ยอดเว็บไซต์ หมวดการศึกษา ปี ค.ศ. 2003

เว็บไซต์ก็เปรียบเสมือน
บ้าน โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย
บริษัท และ หน่วยงานราชการ
แบ่งเป็นห้อง เป็นชั้น ไว้มากมาย
.
เพื่อนที่อยู่ในแวดวงการศึกษา
ทั้ง ผู้สร้าง และ ผู้สืบค้น
ย่อมคุ้นชิน กับ เว็บไซต์
ที่จัดว่าเป็น เทคโนโลยีทางการศึกษา
.
กิจวัตรของ.ทุกคน คือ เข้าถึงเว็บไซต์
ตามหมวดที่ตนเอง สนใจอยู่เป็นประจำ
.
ตามที่ประเทศไทยมีการรวบรวม
ข้อมูลเว็บไซต์ผ่านบริการ
ของ ศูนย์รวมสถิติเว็บไทย
สารบัญเว็บไทย truehits.net
ที่จำแนกข้อมูลออกเป็นหลายหมวด
.
สำหรับ หมวด .การศึกษา
มีการเสนอเว็บไซต์ 20 อันดับแรก
ที่ได้รับความนิยม
เป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า
เว็บไซต์ใดที่มีเนื้อหา
ถูกใจคนไทยมากที่สุด
.
ตามข้อมูลในปี ค.ศ. 2003
พบว่า
อันดับแรก คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
อันดับที่สอง คือ  เอ็ดดูโซน
อันดับที่สาม คือ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
อันดับที่สี่ คือ เน็ตดีไซน์
.
ซึ่งในหมวดการศึกษา
มีจำนวนเว็บไซต์สูงสุด
.
จึงแสดงให้เห็นว่าสมัยนั้น
เว็บไซต์ด้านการศึกษา
เป็น อีกสื่อที่สำคัญ
เพื่อใช้ในการสื่อสาร
.
เมื่อมองย้อนกลับ
ไปในอดีตแล้ว
เราทุกคนมีเรื่องราว
ที่ชวนให้คิดถึงเสมอครับ

#tiktokuni
#website
#homepage
#education
#school
#university
#ranking
#information

https://vt.tiktok.com/ZSFxqUqxV/

https://web.archive.org/web/20041010044640fw_/http://truehits.net/index_index.php

https://web.archive.org/web/20040929025128/http://truehits.net:80/

คณะวิชาที่มีผู้สมัครมากที่สุด

พบว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ปล่อยข้อมูลการสมัครเรียน
เพื่อเข้าเรียนในปีการศึกษา 2566
ในเพจ “ทีมมช by AutoBot” เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566
@Teammorchor
https://www.reg.cmu.ac.th/webreg/th/

เมื่อจำแนกตามคณะวิชาที่มีผู้สมัครมากที่สุด
โดยเรียงจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 1) คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาพยาบาลศาสตร์ 2034 คน 2) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ 1474 คน 3) คณะทันตแพทยศาสตร์ 1105 คน 4) คณะการสื่อสารมวลชน สาขาการสื่อสารมวลชน 1096 คน 5) คณะแพทยศาสตร์ 977 คน 6) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขากายภาพบำบัด 948 คน 7) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 947 คน 8) คณะสัตวแพทยศาสตร์ 901 คน 9) คณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชีและบริหารธุรกิจ สายศิลป์ 875 คน 10) คณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชีและบริหารธุรกิจ สายวิทย์ 841 คน 11) คณะเภสัชศาสตร์ 816 คน 12) คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา, จุลชีววิทยา, สัตววิทยา 771 คน 13) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 556 คน 14) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว 547 คน 15) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา 528 คน

