อุปทานหมู่กับศรัทธาในศาสนาที่กำลังลดลง

11 เม.ย.53 ในขณะที่สารสนเทศเริ่มมีความชัดเจนเพิ่มขึ้น และสารสนเทศที่ไม่ถูกยอมรับก็เริ่มจะหายไป ความจริงเริ่มกระจ่างกว่าความเชื่อ ศรัทธาในสิ่งที่เราไม่รู้เริ่มลดลง ทุกอย่างต้องการถูกพิสูจน์ การโกงบ้านโกงเมืองเพิ่มขึ้นเพราะคนกลัวบาปกรรมลดลง .. ครั้งหนึ่งได้ข่าวว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะเอาวัดเข้าห้างสรรพสินค้า เพราะเยาวชนเข้าห้างมากกว่าวัด แต่ก็หายไป .. ก็ให้ไปนึกถึงเรื่องของอุปทานหมู่ หรือการโน้มน้าวจิตใจในการประชุมใดใด ที่จิตใจของคนเราถูกควบคุมได้ ถ้ามีศรัทธา .. เชื่อว่าจิตใจของเด็กยุคใหม่คงจะยึดมั่นในความสมเหตุสมผลมากขึ้น เพราะเยาวชนในปัจจุบันเรียนหนังสือกันเป็นบ้าเป็นหลัง ทุกอย่างต้องพิสูจน์ได้ ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ ต่างกับผู้ใหญ่ในปัจจุบันยังไปดูหมอ ยังเชื่อเรื่องดวงวันเกิด ยังเชื่อชีวิตหลังความตาย .. แต่เด็กสมัยนี้ไม่เข้าวัดก็เพราะไม่มีศรัทธา ประพฤติตัวเหลวแหลก เพราะไม่เชื่อในกฎแห่งกรรมและพ่อแม่ก็ไม่พาเข้าวัด .. สรุปว่าอุปทานหมู่เกิดจากศรัทธา แต่ในอนาคตศรัทธาของมนุษย์จะลดลงไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่มีอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจพวกเขาอีกแล้ว .. น่าเป็นห่วงนะครับ กับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ที่ขาดศรัทธา
     อุปทานหมู่  (Collective Hysteria, Collective Obsessional Behavior, Mass Hysteria หรือ Mass Psychogenic Illness) เป็นปรากฏการณ์ทางจิตสังคมอย่างหนึ่ง มีลักษณะเป็นการแสดงออกอย่างเดียวกับโรคฮิสเตอเรียหรือโรคผีเข้า (อังกฤษ: Hysteria) แต่อุปาทานหมู่นั้นเป็นอาการสมดังชื่อ คือ เกิดขึ้นในคนหมู่ โดยมักมีสาเหตุจากการที่คนกลุ่มหนึ่งเชื่อว่าตนกำลังประสบภาวะเจ็บป่วยหรืออาการอื่นอย่างเดียวกัน
     ปรากฏการณ์อุปาทานหมู่นั้นเกิดขึ้นเมื่อบุคคลหนึ่งเกิดป่วยหรือมีอาการของโรคฮิสเตอเรียอันเป็นผลมาจากภาวะเครียดและเมื่อผู้ป่วยคนนั้นเริ่มแสดงอาการ คนอื่นรอบข้างก็เริ่มแสดงอาการด้วย เพราะเชื่อว่าตัวเองก็ประสบภาวะอย่างเดียวกัน อาการที่แสดงเช่นว่ามักได้แก่ อาการคลื่นไส้ (Nausea), อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscle Weakness) การชัก (Fit) หรืออาการปวดศีรษะ (Headache)
     อุปาทานหมู่มีลักษณะเด่น ตรงที่ไม่อาจหาสาเหตุแน่ชัดได้ อาการที่เกิดก็มักมีความคลุมเครือ แต่มักเชื่อกันว่ามีสาเหตุมาจากอำนาจเหนือธรรมชาติหรือเป็นทางทางศาสนา โดยว่ากันทางประชากรศาสตร์ อุปาทานหมู่เกิดมากในเพศเมียและในหมู่ผู้ที่รับบริการทางการแพทย์บ่อย ๆ คือพวกที่รับประทานยาหรือใช้ยามาก ๆ เป็นต้น
     อาการตื่นตระหนกทางใจ (Moral Panic) มีอาการแสดงคล้ายกับอุปาทานหมู่มาก อย่างไรก็ตาม เจอโรม คลาร์ก (Jerome Clark) นักวิจัยเรื่องเหลือเชื่อและจานผี ชาวอเมริกัน กล่าวว่า อุปาทานหมู่เป็นคำอธิบายอันไร้มูลฐานเมื่อเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญไม่อาจหาคำอธิบายได้สำหรับกรณีอันยุ่งเหยิงหรือน่าตระหนกใจ 
กรณี 1 อุปทานจากละคร
เป็นละครน้ำเน่าเกี่ยวกับชีวิตของเด็กในวัยทีนที่ได้รับความนิยมสูงมากในประเทศตุรกี โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นที่พากันติดงอมแงม – เดือนพฤษภาคม ปี 2006 โรคระบาดที่มีชื่อว่า ‘Morangos com Acucar virus’ เกิดขึ้นครั้งแรกในโรงเรียน 14 แห่ง นักเรียนมากกว่า 300 คน เกิดอาการประหลาด ซึ่งคล้ายคลึงกับอาการของตัวละครหนึ่งในละคร อาการดังกล่าวได้แก่ ผื่นขึ้น หายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ รุนแรงถึงขนาดบางโรงเรียนต้องปิดลง หน่วยสาธารณสุขได้ออกมาตรวจสอบและสรุปว่าเป็นปรากฏการณ์อุปทานหมู่ ซึ่งเกิดจากละคร บรรดาผู้ปกครองต่างพากันวิตกกังวล เพราะละครน้ำเน่าดังกล่าวไม่ได้ฉายทางทีวีอย่างเดียว มันยังตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารอีกด้วย
กรณี 2 อุปทานหมู่นร.อาชีวะตรัง
นร.อาชีวะตรังปี 2 นับร้อยคนเกิดอาการร้องไห้กรีดร้องเสียงดังสนั่นโรงเรียนลักษณะคล้ายร่างทรงบางรายพูดเป็นภาษาจีนก่อนจะวิ่งออกมาที่ศาลพระภูมิ โดยมีครูสวดมนต์ผ่านเครื่องขยายเสียงหวังให้สถานการณ์ผ่อนคลาย ผู้ปกครองแห่งรับกลับบ้านยันปี 2549 เคยเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันมากแล้ว ครูใหญ่เมินส่งรักษาโรงพยาบาลอ้างไม่ใช้เหตุร้ายแรง
+ http://lonesomebabe.spaces.live.com/blog/cns!B3DBC94207C84DE2!1755.entry
+ http://news.sanook.com/social/social_274960.php
+ http://www.trangzone.com/webboard_show.php?ID=3768
+ http://www.youtube.com/watch?v=DhNe7p-APp8
+ http://www.youtube.com/watch?v=TCH4aG_A5-Y

