ชีวิตอยู่กระบวนการของ flip flop ที่เชื่อมโยงกัน

ชีวิตอยู่ใน flip flip
ชีวิตอยู่ใน flip flip

เห็น ฟลิปฟล็อป (flip flop) แล้วทำให้นึกถึง 3 เรื่อง
1. pager
2. โทรเลข (Telegram)
3. ความคิดเห็นของน้องชายคนหนึ่ง


นิทาน

1. น้องชายเล่าว่า เขาอยู่ในองค์กรที่พัฒนา pager
โดยเขาเป็นกลไกหนึ่งร่วมขับเคลื่อนและดำเนินการเป็นประจักษ์ช่วงนั้น
ต่อมาเขาออกจากองค์กร แล้ว pager ก็หายไปจากสังคม
ไม่มีทายาทรักษาให้ pager คงอยู่ต่อไป
2. น้องชายเล่าต่อ เขาขยับไปอยู่ในองค์กรที่บริการ โทรเลข (Telegram)
โดยเขาเป็นกลไกหนึ่งร่วมขับเคลื่อนและดำเนินการเป็นประจักษ์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันเขาเป็นเฟืองตัวหนึ่ง แต่เฟืองอื่น ๆ ฝืดไปหมด ไม่มีน้ำมัน ไม่มีเฟืองที่ลื่น
คาดว่า ถ้าเขาไม่ขับเคลื่อน ก็คาดว่า โทรเลข (Telegram) คงหายไป
เพราะเฟือนตัวอื่นก็คงไม่มาเป็นกลไกขับเคลื่อนในฐานะทายาท
3. น้องชายสรุปตอนท้ายว่า ต้อง change
เขามีฝันอื่น ๆ อีกสารพัดที่จะไปขับเคลื่อน เพื่อพัฒนาตนเองในชีวิตที่เหลืออยู่

ผมสรุปว่า ไปแปลก ทุกอย่างมีเหตุผล มีที่มา และมีที่ไป
1. pager ไม่มีใครสนใจ ทุกคนในสังคมมีของใหม่ที่ดีกว่า พร้อมใจปล่อยให้หายไป
2. telegram หายไป เพราะไม่มีใครใช้ หรือต่อยอด เมื่อปิดบริการก็สมเหตุสมผล
3. การเลือกที่จะเรียนรู้ ไม่มีการควบคุม ปัจจุบันมนุษย์มีอิสระที่จะเลือก และมีสิทธิ์ที่จะไม่เลือก


ชีวิตคนก็เหมือน flip flip มีเงื่อนไข

มี input process และ output
ถ้า input ผิด ก็เชื่อได้ว่า output จะผิด
ถ้า process ผิด ก็เชื่อได้ว่า output จะผิด
บางทีทุกอย่างถูกหมดแต่ outcome ผิด ก็มี
ก็ต้องย้อนไปดูตั้งแต่ objective ตั้งแต่ต้น