ผู้สมัครมากที่สุด

เมื่อจำแนกตามคณะวิชาที่มีการแข่งขันสูงสุด
โดยเรียงจากมากไปน้อยได้ดังนี้ 1) คณะสัตวแพทยศาสตร์ 1:22.53 2) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขากายภาพบำบัด 1:21.7 3) คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาพยาบาลศาสตร์ 1:19.37 4) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาจิตวิทยา 1:19.21 5) คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ 1:18.53 6) คณะทันตแพทยศาสตร์ 1:18.42 7) วิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี สาขาแอนนิเมชัน และวิชวลเอฟเฟกต์ สองภาษา 1:18 8) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษา 1:17.67 9) คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการเมืองและการปกครอง 1:17.53 10) คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ 1:17 11) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษา 1:16.67 12) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาไทย 1:16.37 13) คณะศึกษาศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษ 1:15.77 14) คณะมนุษยศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว 1:15.63 15) คณะเทคนิคการแพทย์ สาขาเทคนิคการแพทย์ 1:14.73

การแข่งขันสูงสุด
การแข่งขันสูงสุด

กำหนดการ
 2 พ.ค.2566 : ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก (ผ่านระบบ มช.)
 4 พ.ค.2566 : ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก (ผ่านระบบ TCAS)
 4-5 พ.ค.2566 : ยืนยันสิทธิ์ (ผ่านระบบ TCAS)
 6 พ.ค.2566 : สละสิทธิ์ (ผ่านระบบ TCAS)
 9 พ.ค.2566 : ประกาศรายชื่อผู้ยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษา (ผ่านระบบ มช.)
 7-13 พ.ค.2566 : รับสมัคร TCAS รอบที่ 3 (ผ่านระบบ TCAS)

https://thaiall.com/topstory/quota_cmu_17_prov_2560.php

https://www.thaiall.com/ethics/ethics_nurse.htm

ผลการจัดอันดับ 2021-2022 ของ THE

Mahidol University

พบว่า Times Higher Education ได้ออกผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 เข้าไปดูผลการประเมินแต่ละรายการ ได้พบข้อมูลปี 2022 Rank ดังนี้

601–800 Mae Fah Luang University : Thailand
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/mae-fah-luang-university

  • Teaching : 15.0
  • Research : 12.0
  • Citations : 63.3
  • Industry Income : 36.0
  • International Outlook : 53.0

601–800 Mahidol University : Thailand
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/mahidol-university

  • Teaching : 33.5
  • Research : 22.4
  • Citations : 42.8
  • Industry Income : 76.2
  • International Outlook : 46.1

Times Higher Education World University Rankings ของประเทศสเปน ได้ออกรายงานเป็นประจำทุกปี โดยคุณภาพของมหาวิทยาลัยไม่ได้มีเฉพาะพันธกิจ 4 ด้านของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย (การผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม) ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาอันดับมหาวิทยาลัยแบ่งได้ 5 กลุ่มตัวบ่งชี้ ดังนี้

  1. Teaching (the learning environment – 30%) คือ คุณภาพการสอน สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ของผู้เรียน
  2. Research (volume, income and reputation – 30%) คือ คุณภาพงานวิจัย ปริมาณ รายได้ และชื่อเสียงของงานวิจัย
  3. Citations (research influence – 30%) คือ การอ้างอิงในงานวิจัย การนำงานวิจัยของสถาบันไปใช้อ้างอิง
  4. International outlook (staff, students and research – 7.5%) คือ ความเป็นนานาชาติจากสายตาภายนอก เจ้าหน้าที่ นักศึกษาและงานวิจัยนานาชาติ
  5. Industry income (knowledge transfer – 2.5%) คือ รายได้ทางอุตสาหกรรม นวัตกรรมที่เป็นสิ่งใหม่ในวงวิชาการที่มหาวิทยาลัยได้คิดค้นขึ้น

https://www.thaiall.com/topstory/timeshighereducation_2021_2022.php

สุดยอดโปรแกรมสำนักงานฟรี (The Best Free Office Software)

