นักเรียน ป.1 560,000 คน จะได้รับแท็บเล็ต

tablet สำหรับนักเรียน
tablet สำหรับนักเรียน

ปลาย มี.ค.55 ประชุมบอร์ดแท็บเล็ต สรุปลงนามสัญญาจัดซื้อแท็บเล็ต หลังวันที่ 2 เม.ย.นี้ ด้าน “อนุดิษฐ์” ยันมีการคุมเข้มคุณภาพแท็บเล็ต กำหนดให้จีนผลิต 2,000 เครื่องรุ่นแรก มารับการทดสอบเข้มข้น ตกทดสอบแม้แต่เครื่องเดียวทุกอย่างวงแตก กลับไปเริ่มต้นใหม่

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ในฐานะรองประธานคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตต่อ 1 นักเรียน กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหาร ที่มี ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการยกร่างสัญญาจัดซื้อแท็บเล็ต กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ (Shenzhen Scope Scientific Development Co,Ltd) ที่รัฐบาลจีนเสนอมาและได้ข้อสรุป ว่า คู่สัญญาจัดซื้อจะเป็น กระทรวงไอซีที กับ บริษัทเสิ่นเจิ้น โดยจะทำเป็นสัญญาหลัก (Main Cantact ) พร้อมแนบสัญญาจัดซื้อเพิ่มเติม หรือ Repeat Order เพื่อเปิดช่องให้มีการของบประมาณจัดซื้อเพิ่มเติมภายหลัง ทั้งนี้ เพราะงบประมาณที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ประมาณ 1,900 ล้านบาท ไม่เพียงต่อจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกคน เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตามงบประมาณที่ได้ในปี 2555 นั้น ยังขาดอีก 90,000 เครื่อง ซึ่ง สพฐ.จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณในส่วนอื่นมาจัดซื้อเพิ่มเติมก่อน แต่ขณะนี้ ก็ยังตอบไม่ได้ว่า ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมเท่าไร ขึ้นอยู่กับงบประมาณ 1,900 ล้านบาทนี้ จะสามารถจัดซื้อได้กี่เครื่อง

นายอนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ทุกหน่วยงานโอนงบประมาณมาให้กระทรวงไอซีที ซึ่งจะเป็นผู้จัดซื้อแทนพร้อมกันในวันที่ 2 เมษายน 2555 และในวันเดียวกันนี้ ไอซีทีจะได้สรุปยกร่างสัญญาจัดซื้อให้แล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วส่งไปให้สำนักอัยการสูงสุดตรวจทานร่างสัญญา อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเมืองพัทยา และ กทม. มีกฎหมายเฉพาะทำให้ไม่สามารถโอนงบประมาณมาให้ยังไอซีทีได้เช่นกับหน่วยงานอื่นๆ จำเป็นต้องแยกทำสัญญา เพราะฉะนั้นการทำสัญญาจะต้องทำเป็น 3 ฉบับ ซึ่งได้มีการเจรจาเรียบร้อยว่าเงื่อนไขการจัดซื้อจะมีเนื้อหาเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อสัญญาผ่านการตรวจทางจากอัยการสูงสุดแล้วจะเร่งลงนามโดยเร็วที่สุด และเพื่อให้ทุกฝ่ายหมดความกังวลใจในเรื่องคุณภาพ

