ธปท.ออกกฎเข้ม คุมแบงก์-ประกันขายพ่วง

99 บาท
99 บาท

เห็นว่า ธปท. จะออกกฎเข้มว่า
เวลาขายสินค้า อย่าขายพ่วง
และให้ชี้แจงให้ละเอียด
แล้วนึกถึงภาพรถ 99 บาท
หรือเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วเป็นหมอ บอกงั้นแล้วขายดี
จะให้บอกความจริงเหรอว่า เป็นแค่น้ำหวาน+สารนิดนึง
ผมว่าบางทีให้ข้อมูลมาก ๆ แล้ว
ลูกค้าอาจเปลี่ยนใจได้
.. ยอดขายก็สำคัญนะครับ

http://bit.ly/10DMxhB
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ธปท.ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อออกประกาศกำหนดมาตรการกำกับดูแลการขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์ และด้านประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และให้มีผลบังคับใช้กับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งที่ได้รับอนุญาตขายผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจประกันภัยจากก.ล.ต.และคปภ.ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปี2556 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ธปท.ให้เหตุผลว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค เกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยของธนาคารพาณิชย์เป็นระยะๆ เช่น กรณีเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์เสนอขายประกันชีวิตพ่วงกับบริการตู้นิรภัย ให้สินเชื่อหรือชักชวนผู้บริโภคซื้อหน่วยลงทุน ตราสารหนี้ หรือทำประกันชีวิตแทนการฝากเงิน โดยไม่ชี้แจงถึงความเสี่ยงหรือให้ข้อมูลผู้บริโภคไม่ชัดเจน ซึ่งธปท.เห็นว่าเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สำหรับสาระสำคัญในประกาศดังกล่าว ได้คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง สิทธิที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการการเงินได้อย่างอิสระ สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม และสิทธิที่จะได้รับพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย

นอกจากนี้ได้กำหนดหน้าที่ให้ธนาคารพาณิชย์ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค กำหนดแนวทางเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์ ต้องแสดงความต่างให้ผู้บริโภคเห็นชัดระหว่างผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัย ไม่ใช่เงินฝากเหมือนผลิตภัณฑ์ธนาคารพาณิชย์ อาจมีความเสี่ยงได้รับเงินต้นไม่เต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน และไม่คุ้มครองเงินต้น รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผลตอบแทน ทรัพย์สินที่จะได้รับนอกจากดอกเบี้ย เช่น อัตราผลตอบแทนรายปี รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่สามารถและไม่สามารถคำนวณอัตราผลตอบแทนได้

กฎระเบียบยังห้ามธนาคารพาณิชย์บังคับขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัย ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ หรือกำหนดเงื่อนไขขายหรือให้บริการผลิตภัณฑ์หลัก เช่น ให้ผู้บริโภคทำประกันภัยกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพื่อเป็นเงื่อนไขพิจารณาให้สินเชื่อ หรือให้ผู้บริโภคทำประกันชีวิตก่อนเมื่อขอใช้บริการเช่าตู้นิรภัย โดยธนาคารต้องให้สิทธิผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เอง และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคปฏิเสธซื้อผลิตภัณฑ์ได้

ทั้งนี้ ยังห้ามธนาคารพาณิชย์ส่งเสริมการขาย ในลักษณะชิงโชคจับฉลาก เว้นแต่เป็นกรณี ลด แลก แจก แถม การใช้สื่อการตลาดต้องไม่ชวนเชื่อเกินจริง ไม่ทำผู้บริโภคเข้าใจผิด ไม่เป็นเท็จ ซึ่งการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทุกช่องทางควรอยู่ในช่วงเวลาเหมาะสม ไม่ทำให้ผู้บริโภครำคาญหรือสูญเสียความเป็นส่วนตัว เป็นต้น

“แบงก์ต้องมีมาตรการ วิธีการทำให้ลูกค้าผู้บริโภคมั่นใจว่า ผู้ขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยมีความรู้เข้าใจในผลิตภัณฑ์ สามารถให้ข้อมูลความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ ผลตอบแทนและการคุ้มครองที่ผู้บริโภคจะได้รับ ตลอดจนผลดำเนินงานของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมา รวมถึงภาษีที่ผู้บริโภคจะต้องจ่ายหรือได้รับการผ่อนผัน และสิทธิตามความเป็นจริง โดยไม่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด”

