คิดมากจนไม่ได้ทำ

คิดมากจนไม่ได้ทำ กับ ทำมากจนไม่ได้คิด
คิดมากจนไม่ได้ทำ กับ ทำมากจนไม่ได้คิด

คิดมากจนไม่ได้ทำ โดย ดร.บวร ปภัสราทร

งานจะสำเร็จได้นั้นว่ากันว่าต้องมีการวางแผนที่ดีเป็นเบื้องต้น แต่มีแผนที่ดีไม่ได้หมายความว่างานทุกงานจะประสบความสำเร็จ

งานจะสำเร็จได้ ต้องมีคนลงมือทำงานนั้น ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ก็ต้องลงมือทำเสียก่อนงานจึงจะเสร็จได้ หลายงานที่ว่ากันว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดีนั้นกลายเป็นวิมานในอากาศคือมีแต่แผนสวยหรู แต่งานจริงไม่เกิดขึ้น ยิ่งในยามที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องมีขั้นตอนการวางแผนที่พิสดารเกินกว่าที่บ้านอื่นเมืองอื่นเขาทำกัน เกาหลีมีแผนไอทีไม่กี่หน้ากระดาษ แต่สร้างงานจริงได้อย่างมหาศาลจนเปลี่ยนให้เกาหลีเป็นเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีหลากหลายชนิดได้อย่างน่ามหัศจรรย์ บ้านเรามีแผนไอทีสองสามแผน แต่ละฉบับหนานับร้อยหน้า แผนก็ดีจริงๆ ด้วย แต่วันนี้บ้านเราก็ยังห่างไกลจากเกาหลีอย่างมากมาย แผนไอทีไม่กี่หน้าเอาชนะแผนไอทีหนานับร้อยหน้าได้อย่างสบายเพราะเกาหลีมีแผนแล้วมีคนลงมือทำตามแผนอย่างจริงจังจนกระทั่งบรรลุผล
อะไร ทำให้คนมัวแต่คิดแผน หรือคิดว่าจะทำตามแผนได้อย่างไร จนกระทั่งรีรอไม่ลงมือทำงาน คิดเรื่องแผนว่าดีไม่ดีอย่างไรจนไม่มีใครลงมือทำตามแผนนั้น แผนดีมีอยู่จริง แต่งานดีไม่มีสักเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุที่คนมัวแต่ถกเถียงกันเรื่องแผนนั้นมาจากการที่ไม่ได้ตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าคำว่าประสบความสำเร็จนั้นคือเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้ายังมองไม่ชัดว่าแค่ไหนเรียกว่าประสบความสำเร็จในงานนั้น ต่างคนต่างก็นิยามความสำเร็จของตนเองขึ้นมาแล้วอนุมานไปเองว่าคนอื่นก็ใช้นิยามของความสำเร็จของงานนั้นเหมือนกับที่ตนเองเชื่อ การถกเถียงจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ว่าจะเริ่มงานกันอย่างไร เพราะปลายทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเริ่มต้นลงมือทำงานจะเกิดขึ้นได้เร็วช้าขึ้นกับว่าเราตกลงความหมายของคำว่างานสำเร็จได้เร็วเพียงใด การตกลงเรื่องความสำเร็จนี้ ขอเพียงแค่ทุกคนยอมรับว่าคำว่าความสำเร็จของแต่ละหน่วยงานนั้นแตกต่างกันไปตามอายุงานและขีดความสามารถของแต่ละหน่วยงาน ผลงานอย่างหนึ่งที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในหน่วยงานหนึ่งอาจหมายถึงผลงานที่ล้มเหลวในอีกหน่วยงานหนึ่งก็ได้
เริ่มทำงานมาแค่สองสามปี คงไม่สามารถนิยามความสำเร็จของงานได้เหมือนกับหน่วยงานที่ทำงานมาเกือบร้อยปี มีคนแค่สามสี่คนคงไม่อาจใช้นิยามความสำเร็จของงานได้เหมือนกับหน่วยงานที่มีคนนับร้อยนับพัน ยอมรับและรู้จักขีดความสามารถของกลุ่มของตนได้มากเท่าใด เวลาที่ใช้ในการตกลงนิยามของความสำเร็จก็เร็วขึ้นเท่านั้น

