แอพฟุ้งฟิ้งกับ i-view บน i-mobile

i-view

ได้โทรศัพท์ i-mobile IQ BIG 2 มาเมื่อเดือนกันยายน 2559
แล้วมาลองแอพ i-view สำหรับแต่งหน้า
ค้นใน play store ไม่มีให้ download
พบว่า app นี้มีให้ใช้เฉพาะบน i-mobile
รวมถึงแอพอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่น่าสนใจ
มาพร้อมกับเครื่องแล้ว ถอนออกไม่ได้ แต่ปิดการใช้งานได้
ไปอ่าน review ที่ http://news.siamphone.com/review-20912.html
ผลการทดสอบแต่งหน้าตนเอง ด้วย i-view

i-view1 i-view2 i-view3
ประเด็นที่อยากพูดคุยกับนักศึกษา
การแสดงออกที่งาม
1. กายงาม
2. วาจางาม
3. ใจงาม
หลายครั้งเข้าไปใน profile ของนักศึกษา
พบว่านักศึกษามีกันหลายพฤติกรรม
– บางคนกายงาม
– บางคนวาจางาม
– บางคนใจงาม
แต่จะงามครบทั้ง 3 เรื่องนี้มีไม่มากดังที่หวัง
อย่างน้อยก็อยากพูดถึงแอพช่วยแต่งหน้า
เพราะบางคนไม่กล้าปรากฎตัวในสื่อสังคมเลยก็มี
ซึ่งเข้าใจได้ สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว
ปัจจุบันการเข้าสื่อสังคมนั้น
เราเลือกคบเพื่อนได้ และกำหนด private ได้

แอพอื่น ๆ ที่ดาวน์โหลดไปแต่งหน้าได้
Camera 360
https://play.google.com/store/apps/dev?id=7074450904720558835&hl=th
BeautyPlus
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.commsource.beautyplus&hl=th
Cymera
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.cyworld.camera&hl=th
FotoRus
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.wantu.activity&hl=th
MakeupPlus
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.meitu.makeup&hl=th

สวยไม่ได้มาตรฐาน ตกงานได้ง่าย ๆ นะ .. ขอบอก

nattha komolvadhin
nattha komolvadhin

อ่านพบจาก fb profile ของ Nattha Komolvadhin
ซึ่งเธอทำงานที่ ThaiPBS มีงานออกสื่อบ่อยครั้ง
เป็นเรื่องของ Julia chen ถูกทิ่มใจดำ
ติดตามเรื่องนี้ได้ที่

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151697980670892&set=a.10150120081805892.284381.709100891

เรื่องราวของ Julie Chen

มีเรื่องที่อาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก และไม่มีสาระในสายตาคุณผู้ชาย แต่สำหรับผู้หญิงเป็นเรื่องใหญ่มาก

เรื่องของ “ความสวย และความก้าวหน้าในอาชีพการงาน

มีข่าวที่สร้างความฮือฮาในสหรัฐไม่น้อย เมื่อ Julie Chen หนึ่งในพิธีกรรายการ “The Talk” เปิดเผยความลับของเธอกลางรายการทีวีว่า เธอต้องไปทำศัลยกรรมให้ตาโตขึ้น เพื่อที่จะเติบโตในงานผู้ประกาศหน้าจอโทรทัศน์

julie chen
julie chen

เหตุเกิดเมื่อปี 1995 วันที่เธอยังเป็นนักข่าวท้องถิ่นที่เมือง Dayton เธอเป็นนักข่าวภาคสนาม และบอกกับผู้บริหารว่าอยากจะขอโอกาสเป็นผู้ประกาศหน้าจอบ้าง ถ้าเผื่อมีคนลางาน หรือทำแทนในวันหยุดก็ได้ ปรากฏว่าผู้บริหารชายท่านนั้นบอกว่า

คุณคิดว่าหน้าตาคุณเป็นแบบนี้จะมีคนดูเหรอ หน้าตาคุณออกจีนๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนในท้องถิ่น และถ้าให้ผมพูดตรงๆก็คือ ตาคุณที่เป็นแบบนี้ (ตาชั้นเดียว) ดูไม่น่าสนใจ ดูน่าเบื่อ และดูไม่ตื่นตัว

จูลี่ บอกว่าความเห็นที่ออกมาแบบนั้น เสมือนมีดสั้นที่ทิ่มแทงหัวใจ เสมือนกับการพูดตัดโอกาสว่าชาตินี้เธอจะไม่มีทางเจริญก้าวหน้าใดๆ ก็เพราะว่ามีตาชั้นเดียว เหมือนหมวยจีนทั่วๆไป

ต้องบอกไว้ก่อนว่าจูลี่ เป็นที่ยอมรับอย่างมากเรื่องความสามารถ สัมภาษณ์คนได้อย่างดี ทำข่าวได้เยี่ยม

