ห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำสงกรานต์

ห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำ
ห้ามขึ้นกระบะสาดน้ำ

http://www.facebook.com/photo.php?fbid=553629801335051&set=a.373573639340669.89979.373126439385389

ออกกฎเข้ม! เมื่อ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ได้กล่าวภายหลังการประชุมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ปี 2556 ว่า เทศกาลนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ซึ่งทาง นายกฯ มีความห่วงใยในการเดินทางของประชาชน จึงได้กำชับให้ทำงานอย่างเข้มงวด ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์เป็นสุขทุกคนปลอดภัยร่วมใจรักษาวัฒนธรรม

http://news.th.msn.com/article.aspx?cp-documentid=252201187

รมช.มหาดไทย กล่าวต่อว่า ในปีนี้จะมอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ออกมาตรการเพื่อลดอุบัติเหตุ และต้องมีการบังคับใช้กฎหมาย ในการขับรถเร็ว เมาแล้วขับ บรรทุกเกินกำหนด อย่างเด็ดขาด ที่สำคัญต้องจัดโซนนิ่งในการเล่นน้ำสงกรานต์ และ ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน

เนื่องจากการเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต สำหรับการกำหนดโซนนิ่ง ให้ถือเป็นดุลยพินิจของผู้ว่าฯ อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่า ผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราจะมีความผิดแล้ว ผู้โดยสารที่ดื่มสุราขณะเดินทางก็มีความผิดด้วยเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

http://www.talkystory.com/?p=53450

สงกรานต์เข้ม!ห้ามขึ้นกระบะเล่นสาดน้ำ

28 มี.ค. 56 พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.) เพื่อซักซ้อมการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดย พล.ต.ชัจจ์ กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยในความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน จึงได้กำชับให้กระทรวงมหาดไทยบูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมป้องกันและลดอุบัตติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างเข้มงวดโดยยึดแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ภายในแนวคิด “สงกรานต์เป็นสุขทุกคนปลอดภัยร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” โดยมีเป้าหมายลดจำนวนครั้ง จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บให้น้อยที่สุด ซึ่งกำหนดเวลาในการดำเนินการช่วงควบคุมเข้มข้น ในระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 โดยจะยึด 6 มาตรการหลักและ 6 มาตรการเน้นหนัก เพื่อมุ่งหวังความปลอดภัยทางท้องถนนแก่ประชาชนในทุกพื้นที่

“ในปีนี้การทำงานของศูนย์ฯจะเป็นครั้งแรกที่จะเปลี่ยนมาตรการจากการสั่งการที่ศูนย์เพื่อให้จังหวัดปฏิบัติ เป็นให้จังหวัดปรับแผนใช้เพื่อความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดออกนโยบายวางมาตรการและแนวปฏิบัติให้อำเภอและท้องถิ่นร่วมมือกันเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุแต่ละท้องที่ นอกจากนี้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายในการขับรถเร็วและเมาสุราหรือบรรทุกเกินกำหนด อย่างเด็ดขาด ที่สำคัญในแผนผู้ว่าทุกจังหวัดจัดโซนนิ่งในการเล่นน้ำสงกรานต์ ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำและสาดตามท้องถนน เนื่องจากการเกิดอันตราย เพราะมีสถิติอยู่กระทำเช่นนี้จะเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และจะมีความผิดตามกฎหมายอาญา ในฐานสร้างความเดือดร้อนหรือประมาทให้ผู้อื่นบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย ซึ่งการกำหนดโซนนิ่งให้เป็นดุลยพินิจของผู้ว่าฯ เนื่องจากแต่ละพื้นที่ในแต่ละจังหวัด จะมีสภาพลักษณะของจังหวัดและความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน เพื่อรักษาและดำรงวัฒนธรรมไทยในเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าผู้ขับขี่ที่ดื่มสุราจะมีความผิดแล้วผู้โดยสารที่ดื่มสุราในขณะเดินทางก็มีความผิดเช่นกัน โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ” พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนระยะที่ 4(2556-2559) มุ่งส่งเสริมกลไกเชิงระบบในการยกระดับมาตรฐานและเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ให้เป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย เพื่อพัฒนาประเทศไทยเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยทางท้องถนนในประชาคมอาเซียน