หลายครั้ง ที่มีประเด็นที่มาถกเถียงกันจนไม่ได้ลงมือทำงานกันสักที นั้นมาจากข่าวลือบ้าง มาจากคำติเตียนอย่างไม่สร้างสรรค์บ้าง มาจากคำแนะนำของบางคนที่ดูเหมือนว่าจะหวังดีแต่จริงๆ แล้วเจตนาร้ายคือไม่ต้องการให้งานเดินหน้าได้บ้าง โบราณกล่าวไว้ว่าจิ้งจกทักให้รับฟังก็จริง แต่ถ้าไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน เพราะมัวแต่กังวลกับจิ้งจก การงานคงไม่อาจเดินหน้าไปได้ ทั้งนี้ ต้องยอมรับความจริงไว้ด้วยว่าหลายคนรักษาหน้าที่การงานของตนไว้ได้ด้วยการคอยติเตียนงานของคนอื่นว่าเป็นไปไม่ได้บ้าง ว่าวางแผนไม่ดีพอบ้าง ทั้งๆ ที่พอย้อนถามกลับว่าที่ต้องทำเพิ่มเติมนั้น ต้องทำอะไรบ้าง คนเหล่านี้ก็ตอบไม่ได้ ดังนั้น หากไม่อยากกังวลกับสารพัดเรื่องจนรีรอไม่กล้าลงมือทำงานกันอย่างจริงจัง ต้องรู้จักเอาหูไปนา เอาตาไปไร่กับคำนินทาหรือคำเล่าลือต่างๆ เกี่ยวกับงานนั้นเสียบ้าง ถ้าตกลงกันเรื่องนิยามของความสำเร็จของงานนั้นได้แล้วให้ลงมือทำทันที อย่ากลัวคำนินทา อย่ารีรอกับสารพัดคำแนะนำเสนอแนะต่างๆ มากจนเกินไปเพราะลงมือทำงานแล้วงานจะดีเลวอย่างไรก็ยังบอกได้ว่างานได้เกิดขึ้นแล้ว

ถ้าทีมงาน มีคนที่ชิงดีชิงเด่นกันมาร่วมทำงานกัน ปรากฏมามากต่อมากแล้วว่างานจะเริ่มต้นได้ช้ามาก เพราะหมดเวลาไปกับการที่ต่างฝ่ายต่างหาทางกีดกันอีกฝ่ายหนึ่งให้ห่างไกลจากความสำเร็จของงาน ถ้าไม่ใช่งานที่ฉันได้ประโยชน์แล้ว ฉันไม่ยอมให้ใครได้หน้าได้ตาจากความสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าอยากเริ่มลงมือทำงานตามแผนได้เร็ว ต้องขอให้ทุกคนที่มาทำงานด้วยกันแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกไปก่อน ขอให้ลงมือทำงานก่อนแล้วค่อยมาชิงดีชิงเด่นกันทีหลัง หรือถ้าทำได้ขออย่าได้เลือกทีมงานที่มัวแต่ชิงดีชิงเด่นกัน เลือกคนไม่เก่งแต่ไม่เกี่ยงงานดีกว่าเลือกคนเก่งที่อิจฉาตาร้อนไปหมดทุกเรื่อง การชิงดีชิงเด่นกันนั้นดีสำหรับงานที่ต่างคนต่างทำ ชิงดีชิงเด่นในงานเดียวกันไม่เคยทำให้งานนั้นสำเร็จได้

ความกังวล ที่มากเกินไปกับการที่ผลงานที่ได้อาจไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวังไว้ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หลายงานจบลงที่ว่าได้คิดงานนั้น แต่ไม่ได้ทำงานนั้น ถ้าคาดหวังว่างานนั้นต้องสมบูรณ์แบบมากเกินไป ก่อนลงมือทำงานก็เลยต้องคิดมากหน่อย คิดมากไปจนกระทั่งต้องมาคบคิดเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ถึงหนึ่งในล้าน วันเวลาผ่านไปก็ยิ่งสนุกกับการคิดประเด็นที่สมมุติขึ้นมาว่าถ้าเกิดเช่นนี้ ต้องทำอะไร จนหมดสนุกที่จะลงมือทำงานอย่างจริงจัง ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายักษ์ใหญ่ในวงการไอทีไม่เคยรีรอที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับความบกพร่อง ออกตัวมาก่อนแล้วค่อยตามแก้ไขภายหลัง ทุกวันนี้ เราจึงได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ไอทีที่ออกตัวเร็วแต่มีการตามแก้ไขสารพัดเรื่องอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อย่ากังวลกับความสมบูรณ์แบบของผลงานมากเกินไป แต่ให้เร่งลงมือทำไปก่อน ผิดพลาดประการใดก็น่าจะมีเวลาแก้ไขให้ถูกต้องได้ ลงมือทำงานด้วยกันดีกว่าลงแรงวิตกสารพัดเรื่องร่วมกัน

