เล่าขานเรื่องราว เหตุการณ์
ความทรงจำ และ มิตรภาพ
ผ่านหนังสือเล่มหนึ่ง

เกียรติภูมิอัสสัมชัญลำปาง
ใน วารสารเข็มแดง
.
ในชีวิตของคนเรา
มีเรื่องราวที่มีคุณค่าน่าจดจำ
นำไปเล่าสู่กันฟังได้มากมาย
สามารถค้นด้วยคำสำคัญ
ก็จะพบสิ่งที่ต้องการค้นหาอยู่เสมอ
.
ตามที่ได้อ่านบทความ
เรื่อง งาน 60 ปี
เกียรติภูมิอัสสัมชัญลำปาง หน้า 56
ใน วารสารเข็มแดง ฉบับที่ 82
.
พบว่า สมาคมศิษย์เก่าอัสสัมชัญลำปาง
ร่วมกับ โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง
ได้จัดงาน พิธีฉลองวันคล้าย
วันสถาปนาโรงเรียนครบรอบ 60 ปี
.
เพื่อแสดงถึงเกียรติประวัติ
ของโรงเรียน และ
แสดงพลังความสามัคคีของศิษย์เก่า
และ ได้พบปะสังสรรค์
เสริมสร้างความสามัคคีของสมาชิก
อันจะช่วยทำประโยชน์
ต่อส่วนรวมอย่างต่อเนื่อง
.
ซึ่งรายละเอียดกำหนดการ
สามารถหาอ่านได้
จากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์
ที่สามารถใช้คำค้น
ว่า วารสารเข็มแดง
ก็จะพบการเผยแพร่วารสาร
โดยผู้ใช้ชื่อ อัศวินสีส้ม
.
สำหรับวารสารฉบับอื่น พบว่า
รุ่นพี่ศิษย์เก่า
ที่มีชื่อผู้ใช้ว่า We love A.C.L.
.
ได้สแกนวารสารไว้หลายฉบับ
แล้วเผยแพร่ในสื่อสังคม
ให้สามารถเปิดอ่านได้โดยง่าย
เมื่อไปค้นข้อมูลของพี่ เพื่อน โรงเรียน
ก็จะมีเรื่องราวมากมายให้ได้คิดถึงเสมอ

https://vt.tiktok.com/ZSF9McmBS/
.
https://anyflip.com/tbeve/yfhi

อีบุ๊ค
วารสารเข็มแดง
กำหนดการ

#อัสสัมชัญลำปาง
#สมาคมศิษย์เก่า
#วารสาร
#เข็มแดง
#ebook
#หนังสือ
#acl
#alumni

ซีรี่บทความของศิษย์เก่า

#เล่าจากความทรงจำ
ได้อ่านบทความของพี่ศิษย์เก่า
เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของพี่ ๆ
พบบทความหนึ่ง
ได้อ่านแล้วรู้สึกชื่นชม
และพี่เค้าแชร์เป็นสาธารณะในเฟส
จึงเริ่มคัดลอกบทความรวบรวมเป็นซีรี่
อีกกลุ่มหนึ่งแชร์ในโฮมเพจสมาคม
แล้วออกแบบเป็นระบบให้เข้ากรอบ SEO
เริ่มรวบรวมได้ 2 เรื่องแล้ว
.
ก่อนหน้านี้หัวหน้าที่ทำงานเก่า
เคยเขียนบทความเป็นชุด
ด้านการบริหาร และการตลาด
แชร์ผ่านสื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง
เคยคัดลอกรวบรวมอย่างเป็นระบบ
ได้มากกว่าครึ่งร้อย
รองรับการเปิดอ่านได้ในหลายรูปแบบ
ซึ่งสืบค้นบทความซีรี่นี้ผ่านกูเกิ้ลได้แล้ว
มาวันนี้ได้อ่านได้เห็น
แล้วนึกถึงบทความทรงคุณค่ามากมาย
ของพี่พี่ เพื่อนเพื่อน และผู้ทรงมากมาย
ที่เล่าเรื่อง ถอดบทเรียน เขียนหนังสือ
เกี่ยวกับ เกี่ยวข้อง เชื่อมโยง
ศิษย์เก่า และความทรงจำในโรงเรียน
.
บทความเซตใหม่นี้
แต่ละเรื่องอยู่ในกรอบที่กำหนด
ที่ออกแบบหัวท้ายไว้เพื่อใช้ร่วมกัน
แยกแฟ้มแบบบทความเป็นแบบเดี่ยว
ที่จบในไฟล์เดียว
มีคอลัมน์เดียว รองรับหลายจอ
ขนาดไม่ยาวมาก เชื่อมลิงก์ภายนอก
และอ้างอิงชื่อของพี่ที่เขียนบทความ
.
ถ้าได้บทความใหม่มาแล้ว
ก็จะนำไป repost แล้ว share ต่อ
ปรับโค้ดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ซึ่งชมรม สมาคม กลุ่มที่มีการรวมตัวกัน
ก็มักจะมีเรื่องให้แลกเปลี่ยนพูดคุยเสมอ

