#เล่าสู่กันฟัง 63-004 กฎเรื่องไว้ผม กับสีกางเกง

อ่านข่าวว่าที่ญี่ปุ่นมีโรงเรียน ม.ต้น
ที่ญี่ปุ่น ออกกฎ ห้ามไว้ทรงผมโพนี่เทล หรือมัดผมหางม้า และระบุสีกางเกงชัดเจนให้ใส่ ศิษย์เก่าบางคนบอกว่าละเมิดสิทธิ์

องค์กรวิจัย TG Hamamatsu ของกลุ่มบุคคลข้ามเพศ (บุคคลผู้มีเพศสภาวะไม่ตรงกับเพศสภาพของตันเอง) ที่เมือง Hamamatsu ได้พบว่าโรงเรียนมัธยมต้น 10 แห่งจากทั้งหมด 48 แห่งมีการออกกฎโรงเรียนที่ว่าด้วยการต้องใส่กางเกงในสีขาวและกฎอื่น ๆ อย่างการห้ามไว้ทรงผมโพนี่เทล ซึ่งสมาชิกขององค์กรมีความเห็นว่ากฎระเบียบเหล่านี้เป็น “การละเมิดสิทธิมนุษยชน”

ในโลกของเรามีกติกาในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน

เช่น
– งดแจกถุงพลาสติก
– แจกเบี้ยผู้สูงอายุ
– มีแบบฟอร์มนักเรียนที่กำหนดสีกางเกงใน
– กำหนดทรงผม
– อนุญาตกัญชา

แล้วผู้คนก็เห็นว่าแปลกหยิบยกมาพูดถึง
จนรู้สึกว่าไม่ปกติ แตกต่างจากความคุ้นชินเดิม เพราะความคุ้นชินเดิมไม่เป็นตามกฎที่ตั้งขึ้นมา

https://www.online-station.net/anime/view/153710

#เล่าสู่กันฟัง 63-001 สวัสดีปีใหม่ นิยมชมชอบทุกเรื่องหนา

“สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2563 (ค.ศ.2020)
คิดอะไรก็ให้สมหวัง สุดปีสุดแล้ง
กู่คู่กู่คน .. เนอะ”

ส่งข้อความแห่งความสุข
ตอบเพื่อนผ่าน msg และ group
ที่ส่งมาแบบตัวต่อตัว
และเข้าไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนกลุ่มไลน์
ในกลุ่มที่เค้าส่งความสุขกันเยอะ ๆ หน่อย
ภาพนี้เป็นผลไม้ที่กำลังออกดกมาก
รสชาติเปรี้ยวจีด
เป็นผลไม้ยืนต้นที่หน้าปากซอย
เก็บไปจิ้มกระปิน้ำปลาก็น่าจะได้
แต่ผมไม่ชอบผลไม้เปรี้ยว
ในแนวผลไม้แบบตะลิงปลิง #Bilimbi
ที่มีสรรพคุณเป็นยาระบายเร่งด่วน

#เล่าสู่กันฟัง 62-292 ขาดไฟเหมือนจะขาดใจ

พลังงานไฟฟ้าเป็นบริการสาธารณะที่สำคัญ อีกสิ่งคือน้ำประปา ที่จะทำให้ชีวิตสะดวกสบาย แต่ถ้ามีบ้านบนดอยบ่อมีแสงสี บ่อมีทีวี บ่อมีน้ำประปาก็จะรู้สึกถึงความสับสน ว่าเราเป็นคนในสังคมเมือง หรือคนนอกสังคมเมือง

อาหารบางมื้อก็ทานของสด บางอย่างทานสดแล้วดี บางอย่างทานสุกจะดีกว่า มื้อนี้ต้องการอาหารสุกที่ต้องใช้ไฟฟ้า จะใช้เตาถ่านก็ไม่สะดวก เตาแก๊สก็ไม่พร้อมใช้ตอนนี้ ทำกินชั่วครั้งชั่วคราว

