twitter ของนายกปู ถูกแฮก

hack twitter นายกยิ่งลักษณ์
hack twitter yingluck

2 ต.ค.54 ฟังข่าวค่ำว่า วันนี้ช่วงเช้าเวลาประมาณ 10.20น. ผู้ใช้ twitter ที่เป็น follower ของ นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร @PouYingluck จะพบข้อความแปลก ๆ ที่ไม่น่ามาจากนายก จากนั้น 10.50น. ก็มีข้อความใน  Facebook ของนายกยิ่งลักษณ์ ว่า  “ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้มีคนแฮ็ก Twitter @PouYingluck ข้อความใด ๆ ที่ปรากฎขณะนี้ ไม่ได้เป็นข้อความของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ทีมงาน)”
แล้ว น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  ได้ออกมากล่าวว่า กำลังให้สำนักงานปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ดำเนินการหาตัว คนร้ายที่เข้าไปเจาะระบบข้อมูล และใช้ทวิตเตอร์ @PouYingluck โดยข้อมูลเบื้องต้นพบว่า แฮคข้อมูลและทวิตผ่านแอพบน iPhone แล้วเปลี่ยนรหัสผ่านของทวิตเตอร์นายก
ซึ่งผู้กระทำน่าจะมีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปีพ.ศ.๒๕๕๐ มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทํางานตามปกติได้ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ก็คงต้องติดตามข่าวต่อไปในวันพรุ่งนี้ครับ

http://twitter.com/#!/@pouyingluck
http://www.ninetua.com/internet/twitter-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81-%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%99-hack/
http://thaimarketing.in.th/twitter-pm-hacked.html

แบไต๋ไฮเทค เล่าเรื่องราวให้ฟัง
http://thaiinsider.info/news2011/multimedia/video/video/24

แถลงข่าวจับ hacker

แถลงข่าวถูก hack

McKinsey 7s Framework

McKinsey 7s framework
McKinsey 7s framework

ในหนังสือ Strategic Management ของ ศ.ดร.เรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ และคณะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 มี diagram หน้า 56 ที่อธิบายปัจจัยที่สำคัญต่อการบริหารองค์กร 7 อย่าง คือ strategy, structure, system, style, staff, skill และ shared values ของ Waterman, R. H. Peters, T. J. and Philips, J. R. ที่มีขึ้นตั้งแต่ค.ศ.1980 หรือ 30 กว่าปีมาแล้ว ทำให้รู้ว่ามนุษย์มีหลักดี ๆ ในการบริหารจัดการองค์กร .. หรือเรียกได้ว่า เรามีความรู้ไว้บริหารองค์กรกันแล้ว
http://www.thaiall.com/ppt/diagram2011.pptx

ถ้าค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น จะเกิดอะไรขึ้น

wage income salary
wage income salary

1 ต.ค.54 มีโอกาสพูดคุยในครอบครัว ว่าถ้าเกิดเหตุค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้น เงินเดือนของทุกคนจะเพิ่มขึ้น จากเหตุเช่นนั้น แล้วผลจะเป็นอย่างไร และผลที่เกิดขึ้น เราจะได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ หรือสังคมกระทบอะไรบ้าง .. ถ้าย้อนกลับมาที่ตัวเรา เราจะปรับตัวอย่างไรต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น หมายถึง ปรับอย่างไรให้ตนเองมีความสุขบนการเปลี่ยนแปลง

http://www.thaiall.com/ppt/diagram2011.pptx

ธรรมะออนไลน์ของเจ้าคุณพิพิธ (itinlife 309)

