สอนแบบสุจริต ไม่สอนให้ จับเสือมือเปล่า

สมาร์ทโฟนในอดีต ราคาเป็นหมื่นครับ

คุณครูเคยนำข่าวการหลอกขายของดีราคาถูก ที่พบเห็นในสื่อ หรือในชีวิตจริงรอบตัวไปเล่าให้นักเรียนฟังไหมครับ สินค้าก็มีหลายแบบเข้าแนวที่ว่า “ลงทุนน้อย แต่ได้ผลตอบแทนมาก” ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องลงแรง ไม่ต้องใช้ความคิด ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องเสียเหงื่อ แต่ได้ความสุขมาแบบที่โบราณว่า “จับเสือมือเปล่า” ข่าวสองสาวโดนจับข้อหารับเปิดบัญชี กรณีขายโทรศัพท์ให้นักเรียนนำไปใช้เรียนหนังสือออนไลน์ช่วงโควิดระบาด จะเป็นตัวอย่างหนึ่งที่นักเรียนควรรู้ว่า “ของดีราคามักไม่มีอยู่จริง” อีกตัวอย่างที่พบเห็นบ่อยมาก ที่เพื่อนของผมก็นำบทเรียนการถูกหลอก ไปเล่าในกลุ่มว่า มีพ่อค้าจะขายของมือสองที่เลิกใช้แล้ว ในราคาต่ำกว่าของมือหนึ่งเยอะ ต้องโอนเงินก่อน แล้วไปรับของ สุดท้ายก็ไม่ได้ของ ตัดการติดต่อและหายไป เสียเวลา ความรู้สึก และเงินทอง

พฤติกรรมที่ไม่สุจริตพบในสื่อได้บ่อยขึ้น เข้าแนวว่าหลอกให้เชื่อแล้วไม่เป็นตามนั้นสำหรับผู้หลงเชื่อ ในระยะแรกพฤติกรรมและข่าวสารที่ได้รับเป็นโอกาส และความหวัง ที่ผู้ให้ความหวังสร้างภาพขึ้นให้มีความสุข แต่เมื่อเวลาผ่านไป หลังได้โอนทุกอย่างไปแล้ว ทั้งโอกาส และความหวังก็หายไปกับผู้ให้ความหวัง ความสุขก็หายไปพร้อมกับเวลา และทรัพย์สินที่สูญเสีย เปลี่ยนเป็นพฤติกรรมที่ไม่สุจริตในเวลาอันสั้น มีบทเรียนมากมายในอดีต ที่คุณครูสุจริตไทยควรต้องหยิบไปเล่าต่อ เพราะเรื่องราวการหลอกลวงในอดีตอาจเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งระยะนี้ (ก.ย.2564) ปรากฎข่าวหลอกขายโทรศัพท์ให้เด็ก ๆ เพื่อใช้ในการศึกษาออนไลน์ในราคาถูกจนกลายเป็นข่าวเศร้า

#ห้องเรียนแห่งอนาคต
จะสอนให้คุณครู และเด็ก ๆ รู้เท่าทันการใช้สื่อ และผู้คนในสังคม