การต่อสู้ทางธุรกิจระหว่างยักไอทียังดำเนินต่อไป

ตามข่าวกรณี Apple กับ Epic พบศาลสั่งเมื่อศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 ให้ apple ปลด lock ที่เคยห้ามแอปพลิเคชันใน app store ไปเปิดรับการชำระค่าใช้จ่ายอื่น เคยบังคับให้แอปพลิเคชันต้องทำระบบชำระผ่านระบบของ apple เพื่อให้ดูแลง่าย ซึ่งจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายในเปอร์เซ็นที่สูง ใครฝ่าฝืนจะถูกตัดสิทธิการใช้บริการใน app store ซึ่งหลายแอปพลิเคชันโดนมาแล้ว เช่น epic กรณีนี้ศาลชี้ว่า apple ไม่ได้ผูกขาด แต่นโยบายที่ apple ใช้เป็นการต่อต้านการแข่งขัน (anti-competitive) ดังนั้นให้ apple แก้ไข ซึ่งต่อไปจะมีลิงค์ในแอปพลิเคชัน พาออกไปชำระเงินระบบอื่น หรือผ่านบัตรเครดิตด้านนอกก็น่าจะทำได้แล้ว

กรณีนี้ทำให้นึกถึงคลิปวิดีโอที่ apple เคยทำเพื่อต่อสู้กับ ibm เมื่อปี 1984 ถือเป็นคลิปที่ดี ที่สะท้อนถึงการต่อต้านการแข่งขัน ที่ apple เคยใช้ต่อสู้กับ ibm ผู้พัฒนา Personal computer และเป็นเจ้าตลาด และเป็นยุคแรกของทั้ง Bill gates และ Steve jobs ที่ทำให้ชาวโลกได้รู้จักทั้ง Microsoft Windows และ iOS ในปัจจุบัน

สรุปว่า ศาลรัฐนอร์ทแคโรไลน่าออกคำสั่งศาล (injunction) บังคับแอปเปิล
ต้องอนุญาตให้ผู้พัฒนาแอปโฆษณาช่องทางจ่ายเงินทางอื่น
นอกเหนือจาก In-App Purchase (IAP) ภายใน 90 วัน
ซึ่งหากคำสั่งนี้มีผล วันที่ 9 ธันวาคม 2564 พัฒนาแอปพลิเคชันจะสามารถเก็บเงินได้
โดยไม่ต้องเสียส่วนแบ่งให้กับแอปเปิลอีก

https://techfeedthai.com/2021/09/11/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AF-%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%89/

https://www.blognone.com/node/124697

https://arstechnica.com/gadgets/2021/09/injunction-apple-must-open-up-app-store-payments-in-90-days/

https://www.iphoneincanada.ca/news/fortnite-war-apple-1984/

https://play.google.com/store/apps/details?id=com.lpmuseum

หนังสือ “กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม” ที่ 7-eleven เล่มยี่สิบ

กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม @booksmile
กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม @booksmile

ต้นปี 2556 ผมอ่านหนังสือ “หกสิบคาถาชีวิต” ของ คุณวิกรม กรมดิษฐ์
แล้วแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ด้วย เพราะหัวหน้าบอกว่าเป็นหนังสือดี
จึงไปหามาอ่าน แล้วก็พบว่าดีจริง ๆ

