10 เรื่องจริง พบใน ฉลาดเกมส์โกง (10 Truths in Bad Genius)

10 เรื่องจริง

 

อ่านข่าวใน
[ประชาชาติธุรกิจ] ว่าภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง
มีกระแสนิยมรุนแรงมากในจีน
[กรุงเทพธุรกิจ] ของไทยได้ 100 ล้านบาทแบบฉลุย
[ข่าวสด] ในจีนฉาย 5 วันได้ 740 ล้านบาท
[MGRonline] คาดรายได้ในจีนเกิน 1 พันล้านบาท
เป็นภาพยนตร์ของค่าย GDH

ฉลาดเกมส์โกง
ฉลาดเกมส์โกง

ในเรื่องมีตัวเด่น 4 คน คือ
– ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง เป็น ลิน
– ชานน สันตินธรกุล เป็น แบงค์
– อิษยา ฮอสุวรรณ เป็น เกรซ
– ธีรดนย์ ศุภพันธ์ภิญโญ เป็น พัฒน์

ฉลาดเกมส์โกง
ฉลาดเกมส์โกง

หลังดูเรื่องนี้เสร็จ พอจะจับประเด็นเด่นในชีวิตจริง 10 เรื่อง
1. ครูเปิดสอนพิเศษ เอาข้อสอบไปสอน ใครเรียนก็สอบได้
2. ให้เพื่อนลอก เพื่อนก็รัก เลี้ยงดูปูเสื่อ
3. โรงเรียนดีเด่น เด็กไม่เก่งจ่ายเข้าเรียน เด็กเก่งเรียนฟรี
4. คนทำกิจกรรมต้องเกรดดี เกรดไม่ดีไม่ได้ทำกิจกรรม
5. เห็นนักเรียนลอกกัน ครูก็เอาหูไปนา เอาตาไปไร่
6. เด็กเก่งไม่ชอบถูกเอาเปรียบ เห็นเพื่อนลอก จะฟ้องครู
7. ใครเอาเรื่องลอกข้อสอบไปฟ้องครู จะถูกรังแก
8. คนเก่งแต่จน มักเป็นคนดี ถ้าไม่มีเรื่องเงินมาเปลี่ยนใจ
9. คนที่ลอกคนอื่น มักภูมิใจกับคะแนนที่ได้มาง่าย ฉลองกันใหญ่
10. โกงแล้วถูกจับได้ บางคนหลาบจำ บางคนไม่กลัวโทษ เพราะเบา

เคยพบการโกงสอบที่เป็นข่าวดัง
หลายครั้งในประเทศไทย # อาทิ
– มี.ค.2551 โกงสอบโอเน็ต ใช้นาฬิกามือถือ
– มี.ค.2556 โกงสอบครูผู้ช่วย 344 ราย
– พ.ค.2559 โกงสอบเข้าหมอ ที่ ม.รังสิต
– ธ.ค.2559 โกงสอบนายสิบตำรวจ 80 ราย

 

https://th.wikipedia.org/wiki/

เกี่ยวกับค่ายหนังแล้ว
ทำให้นึกถึงวันที่ 13 พ.ย.58
ว่ามีงานสัมมนา

เรื่อง คนสร้างสื่อ หรือ สื่อสร้างคน

GTH = GMM + Tai + Hub (ภาพ)

– จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์

– ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์

– หับ โห้ หิ้น ฟิล์ม

ทำหนังดังมากมาย อาทิ แฟนฉัน, Season change,
รถไฟฟ้า มาหานะเธอ, กวน มึน โฮ, Suck Seed ห่วยขั้นเทพ, ATM เออรัก เออเร่อ, รัก 7 ปี ดี 7 หน, พี่มาก พระโขนง, คิดถึงวิทยา, ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ , Freelance,


แตก GTH ออกเป็น 2 ค่าย ดังนี้

1. ค่าย GTH => GDH 559

(GMM 51% + หับโห้หิน15% + คนทำงาน34%)

เรื่องแรกคือ แฟนเดย์ (Fan day)

