สาวสวยหน้าตาดี จะกล้าพักกับชายแปลกหน้า 3 คนเหรอ

ห้องรวมแบบผสม ตามวัฒนธรรมนานาชาติ
ห้องรวมแบบผสม ตามวัฒนธรรมนานาชาติ

ต้นกรกฎาคม 2558 มีโอกาสเดินทางเข้าบางกอก
ด้วยระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรด้วยรถไฟตู้นอนชั้นบน
เข้ามาประชุมทั้งวัน ตกเย็นต้องหาที่พักใกล้ ๆ สักคืน
ค้นกูเกิ้ลก็พบว่า หลับดี (lubd.com) เป็นที่พักราคาถูก
จากผ่าน agoda.com ราคาอยู่ที่ 400 กว่าบาท
ผ่านเว็บของโรงแรมก็ 750 บาท
เท่าที่อ่านดูก็เป็นห้องพักรวม 4 คน ห้องน้ำรวม
แต่ดูใหม่ ทันสมัย ใกล้ที่ประชุมในวันรุ่งขึ้น
ลงบรรได BTS สนามกีฬาก็ถึงเลย เดินไปชิดลมสบาย ๆ

1. เดินเข้าไป check in พนักงานพูดภาษาต่างชาติคล่องปรื๊ด
ก็แจ้งว่า walk in ราคา 800 และผมคงเป็นคนไทยในคนไทย
ไม่กี่คนที่ไปพักแล้ว ขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบเพื่อไปเบิก
ก็ขลุกขลักนิดหน่อย เหมือนโรงแรมหลายแห่งนั่นหละ
เพราะชาวต่างชาติเขาไม่ขอใบกำกับภาษีกัน พนักงานที่ออกใบก็มากลางวัน

2. ขึ้นห้อง 302 ต้องใช้บัตรเปิดเข้าโซนที่พัก
เปิดเข้าห้อง และเปิดไฟหัวเตียง เข้าไปพบว่าพักแล้ว
มี 2 คน รวมผมเป็น 3 คน ที่พบตัวเป็นไต้หวัน
อีกสักพักคนที่ 4 ก็เข้ามาเป็นคนจีน
นอนไปสักพัก คนอเมริกาเข้ามาเพิ่ม แต่คราวนี้เป็นหญิง
ปัญหาที่คือผมไม่คุ้นเคยกับ ชาว 3 หญิง 1
หญิงสาวที่เดินทางมาคนเดียวแบบสะพายเป้ (Backpacker)
พักคืนเดียวกับผู้ชายนานาชาติที่อาจพบกันชาติเดียว

3. โทรไปเล่าให้เจ้าหน้าที่ เธอก็บอกว่าห้องรวม
คือรวมชายรวมหญิง ผมเข้าดูเว็บอีกครั้งก็จริง
ที่นี่มีให้เลือกคือ รวมชายหญิง หรือรวมเฉพาะหญิง
แต่ไม่มีแบบรวมเฉพาะชาย ถ้าห้องเดี่ยว หรือคู่
ราคาก็จะสูงเป็น 2 – 3 พันบาท
วัฒนธรรมเราต่างกับนานาชาติ
ซึ่งผมจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพือนที่ทำงานฟัง

4. กลางเดือนมิถุนายน ผมมาประชุมกับเพื่อน 2 คน
อีกคนเป็นหญิง วัยเราก็ลุงป้าทั้งคู่มีครอบครัวแล้วทั้งคู่
ต้องพักกันหลายคืน แต่จองโรงแรมแยกห้อง
ผมก็ได้รับคำตอบว่า วัฒนธรรมเรา หญิงชายไม่นอนด้วยกัน
แม้จะไว้ใจกัน คบเป็นเพื่อนกันมาเป็นชาติ
อาจต้องพบกันอีกทั้งชาติ ก็ไม่ไว้ใจมากพอที่จะนอนด้วยกัน

5. วัฒนธรรมต่างชาติ เขาเสมอภาคเรื่องเพศเยอะนะ
ช่องว่างระหว่างเพศแคบลง ไม่กี่วันที่ผ่านมา
อเมริกาประกาศให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้
ครั้งนี้ได้พบเรื่องของวัฒนาธรรมที่แตกต่างกัน
ทำให้นึกถึงเพื่อนบางกอกคนหนึ่ง เธอเคยทักผมว่าบ้านน๊อก บ้านนอก
พอนึกถึงเหตุการณ์นี้แล้ว
ท่าจะจริงว่าคนไทยแบบผมกลายเป็นบ้านนอกไปเลย
จะให้ชายสูงอายุอย่างผม นอนร่วมห้องกับหญิงสาวก็ดูแปลก
ตอนที่เธอเข้ามา ผมอยู่คนเดียว
แล้วเธอก็เปลี่ยนเสื้อใต้เตียงผม เฉยเลย
เพราะผมนอนเตียงบน จากนั้นเธอก็หลับไป
ส่วนผมก็นั่งอัพเฟสต่อไป ต่อมาทุกคนกลับมา ขึ้นเตียงของตน
พอดึกเราทุกคนก็ต่างคนต่างหลับ จนเช้า