แล้วต้นปี 2559 ได้อ่านหนังสือ “กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม” เล่ม 20 บาท
พบว่าไม่ผิดหวังเลยที่ได้ซื้อ และได้อ่าน
เมื่ออ่านบทที่ 1 แล้วทำให้นึกถึงหนังสือ Steve jobs
ตอนนั้น Jobs ป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน พยายามรักษาแล้ว
แต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตต่อไปไม่ได้ ซึ่งคุณวิกรม โชคดีกว่า
คุณวิกรม เล่าเรื่อง “เมื่อผมเกือบตาย
ซึ่งเขาต้องไปผ่านตัดหัวใจที่อเมริกาตอนอายุ 43 ปี
ผมชอบบทนี้มาก ในตอนที่พูดถึงการดื่มไวน์จนเมา
แล้วชี้ให้เห็นโทษของการดื่มสุรา
ซึ่งน้อยคนนักที่จะหยุดการดื่มได้เอง
เพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่เลิกสุราด้วยปัญหาเรื่องสุขภาพ
คือ “ป่วยแล้วเลิก” ไม่ใช่ “คิดแล้วเลิก
ปัญหาจากการดื่มสุราที่คุณวิกรมสะท้อนในหนังสือ
หน้า 15 เล่าได้ชัดเจน คือ โรคหัวใจ โรคตับ
เส้นเลือดในสมองแตก ขับรถชนเขา หรือเสียชีวิต
ซึ่งเป็นภัยเงียบ
แลกความสุขด้วยความเจ็บป่วย เป็นอะไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย
ที่จะไปแลกความทุกข์กับความสุขเพียง 1 – 2 ชั่วโมง
อ่านแล้วรู้สึกดี รู้สึกว่าเขาคิดได้ และได้มีสุขภาพที่แข็งแรง

มีความตอนหนัง พอสรุปได้ว่า
.. สมัยหนุ่ม ๆ เรียนอยู่ปี 3 คุณวิกรม ปั่นจักรยานเสือหมอบ
ทำด้วยอะลูมิเนียม Made in England เบามาก
ปั่นขึ้นลงเขาจากไทเป ไปจนถึงซินจู๋ รวมกว่า 150 กม.
ในวันเดียว คือไปเช้าเย็นกลับ กลับมาหนังไปเกือบ 2 วัน ..

ก็เป็นเรื่องเล่าเร้าพลัง ทำให้อยากปั่นจักรยานได้ดีมาก

สปอยคืออะไร

korea spoil
korea spoil

ได้ยินคำว่า สปอย หรือสปอยล์ (Spoil) หรือสปอยเลอร์ (Spoiler)
มาหลายครั้ง ก็ต้องบอกว่าเป็นศัพท์ใหม่
เพราะ สมัยผมจะใช้คอมพิวเตอร์แต่ละทีต้องมีกล่องแผ่นดิสก์ 5.25 คู่กาย
ไม่เคยพูดคำนี้มาก่อน เพราะมีคำให้พูดมากมายเหลือเกิน .. อยู่แล้ว

นิยาม (Meaning)

spoil หมายถึง  ทำให้เสีย ทำให้แย่ ทำให้เสียทรง

สปอยเลอร์ (Spoiler) ในทางภาพยนตร์ หรืออินเทอร์เน็ต
หมายถึง ผู้ที่ได้รับความบันเทิงจากแหล่งต่าง ๆ
เช่น ภาพยนตร์ นวนิยาย วรรณกรรม หรือเนื้อหาของเกม
แล้วนำเนื้อหาความบันเทิงเฉพาะส่วนนั้น มาเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต
โดยมีเนื้อหาบางตอนค่อนข้างละเอียด หรืออาจจะเป็นการบอกฉากจบ
หรือตอนจบของแหล่งบันเทิงนั้น

ผลของการสปอย คือ ส่งผลเสียต่อการรับชมภาพยนตร์
อาจพอใจที่ได้ข้อมูลในระดับหนึ่งก็จะไม่ไปดู
หรือไม่พอใจเรื่องย่อเหล่านั้นก็จะไม่ไปดู
http://en.wikipedia.org/wiki/Spoiler_%28media%29

ต.ย.1 มีคนไปดูเรื่องพี่มากพระโขนง แล้วเล่าว่าเป็นหนังตลก
และเขียนบล็อกไว้ละเอียดยิบ พร้อมความรู้สึกที่ไม่สร้างสรรค์
ทั้งตอนเริ่ม ตอนกลาง และตอนจบ
เมื่อมีคนอ่านแล้วคล้อยตามเชิงลบ แล้วไม่ไปดู
ก็จะเรียกพฤติกรรมนี้ว่าสปอย

