#เล่าสู่กันฟัง 62-026 อ่านเรื่อง จบการฝึกซ้อม เคลียร์พื้นที่ได้ กับทางเลือก

หัวหน้าแชร์เรื่องการให้ความสำคัญ
ต่อจิตใจของเด็กคนหนึ่งจากเหตุการณ์ร้าย
ด้วยการที่ “นักข่าวและทุกคนในเมืองนั้น
ร่วมใจไม่ลงข่าวเรื่องการปล้นธนาคาร
เพราะห่วงใยจิตใจของเด็กที่ถูกโจรจับ

แล้ววันนี้ 12 ก.พ.63
อ่านข่าวที่ผู้นำไทยไม่อนุญาต
ให้ เรือเวสเตอร์ดัม (Westerdam)
เทียบท่าที่แหลมฉบัง
ตัดสินใจเช่นเดียวกับผู้นำในดินแดนอื่น
ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น (3 ประเทศ)
ที่ไม่ให้เรือเทียบท่า
แม้ตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อบนเรือ

https://www.thansettakij.com/content/421250

กลับมาอ่านเรื่องเด็ก
ที่ถูกจับเป็นตัวประกันดีกว่า
ถ้าชวนออกทะเลไปดูหนัง
เรื่อง In The Heart of The Sea 
หรือแผ่นไม้คาร์เนียเดธ ก็ไกลไปล่ะ

จบการฝึกซ้อม เคลียร์พื้นที่ได้
เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในอเมริกา มีธนาคารแห่งหนึ่งกำลังถูกโจรปล้นธนาคาร โจรไม่ได้เงินจากธนาคารจึงจับเด็กชายวัย 5 ขวบคนหนึ่งเป็นตัวประกันและบอกกับตำรวจที่ล้อมอยู่ข้างนอก ให้หาเงินจำนวน 5 แสนดอลล่าร์ พร้อมกับรถยนต์หนึ่งคัน ไม่เช่นนั้นจะฆ่าตัวประกันนี้

เมื่อเนลสันนักจิตวิทยามาถึง เขาพยายามดึงเวลาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ประจำในจุดที่จะคุ้มครองตัวประกันทั้งหมดได้

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าโจรกำลังจะลงมือฆ่าเด็ก จึงยิงปืนใส่หัวของคนร้ายจนล้มลงไปกองกับพื้น เด็กชายล้มลงไปพร้อมกับเลือดของคนร้ายที่สาดกระเด็นมาเปื้อนใบหน้าและเสื้อผ้า เสียงร้องไห้จ้าด้วยความหวาดกลัวสุดขีดของเด็กน้อยดังขึ้น พร้อมกับช่วงที่เนลสันวิ่งเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจพอดี

ในช่วงชุลมุนของนักข่าว ที่ต่างพากันถือทั้งกล้องและไมค์ กรูเข้ามาทำข่าวและถ่ายภาพ จู่ๆ เนลสันก็ตะโกนขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า

จบการฝึกซ้อม ทุกคนช่วยกันเคลียร์พื้นที่!

ทุกคนในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง ในสิ่งที่เนลสันตะโกนออกมา รวมทั้งเด็กน้อยวัย 5 ขวบก็หยุดร้องไห้และมองไปที่ใบหน้าของเนลสันอย่างฉงน
“แม่ครับ เขาฝึกซ้อมกันเหรอครับ?”
เด็กน้อยถามออกไป
“ใช่จ้าลูก!”
แม่ของเขาพยักหน้าตอบทั้งน้ำตา
ตำรวจหลายคนเดินเข้ามาชื่นชมเด็ก
“เจ้าหนู นายเก่งมาก นายแสดงได้ดีมากๆ!” พร้อมกับพากันยกนิ้วให้

วันต่อมา ไม่มีหนังสือพิมพ์ฉบับใดลงข่าวโจรปล้นธนาคารเมื่อวานเลยแม้แต่ฉบับเดียว ต่างก็พากันปกป้องความรู้สึกของเด็กน้อย ไม่ให้มีความหวาดผวาในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

หลายสิบปีผ่านไป ชายวัยทำงานคนหนึ่ง เดินทางมาขอพบเนลสัน และเอ่ยถึงเหตุการณ์โจรปล้นธนาคาร เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว เขาถามเนลสันด้วยความสงสัยว่า ทำไมถึงตะโกนประโยคนั้นออกมา

“ตอนที่ผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ผมคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ คงฝังใจให้เด็กน้อยคนนี้ผวาและหวาดกลัวจนไม่อาจมีความมั่นใจในชีวิตได้อีกต่อไป และเมื่อผมวิ่งเข้าไปใกล้เด็กน้อยคนนั้น พระผู้เป็นเจ้าก็ให้สติกับผม และให้ผมพูดคำว่า “จบการฝึกซ้อมทุกคนช่วยกันเคลียร์พื้นที่!”