แต่หม้อต้มชำรุด สายไหม้ไปแล้ว ต้องเปลี่ยนขั้ว ก็ไปหาขั้วใหม่มาต่อไฟแทนตัวเดิม ไฟฟ้าตามบ้านเป็นกระแส DC ไม่มีขั้วบวกลบ มีสองเส้น แต่ห้ามให้แต่ละเส้นมาสัมผัสกัน ไม่งั้นจะเกิดเรื่องใหญ่ ลัดวงจร ไฟไหม้ได้ เวลาต่อสายไฟก็แยกแต่ละเส้นให้ชัดเจน ถ้าเป็นไฟ AC เช่น ถ่านไฟฉาย หรือแบตรถยนต์ จะมีขั้วบวกลบ ต้องให้ถูกขั้ว สลับกันไม่ได้เด็ดขาด

สรุปว่าต่อสายไฟฟ้าเสร็จ ก็ทำอาหารให้สุก และทานอาหารเย็นจนอิ่มอีกหนึ่งมื้อ ด้วยพลังงานไฟฟ้าที่ทรงพลัง

ผีอำ มีคำอธิบายทางการแพทย์

ผีอำ (Sleep Paralysis)
ผีอำ (Sleep Paralysis)

เพราะเปลี่ยนที่นอน คือนอนในที่แคบ ไม่สามารถเหยียดตัวตรง
และมีอากาศไหลเวียนน้อย ก็เหมือนกับนั่งบนรถทัวร์ลำปาง-กรุงเทพนั่นหละ
แต่ครั้งนี้ ไม่เคยชินกับที่แคบ น่าจะมีภาวะทางจิตเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อตื่น หรือรู้สึกตัวว่าตื่น พบว่าขยับตัวไม่ได้
เหมือนถูกผีฉุดแขนฉุดขา
ในทางการแพทย์เค้าว่า ผีอำ (Sleep Paralysis) เป็นเพราะสมองตื่น แต่ร่างกายหลับไปแล้ว
การเปลี่ยนที่นอนครั้งนี้น่าจะทำให้กล้ามเนื้อ และข้อต่อเกิดความเครียด
เพราะลุกออกมา พบว่า เมื่อยขบไปทั้งตัว
http://health.kapook.com/view6718.html
อาการผีอำเกิดจากการที่กล้ามเนื้อของร่างกาย เข้าสู่ภาวะการหลับ
ที่เรียกว่า REM (Rapid Eye Movement)
แต่สมองส่วนที่เป็นจิตสำนึกยังตื่นอยู่ อาการผีอำเป็นอาการที่ร่างกายกับจิตสำนึกหลับไม่พร้อมกัน
หรือ ตื่นขึ้นมาไม่พร้อมกัน
http://บทความสุขภาพสั้นๆ.blogspot.com/2014/05/sleep-paralysis.html

ความสำเร็จในการจำหน่ายเฟอร์บี้ (itinlife391)

furby
furby

เฟอร์บี้ (Furby) คือ ของเล่นไฮเทคประเภทตุ๊กตาใส่ถ่ายที่สามารถโต้ตอบกับเจ้าของได้ในหลายรูปแบบ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารสมาร์ทโฟน หลายคนบอกว่าเหมือนสัตว์เลี้ยงที่มีชีวิต เพราะเสมือนป้อนอาหารได้ เรียนรู้ภาษาได้ และมีปฏิกิริยาโต้ตอบเมื่อสัมผัส ซึ่งเฟอร์บี้เคยประสบความสำเร็จในการทำตลาดราวปี 1998 มียอดขายกว่า 40 ล้านตัวใน 3 ปี แล้วในปี 2012 ก็กลับมาประสบความสำเร็จผ่าน social media อีกครั้ง เราพบเฟอร์บี้ได้ใน facebook, twitter, instagram, youtube, pinterest หรือ tumblr เพราะกระแสคลั่งไคล้ดารา ทำให้เกิดการเอาเยี่ยงอย่าง เมื่อมีดาราถ่ายรูปกับเฟอร์บี้แล้วส่งรูปเข้าเครือข่ายสังคมก็ทำให้ความนิยมต่อเฟอร์บี้ก้าวกระโดดในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว

ตามหลักของอุปสงค์และอุปทานที่ความต้องการมาก แต่สินค้ามีจำกัดย่อมทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น ดังนั้นเฟอร์บี้ที่เคยมีราคา 4,000 บาท จึงมีราคาพุ่งไปถึง 6,000 บาท เมื่อได้มาแล้วก็ต้องนำมาถ่ายรูปแล้วอัพโหลดเข้าเครือข่ายสังคมว่ามีตุ๊กตาใส่ถ่านตัวนี้ไว้ในครอบครองแล้ว เป็นผลให้ผู้ที่พบเห็นกดไลค์ และพยายามหามาไว้ในครอบครองตามกันไป เป็นแฟชั่นที่มีอัตราการขยายตัวผ่านแรงหนุนจากเครือข่ายสังคมที่ชัดเจน ค่านิยมที่คล้ายกันเคยเกิดกับ Tamagotchi ในปี 1996 แต่ก็ยังไม่เท่าองค์จตุคามรามเทพที่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ส่งผลให้นักเลงพระหลายคนกลายเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามเดือน ในช่วงปี 2007 ที่ชาวบ้านยอมจ่ายเงินบูชาองค์จตุคามรามเทพคองค์ละหลายพันบาทมาแล้ว

ความนิยมเกิดจากความพึงพอใจที่ห้ามกันไม่ได้ เพราะคำว่าชอบเป็นการส่วนตัว เป็นคำตอบที่สำคัญกว่าเหตุผลใด เหมือนกระแสคลั่งไคล้ดาราที่มีคนยอมจ่ายเงินหลายพันบาทไปดูดาราไม่กี่ชั่วโมงปรากฎตัวบนเวที ก็ล้วนเกิดจากความชอบ และเชื่อว่าคุ้มค่ากับการจ่าย ตุ๊กตาเฟอร์บี้ก็เป็นอีกกระแสผลิตภัณฑ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และกำลังจะดับไป เหมือนกับกระแสผลิตภัณฑ์อื่นที่กล่าวไว้ และเชื่อได้ว่าจะมีกระแสใหม่เกิดขึ้นในอีกไม่ช้าในสังคมไทย เพราะเคยมีคนบอกว่าคนไทยเป็นฝ่ายรับที่ดีและเร็วอย่างน่าประหลาด ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม การแต่งกาย วัฒนธรรม และเทคโนโลยี จนนับวันนับจะหาอะไรที่เป็นไทยแท้ได้ยากขึ้นทุกวัน