ต.ย.2 ผมอ่านหนังสือ Steve Jobs หรือ Albert Einstein
ที่เรียบเรียงโดย Walter Isaacson แล้วบอกว่าน่าอ่านมาก
เพราะว่าหน้านั่นเขียนอย่างนั้น หน้านี้เขียนงี้
ก็มีคนบอกว่าผมกำลัง spoil หนังสือเล่านี้อยู่
ผู้วิจารย์ผมไว้คงคิดว่าการรู้เรื่องหน้าสองหน้าใน 600 กว่าหน้า
จะมีผลให้ผู้รับสารไม่ไปซื้อหนังสือมาอ่านเป็นแน่

ต.ย.3 คำว่า สปอยดาราเกาหลี
ก็จะนำภาพสมัยเด็กแบบไม่สวย หรือตอนไม่แต่งหน้า
มาเปรียบเทียบกับตอนที่แต่งหน้า เป็นนางฟ้านางสวรรค์
ให้รู้สึกเห็นความแตกต่าง และลดความชื่นชอบไป
http://world.kapook.com/pin/50a9ff9f38217a1120000003

ต.ย.4 คุยแบบวัยรุ่น
วันนี้นำเสนอคำว่าสปอย บ่องตงว่าเมพขิง รู้สึกฟินจุงเบ
http://www.rakjung.com/facebook-no178.html
http://teen.mthai.com/variety/57302.html

ศัพท์วัยรุ่น
อายุผมก็เยอะแล้ว ตามกระแสไม่ค่อยทัน
บ่องตงบ้าง สปอยบ้าง จุงเบบ้าง เมพขิงบ้าง ฟินบ้าง
วันนี้ตามคำว่า spoil ซะหน่อย จะได้ไม่ตกกระแส
เห็นในสื่อพูดอยู่บ่อย ๆ

บทเรียนจากฟุตบอล กับบริษัทไอทีปี 2555 (itinlife369)