“ในยกร่างสัญญาจะมี การกำหนดไว้ว่า บ. เสิ่นเจิ้น ต้องผลิตเครื่องแท็บเล็ตรุ่นแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ให้เสร็จภายใน 15 วัน หลังจากลงนามแล้ว เพื่อนำแท็บเล็ตรุ่นแรกนี้มาเข้ารับการทดสอบอย่างเข้มข้นจากคณะกรรมการจัด ซื้อของไทยที่จะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อตรวจดูการผลิตตั้งแต่ต้น โดยคณะกรรมการจัดซื้อจะร่างเกณฑ์การทดสอบขึ้นมา มีการระบุขั้นตอนและจุดต่างๆ ที่ต้องทดสอบเครื่องโดยละเอียด และเครื่องแท็บเล็ตทั้ง 2,000 เครื่อง จะต้องผ่านการทดสอบ 100% ถึงจะเริ่มกระบวนการผลิตได้ แต่ถ้าการทดสอบปรากฎว่ามีเครื่องแท็บเล็ต แม้แต่เครื่องเดียวที่พบข้อบกพร่องในระบบหลักทั้งหมดก็จะต้องย้อนกลับมา เริ่มดำเนินการใหม่ ยกเว้นถ้าข้อบกพร่องนั้นไม่ใช่จุดสำคัญ ก็จะให้เดินหน้าการผลิตได้หลังจากที่มีการปรับปรุงแก้ไขตามเงื่อนไขที่ทางไทยกำหนดแล้ว” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ จะมีการตั้งสำนักงานบริหารโครงการจัดการเรียนการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์พกพา พร้อมจัดทำแผนใช้คอมพิวเตอร์ส่งเสริมการสอนเสนอ ครม.ด้วย เบื้องต้นสำนักงานนี้จะแบ่งโครงสร้างเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอำนวยการ กลุ่มบริหารสื่อการเรียนการสอน กลุ่มบริหารจัดการระบบสารสนเทศและโครงข่าย กลุ่มบริการและดูแลรักษา และกลุ่มส่งเสริมและพัฒนา

ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า วันที่ 2 เมษายน 2555 ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องโอนเงินไปให้ กระทรวงไอซีที เพื่อดำเนินการจัดซื้อแท็บเล็ตให้กับนักเรียน ป.1 ซึ่งขณะนี้ สพฐ.มีงบประมาณจำนวน 1,182 ล้านบาท เพียงพอกับเด็ก ป.1 จำนวน 470,000 คน ขณะที่ สพฐ.มีนักเรียน ป.1 ทั้งหมด 560,000 คน เท่ากับว่า ยังขาดงบประมาณ 350 ล้านบาท เพื่อจะซื้อแท็บเล็ตอีก 90,000 เครื่อง ให้กับนักเรียนทุกคน ซึ่งจากการหารือกับ สำนักงบประมาณ ได้แนะนำให้ สพฐ.เจียดจ่ายงบประมาณที่ได้รับ

http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9550000040145

ดาวน์โหลดเกมนกโกรธกว่าครึ่งพันล้าน

angry bird
angry bird

30 มี.ค.55 Angry Birds Downloads Hit Half a Billion
The Angry Birds app has now been downloaded 500 million times, which makes it the most downloaded game ever. The addictive app, created two years ago by Finnish company Rovio, is also one of the most played games in gaming history. A Rovio spokesperson said gamers average about 300 million minutes of playing time every day. That works out to around 200,000 years of Angry Birds playing time in total. More than 400 billion angry birds have been created to wreak their havoc. Mikael Hed, CEO of Rovio, said: “This is a fantastic landmark achievement for us, and we’re extremely delighted.…We remain committed to creating more fun experiences and bringing exceptional quality to Angry Birds fans everywhere.
Angry Birds costs just $0.99 for the latest version and is number two on the iPhone App Store. The free version holds the number 20 spot in the store, while two more editions are in the top twelve. Rovio has also heavily marketed Angry Birds products, including 10 million soft toys, books and clothing shipped worldwide. The company recently bought an animation studio and will soon start releasing Angry Birds cartoons, including a movie version. Other plans include opening retail stores in Finland and China. Rovio hopes to cash in on the game’s popularity in China, where it has become the most counterfeited brand in the country. The company is creating merchandise products including a Chinese-language Angry Birds cook book.

http://www.breakingnewsenglish.com/1111/111103-angry_birds.html

ผู้หญิงระมัดระวังมากกว่าในสื่อสังคม

Business woman with a laptop
Business woman with a laptop

25 ก.พ.55 Women More Cautious On Social Media

A new report on the Internet and how we use it says that more of us are using social media. The Pew Research Centre’s Internet and American Life Project surveyed 2,277 U.S. adults about their Internet use. About two-thirds of Internet users now belong to social networking sites. Pew reports that ninety-three per cent of social network users have joined Facebook, up from seventy-three per cent in 2009. The continued rise in Facebook’s popularity contrasts with the decline of MySpace. Twenty-three per cent of those questioned said they had a MySpace profile, down from forty-eight per cent in 2009. Twitter continues to attract more users, with eleven per cent of respondents saying they use it, up from six per cent in 2009.