buy notebook from SiamTV
buy notebook from SiamTV

การเขียนรายงานสักฉบับหนึ่ง หรือนำเสนองานหน้าชั้นสักเรื่อง
สมัยนี้ต้องใช้โปรแกรมสำนักงาน (Office Suite)
หลังจากมีผู้คนใช้งานกไปแล้วระยะหนึ่ง
ก็พบว่า Mark Wycislik-Wilson ได้ Review
แล้วเขียนเรื่อง “สุดยอดโปรแกรมสำนักงานฟรี
http://www.techradar.com/news/the-best-free-office-software
โดยมีทั้งหมด 5 โปรแกรม เรียงจาก Best ที่สุด ดังนี้
1) WPS Office Free
2) LibreOffice
3) Apache OpenOffice
4) SoftMaker FreeOffice
5) SSuite Office Premium HD+
ผมไม่ได้ทำลิงค์ดาวน์โหลดไว้ แต่เข้า techradar.com ตามลิงค์ด้านบน เค้าก็ลิงค์ไปให้แล้ว
ส่วน Best ในใจผม ยกให้ LibreOffice เพราะเคยซื้อ Notebook มา
แล้ว “ไอทีคลินิก (IT Clinic)” ของสยามทีวี เค้าลงตัวนี้ให้ฟรี ซึ่งมั่นใจว่าเค้าเลือกมาอย่างดีแล้ว

หากถามว่าโปรแกรม Office Suite ในโลกเรา มีอะไรบ้าง
ไปพบใน Wikipedia.org
ที่ https://en.m.wikipedia.org/wiki/Comparison_of_office_suites
เค้าเปรียบเทียบแต่ละโปรแกรม 12 หัวข้อ แบ่งได้ดังนี้
1) Software Name
2) Developer
3) First public release
4) Predecessor (แหล่งที่มา)
5) Latest Stable version / (Date)
6) Operating system
7) Price in USD
8) License
9) Microsoft Office (.doc, .xls) support
10) Microsoft Office Open XML support
11) OpenDocument support
12) Portable Document Format support
แล้วแต่ละโปรแกรมสำนักงาน ทำงานบนระบบปฏิบัติการใดได้บ้าง
ก็มีแบ่งไว้ 5 ระบบปฏิบัติการ
1) Windows 2) macOS 3) GNU/Linux 4) BSD 5) Unix
องค์ประกอบของโปรแกรมที่โปรแกรมสำนักงานแต่ละค่ายมี ก็เทียบไว้ว่าใครมีชื่ออะไรกันบ้าง
ดังนี้
1) Word processor
2) Spreadsheet
3) Presentation program
4) Notetaking software
5) Diagramming software
6) Raster graphics editor (Bitmap)
7) Vector graphics editor
8) Image viewer
9) Formula editor
10) Database management system
11) Project management software
12) Desktop publishing software
โปรแกรมสำนักงาน (Office suite) ในปัจจุบันได้นำมาเปรียบเทียบไว้มี 27 โปรแกรม
หากโปรแกรมใด Free จะมีเครื่องหมาย * (12 โปรแกรม) ต่อท้ายชื่อโปรแกรมไว้ และทั้งหมดมีดังนี้
1) Ability Office
2) Apache OpenOffice*
3) Breadbox Office
4) Calligra Suite*
5) Feng Office Community Edition*
6) Gobe Productive
7) Google Apps (GoogleDocs)*
8) IBM Lotus Symphony*
9) iWork
10) LibreOffice*
11) Lotus SmartSuite
12) MarinerPak
13) Microsoft Office
14) Microsoft Works (Discontinued in 2009)
15) MobiSystems OfficeSuite
16) NeoOffice
17) OnlyOffice*
18) SoftMaker Office*
19) SSuite Office Premium HD+*
20) StarOffice
21) TeXmacs*
22) TeamLab
23) ThinkFree Office
24) Tiki Wiki CMS Groupware*
25) WordPerfect Office
26) WPS Office (Kingsoft Office)*
27) Zoho Office Suite