company 2012
company 2012

การเปลี่ยนแปลงได้มาถึงอเมริกาแล้ว (Change has come to America) เป็นคำกล่าวของ บารัก ฮุสเซน โอบามา ในการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 44 แล้วพฤศจิกายน 2555 เขาก็ได้รับเลือกอีกครั้งเป็นคนที่ 45 ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีสุข และทุกข์ปะปนกันไป บ้างก็ยอมรับ บ้างก็ต่อต้าน ได้ชมการแข่งขันฟุตบอลพบว่าแต่ละทีมก็จะเปลี่ยนผู้เล่นในทุกฤดู ซื้อบ้าง ขายบ้าง ป่วยบ้าง ที่เหมือนเดิมก็เป็นชื่อทีม แปลเป็นไทยก็มีทีมผี ทีมหงษ์ ทีมปืนใหญ่ ทีมไก่ อะไรทำนองนั้น การเล่นฟุตบอลต้องเล่นกันเป็นทีม ถ้ากัปตันวางเป้าหมายแล้วกำกับให้ตรงไปในวันและเวลาที่กำหนด แต่ลูกทีมอิดออด ขัดแย้ง อาทิ บอกว่าแข่งไม่ได้หรอกทีมติดธุระต้องทำบุญขึ้นออฟฟิสใหม่ จองตั๋วไปฮันนิมูลกับภรรยาใหม่ ไม่มีสนาม ฝนตกสนามแฉะ โค้ชป่วย ไม่มีเงินอัดฉีด ทีมนั้นก็คงไปไม่ถึงเป้าหมาย เพราะมีทีมที่พร้อมรอเป็นแชมป์เข้าแถวรอยาวเหยียด
พฤษภาคม 2555 บริษัทรีเสิร์ช อิน โมชั่น (RIM) ผู้ผลิต Black Berry พาบริษัทไปไม่ถึงเป้าหมาย อาจปลดพนักงานกว่า 6,000 คน แล้วมิถุนายน 2555 บริษัทโนเกีย มีแผนปลดคนงาน 10,000 คน แล้วสิงหาคม 2555 บริษัทโมโตโรลาได้ปรับโครงสร้างพร้อมปลดพนักงาน 4,000 คน แล้วตุลาคม 2555 บริษัทแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) ผู้ผลิตชิปในเครื่องคอมพิวเตอร์ จะปลดพนักงาน 1,800 คน แล้วบริษัทพานาโซนิค เตรียมปลดพนักงาน 10,000 คนในมีนาคม 2556 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปลดพนักงานผ่านการขายธุรกิจไป 36,000 คน แล้วบริษัทชาร์ป (Sharp) เตรียมปลดพนักงาน 5,000 คน ในมีนาคม 2556 บริษัทข้างต้นล้วนมีผลประกอบการตกต่ำ และใช้มาตรการลดคน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ของทุกองค์กร เพื่อพยุงส่วนที่เหลือให้เดินหน้าต่อไปได้
ปัจจัยของความสำเร็จคือผู้นำ หรือแม่ทัพ หากแม่ทัพ มีขุนศึก มีอาวุธ มีกลยุทธ์พร้อม ก็มักพากองทัพไปสู่ชัยชนะ มีการพูดถึง Steve Jobs และ Bill Gate ว่าเป็นผู้นำที่ทำให้บริษัทมีผลกำไร มั่งคั่งผ่านวิสัยทัศน์และนวัตกรรม โดยพาชาวโลกสู่การเปลี่ยนแปลง เช่นเปลี่ยนจากการใช้แป้นพิมพ์ไปใช้นิ้วสัมผัส เปลี่ยนจากการสั่งงานด้วย keyboard เป็นรับด้วย mouse เป็นแนวคิด Graphic User Interface หรือเปลี่ยนจากโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่นเดิม เป็นสมาร์ทโฟน ทั้งหมดล้วนมีปัจจัยมาจากคำว่า กล้าเปลี่ยน รวมไปถึงทีมฟุตบอลที่ต้องการเป็นแชมป์ก็ต้องเปลี่ยนตัว หาผู้เล่นที่เก่งมาเสริมทีม

ครบหนึ่งปีการจากไปของสตีฟ จ็อบส์ (itinlife 363)

steve jobs : passionate pitch man
steve jobs : passionate pitch man

5 ต.ค.55 จากบทความเชิงข่าวของ CNN โดย Brandon Griggs ที่ระลึกการจากไปของสตีเวน พอล จอบส์ (Steven Paul Jobs) หรือสตีฟ จ็อบส์ ในวาระครบรอบ 1 ปีการเสียชีวิตด้วยโรงมะเร็งตับอ่อนเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554 เขามอบของขวัญให้กับชาวโลก ได้สร้างนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่ทุกคนรู้จักทั้ง macintosh, imac, ipod, itunes, iphone และ ipad เป็นต้น ภายหลังการเสียชีวิตมีการเปรียบเทียบว่าเขาเป็นนักประดิษฐ์ระดับโลกที่จะถูกจดจำไปตลอดกาลเช่นเดียวกับ Thomas Edison และ Henry Ford

เพียง 19 วันหลังสตีฟ จ็อบส์เสียชีวิต ก็มีการจำหน่ายหนังสือชีวประวัติที่เขียนโดย Walter Isaacson ที่เป็นความต้องการของสตีฟเองในการจัดทำหนังสือ โดยมีลอรีน ผู้เป็นภรรยาทำหน้าที่ประสานงานอำนวยความสะดวกจนหนังสือเล่มนี้เสร็จได้ในเวลาที่เหมาะสม มีการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องกว่า 100 คน เฉพาะตัวสตีฟสัมภาษณ์ไปกว่า 40 ครั้ง เป็นการเล่าเรื่องได้ทุกรสเกี่ยวกับชีวิตของคนหนึ่งคน ทั้งการกำเนิด ครอบครัว ประวัติส่วนตัว ผลงาน ความเจ็บป่วย ความคิดเห็นของผู้คนรอบข้าง ญาติ คู่แข่งทางธุรกิจ ศัตรู และเพื่อน