หลับดี ที่พักสำหรับนักเดินทาง ชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
หลับดี ที่พักสำหรับนักเดินทาง ชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่

ปล.อันที่จริงที่ลำปางก็มีโรงแรมแบบนี้ แต่ผมยังไม่เคยไปพัก
แต่ไม่นึกว่าจะมีหญิงหนึ่งชายสามน่ะสิครับ

ผู้หญิงระมัดระวังมากกว่าในสื่อสังคม

Business woman with a laptop
Business woman with a laptop

25 ก.พ.55 Women More Cautious On Social Media

A new report on the Internet and how we use it says that more of us are using social media. The Pew Research Centre’s Internet and American Life Project surveyed 2,277 U.S. adults about their Internet use. About two-thirds of Internet users now belong to social networking sites. Pew reports that ninety-three per cent of social network users have joined Facebook, up from seventy-three per cent in 2009. The continued rise in Facebook’s popularity contrasts with the decline of MySpace. Twenty-three per cent of those questioned said they had a MySpace profile, down from forty-eight per cent in 2009. Twitter continues to attract more users, with eleven per cent of respondents saying they use it, up from six per cent in 2009.

The report showed big differences between how men and women use social media and how we manage our privacy. Women are more likely than men to delete friends. Sixty-seven per cent of women said they have deleted friends compared with fifty-eight per cent of men. The study reported that men are almost twice as likely as women to have posted messages, photos or videos that they later regret (ผิดหวัง). Fifteen per cent of men said they have done this, compared with eight per cent of women. The study also showed women to be more cautious who they share information with. Two-thirds of women use the highest privacy settings, sharing data only with friends. Less than half of the men did so.

http://www.breakingnewsenglish.com/1202/120225-social_media.html
http://www.techinasia.com/facebook-comes-before-tooth-brushing-for-women/

มาร์ซูกิ อาลี คิดว่าการแต่งกายของหญิงยั่วยวนผู้ชายได้

กระโปรงสั้น miniskirt
กระโปรงสั้น miniskirt

ภาพประกอบ จากการประท้วงขององค์กรสิทธิสตรีครั้งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดจาการ์ตา พูดพาดพิงการแต่งกายของผู้หญิงและเรียกร้องให้ผู้หญิงงดสวมกระโปรงสั้นเวลา ใช้บริการขนส่งสาธารณะเมื่อ 6 เดือนก่อน (18 ก.ย.2011) ขณะที่ล่าสุดรัฐสภาอินโดนีเซียก็พยายามออกกฎห้ามส.ส.หญิงสวมกระโปรงสั้น ซึ่งได้ก่อเสียงประณามจากกลุ่มสตรีเช่นกัน

เอเอฟพี (AFP) – กลุ่มสิทธิสตรีแสดงความโกรธเกรี้ยวเมื่อวันอังคาร 6 มีนาคม 2555 หลังรัฐสภาอินโดนีเซียเผยเตรียม ร่างกฎระเบียบห้ามส.ส.หญิงแต่งกาย “ยั่วยวน” อย่างเช่นนุ่งกระโปรงสั้นมาทำงาน โดยอ้างว่าชุดแบบนั้นเป็นการเชื้อเชิญให้ข่มขืน

มีคดีข่มขืนและพฤติกรรมผิดศีลธรรมอื่นๆมากมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ และนี่ก็เป็นเพราะว่าผู้หญิงแต่งกายไม่เหมาะสมมาร์ซูกิ อาลี ประธานรัฐสภากล่าว “ผู้หญิงแต่งกายไม่สมควรยั่วยวนผู้ชาย ดังนั้นจำเป็นต้องหยุด พวกคุณก็รู้ดีว่าพวกผู้ชายชอบอะไร การแต่งกายยั่วยวนเป็นการกระตุ้นให้พวกเขาทำสิ่งต่างๆ

ส่วน เรฟริซัล รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการครอบครัวของรัฐสภา ซึ่งเป็นหัวหอกในการผลักดันกฎระเบียบใหม่นี้บอกกับเอเอฟพีว่า “กระโปรงสั้นและชุดวาบหวิวคือการเชื้อเชิญ ส.ส.ผู้ชาย

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส.สตรี 2 ราย ซึ่งแต่ก่อนแคยประกอบอาชีพนางแบบ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มสิทธิสตรีของอินโดนีเซียแสดงความขุ่นเคืองต่อความเห็น ดังกล่าวและเรียกร้องให้หยุดสร้างภาพตัวร้ายให้แก่เหยื่อที่ถูกข่มขืน
มันน่าหัวร่อ เป็นอีกครั้งที่เรื่องนี้หลุดออกมาจากปากของบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพล ชิคกา โนยา ผู้ก่อตั้งองค์กร Action for Women Against Rape บอกกับเอเอฟพี “เราคาดหวังให้พวกเขาสร้างกฏระเบียบเพื่อปกป้องผู้หญิงจากความรุนแรง ไม่ใช่ประณามพวกเธอจากการแต่งกาย