มีหลายงาน ที่ผู้บริหารบอกให้ทำเพื่อให้ดูเหมือนว่าได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้ผลงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งที่จริงแล้วผู้บริหารไม่ได้อยากให้เกิดผลงานอย่างที่บอกไว้ แค่มีงานไว้ใช้บอกกล่าวเป็นการแก้ตัวว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง งานแบบนี้ลงมือทำได้ยากเพราะมีความไม่แน่นอนว่าจะให้ทำอะไรกันแน่ ดังนั้น ถ้าเห็นว่างานใดผู้บริหารสรรหามาให้ทำเพียงเพื่อใช้แก้ตัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็อย่าตกอกตกใจที่งานไม่เดินหน้าเสียที แค่แกล้งทำท่าทำทางว่ากำลังจะลงมือทำก็เป็นที่พอใจของผู้บริหารแล้ว เคล็ดลับคือถ้าต้องทำงานภายใต้การบริหารของใคร ให้สร้างทักษะในการแยกแยะระหว่างงานที่ผู้บริหารหวังว่าจะให้เกิดขึ้นจริง กับงานที่มีไว้ใช้แก้ตัวในบางเรื่อง ถ้าแยกแยะไม่ได้ให้ระวังให้ดีว่าเราจะไปสร้างความสำเร็จกับงานที่ผู้บริหารไม่ตั้งใจจะให้เสร็จโดยไม่รู้ตัว งานสำเร็จแต่คราวนี้ตัวเราก็เสร็จตามไปด้วย

โดย ดร.บวร ปภัสราทร
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประจำคอลัมน์ “ก้าวไกล วิสัยทัศน์

http://www.bangkokbiznews.com

ปล. ผมพบเรื่องนี้ เพราะ อ.อุดม ไพรเกษร ได้ share link มาให้อ่าน เมื่อวันที่ 30 ก.ค.55
แต่กว่าผมจะเข้ามาเก็บประเด็นได้ ก็21 ส.ค.55 แล้วครับ

open book and open quipment sample

ติ้งต่างว่า นี่คือ ตัวอย่างข้อสอบแบบ open อุปกรณ์
สามารถนำ samsung galaxy tab 10.1
ที่มหาวิทยาลัยจัดหาให้กับนักศึกษาใช้ประกอบการเรียนการสอน
1. จากหนังสือ “หนังสือสตีฟ จ็อบส์ โดยวอลเตอร์ ไอแซคสัน
ที่ได้ฟังบรรยายจากคุณสุทธิชัย หยุ่น และสามารถดาวน์โหลดบทความที่เกี่ยวข้องได้จากระบบอีเลินนิ่งนั้น
คำว่า สนามความจริงที่ถูกบิดเบือน (reality distortion field)
ที่ปรากฎในบทที่ 11 จงตอบคำถาม 2 ข้อ คือให้เหตุผลว่าความคิด หรือพฤติกรรมข้างต้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับสตีฟ จ็อบส์
และคนรอบตัวเขามีความคิดอย่างไร ให้ยกตัวอย่างชื่อบุคคล พร้อมคำกล่าวของคนเหล่านั้นมาพอสังเขป
2. จงบอกชื่อ app บน android และนำเสนอประสบการณ์การใช้งาน
ในประเด็นได้ประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมี 4 ด้าน
และ capture screen ที่มีชื่อของท่านใน apps
ส่งไปตามอีเมลที่ระบุในข้อสอบ ในระหว่างการสอบ