สตีฟจากไปหลังเปิดตัว iPhone 4s ได้เพียงวันเดียว และหลังจากนั้นหนึ่งปีก็มีการเปิดตัว iPhone 5 หากวัดความสำเร็จจากยอดขายรุ่นแรก พบว่า จำหน่ายได้ 270,000 เครื่อง ในช่วง 30 ชั่วโมงแรกที่เปิดจำหน่าย สำหรับ iPhone 5 ที่มาพร้อม iOS6 เปิดจำหน่ายกลุ่มแรกใน 9 ประเทศ ช่วง ระหว่าง 21 – 23 ก.ย.2555 พบว่ายอดขายมากกว่า 5 ล้านเครื่องไปแล้ว ถ้าสตีฟยังอยู่แล้วทราบข่าวนี้ก็คงนอนยิ้มไปอีกหลายสัปดาห์ ส่วน iOS6 ก็มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 100 ล้านครั้ง ส่วนคู่แข่งอย่าง Android ซึ่งเป็นคู่แข่งของระบบปฏิบัติการก็เปิดใช้งานบนอุปกรณ์หลายประเภทก็เปิดให้อัพเกรดระบบปฏิบัติการเป็น ICS 4.0.4 จาก samfirmware.com ราวเดือนสิงหาคม 2555 แต่ก็ไม่น่ากระทบความแรงของ iPhone ซึ่งผมก็เป็นสาวกของแอปเปิลเหมือนกันตอนนี้ใช้ i-Mobile ถ้าอุปกรณ์หมดอายุเมื่อใดก็คงพิจารณาให้ iPhone มาอยู่ในรายการที่ถูกเลือกแน่นอน แต่ก็ต้องทำตารางการตัดสินใจคิดสะระตะก่อนควักกระเป๋าจ่ายไปและรับของมาเป็นขั้นตอนเช่นนั้นเอง

——————–

http://takato.exteen.com/20120801/android-ics-4-0-4-official-firmware-galaxy-tab-10-1-p7500-do

http://edition.cnn.com/2012/10/04/tech/innovation/steve-jobs-quotes/index.html

http://edition.cnn.com/2012/10/05/tech/innovation/steve-jobs-legacy/index.html?hpt=hp_bn5

เสื้อสตีฟ จ็อบส์ โดย วอลเตอร์ไอแซคสัน

เสื้อสตีฟ จ็อบส์
เสื้อสตีฟ จ็อบส์

30 ก.ย.55 ได้เสื้อยืดคอกลม (T-Shirt) จากกิจการน.ศ.เป็นของกำนันการเป็นวิทยากรอบรมเรื่อง office 2010  ที่เสื้อมี tag ที่มีชื่อบริษัท Nine กับ Nation Books ซึ่งจัดทำประกอบหนังสือ สตีฟ จ็อบส์ โดย วอลเตอร์ไอแซคสัน ก่อนผมเก็บเข้าตู้ ก็ลองนำมาทำภาพซ้อนสักใบ แต่เพราะกล้อง lock แสงไม่ได้ ก็เลยได้ภาพที่แสดงไม่เท่ากัน ส่วนภาพสุดท้ายมีการขยับขากล้อง ทำให้ตำแหน่งของภาพไม่เท่ากับภาพอื่น ๆ .. ปีหน้าฟ้าใหม่ ถ้ามีโอกาสคงได้ถ่ายภาพแบบนี้อีก
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=526840820663387&set=a.526840783996724.132279.506818005999002

iphone5 คาดว่าออกตัวแรงตามเคย

iphone5 ขำขำ
iphone5 ขำขำ

21 ก.ย.55 เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิล ที่เคยมีบุรุษในตำนานที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในนวัตกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอเมริกา Steve Jobs เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง และพลิกสถานการณ์จากบริษัทที่กำลังมีปัญหาสู่บริษัทเข้มแข็งที่สุดบริษัทหนึ่งของโลกในต้นศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันโทรศัพท์เป็นมากกว่าใช้รับสายและโทรออก ถูกเรียกใหม่ว่าสมาร์ทโฟน (Smart Phone) ในปีนี้ได้ออกสมาร์ทโฟน iPhone 5 สู่ตลาด เปิดตัวในสหรัฐ 4 ตุลาคม 2555 หลังจากนั้นก็จะมีสถิติมาให้เราได้เรียนรู้กันต่อไป