เจ้าคุณพิพิธ
เจ้าคุณพิพิธ

ปลายเดือนกันยายน 2554 ผู้เขียนมีโอกาสฟัง พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม   กรุงเทพมหานคร บรรยายเรื่อง อย่า 15 อย่า นำมาซึ่งความสามัคคีธรรม ฟังแล้วก็รู้สึกโดนใจ ทันยุค ทันสมัย เข้าถึงใจคนทำงานในยุคคุณปูเป็นนายก แต่ประเด็นมีถึง 15 หัวข้อ แม้จดทันแต่อาจเก็บประเด็นได้ไม่ครบ แล้วท่านก็บอกว่าให้ใช้ MP3 Recorder บันทึกไว้ไ แต่ตอนนั้นไม่มีอุปกรณ์ หลังจากนั้นก็กลับมาปรึกษาอาจารย์กู๋ หรือ google.com แล้วก็พบเว็บไซต์ของพระท่าน คือ katitham.com อ่านเป็นไทยว่า คติธรรมดอทคอม

ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ คนในองค์กรต้องไม่ประพฤติตัว 15 อย่าง ต่อไปนี้        1) อย่าอวดรู้ 2) อย่าดูแคลน 3) อย่าแสนงอน 4) อย่าซ่อนเงื่อน 5) อย่าเชือนแช 6) อย่าแส่เรื่องของเผือก 7) อย่าเสือกงานของเค้า 8) อย่าเอาแต่งานของตัว 9) อย่ากลัวเขาหาว่า 10) อย่าด่าเจ้านาย 11) อย่าขายความลับ 12) อย่าจ้องจับผิด 13) อย่าคิดไม่ซื่อ 14) อย่าดื้อจนด้าน 15) อย่าค้านจนแค้น ซึ่ง 15 ข้อนี้ถือเป็นข้อพึงระวังและส่งเสริมให้คนในองค์กรมีความสามัคคี แต่ประเด็นเหล่านี้ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผล เพราะถ้าไม่เข้าใจแล้วนำไปใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ปฏิบัติงานก็อาจเกิดผลเสียตามมา อาทิ การจัดการความรู้ในองค์กร ก็ต้องสนับสนุนในการเปิดเผยความลับหรือเทคนิคแก่เพื่อนร่วมงาน การนำความรู้ที่ตนมีออกมานำเสนอ การให้ข้อเสนอแนะในประเด็นที่คิดต่างเพื่อการพัฒนา การเข้าไปหนุ่นเสริมช่วยเหลืองานของเพื่อนเพื่อให้องค์กรบรรลุพันธกิจ

ปัจจุบันมีเว็บไซต์เผยแพร่สาระด้านธรรมะในพุทธศาสนาอยู่มากมาย ซึ่ง คติธรรมดอทคอม เป็นเว็บไซต์เก่าแก่ที่จดโดเมนมาตั้งแต่ปี 2549 มีคติธรรมและสื่อการเรียนรู้มากมาย มีทั้งผลงาน บทความ สื่อธรรมะในรูปมัลติมีเดีย อาทิ VCD DVD และ MP3 แล้วท่านก็มีผลงานออกทางทีวีบ่อยครั้งที่คอยเตือนสติทั้งต่อเยาวชน บุคคลทั่วไป นักการเมือง และนักบริหาร อาจเรียกได้ว่า คติธรรมของท่าน เด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี ผู้บริหารบ้านเมืองก็ยิ่งน่าฟัง

ใบประกอบวิชาชีพไอที ใบเบิกทางคนไอที

ใบประกอบวิชาชีพไอที หรือไอทีพาสสปอร์ต ถือเป็นใบเบิกทางสำหรับแรงงานด้านไอที ที่จะเข้าสู่องค์กรชั้นนำด้วยเอกสิทธิ์เหนือผู้อื่น