พอถูกเจ้านายวิพากษ์เรื่องหน้าตาตรงๆ เธอเลยคิดหนัก แทบจะเสียความมั่นใจในตัวเอง และยิ่งพอได้คุยกับเอเจนต์หางาน ก็ยิ่งคิดหนัก เพราะเอเจนต์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทางออกเดียว คือ ต้องไปทำตาสองชั้น (วงการผู้ประกาศในสหรัฐแข่งกันดุมาก นอกจากจะต้องเก่งมากแล้ว ภาพลักษณ์หน้าจอเป็นเรื่องตัดสินด้วยว่าจะได้งานหรือไม่ได้งาน)

ในที่สุดเธอตัดสินใจไปทำ และหน้าตาเปลี่ยนไปอย่างที่เห็น
แน่นอนว่าเธอดูตาโตขึ้น ดูสวยขึ้น และหน้าที่การงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
จูลี่ บอกว่าไม่เคยออกมาเปิดเผยตรง ๆ แบบนี้ แต่คนที่เห็นเธอก็คงรู้ว่าเธอไปทำตามาแน่นอน และต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าตาที่ไปกรีดสองชั้นมาจะสวยเข้าที่อย่างที่เห็น

เรื่องนี้มีทั้งเรื่องความสวย เรื่องชาติพันธุ์ความเป็นคนจีนในสังคมสหรัฐ และหน้าที่การงานของผู้หญิง

เรื่องราวของจูลี่ สำหรับสังคมอเมริกันคือการเหยียดชนชาติ (racism) ว่าวงการสื่อไม่ยอมรับความสวยแบบจีนๆ

แต่เรื่องราวของจูลี่ สะท้อนภาพรวมว่าผู้หญิงเมื่อก้าวสู่โลกสาธารณะ มีหลายอย่างเป็นปัจจัยที่จะตัดสินว่าพวกเธอจะเดินต่อไป หรือ “ไม่ได้” เดินต่อไปในอาชีพการงาน ความสามารถล้วนๆไม่พอ

ด้านหนึ่งจูลี่ได้รับความเห็นใจและได้รับการสนับสนุนอย่างมากที่ “กล้า” เปิดเผยเรื่องราวของเธอให้คนรับรู้ แต่อีกด้านหนึ่งยังมีคนค้านเช่นกันว่าที่เธอยอมถูกกรีดตา ก็เพื่อจะได้ “ความสวย” มาครอบครอง โดยที่ไม่ยอมต่อสู้

การตัดสินใจของจูลี่ คงเป็นเรื่องที่คิดแทนกันไม่ได้ แต่เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า “มาตรฐานของความสวย” ที่ตั้งไว้โดยสังคม อาจจะกำลังเป็นหอกทิ่มแทงผู้หญิงจำนวนมาก และสร้างความทุกข์ให้กับผู้หญิงจำนวนมากเมื่อพวกเธอคิดว่า “สวยไม่ได้มาตรฐาน” ตามที่สังคมบอกไว้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสวย หน้าตา เป็นปัจจัยสำคัญต่อโลกแห่งการทำงานของผู้หญิง และยิ่งมีมาตรฐานความสวยที่ตั้งไว้สูงมาก และต่างกันไปในแต่ละสังคม ไม่นับรวมสินค้าหลากหลาย วงการโฆษณาต่างๆ ยิ่งทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าแรงกดดันมีมาก และจะต้องทำสวยเท่าที่จะทำได้เพื่อ “ให้ได้มา” ซึ่งความฝัน

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151697980670892&set=a.10150120081805892.284381.709100891

นสพ.ในซันตงถูกสั่งปิด เพราะเผยแพร่ภาพ “สาวสวย”

นสพ.ในซันตงถูกสั่งปิด เพราะเผยแพร่ภาพ “สาวสวย”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     8 กรกฎาคม 2556 16:15 น.

beauty news
beauty news

VULGAR CONTENT = เนื้อหาหยาบคาย

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในมณฑลซันตง The Blue Express Daily โดนปิดเป็นเวลาสามเดือน เจ้าหน้าที่อ้างเหตุเพราะ “เนื้อหาไม่เหมาะสม” โดยลงภาพ “สาวสวย” (ภาพ เอเจนซี)

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9560000083205

เอเจนซี--หนังสือพิมพ์ยอดนิยมในมณฑลซันตง ถูกทางการสั่งปิดเป็นเวลาสามเดือน เหตุเพราะ เผยแพร่เนื้อหา “ที่ไม่เหมาะสม