office suite comparison
office suite comparison

keyword ยอดนิยม บันทึกโดย truehits.net พบคำว่า บอล

ball top keywords
ball top keywords

คำว่า ฟุตบอล เกี่ยวข้องกับคนไทย และชาวโลกเยอะ
เห็นข่าวเป็นประจำ
มีโอกาสเข้าไปดูสถิติ (Statistics) ที่บันทึกโดย truehits.net
ในส่วนของคำสำคัญ (Keywords)
ที่แสดงไว้ 7 วันย้อนหลัง แต่ละวันแสดงไว้ 30 คำ
พบคำว่า บอล เยอะที่สุด
สะท้อนว่าคนไทยสนใจเรื่องอะไร แล้วก็ค้นหาด้วย keyword
จากข้อมูลวันที่ 1 ก.พ.2560 พบว่า ระบบบันทึกจำนวนการค้นหา
ไว้ทั้งหมด 20,070,567 ครั้ง
แล้วมีคำสำคัญที่ใช้ค้นหามากถึง 276,694 คำ
ซึ่ง truehits.net นับและจัดอันดับคำสำคัญ
นำสรุปแบบจัดเรียงแบบ Descending
บางวัน top keyword มีใช้มากกว่า 38,000 ครั้ง

นักฟุตบอลกำลังวิ่งไล่ แย่งบอลกัน
นักฟุตบอลกำลังวิ่งไล่ แย่งบอลกัน

[ผล keyword 2017-01-29]
1. บ้านผลบอล 35867
2. ผลบอลสด 22867
3. บอลวันนี้ 12346
4. ผลบอล 12108
5. ตารางบอล 11156
http://directory.truehits.net/keyword.php

Truehits.net มีการแสดงเส้นแนวโน้ม
การค้นด้วย keyword แต่ละเว็บไซต์
ว่าเข้าเว็บไซต์มาด้วย keyword ใด เป็นจำนวนมาก
http://truehits.net/trend/hot.php?p=1

ปี 2559 และ 2558 ผลสอบแอดมิชชั่น 6 อันดับแรกเลือกสายสังคมศาสตร์ทั้งหมด

นั่งดูข้อมูลเด็ก ๆ ทั้ง 12 คน พบว่า
ปี 2559 จุฬา 4 ธรรมศาสตร์ 2 ปี 2558 จุฬา 4 ธรรมศาสตร์ 1 เชียงใหม่ 1
แสดงว่า เด็กในประเทศไทยที่เก่งเลือกเรียนจุฬากับธรรมศาสตร์เป็นส่วนใหญ่
เด็กทั้ง 12 คน เป็นเด็กต่างจังหวัด 6 คน กรุงเทพฯ 6 คน
แสดงว่า เด็กเก่งทั้ง 76 จังหวัดมีจำนวนเท่ากับเด็กเก่งที่กรุงเทพฯ จังหวัดเดียว
เด็กทั้ง 12 คน มาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 3 คน ปรินส์ 2 คน สาธิตปทุมวัน 2
แสดงว่า โรงเรียนที่มีเด็กเก่งเข้าเรียนคงหนีไม่พ้น 3 โรงเรียนนี้ และโรงเรียนที่เหลือ

ศึกษานารี สายวิทย์ สอบติดยกห้อง
ศึกษานารี สายวิทย์ สอบติดยกห้อง

ก็อยากสรุปเหมือนกันนะครับ ว่า เดี๋ยวนี้เด็กเก่งเลือกเรียนสายสังคมมากกว่าสายวิทย์
แต่หลังผลสอบออก ข่าวโรงเรียนศึกษานารี ห้อง 6/3 จะดังกลบข่าวอื่นซะหมด
เด็กห้องนี้ 29 สายวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สอบติดยกห้อง
ส่วนห้องอื่นก็สอบได้มหาวิทยาลัยของรัฐทั้งสอบตรง และแอดมิชชั่น เฉลี่ย 95%
http://www.thairath.co.th/content/633720

จากข้อมูลที่มีการเผยแพร่โดย ทปอ. ปี 2559
ถึงผลสอบนักเรียน ม.6 เข้ามหาวิทยาลัย มีผู้สมัครแอดมิชชั่นส์ทั้งสิ้น 105,046 คน
มีผู้ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย จำนวน 85,834 คน
จากจำนวนรับทั้งสิ้น 156,216 คน
พบว่าคนที่สอบได้คะแนนสูง 6 อันดับแรก เลือกสายสังคมศาสตร์ มีดังนี้
ที่หนึ่ง เลือก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ธรรมศาสตร์
จาก เตรียมอุดมศึกษา (สมัครรอบ 2)
ที่สอง เลือก คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
ที่สาม เลือก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์
จาก สุรนารีวิทยา นครราชสีมา
ที่สี่ เลือก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่ห้า เลือก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก เตรียมอุดมศึกษา
ที่หก เลือก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก อัสสัมชัญสมุทรปราการ
http://www.komchadluek.net/news/detail/229003
http://www.tlcthai.com/education/admission/111928.html
http://www.thairath.co.th/content/632708

