อิทธิพลของการกดไลค์

press like by NineBU

การกดไลค์ หมายถึง การแสดงความชื่นชอบ หรือตอบว่าใช่ ต่อเนื้อหาที่ปรากฎ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของข้อความ รูปภาพ หรือคลิ๊ปวีดีโอ การกดไลค์เป็นที่แพร่หลายพร้อมกับความนิยมที่มีต่อเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่เพิ่มขึ้น แล้วส่งผลถึงการนำไปใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ยี่ห้อ องค์กร หรือสินค้า จนปรากฎภาพสัญลักษณ์ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้เห็นในสื่ออย่างหลากหลาย รวมถึงการนำผลกา
รกดไลค์ไปใช้ประกอบการตัดสินความนิยมในการแข่งขันมากมาย อาทิ ประกวดภาพเดี่ยว ภาพครอบครัว หนังสั้น หรือเพลง

การปรากฎในสื่อ พบว่า มีการใช้คำว่า กดไลค์ มาเป็นชื่อภาพยนตร์ คือ “ชอบกดไลค์ใช่กดเลิฟ” เป็นชื่อภาพยนตร์ มีนักแสดงนำคือ มอส ปฏิภาณ และ ออม สุชาร์ และ อัทธ์ อังค์กูณฑ์ หรือเพลงที่ชื่อ กดเลิฟ ของ so cool ที่มีเนื้อเพลงเกี่ยวกับ status หรือ comment มีข้อความในเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “ได้แต่คอยกด like อีกเมื่อไรไม่รู้จะได้กด love เธอ” ก็ล้วนมีอิทธิพลมาจาก social media ซึ่งแสดงในมุมของคนที่มีความรักให้กันฉันท์ชู้สาว แต่การกดไลค์ในชีวิตจริงมีวัตถุประสงค์กว้างกว่านั้น เพราะการกดไลค์เริ่มต้นจากการมีความรู้สึกดี ชื่นชอบ หรืออยากบอกต่อ อาจพบปุ่มกดไลค์ในเว็บไซต์ด้านข่าว หรือร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ ที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ใน social media ก็ได้

อิทธิพลของการกดไลค์
เป็นเครื่องแสดงจุดยืนว่าเรายืนอยู่ที่ใด ชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ถ้าไม่กด หมายถึง การไม่แสดงความเห็น หรือ เฉย ๆ หรือเจตนาละเว้น หากสนใจประสิทธิผลการกระจายข่าวสารพบว่าจำนวนการกดไลค์ หรือแสดงความเห็น มีผลต่อค่าสถิติการบอกต่อ (Viral) บางเรื่องที่ถูกกดไลค์ หรือแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากก็จะมีค่า viral ที่สูง ซึ่งค่า Virality คือ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้สร้างเนื้อหาเพิ่มหลังมองเห็นต่อจำนวนผู้มองเห็นเนื้อหา แล้วค่านี้มีผลต่ออันดับการนำเนื้อหาไปแสดงในเพจของเพื่อนในเครือข่ายสังคม เกิดจำนวนการรับรู้ต่อข่าวสารนั้นสูง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายของผู้ส่งข่าวสารนั้น

นี่เป็น post แรก ที่ทดสอบใช้ภาพจาก fb page