2. ค่าย T Moment = T + Mono

เรื่องแรก โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง

วิชาที่ใช้สำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั้งสอบตรงและแอดมิชชั่น

เรียนอะไร จะได้มีอาชีพใน asean
เรียนอะไร จะได้มีอาชีพใน asean

การสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนทุกคน
ต้องสอบวิชาสามัญ และวิชาเฉพาะสาย
สัดส่วนของสองกลุ่มนี้จะต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร
หลายมหาวิทยาลัยจัดรับตรง คือใช้ข้อสอบของตนเอง
ก็จะกำหนดวิชาที่สอบแตกต่างไปบ้างกับสอบแอดมิชชั่น

1. วิชาสำหรับสอบเข้าเรียนแพทย์โดยทั่วไป
ต้องสอบ 7 วิชา 1)ฟิสิกส์ 2)เคมี 3)ชีวะ 4)คณิต1 5)ไทย 6)อังกฤษ 7)สังคม
และวิชาเฉพาะ (ความถนัดทางวิทยาศาสตร์)

2. การสอบตรงนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์
ต้องสอบวิชาของธรรมศาสตร์ ใน 100% มีดังนี้
1) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย  10%
2) ความสามารถในการใช้กฎหมาย  30%
3) เรียงความ  10%
4) ย่อความ  10%
5) ภาษาอังกฤษ  20%
6) ความถนัดเชิงวิชาการ (SAT)  20%

3. สัดส่วนที่ใช้คำนวณคะแนน
GAT (General Aptitude Test) ความถนัดทั่วไป
PAT (Professional Aptitude Test) ความถนัดทางด้านวิชาชีพและวิชาการ
– ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX)
– ผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
– ผลการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT)
– ผลการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT)

4. GAT กับ PAT ต่างกันชัดเจน
GAT = ความถนัดทั่วไป
PAT1 = ความถนัดทางคณิตศาสตร์
PAT2 = ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
PAT3 = ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
PAT4 = ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT5 = ความถนัดทางวิชาชีพครู
PAT6 = ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
PAT7.1 = ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส
PAT7.2 = ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
PAT7.3 = ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
PAT7.4 = ความถนัดทางภาษาจีน
PAT7.5 = ความถนัดทางภาษาอาหรับ
PAT7.6 = ความถนัดทางภาษาบาลี

5. สัดส่วนการใช้คะแนน GAT PAT ของคณะต่าง ๆ
http://www.tlcthai.com/education/gat-pat/48432.html
http://www.dek-d.com/admission/33015/
กลุ่มที่ 1 คณะสัตวแพทยฯ , คณะสหเวชศาสตร์ , คณะพยาบาลศาสตร์
คณะสาธารณสุขฯ, คณะเทคนิคการแพทย์ , คณะวิทยาศาสตร์กีฬา
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 20% และ PAT 2 30%

กลุ่มที่ 2 คณะทันตแพทยศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 20%, PAT 1 10% และ PAT 2 20%

กลุ่มที่ 3 คณะเภสัชศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 2 40%

กลุ่มที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ , คณะทรัพยากรธรรมชาติ
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 1 10% และ PAT 2 30%

กลุ่มที่ 5 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 1 20% และ PAT 2 20%

กลุ่มที่ 6 คณะวิศวกรรมศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 15% , PAT 2 15% และ PAT 3 20%
* รับตรงคณะกลุ่มนี้บางมหาวิทยาลัย กำหนดให้สอบ PAT1
เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.เกษตรศาสตร์

กลุ่มที่ 7 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 4 40%

กลุ่มที่ 8 คณะเกษตรศาสตร์ , คณะวนศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 1 10% และ PAT 2 30%

กลุ่มที่ 9 คณะบริหารธุรกิจ , คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี , คณะเศรษฐศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 30% และ PAT 1 20%
* รับตรงคณะกลุ่มนี้บางมหาวิทยาลัย กำหนดให้สอบ PAT2
เช่น คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ

กลุ่มที่ 10 คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 40%
และ PAT 7 (เลือก 1 วิชา) 10%