The report showed big differences between how men and women use social media and how we manage our privacy. Women are more likely than men to delete friends. Sixty-seven per cent of women said they have deleted friends compared with fifty-eight per cent of men. The study reported that men are almost twice as likely as women to have posted messages, photos or videos that they later regret (ผิดหวัง). Fifteen per cent of men said they have done this, compared with eight per cent of women. The study also showed women to be more cautious who they share information with. Two-thirds of women use the highest privacy settings, sharing data only with friends. Less than half of the men did so.

http://www.breakingnewsenglish.com/1202/120225-social_media.html
http://www.techinasia.com/facebook-comes-before-tooth-brushing-for-women/

ข้าวเปลือกทั้งห้องเท่า ipad2 หนึ่งเครื่อง

exchange may unequal
exchange may unequal

23 มี.ค.55 ฟัง ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย
ในงานประชุมสัมมนา “อุดมศึกษากับการพัฒนาประเทศไทย”
พูดถึงคำว่า วัตถุนิยม และบริโภคนิยม
แล้วท่านแนะนำชาวนาว่า “อย่าขายที่นาทำกิน”
ถ้าขายไปอาจไม่มีที่ทำกินในอนาคตก็ได้
มีข้อสังเกตว่าจะมีลูกชาวนาไปซื้อ tablet มาใช้ไหมนะ
รู้สึกนโนบายรัฐบาลเห็นดีเห็นงามกับเรื่อง tablet ซะด้วย

แล้วผมก็หันกลับมามองราคาข้าวเปลือกในปัจจุบัน
(หน่วยหนึ่งตันเท่ากับหนึ่งพันกิโลกรัม)
พบว่า ข้าวเปลือกเหนียว ราคาตันละ 9000 บาท
บางปีขายได้ราคาหน่อยก็จะไปถึง 12000 บาท

ก็คิดในใจนะว่าต้องปลูกข้าวให้ได้กี่กระสอบ ถึงจะได้ tablet สักเครื่อง
แล้วกระสอบหนึ่งจะหนักสัก 1 ตันไหมนะ
ถ้าคะเนด้วยสายตา ข้าวเปลือกในกระสอบปุ๋ยหนึ่งกระสอบก็คงประมาณ 50 กิโลกรัม
ถ้าจะให้ได้ ipad2 สักเครื่อง ต้องขายข้าวเปลือกให้ได้ 20 – 40 กระสอบกันเลย
เรียกว่า ข้าวที่เก็บในห้องนอนทั้งห้อง มีราคาพอ ๆ กับ tablet 1 ตัว

มองได้หลายมุมครับ คนขายเครื่อง คนใช้เครื่อง กับชาวนา

รายงานสดผ่านบล็อก (itinlife335)

apple : 357 retail stores
apple : 357 retail stores

25 มี.ค.55 การเขียนบล็อกสด (Live Blogging) คือ การเขียนบล็อกแบบมีชีวิต หรือการเล่าเรื่องในเชิงรายงานเหตุการณ์ผ่านบล็อก มักพบการใช้งานแบบนี้ในบล็อกประเภท Micro Blogging ปัจจุบันเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในการรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ คือ twitter.com โดยกลุ่มอาชีพที่มักเขียนบล็อกแบบนี้ ได้แก่ นักข่าว หรือ นักวิชาการ ที่ต้องการรายงานประเด็นจากการฟังบรรยาย หรือผู้ฟังที่ร่วมงานการเปิดตัวสินค้า แล้วเล่าเรื่องผ่านไมโครบล็อก เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัท Apple ที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายคลิ๊ปสดออกไป หรือถ่ายทอดสดผ่าน ustream.tv แต่อนุญาตให้ทำ Live Blogging ได้