สอดคล้องกับ ปี 2558 ที่ผลสอบแอดมิชชั่นได้คะแนนสูง
ที่หนึ่ง เลือก คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์-โฆษณา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
http://www.thairath.co.th/content/504739
ที่สอง เลือก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
ที่สาม เลือก คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
ที่สี่ เลือก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์
จาก โรงเรียนสตรีวิทยา กรุงเทพฯ
ที่ห้า เลือก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ
ที่หก เลือก คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จาก โรงเรียนผดุงปัญญา ตาก
http://teen.mthai.com/education/94484.html

เมื่อสปาร์ตั้นมา ไออีก็ไป (itinlife492)

spartan 300
spartan 300

โปรแกรมประเภทบราวเซอร์ของบริษัทไมโครซอฟท์ชื่ออินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ (Internet Explorer) มีชื่อย่อว่าไออี (IE) โดยเปิดตัวปี 2538 ถูกใช้มานานกว่า 20 ปี ซึ่งรุ่นแรกใช้กับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95 จนถึง IE11 ในวินโดวส์ 8.1 แล้วปี 2558 ก็มีข่าวว่าวินโดวส์ 10 จะใช้โปรแกรมสปาร์ตั้น (Spartan) แทนไออี และไออีก็จะหายไปในที่สุด จากผลการทดสอบในภาพรวมจากหลายแหล่ง พบว่า สปาร์ตั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าไออีเดิมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับ Chrome,  Firefox, Opera หรือ Safari ก็ยังมีบางด้านที่คู่แข่งทำงานได้ดีกว่า

browser ranking http://www.w3schools.com/browsers/browsers_stats.asp
browser ranking http://www.w3schools.com/browsers/browsers_stats.asp

ชื่อโปรแกรมสปาร์ตั้น ไปคล้ายกับชื่อเผ่านักรบโบราณในกรีซ ที่เราเห็นความกล้าหาญในภาพยนตร์เรื่อง 300 ที่ถูกยกย่องว่ามีการฝึกฝนอย่างหนัก มีความกล้าหาญ อดทน ระเบียบวินัย และเก่งกล้าในการรบ การเปลี่ยนไปใช้ชื่อบราวเซอร์ว่าสปาร์ตั้นแทนไออีของบริษัทไมโครซอฟท์ก็คาดว่าจะหวังผลทางการตลาด ที่เคยใช้ชื่อเดิมมากกว่า 20 ปี แต่ถูกชิงบัลลังก์ความเป็นเบอร์หนึ่งไป หากจะชิงบัลลังก์คืนมาก็ต้องมีกลยุทธ์ใหม่อีกหลายอย่าง ซึ่งกลยุทธ์หนึ่งคือการเปลี่ยนชื่อ (Rebranding) สิ่งที่เปลี่ยนชัดเจนคือการใช้ Engine ใหม่ชื่อ EdgeHTML สำหรับเว็บไซต์รุ่นใหม่ แต่ถ้าเป็นเว็บไซต์เก่าก็จะใช้ MSHTML ที่เคยใช้ใน IE11