กลุ่มที่ 11 คณะครุศาสตร์ , คณะศึกษาศาสตร์
รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 20% และ PAT 5 30%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 5 20%
และ PAT 1/2/3/4/6/7 (เลือก 1 วิชา) 20%

กลุ่มที่ 12 คณะศิลปกรรมศาสตร์ , คณะวิจิตรศิลป์ , คณะดุริยางฯ , คณะศิลปการออกแบบ
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 4/6 (เลือก 1 วิชา) 40%

กลุ่มที่ 13 คณะนิเทศศาสตร์, คณะอักษรศาสตร์, คณะศิลปศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์ , คณะนิติศาสตร์ , คณะสังคมวิทยา , คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 30% และ PAT 1 20%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 3 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 30% และ PAT 7 20%

มีข่าวว่า
อันดับหนึ่งของประเทศสอบได้วารสารศาสตร์

ปี 2559 และ 2558 ผลสอบแอดมิชชั่น 6 อันดับแรกเลือกสายสังคมศาสตร์ทั้งหมด

งานดุษฎีนิพนธ์ การพัฒนาระบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นฐานสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา

phd research
phd research

งานดุษฎีนิพนธ์ของคณะศึกษาศาสตร์ ของ สันติ วิจักขณาลัญฉ์ (2544) ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นฐานสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา เพื่อศึกษาผลการใช้ระบบการเรียนการสอนต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้เรียน กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ ที่เรียนรายวิชา 214250 การพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และนักศึกษาคณะเทคนิคการแพทย์ที่เรียนรายวิชา 472333 ไฟฟ้าบำบัด 2 จำนวน 68 และ 48 คน ตามลำดับ วิธีดำเนินการวิจัยใช้การศึกษาบริบทและสังเคราะห์ระบบ พัฒนาประสิทธิภาพของระบบโดยการวิจัยเชิงปฏิบัติการ และประเมินประสิทธิภาพของระบบตามเกณฑ์ที่กำหนดขึ้น ผลการศึกษาพบว่าระบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบคือ ผู้เรียน ผู้สอน วัตถุประสงค์รายวิชา แหล่งการเรียนรู้ และวิธีการวัดประเมินผล โดยมีรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 2 รูปแบบ คือ (1) รูปแบบการเรียนแบบประสานเวลา ซึ่งมี 5 ขั้นตอน คือ วิเคราะห์หลักสูตร กำหนดจุดประสงค์การเรียน เตรียมบุคลากรและแหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ จัดเครือข่ายการเรียนรู้ และประเมินการเรียนการสอน (2) รูปแบบการเรียนแบบไม่ประสานเวลา เป็นการจัดการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนทำโครงงานตามความสนใจที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาสาระในบทเรียน และจากการศึกษาผลการใช้ระบบพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนทั้ง 2 รายวิชาสูงขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด และความสามารถขั้นสูงในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของผู้เรียนทั้ง 2 รายวิชา มีระดับควงามสามารถเฉลี่ยอยู่ในระดับพอใช้ถึงดี
อ้างอิงจาก
สันติ วิจักขณาลัญฉ์ รศ.ดร.สุลัดดา ลอยฟ้า ผศ.ดร.ทัศนี บุญเติม และรศ.ยืน ภู่วรวรรณ (2544), การพัฒนาระบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นฐานสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา, ค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2557, แหล่งที่มา
https://docs.google.com/file/d/0B_dx3cf4F2pkVGZBRzV5SFNRS2s
http://ednet.kku.ac.th/~eddci/department/index.php?option=com_content&view=article&id=71:thesis45&catid=44:2009-11-25-15-12-32

รูปแบบจำลองระบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นฐานสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา
รูปแบบจำลองระบบการเรียนการสอนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นฐานสำหรับนักศึกษาระดับอุดมศึกษา

รวมงานวิจัยในชั้นเรียน ที่สมบูรณ์มีถึง 199 รายการ
https://drive.google.com/folderview?id=0B_dx3cf4F2pkTmpyak5Pb3FpMzA