จุดเด่นของการทำ Live Blogging คือ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารออกไปแบบทันทีทันใด หลังฟังในแต่ละประเด็น ทำให้ผู้ติดตามงานเขียน สามารถรับรู้ข่าวสารที่เป็นปัจจุบัน และอาจนำไปใช้ประโยชน์ที่เหมาะกับแต่ละอาชีพ หากมีผู้สื่อข่าวในการประชุมหลายคนก็จะช่วยให้ข้อมูลที่เผยแพร่ ถูกยืนยันความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นการจับประเด็นอย่างระมัดระวัง จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าจับประเด็นผิดแล้วส่งเข้า twitter.com แล้วมีผู้ใหญ่เข้าไป retweet แล้วนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่ผิด ก็อาจก่อให้เสียหายได้

จุดด้อยของการทำ Live Blogging คือ ขณะฟังแล้วนำไปสรุปประเด็น เมื่อรับรู้ประเด็น สมองก็จะประมวลเป็นประโยคที่ไม่ยาวนัก แล้วเขียนลงไปในเว็บบล็อก ซึ่งเกิดช่องว่างระหว่างการรับรู้ การพิมพ์ การฟัง และการสบตากับวิทยากร ทำให้กระบวนการรับรู้ข่าวสารมีประสิทธิภาพลดลง บางครั้งพบว่าการตอบสนองผ่านอวัจนภาษาไม่เหมาะสม เช่น การฟังบรรยายของผู้ทรงวัยวุฒิ ถ้าบรรยายในเรื่องหนัก  แต่ผู้ฟังใช้ Tablet PC ไปพร้อมกับการเสียบหูฟัง แล้วยิ้มแย้มอย่างมีความสุข มือก็มุ่งแต่ Tweet ไม่ตอบสนองกับผู้บรรยายตามควร ย่อมคาดได้ว่าประเด็นที่ผู้ฟังจะได้จากผู้บรรยาย หรือความประทับใจที่เกิดระหว่างผู้ส่งและผู้รับสารจะบกพร่องไป เทคโนโลยีมีทั้งบวกและลบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ ที่ต้องให้น้ำหนักระหว่างตัวเรา ผู้เกี่ยวข้อง และสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม

http://www.thaimacupdate.com/2011/06/06/live-blog-wwdc-2011/

http://live.theverge.com/Event/Apple_iPhone_5_event_live_blog?Page=0

ไลฟ์บล็อก – สตอรีไฟ (Live Blog – Storify)

แฟนของผม วาง หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ 12 มีนาคม 2555 แล้วก็ชำเรืองไปพบหัวข้อที่น่าสนใจ จึงหยิบขึ้นมาอ่าน เห็นคำว่า สตอรีไฟ และ บทบาทที่น่าสนใจของ นักนิเทศศาสตร์ หลายท่าน แล้วไปค้นข้อมูลจากเน็ต รวมถึงทดสอบใช้บริการของ http://storify.com/ajburin/storify ที่สามารถดึงเนื้อหาจาก social media มารวมกันใน post เดียวได้ง่าย แบบที่เรียกว่า right to left and up to down