เมื่อเนลสันพูดจบ ชายคนนั้นก็เข้ามากอดเนลสัน ซึ่งก็แก่ชรามากแล้ว “ผมถูกหลอกมา 30 ปี แม่เพิ่งบอกความจริงให้ผมทราบเมื่อไม่นานมานี้ ขอบพระคุณมากๆครับคุณลุงเนลสัน ขอบคุณที่ทำให้ผมมีชีวิตเป็นปกติเหมือนคนทั่วๆไป” เขาร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้งใจ

“คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก หากจะขอบคุณ ก็จงขอบคุณนักข่าวและทุกคนในเมืองนั้นที่ช่วยกันโกหกคุณ”
…………………..

หากเราเห็นแก่คุณธรรม
ผลประโยชน์ย่อมเบาบาง
หากเราเห็นแก่ผลประโยชน์
คุณธรรมย่อมเสื่อมสูญ

Cr. ข้อความจากกลุ่มไลน์

https://www.voathai.com/a/holland-american-cruise-ship-heading-to-thailand/5281924.html

การมองไกล และกว้าง เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพัฒนา

เห็นเกมเมอร์ จะมองอะไรออกได้อย่างรวดเร็ว
ตรงไหนมีทรัพยากรต้องไปเก็บ ตรงไหนมีศัตรูที่ต้องหลีกเลี่ยง
ข้างหน้ามีอะไรที่ต้องจัดการ ข้างหลังมีที่ต้องกลับไปเติมเลือด
พัฒนาตลอดเวลาและสม่ำเสมอจนชำนาญ
อยากรู้ว่า เกมเมอร์คิดว่าตนเองพัฒนา
ทักษะมองไกลและกว้างไปถึงไหนแล้ว
จึงถามใน 2 กลุ่ม คือ
1. rov thailand ( พูดคุย / หาทีม / ลงแข่ง ) by gamer – private
2. RoV : Garena Thailand

ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง
ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง

ด้วยคำถามว่า

เล่นเกมนี่ ต้องมองรอบด้าน รู้รอบตัว
น้องเค้าว่า มีทั้งป่า เลน เป้าหมาย เลือด และทีม
ต้องมองลึก รู้ทัน ปรับตัว ใช้ข้อมูล และตัดสินใจ
เกมน่าจะ “ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง
ไม่งั้นก็คงเลือดหมด ต้องมองอนาคตตลอดว่าเลือดจะหมดล่ะ
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องเก็บเงินเก็บทองให้มากไว้ มีให้เก็บเยอะ
เพื่อน ๆ ได้รับการพัฒนาไปถึงระดับใดกันบ้าง รึเปล่า

RoV : Garena Thailand ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง ณ 4 มกราคม 2561
RoV : Garena Thailand
ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง
ณ 4 มกราคม 2561

RoV Thailand ( พูดคุย / หาทีม / ลงแข่ง ) by GAMER – Private ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง ณ 4 มกราคม 2561
RoV Thailand ( พูดคุย / หาทีม / ลงแข่ง ) by GAMER – Private
ทำให้พัฒนาทักษะการมองไกลและกว้าง
ณ 4 มกราคม 2561

 

ขอซื้อซาลาเปาครับ

ซาลาเปา
ซาลาเปา

ผมชอบเรื่องซาลาเปา

ชี้ชัดเรื่องการเครารพตนเอง กับการเครารผู้อื่น
แต่ชีวิตจริงมีปัจจัยประกอบการตัดสินใจเยอะครับ

เหตุ .. ในมุมของนายจ้าง
เรื่องนี้สะท้อนว่า “ลูกค้าต้องมาก่อน”
ถ้าพนักงานทำตัวไม่ดีต่อลูกค้าสักคน
ต้องถูกไล่ออก เชือดไก่ให้ลิงดู
และก็เลือกหาพนักงานที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม
ที่สำคัญ จ้างถูกกว่าคนเก่า