มีนักข่าวใช้คำว่าข่าวเศร้าที่จะเปลี่ยนจากเก่าเป็นใหม่ หากมองอีกมุมหนึ่งก็น่าจะเป็นข่าวดี เพราะของใหม่ย่อมมีประสิทธิภาพกว่า แต่มนุษย์เรามีเหตุผลในแต่ละประเด็นแตกต่างกันเสมอ เช่น การตัดอุโมงค์ต้นไม้ที่น่านเพื่อทำถนน หรือการทำลายโบราณสถานที่วัดกัลยาณมิตรเพื่อพัฒนาวัด มักมีสองมุมที่ต่างกันคือพัฒนาหรือทำลาย  เมื่อมีเหตุการณ์ที่ความคิดเห็นไม่ตรงกันก็จะมีฝ่ายที่เห็นด้วย ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินใจ หากการตัดสินใจเป็นการประนีประนอมพบกันครึ่งทางก็จะนำไปสู่การยอมรับของทุกฝ่าย เพราะความเป็นจริงไม่มีฝ่ายใดถูกทั้งหมด และฝ่ายใดผิดไปทั้งหมด ทุกฝ่ายต่างมีเหตุผล ซึ่งโปรแกรมสปาร์ตั้นกับไออีก็มีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกัน โดยเฉพาะความชอบ คนในอดีตอาจยึดติดกับชื่อเดิมชอบของเก่าแล้วไม่ยอมรับชื่อใหม่ คนรุ่นใหม่อาจคิดต่างและพร้อมย้ายไปใช้ชื่อใหม่อย่างไม่ลังเลก็มีอยู่มาก

ranking http://internet-browser-review.toptenreviews.com/
ranking http://internet-browser-review.toptenreviews.com/

http://hitech.sanook.com/1393789/

http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9570000149862

http://pantip.com/topic/30810184

อันดับเด็กไทย วัดเรื่อง ict พบว่ารั้งท้าย ที่ 13 จากทั้งหมด 14 ประเทศ

International Computer Information Literacy Study (ICILS)
International Computer Information Literacy Study (ICILS)

21 พ.ย.57 ก็เห็นมีการโพสต์เรื่องผลการจัดอันดับเด็กไทย
เรื่อง Thai students’ computer and information literacy skills
เก็บจากเด็ก ม.2 ทุกสังกัด กว่า 3600 คนทั่วประเทศ
โดย สสวท. เปิดเผยผลการวิจัยด้านความรู้คอมพิวเตอร์ และสารสนเทศของนักเรียนไทย
พบมีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล ในขณะที่นักเรียนจากโรงเรียนสาธิตฯ
เป็นกลุ่มเดียวที่ได้คะแนนระดับเทียบเท่านานาชาติ
Score ranking
1. Czech Republic (553)
2. Australia (542)
3. Poland (537)
4. Norway (537)
5. South Korea (536)
6. Germany (523)
7. Slovakia (517)
8. Russia (516)
9. Croatia (512)
10. Slovenia (511)
11. Lithuania (494)
12. Chile (487)
13. Thailand (373)
14. Turkey (361).
เป็นรายงานผลส่วนหนึ่งใน
International Computer Information Literacy Study (ICILS)
แล้วในข่าวยังวิเคราะห์มาด้วยว่าที่คะแนนไม่ดี น่าจะมาจากเหตุผลดังนี้
1. ระบบเศรษฐกิจ
2. หลักสูตรการศึกษาที่ไม่ได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์
3. ครูผู้สอนที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ
4. โครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทียังไม่มีประสิทธิภาพ
จากทุกกลุ่ม พบว่านักเรียนโรงเรียนสาธิตฯ มีผลประเมินเกินเกณฑ์มาตรฐานสากล
งั้นผมก็วิเคราะห์ต่อให้ว่า แสดงว่าปัจจัย 4 ข้อข้างต้นไม่มีผลต่อนักเรียนสาธิตฯ
เวลาประเทศอื่นได้ที่เท่าไร เข้าก็นำไปเขียนข่าว เหมือนประเทศไทย

อัพเดทสถิติระบบปฏิบัติการใหม่ (itinlife420)