คนข่าวยุคเฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ (Facebook-Twitter) ต้องบูรณาการแบรนด์ตัวเองสู่ ไลฟ์บล็อก-สตอรีไฟ (Live Blog – Storify) … “สุทธิชัย หยุ่น” ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำทีมคนข่าวเนชั่นเปิดโลกทัศน์แห่งการเรียนรู้และแบ่งปัน เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดีย @imsakulsri หรือ “สกุลศรี ศรีสารคาม” อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ มาอัพเดทเทรนด์โซเชียลมีเดีย 2012
โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการใช้ “โซเชียลมีเดีย เพื่อการรายงานข่าว” (Social Media & Journalism) อ.สกุลศรี ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโซเชียลมีเดียนั้น จะช่วยเสริมความต้องการของผู้บริโภคจากสื่อกระแสหลัก เนื่องจากมีความเร็ว ความลึก สามารถมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ช่วยรายงานข่าวหรือใช้ข้อมูล ตลอดจนช่วยเผยแพร่หรือบอกต่อข่าวนั้นได้
ขณะเดียวกัน คนข่าวก็ต้องสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงข่าวสารจากโซเชียลมีเดียมารวมไว้ เป็นแหล่งเดียว เพื่อเพิ่มความกว้างและลึกของประเด็นข่าวนั้นด้วยการใช้พื้นที่จากเว็บไซ ต์ข่าว แสดงผลจากการกระจายปัญหาไปยังฝูงชน เพื่อให้ร่วมค้นคำตอบ หรือวิธีแก้ปัญหา  อย่างกรณีน้ำท่วมซึ่งมีผู้เช็กอินเข้ามารายงานสถานการณ์พื้นที่น้ำท่วม กองบรรณาธิการต้องทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลมานำเสนอผ่านเว็บไซต์ โดยเนื้อหาที่นำเสนอจะมีทั้งรูป คลิปวิดีโอ และเนื้อหา โดยให้เครดิตผู้ที่ส่งข้อมูลเข้ามาด้วย นอกจากนี้ คนข่าวก็ต้องเขียนบล็อกไลฟ์ เพื่อรายงานสดถ่ายทอดประเด็น ต่อยอดเนื้อหาข่าวนั้นๆ พร้อมด้วยคลิปและภาพ เพื่อดึงผู้คนในสังคมโซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นแฟนคลับ แลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น

“ยกตัวอย่าง งานศพของวิทนีย์ ฮุสตัน ก็นำไลฟ์บล็อกมาอัพเดทความเคลื่อนไหวทั้งภาพ ข้อความ และคลิป หรือ “Cholas Kristof” ผู้สื่อข่าวจากนิวยอร์กไทม์ เขียนเฟซบุ๊กรายงานสดสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เช่นเดียวกับ “Amanda michel” จากหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน ใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางสื่อสารตอบโต้ประเด็นข่าว โดยมี “สตอรีไฟ” รวบรวมข้อมูลจากโซเชียลมีเดียไว้ในที่เดียวกัน” อ.สกุลศรี กล่าว
ทั้งนี้ “สตอรีไฟ” คือ การเล่าเรื่องด้วยโซเชียลมีเดีย มีลักษณะคล้ายกับการเขียนบล็อก แต่ “สตอรี่ไฟ” สามารถดึงข้อมูลจากโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ อย่าง เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม, คลิปวิดีโอจากยูทูบ ฯลฯ ซึ่งอยู่อย่างกระจัดกระจายมารวมไว้ในที่เดียวกัน ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงลากและวาง (drag and drop) เท่านั้น ตอนนี้ก็มีเว็บข่าวจำนวนมากใช้บริการสตอรีไฟอยู่ อาทิ กอว์เกอร์ (Gawker), วอลล์สตรีท เจอร์นัล (Wall Street Journal), การ์เดี้ยน (Guardian) เป็นต้น

ด้าน @jin_nationสมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์” บก.ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น ผู้ผ่านประสบการณ์การทำข่าวตั้งแต่ยุคส่งข่าวทางโทรศัพท์สาธารณะ มาจนถึงยุคทวีตส่งข่าว ยอมรับว่า สื่อต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งใช้โซเชียลมีเดียมีประโยชน์มาก และกำลังสนใจไลฟ์บล็อก และสตอรีไฟ ซึ่งเป็นการรวบรวมและนำเสนอข่าวที่น่าสนใจมากช่องทางหนึ่ง
“สุทธิชัย” เสริมว่า สตอรีไฟเป็นช่องทางที่น่าสนใจ คนข่าวทีวีสามารถนำไปขึ้นหน้าจอทีวีได้เลย แล้วอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านสตอรีไฟ ใครเริ่มทำก่อนจะเท่มาก ทั้งนี้ โซเชียลมีเดียนอกจากจะมีประโยชน์ต่อคนทำข่าวแล้ว ยังใช้สร้างแบนด์ส่วนตัวได้ สมัยก่อนกระบวนการทำข่าว 80 เปอร์เซ็นต์จะเสียไปกับขั้นตอนการส่งข่าว แต่ปัจจุบันกระบวนการส่งข่าวเร็วขึ้นใช้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงมีเวลามากพอที่จะทำข่าวที่มีเนื้อหา กว้าง ลึก ผ่านโซเชียลมีเดียได้