การประยุกต์ใช้แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา

tabletpc for education
tabletpc for education

มีผู้รู้สรุปว่าการวิเคราะห์คือการแยก หากจะวิเคราะห์ประโยคที่ว่า “ประยุกต์ใช้แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา” ก็จะพบว่ามีคำสำคัญทั้งหมด 3 คำ ได้แก่ การประยุกต์ใช้ (Application) แท็บเล็ต (Tablet PC) และการศึกษา (Education) คำที่เชื่อมโยงคำอื่นคือคำว่าการประยุกต์ใช้ ก็ต้องมาวิเคราะห์กันต่อว่าแท็บเล็ตนำมาประยุกต์ใช้อะไรได้บ้าง และการศึกษาจะสามารถใช้แท็บเล็ตให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร คำว่าการศึกษามีผู้เกี่ยวข้องมากมาย อาทิ นักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน รัฐมนตรีฯ ผู้ปกครอง โรงเรียนกวดวิชา วัด และชุมชน ซึ่งทั้งหมดควรเข้าใจคำว่าแท็บเล็ต
แต่ละกลุ่มมีบทบาทเกี่ยวข้องที่ต่างกัน อาทิ เป้าหมาย กระบวนการ ความคาดหวัง ระบบ กลไก บทบาท หน้าที่ ความรับผิดชอบ ประสบการณ์ ค่านิยม วัฒนธรรม และทัศนคติ กรณีที่นักเรียน ป.1 ได้แท็บเล็ตล็อตแรกเดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งผู้มีบทบาทสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ คือ ครูใหญ่ที่ต้องเข้าใจ วางแผน มอบหมาย กำกับ ติดตามให้คุณครูได้ใช้งานอุปกรณ์ตามแผนการจัดการเรียนการสอน และกำหนดแนวการประเมินให้คุณครูประจำชั้นไว้ถือปฏิบัติ และเข้าใจตรงกันทั้งชั้น ดูเหมือนในระดับโรงเรียนทุกอย่างเริ่มต้นที่ครูใหญ่ที่รับนโยบายจากกระทรวงฯ และครูใหญ่ก็ควรเข้าใจการประยุกต์ใช้แท็บเล็ต ถ้าครูใหญ่ใช้ไม่เป็นหรือไม่เข้าใจ แล้วจะกำกับสนับสนุนให้ครูน้อยได้ใช้เครื่องมือสุดวิเศษที่เปรียบเสมือนแก้วสารพัดนึกนี้ได้อย่างไร
เมื่อนโยบายพร้อมอุปกรณ์มาถึงครูน้อยที่สอนในชั้นป.1 ก็จำเป็นที่ผู้รับผิดชอบต้องร่วมกันวางแผนรับมือกับอุปกรณ์ ศึกษาใช้งานให้ชำนาญในระดับหนึ่ง  จึงจะสามารถควบคุมการใช้งานของนักเรียนในประเด็นว่าโดยใคร เมื่อไร ที่ไหน กับใคร อย่างไร เพราะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ไฟฟ้า เปราะบาง ซับซ้อน มาใหม่ และมีมูลค่า หากวางแผน กำกับ ติดตาม พัฒนาได้ไม่ดีก็จะส่งผลให้การใช้ประโยชน์นั้นขาดประสิทธิภาพ แล้วผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้งพุทธิพิสัย จิตพิสัย ทักษะพิสัย หรือ ตัวชี้วัด/มาตรฐานและจุดเน้นตามหน่วยการเรียนรู้ ก็จะไม่บรรลุตามที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายกับการศึกษาไทยในพ.ศ.นี้

http://www.thairath.co.th/content/edu/235477

นิเทศอาจารย์ ปี 2555 เรื่อง มคอ. ประกัน และข้อตกลงภาระงาน

21 ก.ค.55
21 ก.ค.55

21 – 22 ก.ค.55 มหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมนิเทศอาจารย์และเจ้าหน้าที่ ให้ความรู้ และปรับความเข้าใจ สำหรับการจัดการเรียนการสอน และการดำเนินการตามกรอบ มคอ. ในปีการศึกษา 2555 โดย ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม ท่านอธิการบดีเป็นผู้นำบรรยาย ในหัวข้อเกี่ยวกับอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษา การจัดทำข้อตกลงภาระงาน การทำหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิการศึกษาแห่งชาติ การตัดเกรดที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มีผลต่อการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพมาตรฐาน โดยมีผู้ช่วยบรรยายได้แก่ ดร.วันชาติ นภาศรี และอ.ศศิวิมล แรงสิงห์ มีการทำ workshop เรื่องของการกำหนดกระบวนการการประกันคุณภาพ และการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มข้อตกลงภาระงาน

22 july 2555
22 july 2555

การรวมประชุมครั้งนี้ ฝึกบันทึกประเด็นที่ใช้ mindjet บน samsung galaxy tab 10.1 แล้วส่งภาพไปเก็บใน dropbox แล้ว export กลับมาเข้า samsung แล้วใช้ fb apps อัพโหลดเข้า group ของเพื่อนบุคลากร เพื่อชวนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ภาพที่ได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควร หลายคำอ่านยาก แต่พอเดาได้

บรรยากาศ
บรรยากาศ

เพลง ม.ให้อะไร

เพลง  ม.ให้อะไร
ศิลปิน  พงษ์สิทธิ์ คำภีร์

เขาหวังเขารอด้วยความแกร่ง
รอนแรมจากครอบครัวมา
หวังปริญญามหาวิทยาลัย
อุดมการณ์อุดมความแกร่ง
โรคแล้งน้ำใจจะแก้ไข
ให้ความเป็นธรรม
ทุกชนทุกชั้นทั่วไป
ไต่เต้ารับราชการยศต่ำ
คุณธรรมยังนำความอยากในใจ
เพื่อนฝูงอย่างไร
กินได้รวยไปไม่สนใจ
จิตใจของคนต่ำสูงไม่เทียมเท่ากัน
เขายังหวังซักวัน
ว่าเพื่อนเขาจะกลับใจ
อยู่ไปอยู่มาถึงจึงรู้ว่า
โลกนี้คนดีมันน้อยเกินไป
แค่คนไม่ชั่ว
ไม่ต้องดีไม่รู้อยู่ไหน

