เด็ก จับฉลาก แพะตาย แต่ต้องคืนเงินค่าฉลากทั้งหมด

risk about goat
risk about goat

เรื่องน่าคิด ของ ดช.ปัญญา กับ ชาวนา และแพะ 1 ตัว
เค้าว่าเป็น forward mail และเป็นเรื่องแต่ง
ต้นฉบับอ่านได้จากลิงค์ด้านล่าง
.. เหมาะกับ การเล่าให้ผู้ประกอบการฟัง และ สอนเรื่องคุณธรรมจริยธรรม

http://www.ranthong.com/smf/index.php?topic=22925.0 28 สิงหาคม 2552
https://www.gotoknow.org/posts/251779 25 มีนาคม 2552
+ http://lib.edu.chula.ac.th/cuappl/libedu2007/lib_talk/aspboard_Question.asp?GID=72 15 ธันวาคม 2551
+ http://www.vitara4x4.com/webboard/show.php?Category=all&No=5093 8 ตุลาคม 2551
+ http://jumkesinee.blogspot.com/2011/04/blog-post_14.html 14 เมษายน 2554
เรื่องราวจาก forward mail เนื้อหาเดิมที่ส่งต่อ และชื่นชม ดช.ปัญญา

เรื่องราวเดิมที่แชร์กัน เกี่ยวกับ ดช.ปัญญา

ดช.ปัญญา เป็นเด็กที่เกิดในเมืองแต่ย้ายไปอยู่ในชนบท
วันหนึ่งไปซื้อแพะจากชาวนาในราคา 1000 บาท
ซึ่งชาวนายินดีที่จะส่งมอบแพะในวันรุ่งขึ้น

พอวันรุ่งขึ้น
ชาวนาก็ไปหา ดช.ปัญญา
แล้วบอกว่า “ข่าวร้ายหนูเพราะแพะเพิ่งตายไปเมื่อคืนที่แล้วเอง
ดช.ปัญญา ก็บอกว่า “ไม่เป็นไรถ้าเช่นนั้นคืนเงินให้ผมก็แล้วกัน
โอ เสียใจด้วยจริงๆ แต่ฉันใช้เงินนั่นไปหมดแล้ว” ชาวนาพูดด้วยสีหน้าเศร้า ๆ
ไม่เป็นไร ถ้างั้นเอาแพะตัวนั้นมาให้ฉัน
หนูจะเอาแพะตายไปทำอะไร
(หมู่บ้านนี้จะฝังแพะที่ตายเอง ไม่นำมากิน)
” ชาวนาถามด้วยความฉงน
ฉันจะเอาไปจับฉลากขาย
จะไปจับฉลากแพะที่ตายได้อย่างไร ใครจะไปซื้อ
ได้ซิ คอยดูละกัน
จากนั้นชาวนาก็มอบแพะที่ตายให้ดช.ปัญญาไป

หนึ่งเดือนผ่านไป
ชาวนาพบกับดช.ปัญญาจึงถามว่าตกลงเอาแพะที่ตายไปทำอะไร
ฉันก็ทำฉลาก 500 ใบ ขายใบละ 10 บาท
แล้วบอกว่าใครดวงดีจับฉลากได้ก็ได้แพะไปเลย 1 ตัว

ฉันได้เงินมา 5000 บาท ได้กำไรหลังจากหักที่จ่ายให้ลุงชาวนาไปแล้ว 3990 บาท

เงียบไปแป๊ปนึง
แล้วไม่มีคนโวยวายหรือ (เพราะแพะตายแล้ว)” ชาวนาถามด้วยความสงสัย
ก็มี มีคนเดียวคือคนที่จับฉลากได้ และฉันก็แค่คืนเงินค่าฉลากจำนวน 10 บาทให้คนๆนั้นไป
ในเรื่องบอกว่า ดช.ปัญญาต่อมาเติบโตและเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก

 