ผล .. ในมุมของลูกจ้าง
“โห เถ้าแก่
ผมรักและห่วงภาพพจน์ร้านมาก
ทำไป เพราะกลัวลูกค้ารู้สึกระคาย
ทั้ง คุณหนู คุณนาย ในร้านก็เยอะ
.. นี่เถ้าแก่ไล่ผม ที่ทำงานมา 10 ปี
และเป็นลูกจ้างที่เป็น GM ออกเลยเหรอ

นี่ผมทำผิดครั้งเดียวเองนะ
ทำเงี้ย ผมเปิดร้านแข่งเลยนะ”

การให้พนักงาน ออกสักคน
เถ้าแก่น่าจะคิดเยอะ ๆ หน่อย ตามหนังสือ โศกนาฏกรรมองค์กรหลงทิศ
http://www.thaiall.com/blogacla/admin/1490/

มีอารมณ์ ใช้อารมณ์ เสียเพราะอารมณ์ หลังถูกถ่ายคลิ๊ป

major cineplex
major cineplex

เรื่อง ผู้จัดการโรงหนัง Major Cineplex พระราม 3 ทะเลาะกับลูกค้า

หรือ

เรื่อง กรมศุลฯ ซี7 ตบบ้องหูเจ้าหน้าที่สุวรรณภูมิ

ต่างก็เป็นเรื่องของการใช้อารมณ์ทั้งคู่ ผมว่าปัจจุบันมีการใช้อารมณ์เกิดขึ้นมากมาย แต่ที่มาเป็นข่าวก็มักจะเป็นเรื่องที่มีคนถ่าย clip  แล้ว upload ก็จะมีคนดูมากมายเหมือนไทยมุง แล้วก็แชร์ให้มุงกันต่อ ๆ ไป สรุปว่า มีคนมีอารมณ์ มีคนใช้อารมณ์ และเสียเพราะอารมณ์ แล้วถูกบันทึกไว้ และเผยแพร่สู่สาธารณะ

แล้วนึกไปถึงหญิงเหล็กที่เป็นนักการเมืองอังกฤษ หลังเสียชีวิตก็มีคนกลุ่มหนึ่งชื่นชม แต่กลับถูกกลุ่มผู้ใช้แรงงานออกมาแสดงความยินดีกับการเสียชีวิต เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง และยังไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ในไทย เพราะคนไทยเคยชินกับคำว่าอโหสิกรรม แต่หญิงเหล็กตั้งใจทำงานโดยเลือกข้างทุนนิยม ดังนั้นกลุ่มผู้ใช้แรงงานจึงเก็บกดความไม่พอใจมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ .. เรื่องนี้เป็นบทเรียนสำหรับนักการเมืองไทยนะครับ ในการบริหารความพึงพอใจของนายจ้างกับลูกจ้างให้ไปด้วยกันให้ได้ แต่ปัจจุบันรู้สึกลูกจ้างจะพอใจฝ่ายเดียว นายจ้างหน้างอกันเป็นแถว

เรื่องการควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับปุถุชน อย่างเช่น นายก. ตีลูกตอนที่อารมณ์เสีย แล้วมีใครถ่ายคลิ๊ปตอนทำหน้ายักษ์ ถ้าถูกเผยแพร่ก็จะเป็นเรื่องใหญ่โต ตอนพระทะเลาะกับศรัทธาที่ปากจัดก็อาจถูกจับสึกได้

ตอนลูกน้องใช้อารมณ์วิพากษ์การตัดสินใจของเจ้านายในวงเหล้าเพลิน
แล้วมีเพื่อนในวงถ่ายคลิ๊ปไว้ .. แล้วเจ้านายเห็นก็อาจเป็นเหตุให้ถูกไล่ออก

ที่แน่ ๆ มีข่าวว่าลูกน้องไปโพสต์ด่าเจ้านายในเฟสบุ๊ค แล้วถูกไล่ออกก็มีมาแล้ว หรือครูหนุ่มชมว่านักศึกษาสาวน่ารักและเซ็กซี่ คุณครูโดนไล่ออกก็มีมาแล้ว ล้วนเป็นเหตุจากอารมณ์ทั้งสิ้น จะอารมณ์รัก หรืออารมณ์โกรธ ก็ล้วนแต่มีปัญหาทั้งนั้น

.. อย่าลืมว่า smart phone สมัยนี้ถ่ายคลิ๊ปได้ และ ทุกคนที่เราไว้ใจ
พร้อมจะ upload
เข้าเครือข่ายสังคม .. โปรดระวัง ..