ในอดีตโทรศัพท์รุ่นพี่อย่าง iPhone4 ประสบความสำเร็จจนเป็นตำนานด้วยยอดขาย 3 วันแรกได้มากกว่า 1.7 ล้านเครื่อง กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้รางวัลมือถือยอดเยี่ยมจาก Global Mobile Awards ในงาน Mobile World Congress 2011 ที่ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ปัจจุบัน iPhone ครองส่วนแบ่งตลาด 5% จากตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก หากรวมทั้ง iPhone, iPod และ iPad ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ได้ขายไปแล้วมากกว่า 250 ล้านเครื่อง

สมาร์ทโฟนและ Social Media ต่างสนับสนุนกันและกัน เพราะผู้ใช้ที่มีเครื่องมือ และเว็บไซต์เครือข่ายสังคมต่างเชื่อมโยงกันอย่างลงตัว ผู้คนเชื่อมต่อเข้าสู่โลกเสมือนจริงได้ง่าย จากทุกที่ทุกเวลา และทุกวัย แต่ที่น่าเป็นห่วง คือความสัมพันธ์ในครอบครัวจะหลวมไปกว่าเดิม จากโฆษณาของ DTAC  เรื่อง Disconnect to connect ที่แสดงความห่วงใยต่อการใช้อุปกรณ์เหล่านี้จนเกินพอดี ซึ่งสื่อว่าความสัมพันธ์กับคนรอบตัวอาจบกพร่องได้ อาทิ การชมนกชมไม้ร่วมกัน การประชุม การร่วมกันทำอาหาร การเล่นกับสัตว์เลี้ยง การทำงานศิลปะ หรือการพูดคุยหยอกล้อในครอบครัวหายไป แต่การทัดทานกระแสของเทคโนโลยีที่มีเพื่ออำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อก็คงเป็นไปได้ยาก การทำความเข้าใจ และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องตระหนักว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรในโลกมนุษย์และโลกเสมือนจริงให้สมดุล

10 คุณสมบัติจำเป็นของ CIO

steve jobs & john sculley
steve jobs & john sculley

1. มีความเป็นผู้นำ
2. มีประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนแปลง และการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
3. มีความเข้าใจธุรกิจ
4. มีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์
5. มีทักษะด้านบริหาร
6. มีทักษะด้านการสื่อสาร
7. มีความสามารถสร้างและบริหารความเปลี่ยนแปลง
8. มีองค์ความรู้และประสบการณ์ในธุรกิจเฉพาะทาง
9. มีประสบการณ์เชิงนานาชาติ
10. มีความสามารถในการจ้าง พัฒนา และรักษาคุณภาพความชำนาญทางไอที

เกี่ยวกับ John Sculley มีเรื่องราวในหนังสือ
steve jobs โดย walter isaacson บทที่ 14 หน้า 169

Born April 6, 1939 (age 73)
Occupation
– President of PepsiCo (1977–1983)
– CEO of Apple Computer (now Apple Inc.) (1983–1993)
– Partner at Sculley Brothers, LLC (1995–Present)

นักประดิษฐ์รีโหมดคอนโทรลเสียชีวิตแล้ว

flash-matic remote
flash-matic remote

Eugene J. Polley นักประดิษฐ์รีโหมดคอนโทรลเสียชีวิตแล้ว ด้วยวัย 96 ปี เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 เป็นนักประดิษฐ์คนสำคัญอีกคนที่จากไป เพราะก่อนหน้านี้โลกเราก็เสีย Steve Jobs ไปเมื่อ 5 ตุลาคม 2554
http://soundcloud.com/thaiall/remote-control-inventor-dies


