมองว่า เป็นการกดขี่และลดคุณค่าของสตรีเพศ รวมถึงนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่น ก็เห็นว่าจะทำให้สังคมไทยติดเซ็กซ์ และเป็นสิ่งอัปมงคล

แต่ก็มีฝ่ายที่สนับสนุน เช่น สภาวัฒนธรรม จ.บุรีรัมย์ ที่มองว่าจะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังจังหวัดมากขึ้น เป็นต้น

โดย: ไทยรัฐออนไลน์
http://m.thairath.co.th/content/sport/243786

วันก่อนอ่านข่าว ประธานรัฐสภาฯ อินโดนีเซีย จะห้ามสมาชิกนุ่งสั้น .. ต่างกับวันนี้
http://www.thaiall.com/blogacla/admin/1203/

สุทธิชัย หยุ่น & ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์

Thanachai  Theerapattanavong
Suthichai Yoon & Thanachai Theerapattanavong

นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ (Thanachai Theerapattanavong) ประธานเครือเนชั่น ประกาศลาออกเหตุปัญหาสุขภาพ บอร์ดมีมติตั้ง สุทธิชัย หยุ่น นั่งแทน มั่นใจไร้รอยสะดุด ด้วยความเข้มแข็งทางการเงิน และศักยภาพแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อ ธนาชัย เผยขายหุ้นเนชั่นบางส่วน ให้กลุ่มสุทธิชัย และพันธมิตร

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG : Nation Multimedia Group) เมื่อ 5 มีนาคม 2555 มีมติรับทราบการลาออกจากตำแหน่งของประธานกรรมการ นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ เนื่องจากปัญหาสุขภาพ และมีมติแต่งตั้ง นายสุทธิชัย หยุ่น (Suthichai Yoon) ทำหน้าที่ ประธานกรรมการแทน การลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ครั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายธนาชัย ว่า สืบเนื่องจากปัญหาสุขภาพ จากหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ซึ่งต้องทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง

‘สุทธิชัย’รับไม้ต่อ’ธนาชัย’นั่งประธานเครือเนชั่น

http://www.suthichaiyoon.com/detail/24289

สุทธิชัยรับไม้ต่อธนาชัย นั่งประธานเครือเนชั่น
http://daily.bangkokbiznews.com/detail/48543

สุทธิ ชัย หยุ่นนั่งประธานกรรมการเครือเนชั่น
http://news.voicetv.co.th/thailand/32929.html

ไม่ใช้เฟซบุ๊คในการทำงาน

เพื่อนท่านหนึ่งพูดให้ฟังว่า “ไม่ใช้เฟซบุ๊คในการทำงาน” เมื่อจับความได้ ก็นำมาพิจารณาก็พบว่า ปัจจุบันผู้คนจำนวนไม่น้อยใช้งานเฟซบุ๊ค เมื่อใช้มาก ๆ เข้าก็หลงใหลถึงขั้นติดงอมแงม (คุณโน๊ต : fb เพื่อ บ่น ปฏิญาณตน อวด แอ็บแตก ทำคำคม) เหมือนที่ คุณโน๊ตอุดม พูดไว้ใน เดี่ยว 8 เรื่อง Hi5 ว่า “ถ้าบริษัทมึงเจ้งกูก็ไม่แปลกใจ” นั่นหละครับ

ความสามารถของ fb ที่เด่นและเห็นได้ชัดมี 3 บริการ
1. profile มีไว้คุยกับคนที่ยอมรับเราเป็นเพื่อน
2. page มีไว้นำเสนอข้อมูลข่าวสารแบบบล็อก หรือตอบข้อซักถาม
3. group มีไว้พูดคุยเฉพาะกลุ่มคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน

สรุปประเด็น
1. profile มีประโยชน์ต่อการทำงานที่หวังเป้าหมายในระดับบุคคลถือว่าต่ำสุด แม้จะใช้ในการสื่อสารระหว่างบุคคล แต่ก็ต้องเป็นเพื่อนเท่านั้น ถ้าเพื่อนในองค์กรไม่รับท่านเป็นเพื่อน ก็คงสื่อสารด้วยเฟซบุ๊คกันไม่ได้
2. page มักถูกใช้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารขององค์กรในแบบบล็อกเป็นสำคัญ แต่เปรียบเทียบกับ website ไม่ได้ เพราะเว็บไซต์สามารถนำเสนอเนื้อหา ภาพนิ่ง ภาพคลิ๊ป ในรูปมัลติมีเดีย และอินเทอร์แอ็คทีฟได้สมบูรณ์ สามารถควบคุม header และ footer ที่ไม่มีโฆษณาของ facebook มากวนใจ มีระบบบล็อก และเว็บบอร์ดที่ควบคุมได้ และสามารถจัดการ seo ได้อย่างสมบูรณ์
3. group มีประโยชน์ในการทำงานสูงสุด แต่มีข้อแม้เพียงข้อเดียว คือไม่เข้ามาใช้ประโยชน์ กลับเลือกใช้บริการที่ไม่ก่อประโยชน์ในการทำงานเหมือนที่คุณโน๊ตว่าไว้

ผมเชื่อว่า มีองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ facebook for working ซึ่งองค์กรที่จะประสบความสำเร็จได้ บุคลากรต้องไม่เป็นแบบที่โน๊ตว่าไว้ และการใช้งานต้องมีการควบคุม เพื่อให้ได้ผลตามเป้าหมายของการใช้งานที่วัดได้


หนึ่งวันของมนุษย์ออฟฟิซ
หนึ่งวันของมนุษย์ออฟฟิซ

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151022111276768&set=a.493024076767.276129.370539266767