การที่ VirtualBox จะได้ IP จริง และ start httpd พร้อม Host

การที่ VirtualBox จะได้ IP จริง และ start httpd พร้อม Host
มีขั้นตอนดังนี้
1. เปิด VBox แล้วเลือกตั้งค่าให้ Guest ของผมใช้ Win8
2. เลือก เครือข่าย (Network)
เดิมกำหนดเป็น Nat เปลี่ยนเป็น แผงวงจรแบบบริดจ์ (Bridge Adapter)
ใช้ Net บ้าน มี Router แจก IP แบบ Wireless ภายในบ้าน
3. สั่ง Start : Guest
ขณะอยู่ใน Guest ใช้ DOS>ipconfig
พบ IP คือ 192.168.1.4 เป็นของ Guest
4. อยู่ใน Host ใช้ DOS> ipconfig
พบ IP คือ 192.168.1.5 เป็นของ Host
5. ทดสอบติดตั้ง xampp
[xampp-win32-7.1.7-0-VC14-installer.exe]
ทำให้ Guest เปิดบริการ Port 80
ติดตั้งเสร็จก็ Start : Apache
แล้วตรวจสอบว่าบริการที่เปิดไว้ เข้าถึงจากภายนอกได้หรือไม่
6. ตรวจใน Service ไม่พบว่า Apache
ตรวจโดยเข้า DOS>Services.msc ก็ไม่พบว่า Apache อยู่ใน Services
ใช้ DOS เข้า c:\xampp\apache\bin แล้วติดตั้งเป็น Service เอง
เข้า Windows, Command Prompt (Admin) จึงจะติดตั้ง Service ได้
DOS>httpd -k install
ใน Config มุมบนขวาของ XAMPP Control Panel มีบริการ Start Automatic
หากเลือกให้ MySQL เปิดอัตโนมัติ ก็จะ Start Automatic ได้
7. ขณะอยู่ใน Guest หรือ Host
ทดสอบการเปิดบริการ Apache ใน XAMPP
เปิด http://192.168.1.4 พบ Web Server ทั้งคู่
8. การสั่ง Start VBox ผ่าน Shell:startup
DOS>”C:\Program Files\Oracle\VirtualBox\VirtualBox.exe” –startvm mywin8
สร้างแฟ้ม .bat ในห้อง Startup
ต่อไปเวลาเปิดเครื่องก็จะสั่งให้ mywin8 ถูก Start ขึ้นมาอัตโนมัติ
และ Service Apache ก็จะถูกเรียกขึ้นมาโดยอัตโนมัติเช่นกัน

http://www.thaiall.com/handbill/openphotodir.php?folder=../os/virtualbox_win8/

http://www.thaiall.com/os/virtualbox.htm

คำสั่งเรียก guest ที่เป็น win7 บน win8

virtualbox has host and guest
virtualbox has host and guest

27 ก.ค.57 การใช้งาน virtual box เพื่อติดตั้งหลาย os
ถ้าติดตั้ง win8 เป็น host แล้วติดตั้งระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เป็น guest
ทำให้เรียกใช้ระบบปฏิบัติการอะไรก็ได้ในเครื่อง ทั้ง windows, linux หรือ mac
กรณีตัวอย่างในภาพนี้ ติดตั้ง win7 เป็น guest
ก็ใช้คำสั่งข้างล่างนี้สร้างเป็น batch file แล้วนำไปวางใน startup
“C:\Program Files\Oracle\VirtualBox\VBoxManage” startvm “win7”

ขั้นตอนการวาง batch file ใน startup บน win8
1. windows+R
2. %appdata%
3. เข้าไปที่ microsoft\windows\start menu\programs\startup
4. นำ batch file ไปวางใน startup ได้แล้ว
ทุกครั้งที่เปิดเครื่องก็จะเรียก guest ขึ้นมาทำงานทันที ไม่ต้องไปคลิ๊กอีก
เพื่อเปิด guest เป็น webserver และเปิด network เป็น bridge
คราวหน้าจะเข้า folder นี้ให้ไวขึ้นก็ทำ pin ไว้ก็ได้ครับ