ความเห็นของสมาชิกสภาอินโดนีเซียมีขึ้นเพียง 6 เดือนหลังจาก ฟัวซิ “โฟเก” โบโว ผู้ว่าราชการจังหวัดจาการ์ตา แสดงความคิดเห็นคล้ายๆกัน โดยบอกว่าคดีข่มขืนหลายๆครั้งบนรถมินิบัสสาธารณะของเมืองมีต้นตอมาจากการสวม กระโปรงสั้นของเหยื่อ พร้อมกันนั้นเขายังเรียกร้องให้ผู้หญิงงดสวมกระโปรงสั้นเวลาใช้บริการขนส่ง สาธารณะ
ทั้งนี้ความเห็นของเขาได้จุดชนวนการประท้วงขององค์กรสิทธิสตรีกลุ่ม หนึ่ง ที่ใช้สโลแกนว่า “กระโปรงของฉัน สิทธิของฉัน

Women’s groups expressed outrage Tuesday after Indonesia’s parliament said it would draft rules banning female lawmakers from wearing “provocative” clothing such as miniskirts to work and claimed such dress invited rape.
“We know there have been a lot of rape cases and other immoral acts recently, and this is because women aren’t wearing appropriate clothes,” house of representatives speaker Marzuki Alie said.
“Women wearing inappropriate clothes arouse men, so it needs to be stopped. You know what men are like — provocative clothing will make them do things.”
Refrizal, the deputy head of the household affairs committee, which is spearheading the new regulation, told AFP that “miniskirts and skimpy clothes are an invitation to male lawmakers”.
The move was also backed by two female house members who formerly worked as fashion models, local media reported.
Indonesian women’s rights groups said they were outraged by the comments and called for a stop to the demonization of rape victims.
“It’s ridiculous that this is again coming from the mouths of prominent people with influence,” Action for Women Against Rape founder Chicka Noya told AFP.
“We expect them to make regulations to protect women from violence, not condemn them for the way they dress.”
The comments come just six months after the Jakarta governor, Fauzi “Foke” Bowo, made similar remarks, saying that a spate of rape cases on the city’s public minibuses were triggered by victims’ miniskirts.
He urged Indonesian women to refrain from wearing miniskirts on public transport.
His remarks prompted a protest in which women yelled the slogan “My miniskirt, my right. Foke you”, referring to the governor’s nickname.
The protest was inspired by the global “SlutWalk” phenomenon, which began in Toronto last year as hundreds protested about a comment made by a police constable that “women should avoid dressing like sluts in order not to be victimized”.

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000029921
http://english.alarabiya.net/articles/2012/03/06/198972.html

ไหนว่าไม่ลืม

เพลง ไหนว่าไม่ลืม – วรนุช พุทธชาด
ต้นฉบับมาจาก แม่ผ่องศรี วรนุช

http://www.youtube.com/watch?v=GS5sK1Dfzio

ไหน ว่า ไม่ลืม
ไม่ลืมไม่เลือน
เหมือนเดือนคู่ฟ้า
ไม่ทันแสงเดือน
จะเลือนหลีกร้อย
ไม่ทันเมฆน้อยจะคล้อยผ่านมา
ไม่ทันตะวันลับฟ้า ก็ลืม
(ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ไหนว่า ไม่ลืม
ไม่ลืมไม่เลือน
ชั่วเดือนแหละปี
ไม่จริงเหมือนคำ
พูดเลยสักครั้ง
ไม่จริงเหมือนดังพูดเลยสักที
ไม่ทันถึงปีแล้วพี่ ก็ลืม
(ไม่ทันถึงปีก็ลืม)
น้ำคำผู้ชายพูดง่ายฟังยาก
(ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย)
พูดจาซ้ำซากปากว่าไม่ลืม
(ปากว่าไม่ลืมไม่ลืม)
พอมีรักสองมาครองอกเขา
ก็พลันทิ้งเราเปลี่ยนใจหลงลืม
นี่แหละนิสัย ผู้ชายชอบลืม
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ไหนว่า ไม่ลืม
ไม่ลืมสัญญาที่เคยผูกพันธ์
จะเอาแน่นอนอะไรกับเขา
เมื่อยามใกล้เราก็ทำปากหวาน
พูดพร่ำรำพันว่าจะไม่ลืม
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)

Solo 7 Bars…6…7…
น้ำคำผู้ชายพูดง่ายฟังยาก
(ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย)
พูดจาซ้ำซากปากว่าไม่ลืม
(ปากว่าไม่ลืมไม่ลืม)
พอมีรักสองมาครองอกเขา
ก็พลันทิ้งเราเปลี่ยนใจหลงลืม
นี่แหละนิสัย ผู้ชายชอบลืม
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ไหนว่า ไม่ลืม
ไม่ลืมสัญญาที่เคยผูกพันธ์
จะเอาแน่นอนอะไรกับเขา
เมื่อยามใกล้เราก็ทำปากหวาน
พูดพร่ำรำพันว่าจะไม่ลืม
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)
ผู้ชายนะโธ่ผู้ชาย
(ไม่ทันเท่าไรก็ลืม)

http://www.rsonlinemusic.com/song.php?song_id=003381