“นักข่าวของเราปรับตัวใช้โซเชียลมีเดียมา 4-5 ปีแล้ว หากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น พวกเราจะยืนอยู่แถวหน้า ก้าวนำคนอื่นอยู่ 2-3 ก้าว หากถึงวันที่โซเชียลมีเดียทำเงินได้ เราจะเป็นกลุ่มแรกที่อยู่รอด เพราะเราก้าวพ้นความกลัวมาแล้ว และผมยังเชื่อว่าสื่อสิ่งพิมพ์จะไม่ตาย สื่อทีวีก็ไม่ตาย เพราะมีโซเชียลมีเดียมาเสริมซึ่งกันและกัน” สุทธิชัย กล่าว

http://www.oknation.net/blog/Sp-Report/2012/03/12/entry-1

http://newsjunkies-suthichaiyoon.blogspot.com/2012/03/live-blogs-storify.html

http://www.wired.com/gadgetlab/2011/10/apple-iphone-5-live-blog/

live blogging
live blogging

http://www.thaiall.com/blogacla/admin/1314/

The Gambler of Kenny Rogers

The Gambler of Kenny Rogers

On a warm summer’s eve
On a train bound for nowhere
I met up with the gambler
We were both too tired to sleep
So we took turns a-starin’
Out the window at the darkness
The boredom overtook us,
and he began to speak

He said, “Son, I’ve made my life
Out of readin’ people’s faces
Knowin’ what the cards were
By the way they held their eyes
So if you don’t mind my sayin’
I can see you’re out of aces
For a taste of your whiskey
I’ll give you some advice”

So I handed him my bottle
And he drank down my last swallow
Then he bummed a cigarette
And asked me for a light
And the night got deathly quiet
And his faced lost all expression
He said, “If you’re gonna play the game, boy
You gotta learn to play it right

You’ve got to know when to hold ’em
Know when to fold ’em
Know when to walk away
Know when to run
You never count your money
When you’re sittin’ at the table
There’ll be time enough for countin’
When the dealin’s done

Now every gambler knows the secret to survivin’
Is knowin’ what to throw away
And knowin’ what to keep
‘Cause every hand’s a winner
And every hand’s a loser
And the best that you can hope for
Is to die in your sleep”

So when he finished speakin’
He turned back for the window
Crushed out his cigarette
And faded off to sleep
then somewhere in the darkness
The gambler he broke even,
but in his final words
I found an ace that I could keep

You’ve got to know when to hold ’em
Know when to fold ’em
Know when to walk away
know when to run
You never count your money
When you’re sittin’ at the table
There’ll be time enough for countin’
When the dealin’s done

You’ve got to know when to hold ’em
Know when to fold ’em
Know when to walk away
know when to run
You never count your money
When you’re sittin’ at the table
There’ll be time enough for countin’
When the dealin’s done

แปลทีละบรรทัดที่

นักพนันสอนเกม (The Gambler)