2 rules of Philip Kotler
Rule 1 :
The customer is always right.
Rule 2 :
If the customer is wrong, go back to rule 1.
http://books.google.co.th/books?id=5GigjssNBBwC&printsec=frontcover

ชีวิตอยู่กระบวนการของ flip flop ที่เชื่อมโยงกัน

ชีวิตอยู่ใน flip flip
ชีวิตอยู่ใน flip flip

เห็น ฟลิปฟล็อป (flip flop) แล้วทำให้นึกถึง 3 เรื่อง
1. pager
2. โทรเลข (Telegram)
3. ความคิดเห็นของน้องชายคนหนึ่ง


นิทาน

1. น้องชายเล่าว่า เขาอยู่ในองค์กรที่พัฒนา pager
โดยเขาเป็นกลไกหนึ่งร่วมขับเคลื่อนและดำเนินการเป็นประจักษ์ช่วงนั้น
ต่อมาเขาออกจากองค์กร แล้ว pager ก็หายไปจากสังคม
ไม่มีทายาทรักษาให้ pager คงอยู่ต่อไป
2. น้องชายเล่าต่อ เขาขยับไปอยู่ในองค์กรที่บริการ โทรเลข (Telegram)
โดยเขาเป็นกลไกหนึ่งร่วมขับเคลื่อนและดำเนินการเป็นประจักษ์ในปัจจุบัน
ปัจจุบันเขาเป็นเฟืองตัวหนึ่ง แต่เฟืองอื่น ๆ ฝืดไปหมด ไม่มีน้ำมัน ไม่มีเฟืองที่ลื่น
คาดว่า ถ้าเขาไม่ขับเคลื่อน ก็คาดว่า โทรเลข (Telegram) คงหายไป
เพราะเฟือนตัวอื่นก็คงไม่มาเป็นกลไกขับเคลื่อนในฐานะทายาท
3. น้องชายสรุปตอนท้ายว่า ต้อง change
เขามีฝันอื่น ๆ อีกสารพัดที่จะไปขับเคลื่อน เพื่อพัฒนาตนเองในชีวิตที่เหลืออยู่

ผมสรุปว่า ไปแปลก ทุกอย่างมีเหตุผล มีที่มา และมีที่ไป
1. pager ไม่มีใครสนใจ ทุกคนในสังคมมีของใหม่ที่ดีกว่า พร้อมใจปล่อยให้หายไป
2. telegram หายไป เพราะไม่มีใครใช้ หรือต่อยอด เมื่อปิดบริการก็สมเหตุสมผล
3. การเลือกที่จะเรียนรู้ ไม่มีการควบคุม ปัจจุบันมนุษย์มีอิสระที่จะเลือก และมีสิทธิ์ที่จะไม่เลือก


ชีวิตคนก็เหมือน flip flip มีเงื่อนไข

มี input process และ output
ถ้า input ผิด ก็เชื่อได้ว่า output จะผิด
ถ้า process ผิด ก็เชื่อได้ว่า output จะผิด
บางทีทุกอย่างถูกหมดแต่ outcome ผิด ก็มี
ก็ต้องย้อนไปดูตั้งแต่ objective ตั้งแต่ต้น

กราฟเพื่อช่วยในการตัดสินใจ

จำนวนนักศึกษา
จำนวนนักศึกษา

สถิติที่แสดงการเปรียบเทียบประเด็นที่อยู่ในความสนใจ ด้วยกราฟที่เหมาะสม สามารถนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ หรือบริหารจัดการ ที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการปฏิบัติงานได้ตามวิสัยทัศน์ หรือนโยบาย ของผู้บริหารองค์กรได้ โดยกำหนดเป็นแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ ที่มีตัวบ่งชี้ และเป้าหมายของตัวบ่งชี้ที่ชัดเจน ซึ่งผ่านการวิเคราะห์ SWOT ที่เชื่อมโยงกับการจัดการความเสี่ยง การใช้สารสนเทศเพื่อการจัดการ และการจัดการความรู้