http://en.wikipedia.org/wiki/Furby

ศ.พิเศษ ภาวิช ขอแค่ 6 เดือนทำหลักสูตรใหม่

ผู้บริหารประเทศด้านการศึกษา
ผู้บริหารประเทศด้านการศึกษา


ปฏิรูปการศึกษา

1. ศ.พิเศษภาวิช ทองโรจน์ ขอ 6 เดือน ทำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่เสร็จ
2. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา  ขอจับเรื่องปฏิรูปหลักสูตร ปฏิรูปครูก่อน
3. รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ชี้ว่าประเทศผู้นำด้านการศึกษาใช้เวลาปฏิรูปหลักสูตรถึง 10-20 ปีกว่าจะสำเร็จ
กรุงเทพฯ *ภาวิช” ขอ 6 เดือนทำหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่เสร็จ ชี้จะกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าครูต้องสอนอะไร สอนอย่างไร ขณะที่นักเรียนจะเรียนในห้องเรียนน้อยลง แต่ให้ทำกิจกรรมนอกห้องเรียนแทน พร้อมเสนอ 5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปการศึกษาชาติ ขณะที่ “พงศ์เทพ” ขอจับเรื่องปฏิรูปหลักสูตร ปฏิรูปครูก่อน “สมพงษ์” เตือนต้องรอบคอบระวังพลาด ชี้เพราะประเทศผู้นำด้านการศึกษาใช้เวลาปฏิรูปหลักสูตรถึง 10-20 ปีกว่าจะสำเร็จ แต่ไทยจะใช้เวลาแค่ 6 เดือนหรือ
ศ.พิเศษภาวิช ทองโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ที่ปรึกษา รมว.ศธ.) ในฐานะประธานกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวบรรยายเรื่อง “การปฏิรูปหลักสูตร : ประเด็นสำคัญของการปฏิรูปการศึกษาไทย” ในงานประชุมระดมความคิดเรื่องกรอบแนวทางการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศธ. เป็นประธาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า หลักสูตรการศึกษาเป็นสาเหตุหนึ่งของคุณภาพการศึกษา ซึ่งหลักสูตรการศึกษาที่ดีจะต้องมีความทันสมัย มีวงจรการประเมินผลการใช้งาน มีการกำหนดระยะเวลาปรับหลักสูตรเป็นรอบๆ ขณะที่ปัจจุบันระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของเราใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ซึ่งหากดูในเนื้อหาแล้วหลักสูตรดังกล่าวเป็นเพียงการปรับเล็กจากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ฉะนั้นอาจบอกได้ว่าหลักสูตรที่เรายึดใช้อยู่เก่าไปแล้ว ขณะเดียวกันก็ดูจะมีปัญหากับการใช้อยู่ในปัจจุบัน
ที่ปรึกษา รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า หากลงลึกในหลักสูตรแกนกลางฯ พ.ศ.2551 จะพบว่าเป็นหลักสูตรแบบย่อ เพื่อจะเปิดโอกาสให้ครูสามารถนำความรู้ไปต่อยอดการสอนเอง หรือเป็นการออกแบบหลักสูตรที่ต้องการครูเก่ง แต่สภาพความเป็นจริงไม่เป็นอย่างนั้น ทำให้หลักสูตรปัจจุบันไม่ช่วยให้ผลสัมฤทธิ์การศึกษาดีขึ้น ขณะเดียวกันหลักสูตรปัจจุบันยังมีวิธีการบรรจุความรู้ให้นักเรียนแบบหน้ากระดาน ผ่านวิชาตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 โดยเฉพาะกับนักเรียนช่วงชั้นประถมต้น ไม่เหมือนในต่างประเทศที่มีผลสัมฤทธิ์การศึกษาดี อย่างประเทศฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และอังกฤษ ที่มีวิธีการบรรจุความรู้ให้นักเรียนอย่างมีการวางระบบที่สอดคล้องกับช่วงวัย อย่างช่วงชั้นประถมต้น จะเน้นเรื่องการสอนทักษะชีวิต การใช้ภาษาเป็นหลัก อาทิ วิชาวิทยาศาสตร์ จะเป็นการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เบื้องต้นที่ผ่านการบรูณาการหลายเนื้อหาของช่วงชั้นประถมต้น และเพิ่มเป็นรายวิชาวิทยาศาสตร์ในชั้นประถมปลาย หรือช่วงชั้นที่สูงขึ้น