ข่าวเชิงบวก เครือเนชั่นลุยทีวีดาวเทียมเต็มสูบ

จากข้อมูล ราคาย้อนหลัง ของ NMG ใน set.or.th พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น สอดรับกับการแถลงทิศทางใหม่ ว่า “เครือเนชั่นลุยทีวีดาวเทียมเต็มสูบ
26 January 2012
โดยเนื้อข่าวมีรายละเอียดดังนี้
นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทิศทางการทำธุรกิจในระยะ 3-5 ปีของเครือเนชั่น สื่อสิ่งพิมพ์จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน บริษัทก็มีความพร้อมที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้โฆษณามากถึง 60% ของยอดโฆษณาทั้งอุตสาหกรรมรวม 1 แสนล้านบาท และยังเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง และมีโอกาสเติบโต
ปัจจุบัน สื่อโทรทัศน์ในประเทศไทยกำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ มีโทรทัศน์ดาวเทียมเกิดขึ้นใหม่กว่า 200 ช่อง คนดูดาวเทียมและเคเบิล มีอัตราเติบโตก้าวกระโดด การแข่งขันของสื่อโทรทัศน์จะเข้มข้นมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่ได้เปรียบคือผู้ที่มี “เนื้อหา” (Content) ดังนั้น เครือเนชั่น ซึ่งมีคอนเทนท์มากองค์กรหนึ่งของประเทศ จะเข้าสู่เวทีแข่งขันด้านสื่อโทรทัศน์อย่างโดดเด่นในปี 2555
“เครือเนชั่นพร้อมแล้วที่จะผลิตคอนเทนท์สำหรับสื่อโทรทัศน์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฟรีทีวี โทรทัศน์ดาวเทียม ทีวีอินเทอร์เน็ต โดยในปี 2555 เนชั่นกรุ๊ป พร้อมเปิดสถานีโทรทัศน์ อย่างน้อย 2 สถานี ภายใต้การดูแลของ 2 บริษัทลูก คือ กรุงเทพธุรกิจ และบริษัท เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)” นายธนาชัยกล่าว
ปัจจุบัน เครือเนชั่น มีสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ออกอากาศแล้ว 3 สถานี คือ Nation Channel, MangoTV และ ช่องระวังภัย และในปี 2554 บริษัทเนชั่น บรอดคาสติ้ง หรือ NBC ยังได้รับความไว้วางใจจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้เข้าบริหารช่อง Rama Channel เพื่อออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ช่อง 80 และยังได้ร่วมผลิตรายการในช่อง ASEAN TV กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ช่อง 99
อย่างไรก็ตาม การรุกสู่ธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียมครั้งนี้ เครือเนชั่น ประมาณการเงินลงทุนระยะ 5 ปี ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ครอบคลุม ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทั้งเทคโนโลยีกระจายภาพและเสียงระบบดิจิทัล สตูดิโอที่ทันสมัย และทีมข่าวคุณภาพ เพื่อสนับสนุนการเกิดขึ้นของสถานีใหม่ๆ ภายใต้ เนชั่นกรุ๊ป โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้งคอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป ได้ลงทุนไปไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท เพื่อเปิดสถานีโทรทัศน์ 2 ช่องใหม่ และร่วมผลิตกับบริหารอีก 2 ช่อง หลังจากเคยลงทุนไปกว่า 250 ล้านบาท ในการเปิดช่อง Nation Channel เมื่อปี 2543
“การลงทุนครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับธุรกิจบรอดแคสติ้ง ของ NMG และ NBC ให้ก้าวไปสู่การออกอากาศ แบบดิจิทัลทีวี ด้วยคุณภาพของภาพและเสียงในระดับ High Definition ทุกช่องทางการออกอากาศ” นายธนาชัยกล่าว
นายธนาชัย กล่าวว่า การรุกสู่ธุรกิจโทรทัศน์ จะส่งผลให้รายได้โฆษณาของเครือเนชั่น เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จากปัจจุบันรายได้ โฆษณามาจาก สิ่งพิมพ์ 60% จากธุรกิจบรอดแคสต์ กระจายภาพและเสียง 30% และธุรกิจดิจิทัล 10% โดยตั้งเป้าหมายภายใน 5 ปี สัดส่วนรายได้โฆษณา ธุรกิจบรอดแคสต์ จะเพิ่มเป็น 40% รายได้จากธุรกิจดิจิทัลและการศึกษา จะเพิ่มเป็น 20% ขณะที่รายได้โฆษณา ธุรกิจสิ่งพิมพ์จะลดสัดส่วนลงเหลือ 40%
ด้านนายสุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น กรุ๊ป กล่าวว่า โทรทัศน์ดาวเทียม ทั้ง 7 ช่อง เป็น การต่อยอดจากความแข็งแกร่งด้านเนื้อหาของเครือเนชั่นกรุ๊ป ซึ่งพร้อมด้วย ทีมข่าวที่มีคุณภาพ และเข้าถึงทุกกลุ่มผู้รับสื่อ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจ กลุ่มผู้รับสื่อระดับมหาชน หรือกลุ่มเยาวชน
“เราพร้อมเดินหน้าสู่การเป็นสื่อคุณภาพที่ ครบทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าผู้รับสื่อจะอยู่ตรงไหน มีพฤติกรรมการบริโภคสื่ออย่างไร เนชั่นกรุ๊ปของเรา ไม่หยุดยั้งตอบสนอง ทั้งในรูปสื่อสิ่งพิมพ์ ดิจิทัล และบรอดแคสต์ มั่นใจได้เลยว่า ความเป็นมืออาชีพของเรา จะส่งผ่านคอนเทนท์ที่มีคุณภาพ ไปยังผู้รับสื่อทุกที่ ทุกเวลา” นายสุทธิชัยกล่าว
ด้านนายธนะชัย สันติชัยกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป กล่าวเสริมถึง การขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ ว่า หลังจากเครือเนชั่นเข้าบริหาร มหาวิทยาลัยเนชั่น ในปี 2554 ได้ขยายธุรกิจออกไปต่อเนื่อง โดยได้เปิดศูนย์การศึกษาที่กรุงเทพฯ ไปแล้ว และในปีการศึกษาหน้า คาดว่าศูนย์การศึกษาแห่งใหม่นี้ จะรับนักศึกษาไม่ต่ำกว่า 300 คน ซึ่งการประกาศแผนธุรกิจ 3-5 ปี โดยมุ่งเน้นธุรกิจการศึกษา ธุรกิจบรอดแคสต์ New Media เป็นจังหวะก้าวสำคัญในการเสริมโครงสร้างธุรกิจให้สอดรับกับทิศทางอุตสาหกรรม ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี การศึกษา และ New Media การต่อขยายจุดแข็ง คือ ความแข็งแกร่งด้านเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจของเครือ
http://www.stockwave.in.th/hot-news/22505-2012-01-26-11-30-33.html