สวทช.จับมือ 15 สถาบันการศึกษา และบริษัท ทรู อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพไอทีให้แก่บุคลากรไทยในภาคการผลิต และบริการ เพื่อรับมือกับ AEC 2015 ในเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในวิชาชีพด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
สถาบันวิทยาการ สวทช. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมมือกับ 15 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ และบริษัท ทรู อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด ในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมกันจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือและพิธีแถลงข่าวการจัดตั้ง เครือข่ายในโครงการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาคการผลิตและบริการ โดยมี ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เป็นประธาน
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ/ สวทช. กล่าวว่า การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือและการสนับสนุนระหว่าง สวทช. และสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งหน่วยงานหรือองค์กรจากภาคเอกชน ในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถด้านมาตรฐานวิชาชีพไอทีขั้น สูงของนักศึกษาและบุคลากรของไทย ให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะที่ได้มาตรฐานสากลอย่างแท้จริง เพื่อให้องค์กรสามารถนำมาตรฐานนี้ไปใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณา สรรหา คัดเลือก ปรับ/ เลื่อนตำแหน่ง บุคลากรกรสายไอที
ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้สถาบันการศึกษามีแนวทางในการปรับปรุงหลักสูตร ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน การดำเนินการสอบวัดมาตรฐานทักษะความรู้ด้านไอที จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้บุคลากรที่สอบผ่านได้รับใบรับรองในคุณภาพของความรู้และทักษะวิชาชีพด้านไอทีระดับมาตรฐานสากล เป็นเครื่องมือในการรับประกันคุณภาพและความเชื่อมั่นที่ดีแก่ผู้ประกอบการหรือตลาดแรงงานทั้งในและนอกประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการเตรียมพร้อมของแรงงานไทยที่จะรับมือในเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรี ในสาชาวิฃาชีพด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ของการเป็นภาคีหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC 2015
ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจำนวน 15 แห่งในครั้งนี้ เป็นรูปแบบที่สถาบันการศึกษาจะให้การสนับสนุนการจัดสอบมาตรฐานวิชาชีพไอทีใน ฐานะเป็นศูนย์สอบและศูนย์ติวสอบ และสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรทั้งภายในและเครือข่ายภายนอกเข้าร่วม สอบ โดยสถาบันการ ศึกษาที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ประกอบด้วย
มหาวิทยาลัยขอนแก่น, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, มหา วิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, มหาวิทยาลัยบูรพา, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์, มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยสยาม,มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ และสถาบันการจัดการปัญญาวิภัฒน์
ผศ.ดร.เมธี สรรพานิช รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะผู้แทนของสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ เปิดเผยว่า การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 4 ปีข้างหน้า ส่งผลให้สถาบันการศึกษาของไทยต้องปรับตัวทั้งในแง่ของหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาบัณฑิตออกสู่ตลาดแรงงาน เพื่อให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
การสอบวัดมาตรฐานความรู้วิชาชีพ ITPE จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับมาตราฐานความรู้ของบัณฑิตไทยโดย เฉพาะในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมเครือข่ายในวันนี้ ต่างได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่นักศึกษาของตนจะได้รับจาก ITPE ทั้งในแง่ของการยอมรับในความสามารถของบัณฑิตจากนานาประเทศ โอกาสการได้งานทำทั้งในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน
นอกจากนั้น การสอบมาตรฐานยังทำให้เกิดการผลักดันให้เกิดการยกระดับการเรียนการสอนใน สถาบันการศึกษาต่างๆ ของประเทศไทย ให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ บริษัท ทรู อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคเอกชนชั้นนำด้านไอทีได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนโครงการนี้ โดยได้เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนามาตรฐานบุคลากรด้านไอทีขององค์กร และการสร้างกลยุทธ์ในการพัฒนาบุคลากรในสายงานที่เกี่ยวข้องกับไอที
จึงได้มีนโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานที่ผ่านโครงการสอบมาตรฐานวิชาชีพ ITPE มีการจัดส่งบุคลากรของบริษัทฯ เพื่อร่วมติวและร่วมสอบในโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนมีการสนับสนุนความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ และแลกเปลี่ยนบุคลากรประสบการณ์เกี่ยวกับการทำงานด้านไอที ในกรณีที่มีการประชุม–สัมมนาเชิงวิชาการ การจัดอบรม และการเรียนการสอนในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไอที
นอกจากนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ผอ. สวทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทาง สวทช. ได้มอบหมายให้สถาบันวิทยาการ สวทช. (NSTDA Academy) จัดทำโครงการสอบมาตรฐานวิชาชีพไอที (Information Technology Professional Examination-ITPE) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ Information Technology Promotion Agency (IPA) ภายใต้การกำกับดูแลของ Minister of Economy, Trade and Industry (METI) หรือ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น เพื่อผลักดันให้มีการสอบมาตรฐานวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ไม่อิงผลิตภัณฑ์ในประเทศขึ้น โดยร่วมมือกับประเทศญี่ปุ่น มาเลเซีย มองโกเลีย พม่า ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ภายใต้ชื่อ IT Professionals Engineer Examination Council (ITPEC)
โครงการสอบมาตรฐานวิชาชีพไอที จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2549 และจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยมีวิชาเปิดสอบในปัจจุบันจำนวน 2 วิชา คือ Fundamental Information Technology Professional Examination (FE) และ วิชา Information Technology Passport Examination (IP) และมีนักศึกษา และคนทำงานในสายวิชาชีพไอที สมัครเข้าร่วมในโครงการจำนวน 5,579 คน มีผู้เข้าสอบจำนวน 5,037 คน และมีผู้สอบผ่านจำนวน 493 คน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์เฉลี่ยของการสอบผ่าน 9.79 % การดำเนินความร่วมมือเพื่อจัดตั้งเครือข่ายในครั้งนี้ จะผลักดันให้มีจำนวนผู้สมัครสอบโดยรวมของประเทศทั้งสิ้นมากกว่า 2,000 คนต่อปี
สำหรับการสอบในปี 2554 นี้ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าสมัครสอบ โดยมีศูนย์ติวสอบทั่วประเทศ เพื่อเป็นอีกแนวทางในการเตรียมตัวสอบ พร้อมตัวอย่างข้อสอบเก่าที่ได้รวบรวมไว้ที่หน้าเว็บโครงการฯ สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันวิทยาการ สวทช. โทร. 02-642-5001 โทรสาร 02-642-5014 หรือ http://www.nstdaacademy.com/ และ e-mail: mailto: itpe@nstda.or.th