เขาจึงมองย้อนไปถึงชีวิตในมหา’ลัย
แล้วตั้งคำถามมหา’ลัยให้อะไรเรา
ไม่ได้สอนให้เรียน
แข่งขันอย่างคลั่งบ้า
ไม่ได้สอนคิดบ้าว่าเป็นคนเหนือคน
จบเห็นแก่ตน
แต่งงานสืบพันธุ์แล้วตาย
มหา’ลัยสอนไว้ให้เรา
เป็นข้าประชาชน
ไม่ได้สอนให้เรียน
แข่งขันอย่างคลั่งบ้า
ไม่ได้สอนคิดบ้าว่าเป็นคนเหนือคน
จบเห็นแก่ตน
แต่งงานสืบพันธุ์แล้วตาย
ไม่ได้สอนให้โกงให้กลอกกลิ้ง
ไม่ได้สอนว่าเป็นเทวดา
ไม่ได้สอนให้จบออกมา
เหยียดหยามประชาชน
ไม่ได้ให้ปัญญาเอาไว้คดโกงสังคม
มหา’ลัยสอนไว้ให้เรา
เป็นข้าประชาชน
(ไม่ได้สอนว่าเป็นเทวดา)
(ไม่ได้สอนให้จบออกมา)
(เหยียดหยามประชาชน)
(ไม่ได้สอนว่าเป็นเทวดา)
(จบเห็นแก่ตน)
(แต่งงานสืบพันธุ์แล้วตาย)
(ไม่ได้ให้ปัญญาไว้โกงสังคม)
(มหา’ลัยสอนไว้ให้เรา)
(เป็นข้าประชาชน)

ม.ให้อะไร? – พงษ์สิทธ์ คำภีร์ คอร์ดกีต้าร์ Guitar Chord

อ.แม็ค แนะนำเพลงนี้ให้ผมฟังครับ สงสัยอยากให้ผมรู้คิง

25 เครื่องมือทางการบริหาร

management tools
management tools

เครื่องมือทางการบริหาร จากหนังสือ Strategic Management เรียบเรียงโดย ศ.ดร.เรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ และคณะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 3 หน้า 177 และในเล่มนี้มีกรณีศึกษา 17 เรื่องอยู่ใน CD ที่มากับหนังสือ แต่ถ้าพิมพ์ครั้งที่ 2 จะพิมพ์กรณีศึกษาอยู่ในเล่มเลย ทำให้พิมพ์ครั้งที่ 2 หนากว่าพิมพ์ครั้งที่ 3

ISBN
สำนักพิมพ์ อักษรเงินดี
ชื่อผู้แต่ง

มีเครื่องมือทั้งสิ้น 25 เครื่องมือ (เรียงตามตัวอักษร)
1. Balanced Scorecard
2. Benchmarking
3. Business Process Reengineering
4. Collaborative Innovation
5. Consumer Ethnography*
6. Core Competencies
7. Corporate Blogs*
8. Customer Relationship Mgmt.
9. Customer Segmentation
10. Growth Strategy Tools
11. Knowledge Management
12. Lean Operations*
13. Loyalty Management Tools
14. Mergers and Acquisitions*
15. Mission and Vision Statements
16. Offshoring
17. Outsourcing
18. RFID
19. Scenario and Contingency
20. Planning
21. Shared Service Centers*
22. Six Sigma
23. Strategic Alliances
24. Strategic Planning
25. Supply Chain Management
* Tool included in the survey for the first time in 2007

strategic management (3rd Edition)
strategic management (3rd Edition)

+ http://www.ubook.msu.ac.th/ecommerce/search_product.php?prod_id=7747000003312

+ http://www.bain.com/management_tools/management_tools_and_trends_2007.pdf

+ http://www.thaiall.com/mis/bcom500/management_tools_and_trends_2007.pdf

สารจากประธานกรรมการ บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด

nmg : Nation Multimedia Group
nmg : Nation Multimedia Group

http://www.nationgroup.com/about_3.php

ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ nationgroup ณ วันที่ 1 กรกฎาคม 2555

สารจากประธานกรรมการ

ปี 2554 ประเทศไทยประสบเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น ทั้งความปิติยินดีในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา และการสูญเสียจากมหาอุทกภัยดังที่เราทราบดี การทำหน้าที่ของสื่อต่างๆ ของเครือเนชั่นในปี 2554 นอกจากจะยังมั่นคง เที่ยงตรงต่อหน้าที่ ซึ่งเป็นจุดยืนที่เรายึดมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงมหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 50 ปี เครือเนชั่นได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับน้ำใจจากคนไทยทั่วทุกสาขาอาชีพ ส่งมอบต่อผู้ที่ตกทุกข์ลำบากจากวิบัติภัยครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง ผ่านสื่อต่างๆ ที่เรามีครบวงจร

เครือเนชั่นในฐานะสื่อคุณภาพ ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างนวัตกรรมและ ความแปลกใหม่ให้กับวงการสื่อ พร้อมมุ่งพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณค่า เพื่อตอบสนองต่อผู้รับสื่อทุกท่าน