http://www.info.mua.go.th/information/

โปรแกรมวิเคราะห์ SWOT ช่วยวาด SWOT Graph

โปรแกรมวิเคราะห์ swot

18 มี.ค.53 การวิเคราะห์สถานการณ์ประกอบด้วยจุดแข็งจุดอ่อนโอกาสและภัยคุกคาม (SWOT = Strength, Weakness, Opportunity และ Threat) คือ การสำรวจตรวจ สอบสภาพภายในองค์การและสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผน เพื่อให้แผนนั้นได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่และแก้ปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ โดยอาศัยทั้งปัจจัยจากภายในและภายนอกมาเป็นฐานคิดสำหรับกำหนดแผนงานโครงการ
     เป้าประสงค์ (GOAL) ขององค์กร คือ การกำหนด วิสัยทัศน์ และพันธกิจขององค์กรที่ชัดเจน แล้วจึงวางแผนกลยุทธ์ระยะยาว และวางแผนปฏิบัติการรายปีที่ประกอบด้วยกิจกรรม/โครงการที่ชัดเจน ซึ่งการวางแผนกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผลควรมาจากการวิเคราะห์สวอต สำหรับลำดับการเขียนแผนกลยุทธ์ ประกอบด้วย 1) เป้าประสงค์ (GOAL) 2) วิเคราะห์สวอท (SWOT Analysis) 3) เลือกกลยุทธ์และตัวชี้วัด (Select Strategy & KPI)  4) เขียนแผนปฏิบัติการ (Action Plan with PI) 5) วงจรเดมมิ่ง (PDCA with CQI = Continuous Quality Improvement)
     โปรแกรมวิเคราะห์ SWOT ออนไลน์ ช่วยนำ จุดแข็ง (Strength)  จุดอ่อน (Weakness)  โอกาส (Opportunities) และ ภัยคุกคาม (Threat)  ที่มีการกำหนดน้ำหนัก และคะแนนร่วมกันในองค์การแล้ว นำค่าที่ได้มาวาดเป็นกราฟแบบ Strategic Map พร้อมกับการเปรียบเทียบ SO, ST, WO และ WT ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาเลือกให้ความสำคัญกับประเด็นที่ได้ และออกแบบแผนงานโครงการที่จะนำมาแก้ปัญหา หรือเสริมจุดแข็งที่มีอยู่อย่างสมเหตุสมผล 
     โปรแกรมนี้พัฒนาขึ้นจากการที่ อ.ศศิวิมล นำผมไปรับการอบรมกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์วุฒิชัย ธนาพงศธร แล้วกลับมาเขียนที่มหาวิทยาลัยร่วมกับเพื่อนในคณะจนพอเข้าใจเรื่องการเขียน SWOT เบื้องต้น และ อ.ภาณี สอบถามถึงโปรแกรมที่จะนำมาใช้ ทำให้ผมมีโอกาสพัฒนาโปรแกรมที่ใช้ภาษา PHP + PHP Graphic จนได้ SWOT graph

+ http://www.thaiall.com/swot
+ http://www.thaiall.com/mis/mis10.htm
+ http://www.champa.kku.ac.th/QA/doc/shair/swot/swot.pdf
+ http://marketingteacher.com/Lessons/lesson_swot.htm
+ http://www.pnru.ac.th/upload-files/pictures/93/6_1053.pdf
+ http://www.opdc.go.th/oldweb/thai/E_Newsletter/july48/