นอกจากนี้ กฎระเบียบยังกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ ต้องแยกเคาน์เตอร์ขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยออกจากเคาน์เตอร์ ที่ให้บริการรับฝากถอนเงินของธนาคารพาณิชย์ โดยมีป้ายบ่งบอกหรือสัญลักษณ์ที่แสดงให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน เว้นแต่การทำธุรกรรมต่อเนื่องกับการขายหรือให้บริการผลิตภัณฑ์ เช่นทำธุรกรรมโอนเงินหรือฝากเงินหลังซื้อหลักทรัพย์ สามารถให้บริการที่เคาน์เตอร์ขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยได้ เพื่อประโยชน์ให้บริการ ณ จุดเดียว

ธปท.ได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องมีกระบวนการหลังการขาย และรับเรื่องร้องเรียน ดูแลและอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค หากพิสูจน์แล้วว่าธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ปฏิบัติตาม โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย ธนาคารพาณิชย์ต้องชดเชยตามความเหมาะสม อีกทั้งต้องรักษาข้อมูลของผู้บริโภคไว้เป็นความลับ และห้ามให้ข้อมูลผู้บริโภคแก่หน่วยงานอื่นตลอดจนบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท.เพื่อนำไปใช้เสนอขายบริการอื่น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภค

http://bit.ly/10DMxhB

อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา

no vote
ป้ายโฆษณา "โนโหวต" ของพันธมิตรฯ (ที่ลำปางก็เห็นป้ายนี้ครับ 18 มิ.ย.54)

8 มิ.ย.54 กกต. มีมติ 4:1 หลังการประชุมช่วงค่ำวันที่ 8 มิ.ย. ให้ “พรรคเพื่อฟ้าดิน” ปลดป้ายหาเสียง “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” โดยให้เหตุผลว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า อาจมีการพิจารณาเสนอให้ใบเหลืองหรือใบแดง หรืออาจถึงขั้นให้ยุบพรรคการเมืองที่จัดทำ ได้เพราะป้ายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่างชัดเจน เนื่องจากมีการระบุวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และมีการชักชวนให้โหวตโน

ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการจัดสถานที่ปิดประกาศและที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบริเวณสาธารณสถานซึ่งเป็นของรัฐ ข้อ 9. ระบุว่า กรณีพรรคการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งปิดประกาศหรือปิดแผ่นป้ายไม่ถูกต้องหรือเกินขอบเขตที่จัดไว้ให้ ให้หัวหน้าหน่วยงาน มีอำนาจสั่งพรรคการเมืองหรือผู้สมัครแล้วแต่กรณีให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในกำหนด และหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ดำเนินการรื้อถอน หรือปลดออกได้ ทั้งนี้ โดยไม่เป็นการลบล้างความผิดที่อาจเกิดขึ้นตามกฎหมาย

ขณะที่ พระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ตามมาตรา 10 ระบุว่า การโฆษณาด้วยการปิด ทิ้งหรือโปรย แผ่นประกาศหรือใบปลิวในที่สาธารณะ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้หรือไม่อนุญาตได้ และมาตรา 11 ระบุว่า หากไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้สั่งเป็นหนังสือ ปลด รื้อ ถอน ขูด ลบหรือล้างข้อความหรือภาพนั้นภายในเวลาที่กำหนด

นายสมชัย กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาแล้ว กกต.เห็นว่า กกต.กทม.ซึ่งเป็นผู้ดูแลในพื้นที่มีป้ายต้องไปดำเนินการทำหนังสือไปถึงพรรคการเมืองและผู้ว่า กทม.ในดำเนินการให้ปลดป้ายทุกขนาดออก แต่เมื่อปลดป้ายออกไปแล้วความผิดก็จะยังคงไม่ถูกลบล้างไปด้วย

พันธมิตรฯ โวย บอกยังไม่ได้คำสั่งไม่ต้องทำตาม

ด้านนายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวปราศรัยว่า กกต. มีมติ 4 ต่อ 1 ให้ปลดป้ายรณรงค์โหวตโนของพันธมิตรฯ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการจากกกต.ถึงพรรคเพื่อฟ้าดิน ฉะนั้นวันนี้ในทางปฏิบัติก็คือยังไม่มีคำสั่งใดๆจากกกต.นั่นเอง จนกว่าหนังสือและคำสั่งนั้นจะมาถึงพรรคเพื่อฟ้าดินอย่างเป็นทางการเท่านั้น เราถึงจะวินิจฉัยเหตุผลได้ว่าท่านเอาเหตุผลอะไรมาวินิจฉัย ตราบใดที่ยังไม่ได้รับก็ไม่ต้องปฏิบัติ และถ้าได้รับแล้วก็ยังมีสิทธิคัดค้าน ร้องขอต่อศาลปกครอง หรือศาลฎีกาได้ ประเด็นนี้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวไว้ก่อน อย่าวิตกกังวล อย่าเดือดร้อน

http://www.siamintelligence.com/ect-pull-down-pad-posters/