เรื่องราวแต่งใหม่ ที่อาจเป็นจริงในปัจจุบัน กับชาวนาผู้ซื่อสัตย์

ดช.ปัญญา เป็นเด็กที่เกิดในเมืองแต่ย้ายไปอยู่ในชนบท
วันหนึ่งไปซื้อแพะจากชาวนาในราคา 1000 บาท
ซึ่งชาวนายินดีที่จะส่งมอบแพะในวันรุ่งขึ้น

พอวันรุ่งขึ้น
ชาวนาก็ไปหา ดช.ปัญญา
แล้วบอกว่า “ข่าวร้ายหนูเพราะแพะเพิ่งตายไปเมื่อคืนที่แล้วเอง
ดช.ปัญญา ก็บอกว่า “ไม่เป็นไรถ้าเช่นนั้นคืนเงินให้ผมก็แล้วกัน
โอ เสียใจด้วยจริง ๆ แต่ฉันใช้เงินนั่นไปหมดแล้ว” ชาวนาพูดด้วยสีหน้าเศร้า ๆ
ไม่เป็นไร ถ้างั้นเอาแพะตัวนั้นมาให้ฉัน
หนูจะเอาแพะตายไปทำอะไร
(หมู่บ้านนี้จะฝังแพะที่ตายเอง ไม่นำมากิน)
” ชาวนาถามด้วยความฉงน
ฉันจะเอาไปจับฉลากขาย
จะไปจับฉลากแพะที่ตายได้อย่างไร ใครจะไปซื้อ
ได้ซิ คอยดูละกัน
จากนั้นชาวนาก็มอบแพะที่ตายให้ดช.ปัญญาไป

หนึ่งเดือนผ่านไป
ชาวนาพบกับดช.ปัญญาจึงถามว่าตกลงเอาแพะที่ตายไปทำอะไร
ฉันก็ทำฉลาก 500 ใบ ขายใบละ 10 บาท
แล้วบอกว่าใครดวงดีจับฉลากได้ก็ได้แพะไปเลย 1 ตัว
(โดยไม่บอกใครว่าแพะตายแล้ว)

ฉันได้เงินมา 5000 บาท ได้กำไรหลังจากหักที่จ่ายให้ลุงชาวนาไปแล้ว 3990 บาท

เงียบไปแป๊ปนึง
แล้วไม่มีคนโวยวายหรือ (เพราะแพะตายแล้ว)” ชาวนาถามด้วยความสงสัย
ก็มี .. มีคนเดียวคือคนที่จับฉลากได้
และฉันก็แค่คืนเงินค่าฉลากจำนวน 10 บาทให้คน ๆ นั้นไป

ดช.ปัญญา เงียบไปอีกแป๊ปนึง
แล้วเล่าต่อว่า “คนที่ได้ตังคืน 10 บาท
กลับไปบอกเพื่อน ๆ ที่ซื้อฉลากไปอีก 499 ใบ
ว่าแพะที่ ดช.ปัญญา เอามาประกาศตายก่อนหน้านั้นแล้ว
พอพวกแม่ค้า พ่อค้า ชาวไร่ ชาวนา รู้ความจริงเข้า
เค้าก็มาเข้าแถว .. ขอเงินค่าฉลากคืนกันหมด

งั้นเอ็งก็ไม่มีเงินเหลือที่ได้จากฉลากเลยสิ
ไม่เป็นไรหรอก .. ข้าเก็บเงินได้มากพอ เอามาคืนให้เอ็งแล้ว
เอ้านี้ 1200 บาท ข้าคืนให้พร้อมดอกเบี้ย
” ชาวนาพูดพร้อมยื่นเงินให้
ในเรื่องบอกว่า ชาวนาเป็นคนซื่อสัตย์
ต่อมาก็ค้าขายกลายเป็นเศรษฐีใจบุญผู้ซื่อสัตย์ มีความสุข และพอเพียง

 

หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด

หลวงตามหาบัว กับคำสั่งเสีย
หลวงตามหาบัว กับคำสั่งเสีย

5 มี.ค.54 หลวงตามหาบัวแห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด)
ละสังขารแล้วเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2554 เวลา 03.53 น. สิริรวมอายุ 98 ปี หลังอาพาธด้วยอาการปอดติดเชื้อมาเป็นเวลานาน ในเวลาต่อมาชาวพุทธเข้าสักการะสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด และร่วมพิธีพระราชทานเพลิงในวันที่ 5 มี.ค.2554 เริ่ม 13.00น.
คำสั่งเสีย “มือของครูอาจารย์ กับมือของลูกศิษย์ลูกหา ญาติมิตรเพื่อนฝูง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้แทนกันได้ ไว้ใจกันได้” และมีคำสั่งเสียอื่น อาทิ ใช้หีบไม้ และไม่สร้างเจดีย์ .. เป็นธรรมทานให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้สัจธรรม .. คล้ายกับพระพุทธทาส
http://www.atnnonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=26828:2011-03-03-15-26-35&catid=83:variety&Itemid=77
http://www.thairath.co.th/today/view/153594
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNU5qUXdNREV5TVE9PQ==

งานศพบนวิถีการให้เกียรติ 360 องศา

ภาพประกอบจาก พิธีศพของท่านพุทธทาส
ภาพประกอบจาก พิธีศพของท่านพุทธทาส

      ได้รับเชิญไปร่วมพิธีประชุมเพลิง หรือพิธีฌาปนกิจศพ ของผู้สูงอายุในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ท่านเป็นครูเก่าบวชเรียนมาแต่เยาว์ และมีลูกหลานหลายคน ลูกแต่ละคนก็มีหน้าที่การงานที่ดี ในหมู่หลานนับสิบคน ก็มีหลานที่เรียนจบแล้วอยู่หลายคน
        ไปร่วมประมาณ 10.00 น. ทำพิธีและทานอาหารกันเสร็จก็ประมาณ 12.00 น. ผมไปรอที่วัด ส่วนผู้สูงอายุในหมู่บ้านก็ทะยอยกันกลับบ้าน ยกเว้นคนหนุ่มสาว กับเพื่อนบ้านใกล้ชิด ที่ไปร่วมพิธีประชุมเพลิง ช่วยกันลากล้อที่มีศาลาราคา 2 หมื่นกว่าบาทเป็นหนึ่งในเครื่องทาน ส่วนผู้มีเกียรติมากหน่อยก็จะไปรอที่ฌาปนสถาน เพื่อร่วมพิธีประชุมเพลิง ระหว่างลากรถไปฌาปนสถานจะโปรยทานไปด้วย ใครได้เบอร์ที่ห่อไว้ในเหรียญตรงกับอายุ ก็ให้ออกไปรับซองรางวัล เป็นการชิงโชค หรือความเอื้ออาทรของเจ้าภาพ
       กว่าจะลากศพไปถึงฌาปนสถาน ก็ประมาณ 13.00 น. เพราะรอแม่บ้านล้างจาน และเตรียมชื่อแขก เพราะมีผู้มีเกียรติในงานที่ต้องออกไปวางผ้า 99 ท่านพอดี ประกอบด้วยผ้าตามอายุ 85 ผืน และผ้าไตรบังสุกุลอีก 14 ผืน พระสงฆ์ใช้เวลาสวดไม่นาน ก็เริ่มเชิญแขกไปวางผ้าทั้ง 99 ผืน แล้วเจ้าภาพก็มอบซองเงินสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สถานีอนามัย และกลุ่ม รวม 12 ซอง จากนั้นก็ให้ตัวแทนเจ้าภาพอ่านประวัติผู้ล่วงลับในหนังสือที่แจกให้ สุดท้ายเสร็จพิธีด้วยการเปิดให้ผู้ร่วมงานนำดอกไม้จันทร์ไปวางหน้าศพบนเมรุ ในเวลาประมาณ 14.30 น.