ลุแก่อำนาจ ภาคต่อ

29 ม.ค.53 ที่มา คือ ผมไปเซ็นชื่อรับเงินรัฐบาลที่สนับสนุนผู้ปกครองที่โรงเรียนของลูก ไปก่อนเคารพธงชาติ ไปเซ็นชื่อเสร็จก็เดินลงมา ผมขึ้นตึกเห็นทุกคนถอดรองเท้า ก็ถอดตาม ตอนลงมาผมก็ถอด แต่ระหว่างลงบรรได มีเสียงว่า “เธอสวมรองเท้าขึ้นมาได้อย่างไร อยู่ห้องไหน ครูชื่ออะไร” เป็นน้ำเสียงของคุณครูพูดกับนักเรียนอย่างแท้จริง ก็ไม่น่าแปลกอะไรที่ครูจะให้คำแนะนำแก่ศิษย์
     ช้าก่อนเรื่องยังไม่จบ สิ่งที่ผมเหลือบไปเห็นแล้วก็ต้องตกใจ คือ ครูทั้ง 2 ท่านที่ถามเด็กกลางบรรได โดยมีผมเดินอยู่ข้างหลัง ทีแรกว่าจะแซงไปแล้ว เพราะท่านชะลอความเร็ว และมีคนเดินขึ้นลงขวักไขว่ สิ่งที่สังเกตเห็นคือ ครูทั้งสองท่านสวมรองเท้าเดินลงตึก ในใจก็คิดทันทีว่าผมเจอกับแม่ปูอีกแล้ว ก็ไม่ทราบว่าคุณครูท่านขึ้นตึกได้ถอดแล้วหิ้วขึ้นไปหรือไม่ ก็แปลกว่าทำไมต้องให้ศิษย์ถอดรองเท้า แล้วตนเองสวมรองเท้า ถ้าในตึกมี 30 ห้องเรียนก็จะมีครู 30 คนเดินสวมรองเท้าขึ้นตึก ข้อสงสัยคือ ทำไมนักเรียนไม่มีสิทธิสวมรองเท้าขึ้นตึก เด็กบางคนแบกสัมภาระตั้งเยอะ ยังต้องก้ม ๆ เงย ๆ หิ้วรองเท้าเป็นอีกหนึ่งภาระขึ้นอาคารชั้นสาม แต่แม่ปูไม่ต้องกระทำ
     ประเด็น คือ ทำไมครูไม่พูดกับลูกศิษย์อย่างเอื้ออาทรอย่างกัลยาณมิตร มีสิทธิใดใช้อำนาจเจืออารมณ์ เป็นสิ่งที่ผมเห็นอย่างคนนอก แล้วขัดใจในความไม่สมเหตุสมผล เพราะมนุษย์เราน่าจะมีสิทธิโดยเท่าเทียมกัน และลูกศิษย์ก็คือผู้มีอุปการะคุณ ที่ทำให้คุณครูมีข้าวมีน้ำกินทุกวัน ผมก็เป็นครูยังอยากจะแสดงความเคารพลูกศิษย์เช้าเย็น เพราะพวกเขาทำให้คุณครูมีอยู่มีกิน .. สำหรับตัวผมจะคิดว่าลูกศิษย์ทุกคนคือลูกศิษย์ที่มีพระคุณเสมอ แต่ถ้าลูกศิษย์จะเคารพครูก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผลอย่างชื่นชม มิใช่ไหว้คุณครูเพราะเกรงกลัวหรือทำไปเพราะหน้าที่

Smart Education Sim หรือ AIS Smart Solution

13 ม.ค.53 ที่มหาวิทยาลัยโดย งานทะเบียน และ งานประชาสัมพันธ์ ร่วมให้บริการ Smart Education Sim หรือ AIS Smart Solution หรือ YONOK Sim แก่นักศึกษา คือ บริการส่งข้อมูลข่าวสารจากมหาวิทยาลัยถึงนักศึกษาฟรี สำหรับนักศึกษาที่ใช้โทรศัพท์มือถือระบบ AIS GSM และ AIS One-2-Call เท่านั้น นักศึกษาที่สนใจสามารถเข้าไปสมัครด้วยตนเองที่ http://www.yonok.ac.th/sim หรือสมัครผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยส่ง sms พิมพ์ yonok,รหัสนักศึกษา,ปีพ.ศ.เกิด (2หลัก) เดือนเกิด(2หลัก) วันเกิด (2หลัก) เช่น yonok,5010000001,321019 ส่งมาที่เบอร์ 9010112 แล้วนักศึกษาจะได้รับข้อความตอบกลับว่า “การลงทะเบียนเสร็จสิ้น ท่านได้เป็นสมาชิกของระบบเรียบร้อยแล้ว” เป็นอันว่าการสมัครเสร็จสมบูรณ์ บริการนี้เป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยโยนก กับบริษัท AIS ซึ่งพัฒนาระบบโดยบริษัท G-Able เป็นอีกช่องทางที่ใช้เทคโนโลยีช่วยในการสื่อสารจากมหาวิทยาลัยถึงนักศึกษาอีกวิธีหนึ่ง ซึ่ง อาจารย์ คณะวิชา หรือหน่วยงาน สามารถใช้เป็นช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
+ http://www.thaiall.com/mis/mis08.htm