นิ้วชี้รุ้งนิ้วจะกุดต้องจิ้มรูตูด (itinlife469)

สายรุ้งกลางทุ่งนา อย่าไปชี้นะครับ นิ้วจะกุดเอา
สายรุ้งกลางทุ่งนา อย่าไปชี้นะครับ นิ้วจะกุดเอา

คุณมาโนช พุฒตาล เล่าเรื่องการใช้นิ้วชี้รุ้งแล้วนิ้วจะกุด ไว้ในนิตยสารคู่สร้างคู่สมฉบับเดือนกันยายน 2557 ว่าในอดีตผู้ใหญ่มักสอนเด็กให้คิดเป็น ยกตัวอย่างที่ครูเชิดพาเด็กมายืนนอกบ้านแล้วบอกว่าเอานิ้วชี้รุ้งแล้วนิ้วจะกุด เมื่อชี้แล้วก็เอานิ้วให้ดูว่ากุดไปแล้ว แก้ไขโดยเอานิ้วไปแยงรูตูดตนเอง นิ้วจะกลับมาเหมือนเดิม เป็นปริศนาที่ชวนให้เด็กได้คิดเชิงวิเคราะห์ถึงความสมเหตุสมผล เพราะคำตอบไม่ใช่ประเด็นหลักของการสื่อสาร ที่สำคัญคือกระบวนการพัฒนาการคิดที่ติดไปกับตัวเด็ก แล้วฝึกให้ซักถาม โต้แย้งที่นำไปสู่การคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งการสอนในปัจจุบันไม่มีเวลาที่จะสอนในแนวอุปมาอุปมัยมากเหมือนในอดีต เพราะมีเรื่องให้ท่อง ให้ค้นคว้า ให้จดจำ และนำไปทำรายงานมากมายเหลือเกิน

อีกมุมหนึ่งของการศึกษาในปัจจุบัน คุณครูมักมอบงานค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต แล้วให้ไปทำรายงานที่บ้าน ดูว่าเป็นการเรียนที่ทันสมัยและรู้จักการใช้เทคโนโลยี หัวข้อก็มักยากเกินวัย เด็กจึงอาศัย google.com เมื่อค้นข้อมูลพบก็จะคัดลอกไปวางในไมโครซอฟท์เวิร์ด แล้วจัดหน้าให้เรียบร้อย นำไปเข้าเล่มแล้วรายงานให้คุณครู ซึ่งครูส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้อ่าน เพราะเป็นงานที่คัดลอกมาจากอินเทอร์เน็ตกันทุกคน ก็คงให้คะแนนในคุณภาพของเนื้อหาไม่ได้ เด็กบ้านไหนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตก็จะไม่มีงานส่ง ทำให้คะแนนลดลงในวิชาเหล่านั้น ในระหว่างทำรายงานก็มักใช้เฟสบุ๊ค หรือไลน์คุยกันเรื่องการทำรายงาน เกิดค่านิยมงานกลุ่มชอบทำเดี่ยว แต่งานเดี่ยวมักทำกันเป็นกลุ่ม เพราะครูได้วางแผนมอบหมายงานว่า หากงานใดที่ต้องการให้มีส่วนร่วมของนักเรียนก็จะมอบงานกลุ่ม แต่เด็กมักไปแบ่งงานกันทำ แล้วอาจยกให้เป็นภาระของคนใดคนหนึ่ง ทำให้เด็กที่เหลือขาดความเข้าใจในเนื้อหาองค์รวม ส่วนงานเดี่ยวที่หวังให้ทำรายงานด้วยตนเองก็มักจะสื่อสารกันและแบ่งปันข้อมูลจนเด็กขาดความเข้าใจตามที่คุณครูคาดหวัง

การศึกษาที่ส่งเสริมให้เด็กไทยคิดเป็น เป็นสิ่งท้าทายของนักการศึกษา แต่ก็มีผู้รู้บางท่านที่เห็นต่าง โดยมองว่าผลสอบที่ได้คะแนนสูงมีความสำคัญ เมื่อให้น้ำหนักกับการสอบก็ต้องจัดติว และฝึกทำข้อสอบปรนัยให้ได้คะแนนสูง เมื่อเวลาของมนุษย์มีจำกัด ทำให้เวลาที่เหลือให้กับกิจกรรมฝึกคิดเป็นถูกลดทอนลง เหลือเพียงเวลาที่จะพัฒนาให้เด็กจำได้และกาเป็น เพื่อให้ได้คะแนนสอบสูง โรงเรียนก็จะผ่านการประเมินของหน่วยงานที่เข้าไปประเมินคุณภาพ มีนักเรียนเข้าเรียนเยอะขึ้น และหนีการตกชั้นหรือถูกยุบตามที่เป็นข่าว

http://www.beautyscenery.com/2013/09/download-rainbow-wallpapers.html

https://th-th.facebook.com/btkdmagazine/photos/a.218375238305641.1073741828.218308584978973/456524257824070

เกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี (itinlife 303)

rainbow โชว์พุง
rainbow โชว์พุง

กระแสคลั่งไคล้วัฒนธรรมเกาหลีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ละครแดจังกึม หนังแผ่นซีรี่เกาหลี หรือละครทีวีตามช่องฟรีทีวี ทำให้มีการแต่งตัวเรียนแบบชาวเกาหลี ทำศัลยกรรม ไปเที่ยวเกาหลี แต่งหน้าทำผม หรือแม้แต่การรับประทานอาหารเกาหลีก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ในอนาคตเราอาจแยกไม่ออกว่าอะไรคืนเกาหลี อะไรคือไทย อะไรคืออเมริกา เพราะเกิดการผสมผสานวัฒนธรรม ปัจจุบันพบรายการอาหารชื่อข้าวไก่กรอบเขียวหวานในร้านขายไก่ทอดเคเอฟซี  พบข้าวไก่ย่างน้ำตกและข้าวอบไก่ย่างเบนโตะในร้านเชสเตอร์ กริลล์ ในอนาคตอาจพบข้างคลุกกะปิคู่ไก่ทอด หรือข้าวน้ำพริกหนุ่มคู่ไก่ย่างในร้านข้างต้น

ได้เข้าไปดูงานจำหน่ายสินค้าด้านเทคโนโลยีทั้งคอมพิวเตอร์ ทีวี ทีวีสามดี แท็บเล็ตพีซี สมาร์ทโฟน กล้องดิจิทอล แล้วก็พบการนำเสนอศักยภาพด้านเสียงและภาพของทีวีหรือคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดมิวสิกวีดีโอของนักร้องกลุ่มวัยรุ่นหญิงชาวเกาหลี หรือที่เรียกว่าเกิร์ลกรุ๊ป มีผู้สนใจมุงดูกันเต็มไปหมด ปัญหาด้านวัฒนธรรมที่มีนักร้องออกมาเต้นของเกิร์ลกรุ๊ปที่ประเทศเกาหลีก็เป็นปัญหาที่ชาวเกาหลียังแก้ไม่ตกเช่นกัน อาทิ เกิร์ลกรุ๊ป Rainbow สังกัด DSP Entertainment ที่ทั้ง 7 สาวออกมาเต้นโชว์พุง ได้ถูกตักเตือนและสั่งห้ามจากบริษัทผู้รับผิดชอบการออกอากาศ ด้วยเหตุผลว่า มันแสดงออกถึงเรื่องเพศมากเกินควร

ในใจของผู้เขียนรู้สึกดีใจที่ในประเทศไทยยังไม่มีเกิร์ลกรุ๊ปที่เน้นการเต้นที่แสดงออกถึงเรื่องเพศเป็นหลัก เพราะมีวัยรุ่นมากมายให้ความสนใจและชื่นชอบ สังเกตได้จากพฤติกรรมโฟสต์คลิ๊ปในเฟซบุ๊ก หรือจำนวนผู้เข้าชมคลิ๊ปในยูทูป สำหรับชาวไทยที่ชื่นชอบเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีก็คงมีไม่กี่ท่านที่ฟังภาษาเกาหลีออกทุกคำ แต่เชื่อว่าส่วนใหญ่ชอบในท่าเต้นประกอบมิวสิกวีดีโอที่มุ่งสื่อในเรื่องเพศเป็นสำคัญ สำหรับประเทศไทยของเรามีผู้ใหญ่เสียงดังในสังคมหลายท่านที่เราชื่นชม และอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของชาวไทย เพราะมีอะไรที่ส่อไปในทางที่เสื่อมศีลธรรมก็จะออกมาปกป้อง หรือประนามพฤติกรรมเหล่านั้นในทันที เราจึงไม่พบเกิร์ลกรุ๊ปที่ใจกล้าแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในประเทศเกาหลี แต่ไม่ทราบว่าประเทศไทยจะทนการโหมกระหน่ำของวัฒนธรรมตะวันตก และตะวันออก จนวัฒนธรรมไทยถูกกลืนหายไปได้อีกนานเท่าใด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคนเป็นผู้ตัดสินใจ

http://atcloud.com/stories/87732