Remote Control Inventor Dies Aged 96
The inventor of the television remote control has passed away at the age of 96. The Associated Press news agency reported that Eugene J. Polley died of natural causes on Sunday. His creation is one of today’s most commonly used and ubiquitous (แพร่หลาย) devices. Mr Polley worked as an engineer for a company called Zenith, now part of Korea’s LG Electronics. He introduced his gun-shaped remote control, called the Flash-Matic, in 1955. It was one of 18 patents he owned. The Flash-Matic used light to turn the TV on and off, adjust the volume and change channels. His invention was followed up five years later by fellow Zenith engineer Robert Adler, who used ultrasound instead of light. Today’s remote controls use infrared light.
Polley worked for Zenith for 47 years and held some top technology posts. In 1997, the USA’s National Academy of Television Arts and Sciences honoured him by awarding him with an Emmy Award for ‘Pioneering Development of Wireless Remote Controls for Consumer Television.’ Polley’s invention is something we all take for granted nowadays. Generations of people have grown up not knowing that before remote controls, people actually had to leave the sofa and push a button or turn a dial to change their TV settings. Today we use remotes for everything from adjusting the brightness of lights to changing songs on our iPods to opening the garage door from 30 metres. Life would be quite different without this handy gadget.
http://www.breakingnewsenglish.com/1205/120523-remote_control.mp3
http://www.breakingnewsenglish.com/1205/120523-remote_control.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Eugene_Polley

บทเรียนความเป็นผู้นำที่แท้จริงของสตีฟ จ็อบส์

สุทธิชัย หยุ่น บรรยายบทเรียนจากสตีฟ จ็อบส์
สุทธิชัย หยุ่น บรรยายบทเรียนจากสตีฟ จ็อบส์

17 พ.ค.55 คุณสุทธิชัย หยุ่น ประธานเครือเนชั่น บรรยายในงาน open house หัวข้อ “คิดอย่างสตีฟ จ็อบส์ กับสุทธิชัย หยุ่น” ณ มหาวิทยาลัยเนชั่น สำหรับนักเรียน ครูแนะแนว และผู้สนใจในลำปาง โดยเล่าถึงปัจจัยที่ทำให้สตีฟประสบความสำเร็จในการกู้สถานการณ์จากบริษัทที่กำลังจะล้ม มาเป็นบริษัทอันดับต้น ๆ ของโลกได้

harvard business review
harvard business review

ข้อคิดจาก The Real Leadership Lessons of Steve Jobs in Havard Business Review [April 2012] ดังนี้
1. มุ่งมั่น (Focus)
2. ง่าย (Simplify)
3. รับผิดชอบตั้งแต่จบถึงต้นและต้นถึงจบ (Take Responsibility End to End)
4. เมื่ออยู่ข้างหลัง ต้องก้าวกระโดด (When Behind, Leapfrog)
5. สินค้าต้องมาก่อนกำไร (Put Products Before Profits)
6. อย่าหลงเชื่อตามความคิดเฉพาะกลุ่ม (Don’t Be a Slave To Focus Groups)
7. เบี่ยงเบนความจริง (Bend Reality) (Reality distortion field = RDF)
8. สร้างภาพ (Impute)
9. ผลักดันความสมบูรณ์ (Push for Perfection)
10. ทนกับทีมเอเท่านั้น (Tolerate Only “A” Players)
11. ผูกพันธ์แบบเผชิญหน้า (Engage Face-to-Face)
12. รู้ทั้งภาพใหญ่และรายละเอียด (Know Both the Big Picture and the Details)
13. รวมมนุษยศาสตร์เข้ากับวิทยาศาสตร์ (Combine the Humanities with the Sciences)
14. กระหายที่จะเรียนรู้ ยอมรับความโง่เพื่อรับสิ่งใหม่ (Stay Hungry, Stay Foolish)