สืบเนื่องจาก สำนักงานกำกับดูแลสื่อสิ่งพิมพ์ประจำมณฑลซันตง ได้อ้าง “ว่าด้วยการตีพิมพ์เผยแพร่สื่อสิ่งพิมพ์” และกฎฯอื่นๆ ออกคำสั่งแก่ The Blue Express Daily และสื่อสิ่งพิมพ์จำนวนหนึ่งที่ฝ่าฝืนกฎฯ หยุดดการตีพิมพ์และจัดจำหน่าย

ในวันศุกร์(5 ก.ค.56) The Blue Express Daily (Lan Se Kuai Bao/蓝色快报) ได้ตีพิมพ์จดหมายอำลา ผู้อ่านที่หน้าแรกของหนังสือพิมพ์ “ถึงผู้อ่านที่รัก พวกเราซาบซึ้งใจและรำลึกถึงความเอื้ออาทรของท่านเสมอมา ทั้งการสนับสนุนและความช่วยเหลือ ตั้งแต่วันแรกที่หนังสือพิมพ์ถือกำเนิด…ขอจงยืนหยัดฝ่าฝืนอุปสรรคนานา ขอจงรอคอยการกลับมาของเรา

ใต้จดหมายอำลาฉบับนี้ ยังมีบทกวีของกวีร่วมสมัยจีน ซู่ ถิง(舒婷) ชื่อว่า “บางที”
บางทีด้วยภาระอันหนักอึ้งบนบ่าของเรา, บางทีด้วยความเชื่อที่หนักแน่นขึ้นของเรา… บางทีเราไม่มีทางเลือกใดแล้ว เนื่องจากสิ่งที่เรามิอาจต้านทาน

นาย หาน ห่าว บรรณาธิการบริหาร The Blue Express Daily สื่อในเครือต้าจ้ง นิวส์ กรุ๊ป (Dazhong News Group /大众报业集团) ระบุว่า The Blue Express Daily เป็นสื่อท้องถิ่นเมืองเหยียนไถ มณฑลซันตง เริ่มเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ปีที่แล้ว(2555) มีพนักงาน กว่า 300 คน จำนวนพิมพ์ 60,000 ฉบับ

แม้ในจดหมายอำลาผู้อ่านมิได้ระบุสาเหตุการปิดหนังสือพิมพ์ ชีว์ ขุยเฉิง ผู้ช่วยบรรณาธิการ กล่าวถึงสาเหตุการปิดหนังสือพิมพ์ ว่า “เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม” เป็นสาเหตุหลัก

เนื้อหาที่เสื่อมทราม” เป็นหนึ่งในข้อกล่าวหา การปิด The Blue Express Daily …ในประวัติศาตร์หนังสือพิมพ์และประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบัน ได้พลิกเปลี่ยนหน้าใหม่แล้ว พวกเรานักหนังสือพิมพ์กำลังเผชิญกับ ความมืดมนที่สุดนับจากปลายราชวงศ์ชิง

หาน ให้สัมภาษณ์กับสื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ เมื่อวันศุกร์(5 ก.ค.56) เผยเบื้องหลังการปิดหนังสือพิมพ์ มาจากการกลั่นแกล้งของคู่แข่ง โดยคู่แข่งได้ไปหาเจ้าหน้าที่และโจมตีหนังสือพิมพ์ว่า ตีพิมพ์ภาพที่ไม่เหมาะสม คือ “สาวสวย” หานกล่าวว่าภาพ “สาวสวย” ที่ว่านี้เป็นภาพสาวไฮไซฯ ในหน้าข่าวบันเทิง

ทั้งนี้ The Blue Express Daily ออกวางตลาดได้ไม่กี่เดือน ก็เผชิญมรสุมความรุนแรง โดยกลุ่มอันธพาลได้บุกสำนักงาน ทุบพังคอมพิวเตอร์ และทำร้ายคนในกองบรรณาธิการ

ใครๆก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ” หาน กล่าวโดยอ้างอิงถึงคู่แข่งหนังสือพิมพ์ในท้องถิ่น ซึ่งอิจฉาริษยาThe Blue Express Daily ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

กลุ่มผู้อ่านได้โพสต์ข้อความ หลังจากที่รู้ว่า The Blue Express Daily ถูกปิด อาทิ “หนังสือพิมพ์มักนำเสนอเรื่องชีวิตประชาชนในท้องถิ่นและปัญหาในรัฐบาลท้องถิ่น”

เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอะไรกันหรือ…ผมไม่เคยเห็นเลย” ผู้อ่านคนหนึ่งโพสต์

เราต้องการฟังเสียงที่แตกต่างออกไป เพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น ตลาดจะเป็นผู้ชี้ขาดความเป็นความตายของหนังสือพิมพ์เอง

เสรีภาพสื่อไทย อยู่อันดับที่ 135 จาก 179
เสรีภาพสื่อไทย อยู่อันดับที่ 135 จาก 179