ส่วนโครงสร้างเวลาเรียน พบว่า ปัจจุบันเด็กไทยมีชั่วโมงเรียนในห้องเรียนมากเป็นอับดับ 2 ของโลก คือระดับประถมศึกษา 1,000 ชั่วโมงต่อปี ระดับมัธยมศึกษา 1,200 ชั่วโมงต่อปี เป็นรองประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกาที่มีชั่วโมงในห้องเรียนมากสุด 1,400 ชั่วโมงต่อปี ขณะที่ประเทศฮ่องกงซึ่งมีคะแนนการสอบพิซาเป็นอันดับ 1 มีชั่วโมงเรียนในห้องเรียน 700 ชั่วโมงต่อปี และผลวิจัยของยูเนสโกชี้ว่า ชั่วโมงเรียนในห้องเรียนที่ดีต้องอยู่ที่ประมาณ 800 ชั่วโมงต่อปีเท่านั้น ดังนั้น แน่นอนว่าการปฏิรูปหลักสูตรครั้งนี้จะต้องมีการปรับสัดส่วนชั่วโมงเรียนในห้องเรียนลดลงแน่นอน แต่ก็ยืนยันว่าไม่ใช่การลดการจัดการศึกษา เพราะจะเป็นการทดแทนด้วยชั่วโมงเรียนโครงงาน กิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
คาดว่าจะออกแบบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ได้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือนนับจากนี้ ส่วนแนวทางหลักสูตรครั้งนี้ เราจะลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น อย่างครู เราจะกำหนดเลยว่าต้องสอนอะไร สอนอย่างไร หรือครูคนใดเก่งอยู่แล้ว อยากสอนนอกเหนือที่กำหนดก็สามารถทำได้ ใครไม่คิดเพิ่มก็ทำตามที่กำหนด ส่วนนักเรียนจะเรียนเนื้อหาวิชา มีชั่วโมงเรียนที่เหมาะสม โดยเราจะออกแบบไม่ทำให้การเรียนเหมือนการติดคุก” ศ.พิเศษภาวิชกล่าว
ศ.พิเศษภาวิช กล่าวทิ้งท้ายว่า การปฏิรูปหลักสูตรจะทำอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำควบคู่กันไปเป็น 5 ยุทธ ศาสตร์ ได้แก่ การปฏิรูปหลักสูตร การปฏิรูปครู การตั้งศูนย์  STEME ทุกจังหวัดเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม คณิตศาสตร์ และอังกฤษ ให้โรงเรียนทั่วประเทศ การใช้ไอซีทีเพื่อการศึกษา และการปฏิรูปโครงสร้าง ศธ. ซึ่งที่ผ่านมาเคยเสนอนายพงศ์เทพไปแล้ว ขณะที่ รมว.ศธ.ก็หนักใจ และขอจับเรื่องปฏิรูปหลักสูตรก่อน อย่างไรก็ตาม เพราะเรื่องการกระจายอำนาจก็มีผลต่อคุณภาพการศึกษา อย่างกรณีตั้งเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าเขตพื้นที่ฯ ไม่รู้ว่าหน้าที่คืออะไร เพราะเราไม่กำหนดชัดเจน ทำให้เกิดการกินหัวคิวโยกย้าย การรับใต้โต๊ะเต็มไปหมด ขณะที่โรงเรียนก็เริ่มหมดความเข้มแข็งลงไปทุกวัน แต่หากเป็นประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาดีกลับไม่ต้องมีเขตพื้นที่ฯ เพราะเขาให้อำนาจโรงเรียนไปเลย
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า เราต้องมีการทบทวนสัดส่วนโครงสร้างเวลาเรียนใหม่ ปัจจุบันเรามีชั่วโมงเรียนมาก แต่ประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาดีกลับมีชั่วโมงเรียนน้อยกว่าเรา ดังนั้นทัศนคติที่ว่าเรียนมากจะรู้มากก็ไม่จริงเสมอไป ทั้งนี้ หากเราสอนให้เด็กรู้จักคิด วิเคราะห์เป็น เด็กก็สามารถคิดวิเคราะห์เรื่องอื่นได้ด้วยโดยอาจไม่ต้องสอนเนื้อหานั้น อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปหลักสูตรและการปฏิรูปครูเป็นเรื่องหลักที่ตนเน้น ส่วนเรื่องปฏิรูปโครงสร้าง ศธ.เป็นเรื่องเสริม ซึ่งค่อยทำเมื่อเรื่องหลักสำเร็จก็ได้
ด้าน รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราฯ กล่าวว่า ระยะเวลา 6 เดือนที่ตั้งเป้าทำหลักสูตรใหม่เสร็จสิ้น อยากเตือนให้ออกแบบหลักสูตรด้วยความละเอียดรอบคอบ เพราะกลัวจะพลาด อย่างประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาอันดับที่ 1 หรือ 2 ของโลก เขาทำทั้งวิจัยและพัฒนาหลักสูตรใช้เวลา 10-20 ปี ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอ 5 ยุทธศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งอยากให้นำแต่ละข้อเสนอมากำหนดขอบเขตเวลาที่จะเริ่มต้นและเสร็จสิ้นเพื่อให้เป็นรูปธรรมด้วย.