windows 8.1 apps
windows 8.1 apps

มีข่าวว่าไมโครซอฟท์วินโดวส์จะหยุดให้การสนับสนุนวินโดวส์เอ็กพี (Windows XP) ตั้งแต่ 8 เมษายน 2557  หลังผลิตภัณฑ์นี้มีอายุในตลาดยาวนานที่สุดถึง 12 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 มีผลให้ผู้ที่ใช้อยู่จะใช้งานได้ต่อไป แต่จะไม่มีการอัพเดทด้านความปลอดภัย ไม่แก้ปัญหาการใช้งาน และไม่สนับสนุนผู้ใช้อีกต่อไป แล้วแนะนำให้ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ของบริษัทแทน ตามข้อมูลเดือนกันยายน 2556 ของ StatCounter.com พบว่า คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP ในไทยคิดเป็นร้อยละ 28.86 หรือราว 5.7 ล้านเครื่องจากจำนวนคอมพิวเตอร์ทั้งหมด 20 ล้านเครื่องในไทย
วินโดวส์ 7 เปิดตัวในไทย 31 ตุลาคม 2552 และวินโดวส์ 8 เปิดตัว 26 ตุลาคม 2555 ซึ่งรุ่นล่าสุดนี้ถูกพัฒนาโดยเน้นการใช้งานบนอุปกรณ์พกพา (Mobile Device) อาทิ แท็บเล็ต (TabletPC) หรือสมาร์ทโฟน (Smart Phone) เพื่อแข่งขันกับระบบปฏิบัติการที่อยู่ในตลาดขณะนี้คือ แม็คโอเอส (MacOS) ไอโอเอส (iOS) และแอนดรอย (Android) ที่รองรับการติดต่อกับผู้ใช้ผ่านหน้าจอสัมผัส (Touch Screen)  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้ยังไม่ทันหายตื่นเต้นกับวินโดวส์ 8 ก็มีข่าวว่าไมโครซอฟท์จะออกชุดอัพเกรดเป็นวินโดวส์ 8.1 ในวันที่ 18 ตุลาคม 2013 ถ้ามีวินโดวส์ 8 อยู่แล้วก็สามารถอัพเกรดได้ฟรี แต่หากต้องการติดตั้งใหม่ผ่านแผ่นดีวีดีก็มีรุ่นมาตรฐานราคา 4,590 บาท ส่วนรุ่นโปรราคา 7,990 บาท
ปัจจุบันผู้ใช้มีทางเลือกมากมายที่จะใช้ระบบปฏิบัติการ สำหรับข้อมูลสถิติทั่วโลกเมื่อเดือนกันยายน 2556 พบว่า วินโดวส์ 7 มีผู้ใช้มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 51.98 รองลงมาคือวินโดว์เอ็กพีมีร้อยละ 20.59 ส่วนอันดับสามที่แซงขึ้นมาเป็นเดือนแรกคือ วินโดวส์ 8 มีร้อยละ 7.46 โดยอันดับสี่คือ แม็คโอเอสมีร้อยละ 6.98 อีกไม่นานคงได้เห็นวินโดวส์ 8 ขึ้นมากินส่วนแบ่งตลาดระบบปฏิบัติการเพิ่มขึ้น แต่จะกระโดดขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่คงต้องติดตามกันต่อไป เพราะทั้ง 3 อันดับแรกเป็นของไมโครซอฟท์ทั้งหมด ก็คาดได้ไม่ยากว่าบริษัทนี้จะปันใจให้กับระบบปฏิบัติการใด

http://notebookspec.com/topics/windows-8-1/
http://tech.mthai.com/it-news/25772.html
http://gs.statcounter.com/#os-ww-monthly-201209-201309
http://www.it24hrs.com/2013/1-year-left-to-stop-support-update-windows-xp/
http://men.kapook.com/view60152.html
http://www.extremetech.com/wp-content/uploads/2013/06/windows-8.1-apps-view-search.jpg

ยังไม่ได้เช็คชื่อ ไปขี้มา

child
child

+ http://www.gotoknow.org/posts/328479
+ http://www.oknation.net/blog/print.php?id=560780

4 กันยายน 2556 เป็นวันที่ได้รับข้อมูลเรื่องจัดอันดับด้านการศึกษา ก็นึกถึงพฤติกรรม “เล่นเกมใน smart phone ขณะครูสอน” หรือ “พูดโทรศัพท์กับแฟนขณะเรียน” หรือคำพูดของเด็กที่คิดเป็นว่า “ยังไม่ได้เช็คชื่อ ไปขี้มา” ที่อาจเป็นเหตุการณ์ ช่วงปิดชั้นเรียนวิชาหนึ่ง แล้วมีนักเรียนเดินเข้ามาบอกคุณครูว่าขอเช็คชื่อ เพราะยังไม่ได้เช็คชื่อเลย เหตุการณ์แบบนี้แสดงถึงเสรีภาพในการใช้ภาษาอย่างสุดโต่งของนักเรียน เป็นเสรีภาพที่ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าเด็กสมัยกล้าคิด กล้าทำ อย่างที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในสังคมไทยยุคการศึกษารั้งบ้วย

