มนุษย์อาจเปลี่ยนศีรษะกันเองได้ในอีกสองปี (itinlife489)

คนเราก็แปลก บางคนอยากอยู่นาน ๆ
แต่บางคนพออยู่นานแล้วก็เบื่อ อยากตาย
ตามสถิติ คนเกาหลี ฆ่าตัวตายจำนวนมาก
ทั้งที่อายุพวกเขาก็ยังไม่มาก แต่ด่วนรีบจากไปกันก่อน
ในความเป็นจริง หากมนุษย์เรา อยู่นานแล้วไม่มีอะไรทำ ก็อาจเบื่อชีวิตก็ได้
อย่างตัวเอกของหนังเรื่อง
Bicentennial man .. ก็เลือกที่จะจากไปเอง

The Devil's Game
The Devil's Game

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้การสื่อสารง่ายขึ้น โลกแบนขึ้น และแคบลงอย่างมาก โดยการเปลี่ยนแปลงนี้รวดเร็วมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความก้าวหน้าทางการแพทย์ก็ไม่แพ้กัน ปัจจุบันเรามีอวัยวะเทียมหลายชิ้นที่สามารถนำมาทดแทนอวัยวะจริงได้ ความพยายามทางการแพทย์ทำให้การผ่าตัดใหญ่ เช่น การนำนิ่วออกจากช่องท้องทำได้ง่ายขึ้น ด้วยการเจาะรูที่หน้าท้องไม่กี่รู แล้วสอดกล้องและเครื่องมือเข้าไปนำนิ่วออกมา แทนการเปิดแผลขนาดใหญ่ที่หน้าท้อง การต่อเส้นเลือดหรือต่ออวัยวะก็ประสบผลสำเร็จ เช่น การต่ออวัยวะเพศชาย ต่อแขน ต่อขา ก็สามารถทำแล้ว

พบข่าวจากหลายสื่อว่าหมอเซอร์จิโอ คานาเวโร (Sergio Canavero) ศัลยแพทย์ที่ประเทศอิตาลี และคณะ เขียนบทความลงนิตยสารทางวิทยาศาสตร์ว่าอีก 2 ปีข้างหน้า การผ่าตัดเปลี่ยนศีรษะน่าจะเป็นไปได้ เพื่อช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่ร่างกายมีปัญหา เช่น มะเร็ง เป็นต้น โดยการย้ายศีรษะจากคนหนึ่งไปใส่ยังร่างกายของอีกคนหนึ่งที่ได้รับบริจาคมา ความซับซ้อนมี 2 จุดคือการต่อเส้นเลือดใหญ่ และการต่อไขสันหลังซึ่งมีเซลประสาทจำนวนมาก โดยทบทวนวรรณกรรมว่าการผ่าตัดแบบนี้เคยทำกับลิงมาแล้วเมื่อปี 2513 โดยหมอโรเบิร์ต ไวท์ ศัลยแพทย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ครั้งนั้นไม่สามารถต่อไขสันหลังของลิงได้ และมีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ลิงตัวนั้นจึงมีชีวิตได้เพียง 9 วัน

แนวคิดนี้ได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เกาหลีเมื่อปี 2551 เรื่อง The Devil’s Game โดยเศรษฐีชราผู้มีเงินมหาศาล ท้าพนันกับหนุ่มน้อย ถ้าหนุ่มน้อยแพ้พนันต้องยอมสลับร่างกายกับเศรษฐีชรา ในภาพยนตร์จะไม่ใช่การเปลี่ยนทั้งศีรษะ แต่เปลี่ยนเฉพาะสมอง ทำให้เศรษฐีชรามีหน้าตาเหมือนกับหนุ่มน้อยทุกประการ ถ้าหากการผ่าตัดเปลี่ยนศีรษะสำเร็จก็เชื่อว่าเศรษฐีในโลกส่วนใหญ่ต้องยอมทุ่มเงินที่สะสมมา เพื่อให้ได้ร่างกายใหม่ที่เสมือนกับการได้ชีวิตใหม่ ไม่ต้องอยู่ในร่างกายที่แห้งเหี่ยว มีแต่อวัยวะที่ชำรุดทรุดโทรมอีกต่อไป ก้าวต่อไปของนวัตกรรมก็คงต้องการย้ายไปเฉพาะสมองที่เก็บจิตสำนึกเท่านั้น เพราะหน้าตาที่ดูชราก็คงไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป หากย้ายร่างกายได้จริง

bicentennial man
bicentennial man

http://www.hancinema.net/korean_movie_The_Devil__s_Game-picture_47919.html

http://www.thairath.co.th/clip/13612

http://www.cnet.com/news/human-head-transplant-just-two-years-away-surgeon-claims/

http://www.theguardian.com/society/2015/feb/25/first-full-body-transplant-two-years-away-surgeon-claim

ร่างกายก็เหมือนหุ่นยนต์

เจ็บป่วยก็รับยา ถ้าหายก็ดำเนินชีวิตต่อไป
เจ็บป่วยก็รับยา ถ้าหายก็ดำเนินชีวิตต่อไป

บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าร่างกายก็เหมือนหุ่นยนต์
ยิ่งใช้นานไป ก็ยิ่งเสื่อมโทรม มีอายุของแต่ละตัวไป
ชำรุดก็เข้าโรงซ่อม ซ่อมไม่ได้ก็แทงจำหน่าย
หมดอายุ ต้องแทงจำหน่าย ร้านรับซื้อของเก่าก็ไม่รับ
พระท่านเรียกว่า “สังขาร”
ช่วงที่ผ่านมา ผ่านหนาวมาได้ โดยไม่ต้องเรียกร้องหายาเม็ดเหลืองแก้หวัดคัดจมูก
พอจะหมดหนาว มากันทุกอาการเลย
แต่อาการเสียงหาย พึ่งเกิดขึ้นในรอบหลายปี ต้องพึ่งยาลดบวมเม็ดเล็กสีเหลืองอ่อน
สำหรับอาการปวดหัวตัวร้อนนั่นก็พึ่ง paracetamol กันประจำอยู่แล้ว
วันนี้ไม่เจ็บปวด ไม่มีไข้ ก็ไม่ได้กิน เพราะยานี้กินตามอาการ

ส่วนยาปฏิชีวนะ เพื่อฆ่าเชื้อโรค
เพราะมีเชื้อโรคในคอเยอะเหลือเกิน
ดื่มน้ำมาก ๆ กับนอนมาก ๆ เชื้อก็ไม่ได้หายไปเอง
รอให้ร่างกายสู้กับเชื่อโรคคงไม่ไหว
ต้องพึ่งยาฝรั่งที่ชื่อ amoxicillin ซะแล้ว
หวังว่ากินครบเซตแล้ว อาการไม่พึงประสงค์จะหายไป

ยาแก้ไอก็ไม่เคยรับมาหลายปีแล้ว
เมื่อวานไอเยอะไปหน่อย รับทั้งยาน้ำ และยาเม็ด
ยาแก้ไอจะเม็ดสีชมพูใหญ่หน่อย
ส่วนยาน้ำก็เลือกชะเอม หอมหวาน ชุ่มคอดี

กินยาฆ่าเชื่อเยอะ ๆ ก็ไม่ดี เดี๋ยวจะดื้อยา (ภาษาชาวบ้าน)
นี่ก็ถูกเตือนมาแต่เล็กแต่น้อย
ถ้าไม่กินก็ไม่ได้ เพราะทรุดอย่างเดียวเลย