วุฒิฯจับมือ”มท.-สสส.-มูลนิธิเมาไม่ขับ”หยุดตายบนถนน

ขณะเดียวกันที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการปกครอง วุฒิสภา ร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  และมูลนิธิเมาไม่ขับจัดสัมมนาเชิงยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาอุบัติภัย ภายใต้หัวข้อ “หยุดความตายบนท้องถนน” โดยมีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานฯ พร้อมด้วย นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ตัวแทนหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจากทั่วประเทศ ภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมสัมมนา

นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ในฐานะรองประธาน กมธ.การปกครอง วุฒิสภา กล่าวรายงานว่า ปัจจุบันอุบัติเหตุบนท้องถนนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล อาทิ ปีใหม่ สงกรานต์ มีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ทั้งที่มีการรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุจากทุกภาคส่วนมาโดยตลอด ซึ่งการจัดสัมมาครั้งนี้ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุและลดความตายบนท้องถนนให้มีประสิทธิภาพ

ด้านนายนิคม กล่าวว่า การรณรงค์ลดอุบัติเหตุนั้นทำกันทุกปี ตัวเลขการสูญเสียจากอุบัติเหตุในแต่ละปีอยู่ที่ประมาณ 350 รายซึ่งถือเป็นตัวเลขที่คงที่ แต่ไม่สามารถลดต่ำลงกว่านี้อีกได้เลย ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นประกอบด้วย 3 ปัจจัย ดังนี้

1.ลักษณะทางกายภาพของถนนหนทาง มาตรฐานการก่อสร้าง ความชัดเจนของป้ายจราจร

2.พฤติกรรมของผู้ขับขี่

3.การบังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มงวด

สำหรับในปีนี้ อยากเห็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องบรรลุเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุและความสูญเสียบนท้องถนน พร้อมทั้งสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนคนไทยให้ได้

นายประชา กล่าวว่า การหยุดความตายนั้นไม่สามารถทำได้ แต่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดการตายก่อนเวลาอันควรจากอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ ซึ่งข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลกการรายงานสถิติการเสียชีวิตระบุว่า อันดับ 8 ของการเสียชีวิตประชากรโลกเกิดจากอุบัติเหตุ และคาดว่าในปี 2030 จะขยับขึ้นเป็นอันดับ 5 ทั้งนี้ องค์กรสหประชาชาติได้ออกปฏิญญามอสโกขึ้นมา กำหนดให้ประเทศสมชิกลดอัตราการเสียชีวิตจากอุติเหตุบนท้องถนนให้ได้ร้อยละ 50 ภายในระยะเวลา 10 ปี ซึ่งทางรัฐบาลได้ตอบรับและนำมาเป็นกรอบการทำงานมาตั้งแต่ปี 2553 และกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมทั้งกำหนดเป็นนโยบาย และเป้าหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกพื้นที่ร่วมกันรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศให้มากที่สุด สำหรับมาตรการที่ทุกหน่วยงานควรดำเนินการเพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย ดังนี้

1.หน่วยงานภาคีเครือข่าย รัฐ เอกชน ประชาสังคม เข้าร่วมในการให้ความรู้ และแนวทางในการลดอุบัติเหตุและการสูญเสีย

2.ขับเคลื่อนนโยบายลงสู่หน่วยงานที่รับผิดชอบ

3.เพิ่มการรณรงค์ให้มากขึ้น

4. มีการพัฒนายานพาหนะในประเทศให้ได้มาตรฐานสากล

5.พัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีมาตรฐานสากล ชัดเจน ถูกต้อง และ

6.มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด

ทั้งนี้ ในงานสัมมนามีการเสวนา เรื่อง หยุดความตายบนท้องถนนได้อย่างไร ซึ่งมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายวัฒนา ภัทรชนม์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นพ.ทรงเกียรติ เล็กตระกูล ผอ.สำนักสาธารณะสุขฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข และนายกฤษณะ ละไล นักสื่อสารมวลชน ร่วมเป็นวิทยากร และการถอดบทเรียน หยุดความตายบนท้องถนนได้อย่างไร จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแชร์ความรู้และและประสบการณ์การทำงานเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอีกด้วย

http://www.komchadluek.net/detail/20130328/154953/สงกรานต์เข้ม!ห้ามขึ้นกระบะเล่นสาดน้ำ.html

2012 ห้ามแต่งโป๊ ห้ามเล่นแป้ง

สงกรานต์
สงกรานต์

เล่นแป้ง สงกรานต์
เล่นแป้ง สงกรานต์
สงกรานต์
สงกรานต์

Author: บุรินทร์ รุจจนพันธุ์

I am Lecturer, Developer, Researcher, Columnist, Writer, Photographer, and Webmaster - L@mpang man

Leave a Reply

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.