การเปลี่ยนแปลงของสารสนเทศกับเวลา

สารสนเทศกับเวลา
สารสนเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปพบว่าสังคมมีความสามารถในการเลือกเชื่อและใช้สารสนเทศ โดยใช้ประสบการณ์ของแต่ละบุคคล สิ่งที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้คือมีสารสนเทศมากมายที่หมดอายุเช่นการไปวัดของเยาวชนลดลง อุปกรณ์มากมายล้าสมัยเช่น โทรเลข หรือวิทยุติดตามตัว ส่วนการทอดไข่ด้วยน้ำมันหมูก็หายไป ร้านเน็ตลดลงแต่ร้านเกมเพิ่มขึ้น

หัวหน้าทักว่าทำไมไม่เขียน blog อีก .. ต้องตอบ

20 ม.ค.53 หลายวันมานี้ผมติดภารกิจ มีหลายเรื่องที่แก้ไม่ตก ส่วนเรื่องเขียนนั้น ผมก็เขียนตามปกติไว้ที่ thaiall.com/blog แต่ไม่ได้เขียนที่ blog ของโยนก เพราะเรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องส่วนตัว อาจเป็นแง่ลบต่อสังคมโยนก และสังคมมนุษย์ ที่ไม่อยากให้เกิดบูมเมอแรงเข้าตัว จึงไปเขียนนอกโยนก อย่าง 2 เรื่องล่าสุดที่เขียนไป คือ pr ซึ่งเป็นประสบการณ์เกี่ยวกับ sw ที่ไม่เหมาะนักและไม่อยากให้โยนกติดร่างแห่ไปด้วย อีกเรื่องคือเรื่องอุบัติเหตุจากการฟ้อนรำ ซึ่งผมคิดว่ามนุษย์เราควรเลิกได้แล้วเรื่องการเอาผู้หญิงมาฟ้อนรำ เป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน .. ก็เป็นการแบ่งปันความเชื่อให้ชวนคิดกันเท่านั้นครับ ว่าสิ่งที่เราทำอาจไม่ถูกทุกเรื่อง และสิ่งที่ถูกอาจยังไม่ได้ทำ