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

http://www.glongchalk.com/?p=3174
http://www.thaipost.net/news/110313/70685
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=32003&Key=hotnews

ชีวิตที่ต้องเปรียบเทียบตลอดเวลา (itinlife388)

spec tab ป.1 ม.1 2556
spec tab ป.1 ม.1 2556

สุดสัปดาห์ก็จะนั่งดูรายการ take me out เป็นรายการที่เอาผู้หญิงกับผู้ชายมายืนเลือกกัน รู้สึกว่าการหาคู่ชีวิตคือการเปรียบเทียบคุณสมบัติของเพศตรงข้ามที่ไม่ซับซ้อนเหมือนชีวิตจริง  อีกรายการคือ 12 ราศี ที่ต้องทำนายทายทักตามดวงดาวต้องเปรียบเทียบว่าแต่ละสัปดาห์จะไปในทิศทางใดกระทบโชคชะตาของเราอย่างไรตามโจทย์ที่รายการกำหนดขึ้น ส่วนเวทีประกวดร้องเพลง the star ก็จะมีคนหนุ่มสาวมายืนร้องเพลง แล้วให้เราส่ง sms ไปเชียร์ ก่อนส่งก็ต้องเปรียบเทียบว่าผู้เข้าแข่งขันคนใดที่เราเลือกลงทุนลงแรงเชียร์ ล่าสุดก็เลือกตั้งผู้ว่ากทม. เพราะรายการทีวีทุกช่องนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง คนต่างจังหวัดก็ร่วมลุ้นเชียร์การชิงชัยครั้งนี้ไปด้วย มีข้อมูลให้เปรียบเทียบทุกวัน เปลี่ยนใจได้ทุกเวลาตามกระแสข้อมูลที่เข้ามา แล้วสุดท้ายผลการเลือกตั้งก็พลิกไม่เป็นตามผลโพลล์

เดือนมีนาคม 2556 มีกระแสเรื่องแท็บเล็ต ป.1 และการเตรียมงบประมาณสำหรับติดตั้ง wi-fi สนับสนุนการใช้แท็บเล็ต จะทำให้นักเรียนระดับประถม และมัธยมมีอุปกรณ์ใช้รวมกันเป็น 1 ใน 4 ของนักเรียนทั้งหมดในประเทศไทย หากดูสถิติจะพบว่าปัจจุบันคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมี 25 ล้านคน จากข้อมูลของ truehits.net และเข้าถึงเฟซบุ๊ค 18 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 70 หากไม่นับผู้คนในชนบท ผู้ใหญ่ใกล้เกษียณ และเด็ก ก็อาจประเมินได้ว่ามากกว่าร้อยละ 90 ของผู้ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะเข้าถึงเฟซบุ๊คด้วยเช่นกัน แล้วมาเปรียบเทียบว่าการใช้เฟซบุ๊คกับไม่ใช้เฟซบุ๊ค ทำให้วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไปหรือไม่ แต่เคยฟังคุณโน๊ตในเดี่ยว 9 พูดถึง social media พบว่าวิธีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนไป

ชีวิตมักขึ้นอยู่กับการเปรียบเทียบ พบเห็นได้ในเฟซบุ๊ค อาจเปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองหรือกับคนอื่น ว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคตเป็นอย่างไร แต่ในชีวิตจริงเรานำผลการเปรียบเทียบมาปรับวิถีชีวิตมากน้อยเพียงใดก็ยังเป็นคำถาม จากการติดตามข่าวเรื่องแท็บเล็ต ป.1 ที่ใช้มาแล้ว 1 ปีก็มีเรื่องให้เปรียบเทียบว่าใช้แล้วมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คุณภาพการศึกษา ความสามารถในการแข่งขันของเยาวชนดีขึ้นหรือไม่ ส่วนผู้ที่ดูแลนโยบายด้านการศึกษาก็มีกันหลายมุมมอง บางท่านก็บอกว่าปรับหลักสูตร 6 เดือนเสร็จ บางท่านก็บอกว่าปฏิรูปครูก่อน บางท่านก็บอกว่าประเทศที่ประสบความสำเร็จใช้เวลานับสิบปี ประเทศไทยมีอะไรให้ติดตามและเปรียบเทียบกันอยู่ตลอดเวลา ที่ต้องตามกันต่อไป

http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=30719&Key=hotnews

คนไทยป่วยเป็นโรคไตเพิ่มปีละเป็นหมื่น

ลดเค็มก็ลดโอกาสเกิดโรคไต
ลดเค็มก็ลดโอกาสเกิดโรคไต

อึ้ง! คนไทยป่วยไตเพิ่มปีละหมื่น “เหนือ-อีสาน” สภาพแวดล้อมเอื้อเป็นนิ่ว
ย้ำลดเค็มลดเสี่ยงได้

นาวาอากาศเอก นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ นายกสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้ป่วยโรคไตมีอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีเฉลี่ยประมาณปีละ 1 หมื่นราย จากข้อมูลล่าสุดพบคนไทยป่วยเป็นโรคไตร้อยละ 17.5 ของประชากร หรือประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งมีตั้งแต่ระยะต้นไปถึงระยะท้าย สิ่งสำคัญคือผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มระยะท้ายที่ต้องล้างไต ฟอกเลือด ประมาณ 4 หมื่นคน จะใช้ค่าใช้จ่ายสูงอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อคนต่อปี สำหรับสัดส่วนการเกิดโรคไตยังคงมาจาก 2 โรคหลัก คือ เบาหวานและความดันโลหิตสูง และยังมีสาเหตุจากโรคอื่น เช่น นิ่ว การรับประทานยาบางชนิดต่อเนื่องเป็นเวลานาน เป็นต้น ทั้งนี้ จะพบประชากรที่ป่วยด้วยโรคนิ่วและทำให้เกิดโรคไตชุกในภาคเหนือและภาคอีสาน แม้จะยังเป็นรองจากความดันและเบาหวาน แต่ก็ถือเป็นปัจจัยที่ต้องระวังในประชากรกลุ่มนี้

ความชุกในการเกิดโรคนิ่ว ที่เป็นความเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไตเรื้อรังในภาคเหนือ และภาคอีสาน ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมที่มีความผิดปกติของเกลือแร่บางอย่าง และสภาพอากาศที่ร้อนจัด เมื่อดื่มน้ำไม่เพียงพอก็จะทำให้เกิดปัสสาวะข้น และเป็นสาเหตุการเกิดโรคนิ่วขึ้นได้ และยังพบว่า มีส่วนมาจากพันธุกรรมของประชากรในภาคเหนือและอีสานด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดยังเป็นเรื่องของความดันโลหิตและเบาหวาน จึงต้องควบคุมน้ำหนักและลดเค็มเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคไตด้วย” นาวาอากาศเอก นพ.อนุตตร กล่าว