เน็ตเร็วเหนือจินตนาการ (307)

ultra hi-speed internet
ultra hi-speed internet

9 ก.ย.54 ราวปีพ.ศ.2540 มีบริการอินเทอร์เน็ตที่ใช้โมเด็มความเร็ว 14.4 Kbps และใช้โปรแกรมบราวเซอร์ของ Netscape ซึ่งเว็บไซต์ยอดนิยมคือ yahoo.com ส่วนนักพัฒนาเว็บไซต์ก็จะใช้บริการฟรีของ geocities.com ประกอบกับเทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว จึงมีโมเด็มความเร็ว 28.8 และ 56 Kbps ตามด้วย ISDN ที่เร็วกว่าโมเด็มกว่าเท่าตัว แต่ ISDN ไม่เป็นที่นิยมมากนัก ในยุคนั้นร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เลือกใช้ด้วยโมเด็มเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการหลายราย แก้ปัญหาอินเทอร์เน็ตของรายหนึ่งหลุดก็ยังให้บริการลูกค้าต่อไปได้ และใช้ซอฟท์แวร์ช่วยทำการแบ่งปันการใช้งานของผู้ใช้ให้ออกไปยังผู้ให้บริการได้อย่างลงตัว

เทคโนโลยี DSL หรือบอร์ดแบนด์อินเทอร์เน็ต เริ่มให้บริการปลายปี 2547 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เริ่มต้นที่ความเร็ว 256 Kbps มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปในแต่ละราย และการปรับปรุงอุปกรณ์ขยายโอกาสให้ผู้ใช้นอกเขตเมืองหลวงได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การใช้โมเด็มกำลังจะหายไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องตั้งโต๊ะ เครื่องโน๊ตบุ๊ค เครื่องเน็ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน สำหรับเครื่องแท็บเล็ตพีซีหลายรุ่นไม่รองรับอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วต่ำอีกต่อไป การเชื่อมต่อแบบไร้สายในอาคารได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น พร้อมการมาของระบบไร้สายยุค 3G ไปถึง 4G

การพัฒนาความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก้าวกระโดดไปอีกขั้น โดยบริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต จำกัด ได้นำเสนอ Ultra Hi-speed Internet ที่มีความเร็วหลายระดับให้เลือก เริ่มจาก 7 Mbps มีค่าใช้จ่าย 599 บาท/เดือน ไปจนถึง 100 Mbps มีค่าใช้จ่าย 4,999 บาท/เดือน ถ้าผู้ใช้ดูคลิ๊ปจาก youtube.com เรื่องหนึ่งใช้ความเร็วประมาณ 400 Kbps หากในบ้านมีสมาชิกดูคลิ๊ปพร้อมกัน 20 คน จะใช้ความเร็วประมาณ 8 Mbps บางทีการพัฒนาบริการที่ต้องดาวน์โหลดแบบใช้ bandwidth ปริมาณสูง อาจยังไม่ทันกับการพัฒนาความเร็วของสื่อรับส่งข้อมูล เพราะความเร็วระดับ 100 Mbps คงไม่เหมาะกับผู้ใช้ตามบ้าน เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์เปิดดูคลิ๊ปพร้อมกัน 2 เรื่องก็ยังใช้ความเร็วไม่ถึง 1 Mbps แล้วจะมีบริการอะไรที่จำเป็นต้องใช้ความเร็วระดับสูงสุด เป็นเรื่องที่น่าคิด และชวนให้ติดตามกันต่อไป

สถิติจำนวน และค่าสูงสุด ต่ำสุด 2554

http://www.cuas.or.th/document/brochouradm54.pdf
เอกสารเผยแพร่ของ สทศ.

ตารางแสดงจำนวนผู้สมัครและผ่านการคัดเลือก admissions กลาง ประจำปีการศึกษา 2554 มีข้อมูลจำแนกตามอันดับของผู้สมัคร และผู้ผ่านคัดเลือก อย่างเช่น รหัส 0001 คณะทันตแพทยศาสตร์ สมัครอันดับ 1 508 คน แต่ผ่านเพียง 24 คน และทราบว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัครอันดับ 1 14190 คน แต่ผ่านเพียง 1753 คน
http://www.cuas.or.th/document/stat54_sumapply.pdf

ตารางแสดงคะแนนสูงสุด และต่ำสุด ที่แต่ละสถาบันการศึกษารับนักศึกษาเข้าเรียนในปีการ ศึกษา 2554 อย่างเช่น รหัส 0001 คณะทันตแพทยศาสตร์ สูงสุด 25,077 คะแนน ต่ำสุด 24,015 คะแนน เฉลี่ย 24,345 คะแนน
http://www.cuas.or.th/document/54C_stat_rpass_web.pdf

วิธีคำนวนคะแนน
1. ต้องรู้ค่าน้ำหนักร้อยละตามคณะ/สาขา เช่น GPAX:O-NET:GAT:PAT=20:30:20:30
2. ข้อมูลดิบ GPAX=2.93 คำนวณ GPAX : 2.93 * 75 * 20 = 4395
3. คะแนนเต็ม 30,000

ข้อมูลจาก http://www.cuas.or.th/index.php
และ http://www.cuas.or.th/calendar.html
และ http://www.cuas.or.th/document/brochouradm54.pdf
และ http://teacherooh.com/story/title/57
และ http://www.teacherooh.com/sites/teacherooh.com/files/admission53/CU.pdf