http://thaiabc.com/acla/memo_661128.asp

เตรียม USB Drive บันทึกเสียงธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

พบคลิปเสียงของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กว่า 78 ชุด ในเว็บไซต์ tumma.in ผม download มาเป็น .zip มีขนาดถึง 3.4 GB แล้วเขียนลง USB Drive เพื่อนำไปเปิดบนลำโพง Bluetooth ที่รองรับ USB drive เตรียมนำไปให้ญาติที่ฝากเขียน จำนวน 2 ตัว ตัวแรกมีครบเซต ตัวที่สองมีเฉพาะชุด ทางสู่พระนิพพาน ญาติของผมท่าน เลือกฟังชุด ทางสู่พระนิพพาน ที่มีแฟ้มแยกเป็น 14 ไฟล์
เมื่อดูใน youtube.com พบว่า ชุดนี้มีความยาว 5 ชั่วโมง 22 นาที เรียกว่าฟังกันยาว ๆ ไปเลย
ฟังไปได้สักตอนหนึ่ง รู้สึกชื่นชอบในเทคนิคการบรรยายธรรม

อ่านมา https://www.tnews.co.th/html/contents/207106

ประวัติของ พระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ.2560 เดิมชื่อสังเวียน เป็นบุตรคนที่ 3 ของนายควง นางสมบุญ สังข์สุวรรณ เกิดที่ตำบลสาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี มีพี่น้อง 5 คน เมื่ออายุ 6 ขวบ
เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
จนจบชั้นประถมปีที่ 4 เมื่ออายุ 15 ปี เข้ามาอยู่กับท่านยายที่บ้านหน้าวัดเรไร อ.ตลิ่งชัน จ.ธนบุรี ในสมัยนั้น และได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ อายุ 19 ปี เข้าเป็นเภสัชกรทหารเรือ สังกัดกรมการแพทย์ทหารเรือ พออายุครบบวช อุปสมบท เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2480 เวลา 13.00 น. ณ วัดบางนมโค โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิหารกิจจานุการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เล็ก เกสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อายุ 21 ปี สอบได้นักธรรมตรี อายุ 22 ปี สอบได้นักธรรมโท อายุ 23 ปี สอบได้นักธรรมเอก ระหว่างปี พ.ศ.2480-2481

  • ศึกษาพระกรรมฐาน จากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิเช่น
    • หลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค
    • หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก
    • พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค
    • พระครูรัตนาภิรมย์ วัดบ้านแพน
    • พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า
    • หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ
    • หลวงพ่อเนียม วัดน้อย
    • หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน)
    • และหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ
  • ประวัติการจำพรรษาและสมณศักดิ์
    • พ.ศ. 2481 เข้ามาจำพรรษาที่วัดช่างเหล็ก อ.ตลิ่งชัน ธนบุรี เพื่อเรียนบาลี ต่อมา สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดอนงคาราม หลังจากนั้นได้เป็นรองเจ้าคณะ 4 วัดประยูรวงศาวาส เป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค และย้ายไปอยู่อีกหลายวัด
    • พ.ศ. 2511 มาอยู่วัดท่าซุง บูรณะซ่อมสร้างและขยายวัดท่าซุง จากเดิมมีพื้นที่ 6 ไร่เศษ จนกระทั่งเป็นวัดที่มีบริเวณพื้นที่ประมาณ 289 ไร่
    • พ.ศ. 2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ “พระสุธรรมยานเถร”
    • พ.ศ. 2532 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ “พระราชพรหมยาน ไพศาลภาวนานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี”