นาวาอากาศเอก นพ.อนุตตร กล่าวว่า สำหรับประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วยวิธีฟอกเลือด เมื่อเปรียบเทียบกับการล้างไตผ่านช่องท้องนั้นงานวิจัยทั่วโลกและประเทศไทย พบว่า มีอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อน และอัตราการเสียชีวิตใกล้เคียงกัน และจะมีข้อดีและข้อเสียในการรักษาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเอง เช่น ความสะดวกในการเดินทาง การช่วยเหลือตนเอง โดยพบว่ากลุ่มผู้ป่วยล้างไตผ่านช่องท้อง จะเหมาะกับคนอายุไม่มากนักสามารถดูแลตัวเองได้ เพราะสามารถทำได้ด้วยตนเองทุกวัน และอาจเหมาะกับผู้ป่วยในบางจังหวัด ซึ่งเครื่องล้างไตไม่เพียงพอ เพราะไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาลทุก 3 วัน
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9560000029980

โพลล์หลายค่ายได้ผลสำรวจไม่ตรงกับความจริง ในเลือกตั้งผู้ว่ากทม.56

vote ออกเสียง
vote ออกเสียง

โพลล์พลาดครั้งที่ 2
จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั้งก่อนเลือกตั้ง และ exit poll ในการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 เวลา 8.00น. – 15.00น. พบว่าสำนักโพลล์เกือบทุกแห่งสรุปผลว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จะได้รับคะแนนเสียงสูงสุด แต่หลังจากนับคะแนนอย่างเป็นทางการ ผลที่ได้คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้คะแนนเสียงสูงสุด ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ผลสำรวจผิดพลาดจากการสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ
+ http://news.mthai.com/bangkokelection2013

สวนดุสิตโพล ผู้ว่ากรุงเทพฯ 2556
สวนดุสิตโพล ผู้ว่ากรุงเทพฯ 2556

โพลล์พลาดครั้งที่ 1
ครั้งแรกนั้นเกิดในการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 24 ของประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2554 ผลโพลล์สำหรับพื้นที่เป็นกรุงเทพฯ มีการเผยแพร่ว่าผลสำรวจที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยจะได้รับเลือกเป็นจำนวนที่มากกว่า แต่เมื่อผลออกมาอย่างเป็นทางการพบว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ 23 เขต และพรรคเพื่อไทยได้ 10 เขต จากทั้งหมด 33 เขตในกรุงเทพฯ
+ http://hilight.kapook.com/view/60420
+ http://www.siamintelligence.com/thai-general-election-2011/

กรุงเทพฯ โพลล์ ผู้ว่ากทม. 2556
กรุงเทพฯ โพลล์ ผู้ว่ากทม. 2556

ผลสำรวจของดุสิตโพลล์ 2556
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กรณี  “การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในสายตาของคนกรุงเทพฯ” จำนวน 3,214 คน โดยกระจายครบทั้ง 50 เขตเลือกตั้ง ระหว่างวันที่ 26-30 มกราคม 2556 สรุปผล ดังนี้

อันดับ 1    พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ    41.00%
อันดับ 2    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร    36.12%

อันดับ 3    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส      6.88%
อันดับ 4    นายโฆษิต สุวินิจจิต      0.97%
อันดับ 5    นายสุหฤท สยามวาลา      0.53%
*    ยังไม่ตัดสินใจ    13.93%

+ http://www.krobkruakao.com/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A1/

นิด้าโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556
นิด้าโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556
บ้านสมเด็จโพลล์ และเอแบคโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556
บ้านสมเด็จโพลล์ และเอแบคโพลล์ เลือกผู้ว่า 2556

ภาพที่เล่าถึงชีวิตโปรแกรมเมอร์

show the code after your debugging
show the code after your debugging

ที่เว็บไซต์ thecodinglove.com
มีภาพแนว gif animation ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว
ภาพแบบนี้ไม่แสดงผลในเว็บไซต์ social media
เพราะเขาจะแปลงอัตโนมัติเป็น .jpg หมด
แต่แสดงผลได้ใน blog พบได้กว่ามากกว่า 100 ภาพ พร้อมคำอธิบายสั้น
ดูแล้วก็นำมาเล่าในวิชาจริยธรรมทางเทคโนโลยีได้เลย

http://www.thaiall.com/article/teachpro.htm

programmer behavior in another feeling
programmer behavior in another feeling