กำหนดการ Gat/Pat 1/2555

กำหนดการดำเนินการจัดการทดสอบ Gat/Pat ครั้งที่ 1/2555 สอบเดือนตุลาคม 2554 สำหรับการ Admissions ประจำปีการศึกษา 2555 โดยมติที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ลดจำนวนการจัดสอบ GAT/PAT ลงเหลือ 2 ครั้ง คือ จัดสอบในเดือนตุลาคม และมีนาคมของทุกปี จึงไม่มีการจัดสอบ GAT/PAT ในเดือนกรกฎาคม 2554 แต่จะไปดำเนินการจัดสอบครั้งต่อไปในเดือนตุลาคม 2554 (ครั้งที่ 1/2555) โดยมีกำหนดการรับสมัครในเว็บไซต์ สทศ. ดังนี้

gat pat ครั้งที่ 1/2555
gat pat ครั้งที่ 1/2555

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์กรมหาชน)
http://www.niets.or.th

http://www.niets.or.th/upload-files/uploadfile/11/ab1410f667b918ce7c4c11e2c358973c.pdf

ลงชื่อเข้างานที่เปลี่ยนไป (itinlife306)

finger scan
finger scan

ทุกองค์กรต้องมีการบันทึกประวัติการเข้าทำงาน ขาด ลา และสายของบุคลากร โดยมีรายละเอียดว่าแต่ละวันเข้า-ออกงานเวลาเท่าใด ซึ่งงานทรัพยากรบุคคลต้องทำรายงานสรุปทุกสิ้นเดือนเสนอผู้บริหารที่เป็นผู้กำหนดนโยบายว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่ไม่รับผิดชอบต่อภาระงานที่ได้รับ มีหลายองค์กรวัดประสิทธิผลของการทำงานจากผลงาน มากกว่าเวลาเข้าทำงานที่แตกต่างกันไปตามประเภทภารกิจ  โดยทั่วไปผู้บริหารระดับหน่วยมีหน้าที่กำกับติดตามการทำงานของผู้ปฏิบัติงานโดยตรงให้มีผลงานตามที่สัญญาไว้ แต่ถ้าผลงานโดยรวมของหน่วยไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็จะต้องมีการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากการขาดความรับผิดชอบ ระยะเวลาทำงานไม่เป็นไปตามที่ตกลง หรือมีสาเหตุอื่นใด เพราะถ้าบุคลากรส่วนหนึ่งสามวันดี สี่วันไข้ ใช้เวลางานทำธุรกิจส่วนตัว เข้างานสาย ทานข้าวนาน หรือออกงานก่อนเวลาก็คงทำให้ผลงานของหน่วยไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น

การลงเวลาเข้าทำงานในอดีตใช้การลงชื่อในเอกสาร เมื่อคนแรกลงเวลาเข้าทำงานแล้ว คนต่อไปก็จะลงเวลาในบรรทัดถัดไป เมื่อถึงเวลาก็จะเก็บเอกสารส่งงานทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ใช้เทคโนโลยี โดยมีกลไกการควบคุมด้วยจิตสำนึก และคุณธรรมที่อยู่ในตัวของผู้ปฏิบัติงาน บางหน่วยงานมีวัฒนธรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ คือ ลงชื่อไม่เป็นตามเวลาจริง เช่น มาทำงานสายทั้งหน่วยงาน แต่ผลการลงชื่อปรากฎว่าไม่มีใครมาสายแม้แต่คนเดียวตลอดทั้งปี ซึ่งมีเหตุผลสำคัญมาจากการไม่ใส่ใจกำกับดูแลของผู้บังคับบัญชาอย่างจริงจัง ปัญหานี้แก้ไขโดยการใช้บัตรตอกเวลาทำงาน (Time Card)  แต่เวลาต่อมาก็มีบางคนให้เพื่อนที่มาก่อนช่วยตอกบัตรแทน ปัญหาเหล่านี้มีเหตุจากการขาดความซื่อสัตย์ที่เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของการทำงานร่วมกันในองค์กร