ปี 2555 จึงเป็นอีกหนึ่งปีที่ผู้อ่าน และผู้สนับสนุนเครือเนชั่นจะได้ร่วมประสบการณ์ใหม่ไปกับสื่อใหม่ๆ ด้วยเราตระหนักว่า เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น วิถีชีวิต หรือ ไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้เปลี่ยนแปลงด้วยอัตราเร่ง สื่อหลักอย่างเครือเนชั่นจึงไม่พลาดโอกาสที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่ารูปแบบการรับสื่อจะแปรเปลี่ยนไปอย่างหลากหลายอย่างไร

ทิศทางธุรกิจในปี 2555 ของเครือเนชั่น นอกจากจะมุ่งเพิ่มคุณภาพของสื่อสิ่งพิมพ์ อย่างไม่หยุดยั้ง เรายังคงเดินหน้านำเนื้อหาที่มีคุณค่า จากผลผลิตของทีมข่าวที่มีคุณภาพของเรา นำเสนอออกไปในทุกๆแพลทฟอร์ม ที่ทำให้ผู้รับสารเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา

ความนิยมในสื่อใหม่ (New Media) และสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่อัตราการเข้าถึงเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้ง เครือเนชั่นไม่ได้มองข้ามปรากฎการณ์นี้ เราพร้อมเต็มที่ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่สื่อใหม่ เพื่อเป็นช่องทางนำเนื้อหาที่มีคุณภาพของเราส่งต่อไปยังผู้รับสื่อให้มากที่สุด

เราเชื่อมั่นว่าการมุ่งขยายสู่แพลทฟอร์มใหม่ๆ ของการนำเสนอ ข่าวสาร-ข้อมูล-ความรู้-ความบันเทิง หรือคอนเทนท์ทั้งมวลของเครือเนชั่น ในรูปแบบ New Media และ Social Media จะเป็นทั้งส่วนสนับสนุน และเพิ่มสีสัน ให้กับสื่อสิ่งพิมพ์ที่แข็งแกร่งของเครือเนชั่น

ในปี 2555 เราเชื่อมั่นว่า สื่อสิ่งพิมพ์จะเติบโตต่อเนื่องไปอีก โดยสื่อใหม่จะเป็นสื่อเสริมที่เราให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อน สอดรับกับกระแสความนิยมของคนไทยต่อสื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมโทรทัศน์ โอกาสของเครือเนชั่น

ปี 2554 สื่อโทรทัศน์มีส่วนแบ่งจากรายได้โฆษณาหกสิบกว่าเปอร์เซ็นต์จากยอดงบประมาณโฆษณาของสื่อทุกๆ สื่อ ที่มียอดเงินประมาณหนึ่งแสนล้านบาท สื่อโทรทัศน์ในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เราได้เห็นโทรทัศน์ดาวเทียมเกิดขึ้นใหม่มากกว่า 200 ช่อง

ผู้ชมทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลมีอัตราเติบโตก้าวกระโดด การแข่งขันของสื่อโทรทัศน์จะเข้มข้นอย่างน่าติดตาม ผู้ที่ได้เปรียบคือผู้ที่มี “เนื้อหา” (Content) เพราะไม่ว่าจะเป็นสื่อดั้งเดิมหรือสื่อใหม่ เนื้อหาสาระเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด

เครือเนชั่นซึ่งมี Content มากองค์กรหนึ่งของประเทศ จะมีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้น ในอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ ในปี 2555 เราพร้อมที่จะผลิต Content ป้อนสู่ Free TV, Satellite TV, IPTV หรือ TV ทุกๆ รูปแบบ

เครือเนชั่นไม่จำเป็นจะต้องตีกรอบตัวเองอยู่ภายใต้การทำธุรกิจสื่อเท่านั้น โอกาสที่เราจะลงทุนขยายธุรกิจอื่นๆ ที่มีอนาคตเราจะไม่ปฏิเสธ โดยเฉพาะธุรกิจด้าน Digital ทั้งในรูปแบบ E-Commerce, M-Commerce, S-Commerce, Education, Games และ Entertainment ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดกว้าง รอผู้ที่มีความพร้อมเข้าร่วมแข่งขัน

วันนี้เครือเนชั่นมีความพร้อมเต็มที่ ในการเสริมสร้างต่อยอดและขยายธุรกิจด้านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อใหม่ การศึกษา และโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่มีอนาคตรออยู่

เมื่อต้นปี 2554 เครือเนชั่นได้เริ่มเข้ารับผิดชอบบริหารมหาวิทยาลัยโยนกที่จัดหวัดลำปาง โดยในปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยเนชั่น ได้เปิดการเรียนการสอน สาขานิเทศศาสตร์ ณ ศูนย์ศึกษากรุงเทพฯ และเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย ได้รับการอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อเป็น “มหาวิทยาลัยเนชั่น (Nation University)” อย่างเป็นทางการแล้ว