มรณภาพ – ตุลาคม 2535 พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ได้อาพาธด้วยโรคปอดบวมอย่างแรง และติดเชื้อในกระแสโลหิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และมรณภาพที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2535 เวลา 16.10 น.

http://www.thaiall.com/dhamma/

เมื่อศิษย์น้องสื่อสารด้วยชุดอักษร พันธนาการแห่งปราณ

ปราณ คือ ลมหมายใจ ใน พันธนาการแห่งปราณ

การครั้งหนึ่ง
นั่นก็เนิ่นนานมาหลายทศวรรษแล้ว
ที่ผมได้รู้จักมักจี่กับ หมวย – สมจิต คูมณีปกรณ์
เป็นเพื่อนเฟสกันก็นานหลายปีดีดัก
ที่เรียกว่า ศิษย์น้อง
ก็เพราะอาจารย์อดิศักดิ์ จำปาทอง
บอกว่าหมวยเป็นศิษย์รุ่น 2 ของวิทยาลัยโยนก
หรือ มหาวิทยาลัยเนชั่น ในปัจจุับัน
ดังนั้นคำว่ารุ่น 2 คือ มีรหัสเริ่มต้นด้วย 32
ส่วนที่ผมเรียกตนเองว่า พี่
ก็เพราะมีรหัสเริ่มต้นด้วย 31 และเป็นรุ่นหนึ่งของสำนักนี้

กลับมาที่ชุดอักษร เล่มที่ได้รับจากศิษย์น้อง
เป็นงานแต่งขึ้น ในชื่อหนังสือ พันธนาการแห่งปราณ
คำว่า ปราณ
ถูกศิษย์น้องอีกคนให้ความหมายว่าคือ ลมหายใจ
จริงดั่งศิษย์น้องว่า
เราทุกคนถูกพันธนาการด้วย ลมหายใจ
หากสิ้นไร้ซึ่งลม หรือหยุดลมหายใจไว้ ณ เวลาใดแล้วไซร้
เราก็จะเป็นอิสระ จากร่างกายเก่า ๆ แก่ ๆ ตามวัย
ที่ครอบครองจะครบหกรอบในอีกไม่กี่ปีนี้
สักวันเมื่อหลุดจากพันธนาการของปราณ
จิตใจก็คงจะโบยบินออกจากกายหยาบไปสวรรค์นู้น

ในปกหลัง
ระบุว่านี่คือเรื่องราวของ อาจารย์น้อยผู้มาสอนธรรม
เธอเป็นหญิงสาว เพราะเห็นใช้คำว่า นาง
และน่าจะมีหน้าหมดตาใจ แก้มยุ้ยด้วย
แอบไปอ่านหน้าสุดท้าย พบว่า อาจารย์น้อย คนงาม
ตกล่องปล่องชิ้นกับหนุ่มหล่อเผ่าสวรรค์ มีจุ๊บจุ๊บด้วย
อันนี้จริงเท็จประการใดไม่รู้ ไม่ ส ป ร อ ย
เนื้อหาออกแนวจีน ๆ เยอะเลย ชื่อจีนทั้งเรื่อง
สิ่งหนึ่งที่เฉลย คือ ลมหายใจ ถูกเรียก ปราณ
เผ่าสวรรค์ เผ่ามาร ใครจะดี ใครจะร้าย
ใครพระเอก ใครพระรอง
ต้องไปหาอ่านกันเองนะครับ

ส่วนจะมีผู้กำกับ หรือผู้สร้างคนใด
หยิบหนังสือไปทำเป็นซีรี่ หรือภาพยนตร์แบบ
แปดเทพอสูรฯ หรือ สยบฟ้าฯ หรือ โปเยฯ หรือสิบสอง
อันนี้ต้องไปคุยกับนักเขียนศิษย์น้องท่านเอง
ส่วนผม
ถ้าจะติดต่อผมไปเป็นพระเอก พระรอง ศิษย์พี่ หรือมาร
อันนี้ติดต่อมาก่อนนะครับ แล้วผมจะดูคิวให้
พักนี้ไม่ค่อยว่างติดสอนหนังสืออยู่
และกำลังนั่งกรรมฐานยามจิตไม่ว่าง
หวังว่าจิตใจจะคลายทุกข์ได้โดยเร็ว
เผื่อว่าทุกข์หรือมาร เข้ามาจู่โจมเมื่อใดไม่รู้
จะได้คุมจิตได้ ไม่เตลิดเปิดเปิงไปกับทุกข์เช่นในอดีต
ทุกวันนี้ จิตไม่ค่อยจะวาง ปล่อยวางก็ไม่ค่อยจะลง
หายใจเข้า หายใจออก ฝึกปราณต่อไป

หนังสือเล่มนี้อ่านสนุก
เล่าให้ใคร ๆ ฟังว่าอ่านดีอย่างนู้นอย่างนี้
จนศิษย์พี่อีกท่านขออ่านบ้าง
ตอนนี้ เล่มที่ 48 (2nd)
ตกทอดไปถึงศิษย์พี่อีกคนแล้ว
ส่วนใครจะรอชมซีรี่ หรือภาพยนตร์
ตอนนี้ต้องอดใจรอกันไปก่อน
เหมือนหนัง marvel
ที่จะมีภาคต่อหรือไม่ ก็จะมีหลายปัจจัย

blogger

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 1 จะกดละนะ

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

ในต้นฤดูหนาว วันหนึ่ง
จะกดละนะ จะกดละนะ” หนูพูดกับตัวเองน่ะ
วันนี้ประกาศผลเอ็นเล็กแล้วค่ะ
แล้วกำลังจะดูผลสอบในเน็ตด้วย ตื่นเต้นนะขอบอก
แล้วปีนี้เป็นปีสุดท้าย ที่ ม.ช. จัดสอบแยก
ปีต่อไป รุ่นน้องของหนู
จะใช้คะแนน GAT/PAT กับ 9 วิชาสามัญ
จากการสอบหลังเรียนจบมัธยมปลายค่ะ

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่
จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่

เย้ เย้ เย้” นั่นเป็นอีกคำพูด หลังจากที่หนูรู้ผลสอบ
เป็นข่าวดี .. หนูสอบติดแล้วนะคะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ
สอบติดอันดับ 3 ที่ได้เลือกไว้ค่ะ
ต่อไปต้องไปเรียนถึงบางกอกนู่นละ

นี่เป็นจดหมายฉบับแรก
ก็อยากเขียนน่ะค่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเล่มหนึ่ง
จำได้ว่า พ่อเก๋ เคยซื้อหนังสือ “Long Leg Daddy” ของ se-ed ให้อ่าน
หนูชอบที่จูดี้เขียนถึงคุณพ่อขายาวของเธอ ซ่อนรักไว้ด้วย
หนูก็อยากจะเขียนบ้าง
ตั้งใจว่ามีเค้าโครงเป็นเรื่อง “เอบีซีรักในแคมปัส” ล่ะกัน
หรือ Love in campus by ABC จะดีไหมนะ 555

แล้วปีหน้า ถ้าน้องไปเรียนต่อ
ก็ได้เวลาที่ต้องกระพือปีกด้วยตนเอง เหมือนหนูล่ะ
ที่ต้องออกจากรังแล้ว ไปไล่ตามความฝันของเรา
เวลาน้องไปอยู่ในแคมปัสไหน ๆ (ที่ไหนก็ไม่รู้)
ก็อยากให้ น้องบี กับน้องซี เขียนจดหมายด้วย
เราจะได้แชร์กันอ่านในครอบครัวไง
เหมือนที่พ่อเก๋เขียน “จดหมายจากสามีถึงภรรยา
หรือ “สามลูกสาว” หรือ “แม่ล้ม ผมก็ล้ม
หนูกลับไปอ่านบ้างเหมือนกัน
อ่านเสร็จ ก็อยากเขียนบ้างจังเลย
นี่มีฉบับแรกล่ะนะ

ฉบับแรกนี้ พี่เอ ฝากข้อความให้น้องแฝดด้วยน้า
ว่า “ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือ เพื่อจะได้เรียนอะไร ที่อยากเรียน
ขอให้น้อง ๆ สมหวังน้า
เพราะเราพยายาม ก็เพื่อตนเอง เพื่ออนาคตของเราอยู่
แล้วพี่จะคอยเอาใจช่วยเสมอ ๆ
ไม่แน่นะ ปีหน้าเราอาจได้มาเรียนด้วยกันที่บางกอกก็ได้
ใครจะไปรู้อนาคต ชิมิ

 

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

FB Group : ผู้บริจาคโลหิต อวัยวะ และร่างกาย

long leg daddy คือ แรงบันดาลใจ
long leg daddy คือ แรงบันดาลใจ

ภาพถ่ายจาก https://www.facebook.com

สิงโต กับมด (lion and ant)

เรื่องแต่งเกี่ยวกับ สิงโต กับ มด เปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมงานอีกหลายประเภท และการทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นทีม มีกลไกชัดเจน ที่อาจไปสอดคล้องกับบริษัท หรือหน่วยงานใดก็ได้
* ของฝรั่งมี 1) สิงโต 2) มด 3) แมลงสาบ (หัวหน้า) 4) แมงมุม (เลขา) 5) แมลงวัน (ฝ่ายไอที) 6) จั๊กจั่น (หัวหน้าแผนก) 7) นกฮูก (ที่ปรึกษา)
* ของไทยมี 1) สิงโต 2) มด 3) แมลงสาบ (หัวหน้า) 4) ควาย (เลขา) 5) ตัวเห็บ (ฝ่ายไอที) 6) ตัวทาก (หัวหน้าแผนก) 7) ตัวเหี้ย (ที่ปรึกษา)

ปัญหาเรื่อง สิงโต กับมด เป็นเรื่องของ Leader ship ล้วน ๆ เลย
จะไปโทษปี่โทษกลองไม่ได้แน่ ๆ แต่ถ้าสิงโตมาอ่านก็คงบอกว่า
มด คือ ตัวปัญหา ตามคำแนะนำของ นกฮูก

เรื่องราวแนวนี้ .. ทำให้นึกถึงหนังสือ “โศกนาฏกรรมองค์กรหลงทิศ
เกี่ยวกับการบริหารจัดการของบริษัทน้ำพริก ที่เห็นภาพปัญหาได้ชัดมาก
ที่เขียนโดย สุธี ปิงสุทธิวงศ์ สุรีพันธุ์ เสนานุช และยิ่งศักดิ์ นันทิวรรณกุล
http://www.thaiall.com/blogacla/admin/1490/

สิงโต กับมด
สิงโต กับมด

ชอบตรง ไอทีนี่หละ เค้ายกสัตว์มา 2 ชนิด
คือ ตัวเห็บ กับ แมลงวัน
555 หัวหน้าจะคิดว่าเรา
เป็น “ตัวเห็บ” หรือ “แมงวัน” นะ

Story ..
Every day, a small ant arrives at work very early and starts work immediately.
.
She produces a lot and she was happy.
.
The chief, a lion, was surprised to see that the ant was working without supervision.
.
He thought if the ant can produce so much without supervision, wouldn’t she produce even more if she had a supervisor!
.
So he recruited a cockroach who had extensive experience as supervisor and who was famous for writing excellent reports.
.
The cockroach’s first decision was to set up a clocking in attendance system.
.
He also needed a secretary to help him write and type his reports and …
.. he recruited a spider, who managed the archieves and monitored all phone calls.
.
The lion was delighted with the cockroach’s reports and asked him to produce graphs to decribe production rates and to analyse trends, so that he could use them for presentations at Board’s meetings.
.
So the cockroach had to buy a new computer and a laser printer and …
… recruited a fly to manage the IT department.
.
The ant, who had once been so productive and relaxed, hated this new plethora (มากมาย) of paperwork and meetings which used up most her time…!
.
The lion came to the conclusion that it was high time to nominate (ระบุชื่อ) a person in charge of the department where the ant worked.
.
The position was given to the cicada (จั๊กจั่น), whose first decision was to buy a carpet and an erogonomic (เหมาะกับการทำงาน) chair for his office.
.
The new person in charge, the cicada, also needed a computer and a personal assistant, who he brought from his previous department, to help him prepare a Work and Budget Control Strategic Optimisation Plan…
.
The Department where the ant works is now a sad place, where no body laughs anymore and everybody has bcome upset…
.
It was at that time that the cicada convinced (โน้มน้าว) the boss, the lion, of the absolute necessity to start a climatic study of the environment.
.
Having reviewed the charges for running the ant’s department, the lion found out that the production was much less than before.
.
So he recuited the owl, a prestigious (มีเกียรติ) and renowned (ชื่อเสียง) consultant to carry out an audit and suggest solutions.
.
The owl spent three months in the department and came up with a enormous report, in several volumnes, that concluded : “the department is overstaffed …”
.
Guess who the lion fires first?
.
The ant, of course, because she “showed lack of motivation and had a negative attitude”.
http://lib.edu.chula.ac.th/cuappl/libedu2007/lib_talk/aspboard_Question.asp?GID=150
13 มิถุนายน 2554

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/08/B8181968/B8181968.html
9 สิงหาคม 2552

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2011/06/B10686404/B10686404.html
14 มิถุนายน 2554

http://wijitrood.blogspot.com/2014/05/blog-post.html
พฤษภาคม 2557

http://btsstation.com/31510
5 พฤศจิกายน 2558

มีการแบ่งปันคำศัพท์ 3000 คำ ใน blog ของ eduzones.com

vocab 3000 eslwise
vocab 3000 eslwise

หัวหน้าส่งอีเมลมาให้ทราบว่าน่าสนใจ มีหัวข้อในเว็บเพจ คือ
เอาไปดูให้ตาแฉะ รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา 3000 คำ
1. ได้เห็นก็ scan ก่อนเลยครับ
ไปติดคำที่ 197 หรือ 204 พอเห็นก็คิดต่อเลยว่า
set นี้ไม่ใช่รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุดแน่
เพราะเลข 1 ไม่ใช่คำศัพท์
https://blog.eduzones.com/advisor/155998

2. เห็นว่าที่มาคือ eslwise.com
2970Ellen 2966Hill
แล้วตามหาที่มาผ่าน google ก็พบ
http://eslwise.com/3000_frequency_order.doc
ต้นฉบับเป็น word พบสิ่งผิดปกติเหมือนใน eduzones เลย
เช่น t, P, 70 ไม่ใช่คำศัพท์แน่ในตัวที่ 2938 – 2940

3. คาดว่าคำเหล่านี้มาจากการนำบทความมา split (Text to Column)
แล้วนำมาจัดเรียงตามปกติ แล้วเรียงตามความถี่
แต่เห็น 1the กับ 684The ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเรียงตามความถี่

4. อยากชวนนักศึกษานำข้อมูล
มาชัดการด้วย excel ฝึกการประมวลผลกันหน่อย
ด้วยการ split, count, len, mid, crosstab เป็นต้น

5. เก็บเว็บเพจใน eduzones เป็น .mht
จะได้เปิดด้วย ie ในภายหลังได้ง่าย ๆ
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/586864671464355/

หนังสือ “กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม” ที่ 7-eleven เล่มยี่สิบ

กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม @booksmile
กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม @booksmile

ต้นปี 2556 ผมอ่านหนังสือ “หกสิบคาถาชีวิต” ของ คุณวิกรม กรมดิษฐ์
แล้วแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ด้วย เพราะหัวหน้าบอกว่าเป็นหนังสือดี
จึงไปหามาอ่าน แล้วก็พบว่าดีจริง ๆ

แล้วต้นปี 2559 ได้อ่านหนังสือ “กินอยู่ง่าย สไตล์วิกรม” เล่ม 20 บาท
พบว่าไม่ผิดหวังเลยที่ได้ซื้อ และได้อ่าน
เมื่ออ่านบทที่ 1 แล้วทำให้นึกถึงหนังสือ Steve jobs
ตอนนั้น Jobs ป่วยเป็นมะเร็งตับอ่อน พยายามรักษาแล้ว
แต่สุดท้ายก็ยื้อชีวิตต่อไปไม่ได้ ซึ่งคุณวิกรม โชคดีกว่า
คุณวิกรม เล่าเรื่อง “เมื่อผมเกือบตาย
ซึ่งเขาต้องไปผ่านตัดหัวใจที่อเมริกาตอนอายุ 43 ปี
ผมชอบบทนี้มาก ในตอนที่พูดถึงการดื่มไวน์จนเมา
แล้วชี้ให้เห็นโทษของการดื่มสุรา
ซึ่งน้อยคนนักที่จะหยุดการดื่มได้เอง
เพราะผู้คนส่วนใหญ่ที่เลิกสุราด้วยปัญหาเรื่องสุขภาพ
คือ “ป่วยแล้วเลิก” ไม่ใช่ “คิดแล้วเลิก
ปัญหาจากการดื่มสุราที่คุณวิกรมสะท้อนในหนังสือ
หน้า 15 เล่าได้ชัดเจน คือ โรคหัวใจ โรคตับ
เส้นเลือดในสมองแตก ขับรถชนเขา หรือเสียชีวิต
ซึ่งเป็นภัยเงียบ
แลกความสุขด้วยความเจ็บป่วย เป็นอะไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย
ที่จะไปแลกความทุกข์กับความสุขเพียง 1 – 2 ชั่วโมง
อ่านแล้วรู้สึกดี รู้สึกว่าเขาคิดได้ และได้มีสุขภาพที่แข็งแรง

มีความตอนหนัง พอสรุปได้ว่า
.. สมัยหนุ่ม ๆ เรียนอยู่ปี 3 คุณวิกรม ปั่นจักรยานเสือหมอบ
ทำด้วยอะลูมิเนียม Made in England เบามาก
ปั่นขึ้นลงเขาจากไทเป ไปจนถึงซินจู๋ รวมกว่า 150 กม.
ในวันเดียว คือไปเช้าเย็นกลับ กลับมาหนังไปเกือบ 2 วัน ..

ก็เป็นเรื่องเล่าเร้าพลัง ทำให้อยากปั่นจักรยานได้ดีมาก

บทที่ 8 เขาว่ารักษาบุคลากรไว้ไม่ได้ ในโศกนาฎกรรมองค์กรหลงทิศ

บทที่ 8 เขาว่ารักษาบุคลากรไว้ไม่ได้
บทที่ 8 เขาว่ารักษาบุคลากรไว้ไม่ได้

ผมว่ามนุษย์เราย่อมสนใจองค์กรที่ตนเองทำงาน อยู่มิใช่น้อย
แต่ถ้าไม่สนใจองค์กรที่เราทำงานอยู่เท่าที่ควร ก็คงมีเหตุมีผล
บังเอิญ มีคนมาเล่าให้ฟังเรื่องหนังสือปัญหาในองค์กร
พบบทที่ 8 เขาว่ารักษาบุคลากรไว้ไม่ได้
น่าสนใจ ที่จะไปเล่าให้นักศึกษาฟังว่า “ให้ดูแลพนักงานของตนนะ
เนื้อหาโดยสังเขปของบทนี้ คือ
“ผู้ไม่สามารถสร้างความผูกพันและความพึงพอใจของบุคลากรที่มีต่อองค์กร
ทำให้ขาดขวัญและกำลังใจ มีการลาออกในอัตราที่สูง
ไม่สามารถรักษาความรู้ในตัวบุคลากรไว้กับองค์กร” P.13
หนังสือ โศกนาฎกรรมองค์กรหลงทิศ
เขียนโดย สุธี  ปิงสุทธิวงศ์    สุรีพันธุ์ เสนานุช  และยิ่งศักดิ์  นันทิวรรณกุล

เจ้าหญิงหงส์ขาว

เจ้าหญิงหงส์ขาว
เจ้าหญิงหงส์ขาว

เจ้าหญิงหงส์ขาว
The swan princess
เป็นเล่มแรกที่เด็ก ๆ เลือกจะเล่าเรื่อง
หนังสือในชุด se-ed young readers
มีหลายเล่มที่น่าอ่าน ในเรื่องจะมีคำศัพท์ด้านข้าง
ทำให้รู้ศัพท์โดยไม่ต้องพึ่งพาพจนานุกรม

เด็กที่บ้านทำงานช่วงปิดภาคเรียน
เป็นงานชิ้นแรก
ที่สรุปออกมาเหมือนแปลมากไป
คาดว่าเล่มต่อไปจะ
สรุปความ หรือถอดความได้ดีขึ้น
เล่มนี้มี 6 บท ราคา 89 บาท

ผลงานของพีรยา

ผลงานของพีรยา
ผลงานของพีรยา


ผลงานของมายาวี

ผลงานของมายาวี
ผลงานของมายาวี