ปัจจุบันภาคเอกชนนิยมหันไปใช้เครื่องสแกนลายนิ้วมือ (Finger Scan) เพราะบันทึกข้อมูลได้ตามเวลาจริง และไม่มีใครถอดนิ้วมือให้กันได้ ในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรหลายพันคนก็จะมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายไปยังศูนย์ข้อมูล แต่ละเครื่องสามารถถ่ายโอนข้อมูลไปรวมกันแล้วประมวลผลจนได้สารสนเทศที่เสนอต่อผู้บริหารในแต่ละระดับใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการกับผู้ที่ไม่ตรงต่อเวลา หรือขาดงาน การใช้เทคโนโลยีทำให้สามารถสรุปรายงานได้รวดเร็ว ลดความผิดพลาด และลดภาระงานของบุคลากรได้มาก ส่วนการลางาน หรือการปฏิบัติงานนอกสถานที่ก็จะมีบัญชีข้อมูลที่จะนำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลจากเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งข้อมูลอาจสรุปเป็นรายเดือน หรือรายปีแล้วส่งให้กับบุคลากรได้รับทราบ และบุคลากรสามารถร้องขอทราบข้อมูลเพื่อใช้วางแผนในการหยุดงาน ลากิจ ลาป่วย หรือลาพักผ่อนต่อไป

กสท จัดสัมมนา Admin 2011 (itinlife 304)

22 ส.ค.54 การให้บริการหลังการขายเป็นสิ่งที่ผู้จำหน่ายสินค้าให้ความสำคัญ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้เข้าร่วมสัมมนาเรื่อง Admin 2011 ณ โรงแรมเวียงลคอร จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2554 จัดโดยสำนักงานบริการลูกค้า กสท ลำปาง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และข้อมูลด้านความพร้อมให้บริการอินเทอร์เน็ต และเทคนิคการบริหารเครือข่ายภายในแก่ผู้ดูแลระบบ (Admin) ตลอดจนความรู้เกี่ยวกับบริการใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานระดับองค์กร

ในการสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นการให้ความรู้กับลูกค้า เป็นบริการหลังการขายเพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าได้เข้าใจเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถใช้ประโยชน์ผลิตภัณฑ์ได้สูงสุด เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ส่งผลให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ได้ทราบถึงแผนพัฒนาระบบเครือข่ายที่มีอยู่ และอนาคตจะเป็นอย่างไร แนวการออกแบบระบบเครือข่ายแบบวงแหวน และจำนวนเส้นทางการเชื่อมต่อออกนอกประเทศที่ลดความเสี่ยงต่อการขาดหายด้วยเหตุสุดวิสัย ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายสำรองขึ้นทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดคิด เช่น ภัยธรรมชาติ หรือเหตุจลาจล ทำให้ผู้ใช้บริการทั้งประเทศเชื่อมั่นได้ว่าธุรกิจ และการสื่อสารจะไม่หยุดชะงักอย่างเช่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

สำหรับหัวข้อในการอบรมมี 5 หัวข้อหลัก คือ 1) ความพร้อมด้านโครงข่าย Network เพื่อรองรับการให้บริการ Cat Corporate Internet 2) เทคนิคการออกแบบระบบเครือข่ายภายในหน่วยงานให้แข็งแรง 3) ความพร้อมการให้บริการ Internet Data Center 4) แนะนำบริการ Web Hard และ Cat Conference 5) Update ข้อมูล IPV6 ซึ่งอาจสรุปได้ว่าการสัมมนาครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก หรือครั้งสุดท้าย การพัฒนาด้านเทคโนโลยียังต้องดำเนินต่อไปควบคู่กับการให้บริการหลังการขาย ที่ตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ซึ่งเป็นบทเรียนหนึ่งที่ทำให้ผู้ซื้อได้เรียนรู้ที่จะเลือก และผู้ขายนำข้อคิดเห็นไปประกอบการพัฒนาสินค้าและบริการให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป