thaiall logomy background

ระบบแฟ้ม (File system)

my town
สารบัญ :: #1 :: #2 :: #3 :: #4 :: #5 :: #6 :: #7 :: #8 :: #9 :: #10 :: #11 :: #12 :: Linux ::
ระบบแฟ้ม
สาระการเรียนรู้
1. โครงสร้างระบบแฟ้ม
2. โครงสร้างไดเรกทอรี่
3. วิธีการเข้าถึง
4. การอนุญาตให้เข้าถึงแฟ้ม
จุดประสงค์การสอน
1. เข้าใจโครงสร้างระบบแฟ้ม
2. สามารถจัดการกับโครงสร้างไดเรกทอรี่ได้
3. เข้าใจวิธีการเข้าถึง
4. สามารถเขียนภาพแสดงการเข้าถึงได้
5. เข้าใจการอนุญาตให้เข้าถึงแฟ้ม
6. สามารถบอกลักษณะการอนุญาตเข้าถึงแฟ้มได้
แนะนำบทเรียน
การจัดเก็บแฟ้มของ Windows ในระบบ FAT (File Allocation Table) จะใช้ตาราง FAT และ ตาราง Directory โดยแบ่งพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ออกเป็น cylender และ cluster และ track และ sector และ block แต่ละแฟ้มจะต้องใช้พื้นที่ที่อยู่ในแต่ละ block หากขนาดแฟ้มเล็กกว่า 1 block ก็จะใช้กินพื้นที่ 1 block เพื่อให้หัวอ่านทำงานได้เร็ว โดยอ่านข้อมูลครั้งละ 1 block ทำให้หัวอ่านเคลื่อนตัวไปเท่าจำนวน block แทนจำนวน byte การจัดเก็บในแต่ละสื่อก็จะมีมาตรฐานและขนาดของ block แตกต่างกันไป อย่างเช่น CD ก็จะเก็บข้อมูลแบบก้นหอย ไม่ได้แบ่งเป็นวงเล็กใหญ่ลดหลั่นกันไปเหมือนใน harddisk
บทนำ

แฟ้ม หรือไฟล์ (File)
หมายถึง กลุ่มของสารสนเทศที่สัมพันธ์กัน ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านั้นกำหนดโดยผู้สร้างแฟ้ม และอาจใช้เก็บอะไรก็ได้
หมายถึง กลุ่มของระเบียนที่สัมพันธ์กัน เป็นเรื่องเดียวกัน
หมายถึง สิ่งที่บรรจุข้อมูลต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน
หมายถึง A named collection of related information that is recorded on secondary storage.
หมายถึง A collection of bytes stored as an individual entity. All data on disk is stored as a file with an assigned file name that is unique within the folder (directory) it resides in. To the computer, a file is nothing more than a string of bytes. The structure of a file is known to the software that manipulates it. For example, database files are made up of a series of records. Word processing files contain a continuous flow of text. [techweb.com]

ระบบแฟ้ม (File system)
หมายถึง กลุ่มของสารสนเทศที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ถูกใช้เพื่อควบคุมการเรียกใช้ และจัดเก็บข้อมูลภายในระบบ
ระบบแฟ้มเป็นสิ่งที่ผู้ใช้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่มักไม่รู้ตัวเนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกโดยระบบปฏิบัติการอย่างอัตโนมัติ ระบบแฟ้มเป็นฐานที่ทำให้เกิดการจัดการโปรแกรม และข้อมูลในทุกการดำเนินงานของระบบซอฟท์แวร์ที่เข้าควบคุมสื่อเก็บข้อมูล

ระบบแฟ้มประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 1) รวมรวมแฟ้ม (Collection of Files) เก็บข้อมูลที่สัมพันธ์ให้ถูกอ้างอิงได้ในรูปแฟ้มข้อมูล 2) โครงสร้างแฟ้ม (Directory Structure) จัดการอำนวยการเข้าถึงแฟ้มและจัดกลุ่มอย่างเป็นระบบ 3) พาทิชัน (Partitions) ซึ่งแยกเป็นทางกายภาพ (Physically) หรือทางตรรก (Logically) ของระบบไดเรกทรอรี่ (Directory) โดยเนื้อหาในบทนี้จะกล่าวถึงแฟ้ม และโครงสร้างไดเรกทรอรี่ รวมถึงการป้องกันแฟ้ม จากการเข้าถึงในระบบ Multiple users และระบบ File sharing
วิธีการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้กันใน OS ทุกตัวคือ จัดเก็บข้อมูลเป็นแฟ้มข้อมูลหรือไฟล์ (file) ไฟล์คือสิ่งที่บรรจุข้อมูล,โปรแกรมหรืออะไรก็ได้ที่ผู้ใช้ต้องการรวบรวมไว้เป็นชุดเดียวกัน การอ้างถึงไฟล์หรือข้อมูลต่าง ๆ ภายในไฟล์ของโปรแกรม จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับแอดเดรสของโปรแกรมใด ๆ ทั้งสิ้น OS มีโอเปอร์เรชั่นพิเศษที่เรียกว่า system call ไว้ให้โปรแกรมเรียกใช้ เพื่อให้สามารถจัดการงานที่เกี่ยวกับไฟล์ได้

วิธีการจัดเก็บไฟล์ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปมี 3 วิธี
1. เก็บเป็นไบต์เรียงกันไป UNIX เก็บไฟล์ในลักษณะนี้
2. เก็บเป็นเรคคอร์ด เรคคอร์ดจะมีขนาดคงที่สามารถจะอ่านหรือเขียนที่เรคคอร์ดไหนก็ได้ แต่ไม่สามารถเพิ่มหรือลบเรคคอร์ดกลาง ๆ ได้ วิธีนี้ใช้ใน CP/M
3. เก็บแบบต้นไม้หรือทรีของบล็อก (ในดิสก์) แต่ละบล็อกจะสามารถมี ก เรคคอร์ด แต่ละเรคคอร์ดจะมีคีย์ (key) เอาไว้ช่วยในการค้นหาเรคคอร์ด เรคคอร์ดสามารถเพิ่มหรือลบออกที่ใดก็ได้ ถ้ามีเรคคอร์ดถูกเพิ่มเข้าไปในบล็อกที่เต็มแล้ว บล็อกนั้นก็จะแยกออกเป็น 2 บล็อกใหม่ในทรีและจัดเรียงตามลำดับอักษร วิธีนี้ใช้บนเครื่องระดับเมนเฟรมหลายเครื่อง และเรียกว่า ISAM (indexed sequential access method)

ระบบแฟ้ม (File System)
ะบบแฟ้ม (File system) หมายถึง กลุ่มของสารสนเทศที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ถูกใช้เพื่อควบคุมการเรียกใช้ และจัดเก็บข้อมูลภายในระบบ หากไม่มีระบบแฟ้ม แฟ้มทั้งหมดก็จะเก็บเป็นก้อนข้อมูลขนาดใหญ่ และไม่สามารถบอกได้ว่าข้อมูลใดเริ่มและจบที่ใด
wiki1 , wiki2
ในระบบปฏิบัติการ Windows สามารถดู File System ว่าใช้ของอะไร ด้วยการกด Right Click บน Drive แล้วเลือก Properties ก็จะแสดงข้อมูล เช่น Drive C ใช้ NTFS เป็นต้น หรือใช้ DOS>chkdsk ก็ได้เช่นกัน
  • AFS
    (Andrew File System) #
    คือ ระบบแฟ้มแบบกระจาย พบในระบบ WAN ถูกพัฒนาโดย Carnegie Mellon University เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Andrew
  • AUTOFS
    #
    คือ การตั้งระบบแฟ้มขึ้นมาอัตโนมัติ (Automatically mounting File System) เพื่อสื่อสารระหว่างระบบ ดังนั้น AUTOFS จึงไม่ใช่ระบบแฟ้มจริง
  • DEVPTS
    #
    คือ เทอมินัลเทียม (pseudo-terminals : complies with UNIX'98 specification) (TTY = เครื่องโทรพิมพ์ / Teletype / Teletypewriter / Touch teletype และ PTY= Pseudo Terminal Device) เป็นอุปกรณ์เทอมินนัลที่จำลอง โดยโปรแกรมอื่น อาทิ xterm, ssh, telnet, winpty
  • ext2
    (Second extended filesystem) #
    คือ ระบบแฟ้มสำหรับระบบปฏิบัติการที่ใช้เคอร์นอลลีนุกซ์รุ่น 2 เมื่อเริ่มพัฒนาออกแบบโดย Remy Card ที่นำมาใช้แทน extended file system (ext)
  • ext3
    (Third extended filesystem) #
    คือ ระบบแฟ้มสำหรับระบบปฏิบัติการที่ใช้เคอร์นอลลีนุกซ์รุ่น 3 ใช้บันทึกระบบแฟ้มบนระบบลีนุกซ์ในปัจจุบัน
  • HPFS
    (High Performance File System) #
    คือ ระบบแฟ้มถูกสร้างสำหรับระบบปฏิบัติการ OS/2 ที่ปรับปรุงมาจากข้อจำกัดของระบบแฟ้มแบบ FAT
  • ISO 9960
    #
    คือ ระบบแฟ้มมาตรฐาน เผยแพร่โดย International Organization for Standardization (ISO) สำหรับใช้งานบนออปติคัลดิสก์ (Optical disc) เช่น CD, VCD หรือ DVD
  • JFS
    (Journaling file system) #
    คือ การบันทึกระบบแฟ้มที่ถูกพัฒนาโดย IBM สำหรับ AIX (IBM UNIX) เมื่อปีค.ศ.2000 เป็นลิขสิทธิ์โอเพนท์ซอร์ท และเป็นส่วนเพิ่มเติม (Patch) สำหรับลีนุกซ์
  • MINIX
    #
    คือ ระบบแฟ้มสำหรับระบบปฏิบัติการ Minix พบว่าใช้บ่อยบนแผ่นดิสก์บนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์
  • MSDOS
    #
    คือ ระบบแฟ้มสำหรับการแบ่งแฟ้ม (Partition) แบบ MS-DOS และแผ่นดิสก์ (Floppy disk) รองรับชื่อสั้น
  • NFS
    (Network File System) #
    คือ ระบบแฟ้มแบบกระจาย เริ่มแรกพัฒนาโดย Sun Microsystems ค.ศ. 1984 อนุญาตให้ผู้ใช้บนเครื่องไคลเอ็น เข้าถึงแฟ้มบนเครื่องในเครือข่าย เหมือนเข้าถึงสื่อเก็บข้อมูลในเครื่องตนเอง (local storage)
  • NTFS
    (New Technology File System) #
    คือ ระบบเจ้าของแฟ้ม ถูกพัฒนาโดย Microsoft เริ่มบน Windows NT 3.1 และเป็นระบบแฟ้มที่ใช้โดยปริยายสำหรับกลุ่ม Windows NT ซึ่ง Windows 10 ก็ใช้อยู่
  • NWFS
    (Novell NetWare File System) #
    คือ ระบบแฟ้มรุ่นที่ถูกปรับครั้งใหญ่จาก FAT ถูกใช้ใน Novell NetWare Operating System เพื่อให้บริการระบบ File Server และบริการทรัพยากรต่าง ๆ
  • PROC / PROCFS
    #
    คือ ระบบแฟ้มเฉพาะบนระบบลีนุกซ์ (Unix-like OS) เพื่อการจัดการโปรเซส และสารสนเทศภายใน เป็นการสื่อสาระหว่างแฟ้มแบบมีลำดับชั้น (Hierarchical file-like structure) ระบบแฟ้มถูกทำงานเมื่อ Boot time ซึ่ง Proc file system จะใช้ควบคุมปฏิสัมพันธ์โครงสร้างข้อมูลกับในเคอร์นอล
  • ReiserFS
    #
    คือ ระบบแฟ้มที่ถูกพัฒนาโดย Hans Reiser บริษัท Namesys นำเสนอสำหรับ ลีนุกซ์เคอนอล รุ่น 2.4.1 เป็นระบบแฟ้มบนหลายเครื่อง เช่น Elive, Xandros, Linspire, and YOPER Linux distributions
  • SMBFS
    (Samba) #
    คือ ระบบแฟ้มเครือข่ายบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (SMB networking protocol) ซึ่งโปรแกรมเรียกค่าไถ่เคยใช้เป็นช่องทางในการโจมตี หากจะใช้งานจะต้องเข้าไปเปิดใช้บริการ
  • SWAP
    #
    คือ ระบบแฟ้มชั่วคราว เสริมการทำงานของหน่วยความจำหลัก เป็นระบบแบบแบ่งเพจ (Paging) ถูกจัดสรรให้เป็นตำแหน่งเก็บแฟ้มแบบชั่วคราว มีขนาดใหญ่กว่า RAM แต่จะทำงานช้าลง หากฮาร์ดดิสก์เหลือพื้นที่น้อย เพราะต้องใช้เวลาจัดสรรมากขึ้น
  • UDF
    (Universal Disk Format) #
    คือ ระบบดิสก์สากล ใช้บน CD-R , CD-RW และ DVD ดูแลมาตรฐานโดย Optical Storage Technology Association (OSTA)
  • USBDEVFS
    #
    คือ ระบบแฟ้มสำหรับ USB สนับสนุนการเชื่อมต่อ การจัดการ และสามารถถูก Mount ไปใช้บนระบบปฏิบัติการต่าง ๆ ได้
  • VFAT
    #
    คือ ระบบแฟ้มสำหรับการแบ่งแฟ้ม (Partition) แบบ DOS/Windows 9x และแผ่นดิสก์ (Floppy disk) รองรับชื่อยาว
  • XFS
    #
    คือ ระบบแฟ้มประสิทธิภาพสูง 64 bit ใช้งานได้บนยูนิกซ์ และมีการติดตั้งใช้งานในบางระบบ เริ่มพัฒนาโดย Silicon Graphics, Inc (SGI) สำหรับ IRIX
USB GMM Grammy
เมื่อไปซื้อ USB MP3 ที่มีเพลงลิขสิทธิ์กว่า 80 เพลง ฟังได้นานถึง 5 ชั่วโมง ราคา 199 บาท ก็มีคำถามว่า Flash Drive หรือ Thumb Drive ที่ได้มานั้น มี File Format แบบใด เมื่อสืบค้นก็พบว่า เครื่องเสียงติดรถยนต์ที่รับ USB MP3 มักต้องมี File Format เป็น Fat32 ซึ่งเป็นโครงสร้างแฟ้มแบบเก่า จะใช้ NTFS ก็อาจจะใช้งานไม่ได้กับบางรุ่น หากร้องเพลงเอง รวมเป็นอัลบั้มแล้ว และต้องการนำไปเปิดฟังในรถยนต์ หรือเครื่องเล่น MP3 อื่นใด ก็แนะนำให้เตรียม Flash Drive เป็นแบบ Fat32 ก็จะไม่พบปัญหาในการเข้ากันได้ของอุปกรณ์
8.1 โครงสร้างระบบแฟ้ม (File-system structure) ระบบแฟ้มแบ่งได้เป็น 6 ชั้น (Layer)
1. Application programs โปรแกรมที่นำไปใช้ เช่น เกม หรือ word เป็นต้น
2. Logical file system มีหน้าที่เชื่อม OS กับผู้ใช้ เพราะผู้ใช้เห็นแฟ้มเดียว แต่อาจเก็บข้อมูลจริงไว้แยกกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ OS
3. File-organization module ทำหน้าที่ เชื่อมระหว่าง Logical block และ Physical block ให้เป็นเรื่องเดียวกัน
4. Basic file system ทำหน้าที่เข้าไปอ่าน และเขียนในส่วนของ Physical block
5. I/O control ประกอบด้วย Device driver ควบคุมอุปกรณ์ให้ใช้งานได้
6. Devices อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลหรือแฟ้ม ถูกควบคุมโดย Device driver
8.2 โครงสร้างไดเรกทอรี่(Directory structure)
Directory หรือ Folder หมายถึง สารบัญ ทำหน้าที่เก็บรายชื่อแฟ้มไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ผู้ใช้เรียกใช้ได้ และ Directory ก็ถือเป็นแฟ้มประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วยหน่วยย่อยต่าง ๆ เมื่อแบ่งฮาร์ดดิสก์ออกเป็นหลาย partition แต่ละ partition ก็จะมีระบบ directory ของตนเอง

ปฏิบัติการเกี่ยวกับ Directory
1. Search for a file
2. Create a file
3. Delete a file
4. List a directory แสดงรายชื่อแฟ้มใน 1 directory
5. Rename a file
6. Traverse the file system แสดง หรือเก็บรายชื่อแฟ้มในทุก directory ได้
โครงสร้างไดเรกทรอรี่เชิงตรรก (Logical structure of the directory)
1. Single-level directory
2. Two-level directory
3. Tree-structured directory
4. Acylic-graph directory
5. General graph directory


8.3 วิธีการเข้าถึง (Access methods) แฟ้มถูกใช้เก็บข้อมูลสารสนเทศ เมื่อถูกใช้ย่อมมีการเข้าถึง เพื่ออ่านข้อมูลหลายวิธี
8.3.1 วิธีการเข้าถึง (Access Method)
1. Sequential access method
การอ่านข้อมูลต้องเป็นไปตามลำดับ ไม่สามารถข้ามไปยังจุดที่ต้องการได้
2. Direct access method or Relative access method
จากการที่แฟ้มมีการแบ่งเป็นกล่อง (Block) จึงทำให้สามารถวิ่งเข้าไปอ่านใน block ที่ต้องการได้โดยตรง
3. Other access method
เช่น index and relative files จะมีตัวบ่งชี้ในการเข้าถึงระเบียนที่ต้องการ
8.3.2 การเข้าถึงดิสก์ (Disk Scheduling)
1. การจัดเวลาแบบมาก่อนได้ก่อน (FCFS scheduling)
เมื่ออยู่ใน queue ก็จะทำเรียงตามลำดับใน queue ไม่มีการพิจารณาอื่น
2. การจัดเวลาแบบเวลาสั้นสุดได้ก่อน (SSTF scheduling)
นำ process ใน queue มาพิจารณา และเลือกจุดที่เข้าถึงได้เร็ว จากจุดล่าสุด
3. การจัดเวลาแบบ SCAN (SCAN scheduling)
อ่านจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งเป็นทิศทางเดียว เมื่อกลับมาอีกด้านก็ยังทำงานเช่นกัน
4. การจัดเวลาแบบ C-SCAN (Circular-SCAN scheduling)
อ่านจากด้านหนึ่ง แต่เป็นแบบทิศทางเดียวแท้จริง คือการย้อนกลับมาจะไม่บริการ
5. การจัดเวลาแบบ (Look scheduling)
คล้ายกับ scan แต่ scan หรือ c-scan จะไม่มีการนำไปใช้จริง เพราะหัวอ่าน จะพิจารณาไปยังจุดที่ต้องอ่านจริงของอีกด้านหนึ่ง ไม่ได้ มิได้ไปยังขอบของจานบันทึก
ตัวอย่าง Disk Scheduling :
Reference ! http://www.scism.sbu.ac.uk/ccsv/josephmb/CS-L2-OS/osn/week2.html
Current position: track 100
Requested tracks, in order received: 55, 58, 39, 18, 90, 160, 150, 38, 184
FIFO: move 45 tracks to track 55; move 3 tracks to track 58; etc.
SSTF: move 10 tracks to track 90; move 32 tracks to track 58; etc.
SCAN, C-SCAN (moving in direction of increasing track number): move 50 tracks to track 150; move 10 tracks to track 160; etc.
ParameterFD 360KBHD รุ่นหนึ่ง
จำนวน cylinder4010601
จำนวน track / cylinder212
จำนวน sector / track9281(ค่าเฉลี่ย)
จำนวน sector / disk72035742000
จำนวน byte / sector512512
ความจุดิสก์360 KB18.3 GB
เวลาค้นหา (ใน cylinder ที่ติดกัน)6 msec0.8 msec
เวลาค้นหา (โดยเฉลี่ย)77 msec6.9 msec
เวลาในการหมุน200 msec8.33 msec
เวลาที่มอเตอร์หมุน และหยุด250 msec20 sec
เวลาที่ใช้ในการถ่ายโอน 1 sector22 msec17 นาโนเซคัน
8.4 การอนุญาตให้เข้าถึงแฟ้ม (File sharing) 1. None
2. Knowledge
3. Execution
4. Reading
5. Appending
6. Updating
7. Changing protection
8. Deletion
8.5 การจัดเรียงหลายไฟล์มัลติมีเดียลงบนดิสก์หลายตัว (Placing Files on Multiple Disks)
(ไพศาล โมลิสกุลมงคล p.279 )
1. ไม่มีการแบ่งภาพยนตร์ อยู่ต่อกันในดิสก์เดียวกัน (No striping)
2. แบ่งภาพยนต์ไปหลายดิสก์ และใช้แพทเทิร์นเดียวกันสำหรับแต่ละไฟล์ (Same striping pattern for all files)
3. แบ่งภาพยนตร์วางแต่ละดิสก์ในลักษณะเหลื่อม เริ่มต้นแฟ้มต่างดิสก์ (Staggered striping)
4. ใช้การสุ่ม (Random striping)
8.6 RAID (Redundant Array of Independent Disks)