เปิดบริการ webserver ผ่านเครื่อง guest ใน virtual box

virtualbox
virtualbox
การเล่าเรื่องการแชร์ guest ใน virtual box ให้เครื่องอื่นในเครือข่ายได้รู้จัก
แบ่งเป็นส่วน ๆ ดังนี้
1. ที่มา
หลายปีมาแล้ว มีเพื่อนท่านหนึ่งจากบริษัทเอกชนที่กรุงเทพ
พูดประโยคที่น่าสนใจ คือ ลง server ใน virtual box
ถ้ามีปัญหาก็ restore ที่ backup ไปทับได้เลย
ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจ เพราะผมเป็นสาวก ของ multi os แบบแยก partition
ที่ไม่ต้องแย่งทรัพยากรในเครื่องกับ host อย่างที่ virtual box เป็นอยู่
สรุปว่า ถ้าจะใช้ virtual box ต้องมีเครื่องที่แรงพอ
ถ้าเครื่องไม่แรงก็ใช้แบบแยก partition จะ work กว่า จะได้ไม่อืด
2. พบปัญหา
ผมชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ 14,500 บาท (ต่ำสุดในร้าน)
ที่มี RAM, CPU และ Harddisk มากพอ หรือมากกว่าเครื่องเดิมที่บ้าน
แล้วลง win8, win7 และ ubuntu แบบแยก partition แล้วใช้ easybcd
เป็นตัวควบคุมการ boot ใน win8
และที่ขาดไม่ได้คือ deepfreeze ที่จะลงในทุกเครื่องที่ผมใช้ (เป็นแนวของผม)
เพื่อแช่แข็ง drive C ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่อง software หรือ virus
หลังติดตั้งไปทั้ง 3 os แล้วก็ลองกันอยู่หลายรอบ
ก็พบปัญหาหนึ่งที่แก้ไม่ขาด คือ boot manager ไม่ยอมให้เลือก os ตัวอื่น
หากติด deepfreeze ที่ os ตัวแรกที่เป็น win8
และก็ต้องใช้ win8 เป็นตัวแรก เพราะตัวอื่นไม่รู้จัก win8 แต่ win8 รู้จักทุกตัว
โดยใช้งานมี motherboard เป็น ASUS H81M-D
และ Bios เป็น UEFI
สรุปว่า ถ้าติด deepfreeze จะไปเลือก os ตัวอื่นไม่ได้
เพราะระบบจะวนเข้ามาถาม os ตัวเดิมที่ติด deepfreeze
ก็จะได้คำตอบเดิมที่ถูกแช่แข็งไว้ ทุกครั้งไป
3. ติดตั้ง win7 เป็น guest
เครื่องของเราติดตั้ง win8 เป็นตัวหลัก เรียกว่า host
เมื่อติดตั้ง virtual box แล้ว
หากลง os เพิ่มใน virtual box ก็จะถูกเรียกว่า guest
มีอุปกรณ์ให้ปรับแต่งสำหรับ guest แต่ละตัวได้
เช่น display, storage, audio, network
หรือ Shared Folders ที่ขอแบ่งปัน folder
ที่อยู่ใน host มาใช้ใน guest ได้
แล้วใน guest ผมก็ได้เปิดบริการ webserver ทิ้งไว้ก่อน
ผมใช้ iis7 ที่มีมากับ win7 เป็นตัวทดสอบ
4. ปรับ network ใน settings ของ guest
สำหรับ guest ที่เป็น win7 ดังภาพ
ผมกำหนด network เป็น Bridged Adapter
ซึ่งเป็นแบบอนุญาตให้คนภายนอกเข้าถึง guest ผ่าน ip ได้
เมื่อ start win7 ขึ้นมาแล้ว จะไปร้องขอ ip address
จากใน LAN (DHCP) เมื่อได้ ip ก็จะทำให้เครื่องนอก host
สามารถเปิดดู webserver ตาม ip ของ guest
แล้วผมก็ได้เห็นคำว่า IIS7 จากเครื่องอื่น

มองไม่เห็น host ทำให้ postfix ปฏิบัติการไม่ลุล่วง

nslookup และ host not found
nslookup และ host not found

เล่าสู่กันฟัง
วันนี้เพื่อนแจ้งปัญหา
ว่า postfix บน linux server
ซึ่งให้บริการ smtp สำหรับส่งอีเมลจากระบบ web page
ไม่ทำงานตามปกติ เหมือนเช่นเคย ๆ มาหลายวันแล้ว

จึงตรวจจาก /var/log/maillog
พบว่าเครื่องบริการไม่สามารถติดต่อ relay.cat.net.th
จึงใช้ nslookup เข้าไปตรวจดู
ก็ไม่รู้จักจริง ๆ ทั้ง www.cat.net.th และ relay.cat.net.th
แต่ใน pc ใช้งานได้ปกติ
ใช้ nslookup ตรวจ www.facebook.com พบเฉยเลย

เข้าไปเปลี่ยนใน /etc/postfix/main.cf
ให้ relay ชี้ไปที่ ip แทนชื่อ host name ก็ไม่เกิดผล
และไม่น่าใช่ทางแก้ปัญหาด้วย

ลอง restart service 2 ตัวคือ named และ network
ปรากฎว่า nslookup และ postfix ทำงานได้ปกติ

แล้ว restart เครื่อง พบว่ามีปัญหาเดิม
แต่ restart service 2 ตัว อีกครั้ง ก็ใช้ nslookup ได้ปกติ
และระบบ postfix ทำงานได้ปกติ

สรุปว่า การทำงานของ service 2 ตัว
มีตัวใดตัวหนึ่งมีปัญหา แต่ผมยังไม่ได้เข้าไปแกะต่อครับ

การตรวจเครื่องบริการของเราผ่านเว็บไซต์ที่รับตรวจสอบ

29 ก.ค.53 เนื่องจาก host จำนวน 2 ตัว ไม่สามารถเข้าถึงจากภายนอกองค์กร จึงต้องมีการตรวจสอบแบบออนไลน์ หาสาเหตุว่าทำไมภายนอกไม่รู้จัก host เหมือนกับที่ภายในองค์กรรู้จัก ความเป็นไปได้คือ มีข้อกำหนดของเครื่องบริการที่บางข้อที่เป็นเหตุให้ไม่สามารถเข้าถึงจากภายนอกได้อย่างสมบูรณ์ จึงต้องใช้เครื่องมือจากหลายแหล่งช่วยตรวจ และแก้ไขไปตามอาการ

เครื่องมือตรวจบริการ website dns และ host แบบออนไลน์
1. speedtest.net ตรวจความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
2. ninjacloak.com บริการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่าน proxy website
3. zend2.com บริการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่าน proxy website
4. internet.nectec.or.th/netservices/ ตรวจการเปิด port
5. network-tools.com ตรวจผลของ nslookup และ blacklist
6. dnsstuff.com ตรวจ traceroute และตรวจการ block ping
7. my-addr.com ตรวจการเปิด port ของ host
8. robtex.com ตรวจวิเคราะห์ dns ตาม host
9. intodns.com ตรวจค่า config ของ dns