สำหรับปีการศึกษา 2555 มหาวิทยาลัยเนชั่น จะเปิดศูนย์ศึกษาที่กรุงเทพฯ เต็มรูปแบบ โดยใช้อาคารด้านหน้าของเครือเนชั่นทั้งอาคาร นอกจากเพิ่มความคึกคักทางด้านนิเทศศาสตร์แล้ว เราพร้อมเปิดเพิ่มคณะบริหารธุรกิจ ด้วยการสนับสนุนของทีมงานหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมทุกวงการ และจะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้การสอนด้านธุรกิจของเรามีคุณภาพ ตามนโยบายที่เรามุ่งเน้นคือ “เรียนกับมืออาชีพ” เน้นการปฏิบัติหรือลงมือทำด้วยตนเองในระหว่างเรียนไม่ว่าที่กรุงเทพฯ หรือลำปาง

เครือเนชั่นฯ มีความพร้อมสูงสุดที่จะเดินหน้าทำสื่อเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมไทยทุกๆด้าน อย่างมีจุดยืนมีมาตรฐานเหมือนกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ด้วยความพร้อมเพรียงของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่เราได้ส่งเสริมสนับสนุน และฝึกฝน จนมีความพร้อม และมั่นใจว่าผู้บริหารเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถของเครือเนชั่นฯ ให้เดินหน้าต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้อย่างมั่นคง และเข้มแข็งยิ่งขึ้นสืบต่อไป

สุดท้ายนี้ในนามของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในเครือเนชั่นฯ ขอถือโอกาสนี้ กล่าวคำขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุนเครือเนชั่น อย่างอบอุ่น มั่นคง และ สม่ำเสมอ เราให้คำมั่นว่าเราจะมุ่งมั่น ทุ่มเท ทำงานต่อไปอย่าง มั่นคง และ เที่ยงตรงต่อการทำหน้าที่สื่อคุณภาพ ด้วยความมุ่งมั่นภายใต้อุดมการณ์ คาดว่าปี 2555 เป็นปีที่เราจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามอีกปีหนึ่ง

nmg board
nmg board

บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
1858/118-119, 121-122, 124-130 อาคารเนชั่นทาวเวอร์ ชั้น 27-32 ถนนบางนา-ตราด, แขวงบางนา, เขตบางนา, กรุงเทพฯ 10260
โทร: 0 2338-3333 ต่อ 3289 (เวลาทำงานจันทร์-ศุกร์ 8.30-17.30) โทรสาร: 0 2338-3936

บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Nation Multimedia Group Public Company Limited) เป็นบริษัทสื่อสารมวลชนครบวงจร ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 โดยเริ่มจากการออกหนังสือพิมพ์ The Voice of the Nation หนังสือพิมพ์รายวันภาษาอังกฤษในไทยฉบับแรก ที่มีชาวไทยเป็นเจ้าของ โดยมีบุคคลสำคัญประกอบด้วย หม่อมราชวงศ์สุนิดา กิติยากร, สุทธิชัย หยุ่น, ธรรมนูญ มหาเปารยะ, เชวง จริยะพิสุทธิ์, ธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์, และ ธนะชัย สันติชัยกูล

สิ่งพิมพ์และสื่อในเครือ
– เดอะ เนชั่น
– กรุงเทพธุรกิจ
– คมชัดลึก
– เนชั่น จูเนียร์
– เนชั่น สุดสัปดาห์
– เนชั่น แชนแนล
– แมงโก้ทีวี
– ระวังภัย 24 ชั่วโมง
– อาเซียนทีวี
– วิทยุเนชั่น
– โอเคเนชั่น
– เนชั่นบุ๊คส์

บริษัทในเครือ
– บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้งคอร์ปอเรชั่น
– บมจ.เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์
– บจก.เนชั่น เอ็กมอนท์
– บจก.เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์
– บจก.เอ็นคูปอง
– บจก.เนชั่น นิวส์ เน็ตเวิร์ค
– บจก.กรุงเทพ ธุรกิจ มีเดีย
– บจก.คมชัดลึก มีเดีย
– บจก.ดับบลิวพีเอส
– บจก.เอ็นเอ็มแอล
– บจก.เนชั่น ยู

http://www.nbc.co.th/aboutnbc-history.html

จุฬาถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตลูกศิษย์

ถอนปริญญา ลูกศิษย์
ถอนปริญญา ลูกศิษย์

พระท่านว่า “มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มีสรรเสริญ ก็ย่อมมีนินทา