นึกย้อนไปในอดีตว่าสมัยก่อน ที่โรงเรียนเอกชนประจำจังหวัด ใครสอบตกก็จะถูกเรียกไปบนเวที แล้วโบยด้วยไม้ท่อนใหญ่ ๆ เพื่อให้สัญญาณนี่คือโทษของความไม่ตั้งใจเรียน และโปรดจำไว้ด้วยว่าความไม่ตั้งใจเรียนจะมีผลเป็นอย่างไร ผมว่าหลาย ๆ คนได้ดิบได้ดีมาทุกวันนี้ก็ เพราะเกรงว่าไม่ตั้งใจเรียนจะถูกจับโบยอีก แต่นั้นก็หลายสิบปีแล้ว จะเดินสวนคุณครูก็ต้องให้เกียรติ และยกมือไหว้อย่างไทยเป็นความเคยชินเลยหละ ไม่ทำก็จะเป็นแกะดำของโรงเรียน

วันนี้ จากข่าวช่อง 3 โดยนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้อ้างอิงว่านายภาวิช ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลการประชุมของ World Economic Forum (WEF) – The Global Competitiveness Report 2012-2013 ซึ่งเป็นการประชุม “เวทีเศรษฐกิจโลก” ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ได้มีการจัดอันดับคุณภาพการศึกษาของประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งปรากฏว่า ประเทศไทย อยู่ในอันดับรั้งท้าย ซึ่งไม่รวมประเทศลาวกับประเทศพม่า

ranking
ranking

http://www3.weforum.org/docs/WEF_GlobalCompetitivenessReport_2012-13.pdf

มีผลการจัดอันดับ ดังนี้
อันดับ 1 ประเทศสิงคโปร์
อันดับ 2 ประเทศมาเลเซีย
อันดับ 3 ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม
อันดับ 4 ประเทศฟิลิปปินส์
อันดับ 5 ประเทศอินโดนีเซีย
อันดับ 6 ประเทศกัมพูชา
อันดับ 7 ประเทศเวียดนาม
อันดับ 8 ประเทศไทย

แต่ผู้นำด้านการศึกษา ให้ข้อสังเกตว่าเราน่าจะอยู่ราวอันดับ 5 เพราะระดับโลกเราก็อยู่ระดับกลาง ไม่น่ารั้งท้าย คงต้องดูวิธีการจัดว่าใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการพิจารณา

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM09ESTNNRGd4TVE9PQ==

แล้ว นายภาวิช กล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อมูลนี้ถือว่าน่าตกใจ เพราะอันดับของเราต่ำมาก แต่เมื่อเทียบในอันดับโลกเรายังอยู่ในระดับกลาง ๆ ดังนั้นจึงต้องไปวิเคราะห์ให้ชัดเจนอีกทีว่า เกิดจากสาเหตุใด แต่คงต้องมีการปรับการศึกษาไทยขนานใหญ่ทั้งระบบ โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการปรับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ที่สำคัญ คือ ต้องดูการจัดการศึกษาไทยในภาพรวมว่า ได้มาตรฐานโลกหรือไม่ และถ้าดูจากผลการวิเคราะห์คะแนน PISA ที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า เด็กไทยคิดไม่เป็น หากเป็นเช่นนี้ สิ่งที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน คือ การปฏิรูปวิธีการเรียนการสอน และปฏิรูปครู ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบการศึกษา

http://www.nationchannel.com/main/news/social/20130904/378383282/

http://www.youtube.com/watch?v=Ql0AO5UbA6o

http://www.komchadluek.net/detail/20130903/167328/%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87!%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.html

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=33978&Key=hotnews