แนวโน้มการตลาดออนไลน์ ปี 2012

สองสาวเล่าเรื่อง แนวโน้มการตลาดออนไลน์ ปี 2012 โดย Sarah Magee (Online Marketing Entrepreneur) มีเทคนิคหลายอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะบุคลิก และการใช้สายตา ของทั้ง 2 ท่าน .. ผมว่าลงตัว และไปพร้อมกันการทำ presentation ประกอบการบรรยาย
Top 5 Online Marketing Trends 2012
1. create unique content
2. mobile marketing
3. video content
4. social media marketing
5. location based apps
* niche market : ตลาดเฉพาะ

สำหรับคำว่า mobile marketing เป็นเรื่องที่ผมพึ่งเริ่มต้นกับ android เมื่อวาน (17มี.ค.55) เพราะในอดีตเคยทำ wap และ j2me แต่ไม่ work ในเรื่องการรองรับของอุปกรณ์ แต่ปัจจุบัน tablet ของจีนกำลังจะเข้า ป.1 การศึกษาเรื่อง android น่าจะนำไปสู่ mobile marketing ได้ชัดเจน

http://www.thaiall.com/android/
http://www.frankwatching.com/
http://www.leveltendesign.com/blog/colin/11-location-based-applications-your-iphone

ประกวดร้องเพลง

นักร้องเสียงใส
นักร้องเสียงใส

มหาวิทยาลัยเนชั่น จัด 1)การแข่งขันเต้น และ 2)เสียงดีมีทุน ในโครงการ “ดาวรุ่งลูกทุ่งเนชั่น” ณ ห้าแยกหอนาฬิกา ข่วงนคร และพบกับศิลปินรับเชิญ “ญาญ่า หญิง” ในวันที่ 4 เมษายน 2555 เวลา 18.00น. – 24.00น. เปิดรับสมัครถึงวันที่ 25 มีนาคม 2555
ติดต่อสอบถาม
มหาวิทยาลัยเนชัน 054-265170, 054-820099

งานนี้ .. ผมก็ไม่พลาด
เพราะคุณญาญ่าเป็นศิลปินในดวงใจของผม
จะงานเพลง หรืองานแสดงล้วนสุดยอด
เป็นศิลปินที่ขาวใส สวมเสื้อดำ และมีสไตล์ของตนเอง
แล้วพบกับเธอในดวงใจของผม ด้วยกันนะ