ผมแค่ไม่เคยชินกับเรื่องนี้ .. จรรณยาบรรณครู พ.ศ.2539
ข้อ 4. ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์
http://www.thaiall.com/learn/toremember.htm

ข่าว http://www.suthichaiyoon.com/detail/32344

นายกสภาจุฬาฯไม่หวั่นถูก “ศุภชัย” ฟ้อง‏กรณีถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิต แจงไม่รับคำท้าเดิมพันด้วยตำแหน่ง เพราะเป็นหน้าที่ของ “อธิการบดีจุฬาฯ”

ที่โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กทม.วานนี้ (27 มิ.ย.) ศ.กิตติคุณ คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายศุภชัย หล่อโลหการ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองกรณีที่สภาจุฬาฯ มีมติเพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิต เนื่องจากตรวจพบมีการลอกเลียนผลงานทางวิชาการ และนำไปเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ ทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรีว่า ขณะนี้ทางจุฬาฯ อยู่ระหว่างการทำหนังสือแจ้งถึงมติสภาจุฬาฯ ดังกล่าว พร้อมทั้งชี้แจงรายละเอียดเหตุผลประกอบมติที่ออกมาด้วย จึงต้องใช้เวลา

“ส่วนที่นายศุภชัยจะยื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครองก็ถือว่าเป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้ และถือเป็นเหตุการณ์ปกติสำหรับเมืองไทย ไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนอะไร เพราะการดำเนินการทุกอย่างของสภาจุฬาฯ ก็มีกระบวนการผ่านขั้นตอนมาอย่างถูกต้อง ไม่ใช่พิจารณาโดยไม่ได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบและรอบด้าน ซึ่งเชื่อมั่นว่าแต่ละส่วนก็ต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ก่อนที่จะยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภามหาวิทยาลัย” นายกสภาจุฬาฯ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายศุภชัยท้าเดิมพันด้วยตำแหน่งหากศาลปกครองตัดสินว่าใครถูก อีกฝ่ายต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนั้น นายกสภาจุฬาฯ กล่าวว่า ก็คงต้องให้เป็นหน้าที่ของ ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาฯ ไปรับคำท้า ในฐานะเป็นหัวหน้าส่วนสำนักงาน เรื่องแบบนี้ปิดกันไม่มิดเวลาจะเป็นเรื่องพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้

“เรื่องนี้ถูกนำเสนอเข้าสู่สภามหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ปี 2551 มีการพิจารณามาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสภาจุฬาฯ ได้มีมติเพิกถอนปริญญาดุษฎีบัณฑิตเนื่องจากตรวจพบมีการลอกเลียนผลงานทางวิชาการ และนำไปเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ ทำให้เสื่อมเสียศักดิ์ศรี เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จนกระทั่งสภาจุฬาฯ มีมติเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2555 ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หากหลักฐานไม่เพียงพอ” นายกสภาจุฬาฯ กล่าว

ด้าน ศ.ดร.เทียนฉาย กีระนันท์ อดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า ในต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เมื่อสภามหาวิทยาลัยมีมติออกมาอย่างไร จะเคารพในมติของสภามหาวิทยาลัย ถือว่าทุกอย่างได้ยุติแล้ว จะไม่มีการฟ้องร้องใดๆ ทั้งสิ้น

เช่นนั้นเอง ของพุทธทาส

เช่นนั้นเอง ของ พุทธทาส
เช่นนั้นเอง ของ พุทธทาส

ฟังวิทยุตอนเช้า เรื่อง “เช่นนั้นเอง ของพุทธทาส”
.. ทำให้ผมคิดว่าการเปลี่ยน เสื้อผ้า หน้า ผม ก็ไม่เห็นจะทำให้เกิดความแตกต่าง
เพราะความแตกต่างเกิดจาก ความคิด ความรู้สึก ความเชื่อ รวมถึงจินตนาการที่ฟุ้งไป
.. ถ้าคำว่า “เช่นนั้นเอง” ถูกใช้เป็นฐานคิดว่า
การเปลี่ยนไปของ เสื้อผ้า หน้า ผม ไม่ทำให้มนุษย์เราต่างกัน
ก็ย่อมคิดได้ว่า ทรงผมไม่ทำให้คนเราเปลี่ยนไป
ที่เห็นก็ยังเหมือนเดิม เป็นคนเดิม เหมือนที่เราเคยพบเห็นทุกวัน
ถ้าคิดว่าไม่ใช่คนเดิม ก็คงเพราะการปล่อยความคิดให้ล่องลอย
.. ไปตามกระแสค่านิยมของสังคม ที่เห็นอะไรก็นำมาเป็นสาระไปหมด

ปัญหาใหญ่ คือ ผมเป็นพวกหลงไปตามกระแสค่านิยมของสังคม .. ซะด้วย