RAID (Redundant Array of Independent Disks) คือ RAID (Redundant Array of Independent Disks) คือ เทคโนโลยีสำหรับการสร้าง ลอจิกคอลไดร์ฟ ( Logical Drive) จากกลุ่มของ ฮาร์ดดิสต์ (Physical Drive) หลายตัวที่มาเชื่อมต่อกัน ทำให้ระบบมองเห็น อาเรย์ (Array) หรือ ลอจิกคอลไดร์ฟดังกล่าวเสมือนเป็นฮาร์ดดิสต์ตัวเดียว แต่มีขนาดและความจ ุเพิ่มขึ้น โดยซอฟแวร์ หรือการ์ดควบคุม RAID จะบริการจัดเรียงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของมาตรฐาน RAID แก่ ฮาร์ดดิสต์ทุกตัวที่ต่ออยู่กับอาเรย์นั้น
http://www.thaiall.com/os/raid.htm
(ไพศาล โมลิสกุลมงคล p.249 )

Stripping คือ การแบ่งดิสก์ออกเป็นส่วน ๆ ทำให้การทำงานใน RAID มีความเร็วในการโอนย้ายข้อมูลสูง แต่มีความเชื่อถือในการทำงานต่ำ มีการเพิ่มแนวคิดของ Parity เพื่อทำให้ข้อมูลน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น

Mirroring หรือ Shadowing คือ การทำสำเนาดิสก์แต่ละตัว มีค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องสำเนาลงดิสก์หลายตัว

8.7 ปฏิบัติการจัดการแฟ้ม
- ฝึกจัดการแฟ้มในระบบปฏิบัติการ DOS
- ฝึกจัดการแฟ้มในระบบปฏิบัติการ Windows และการกำหนดสิทธิ์
- ฝึกจัดการแฟ้มในระบบปฏิบัติการ Linux และการกำหนดสิทธิ์
- ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับ ระบบแฟ้ม จากอินเทอร์เน็ต แล้วทำรายงาน และส่งตัวแทนนำเสนอหน้าชั้น
ข้อจำกัด ขนาดแฟ้ม ในแต่ละ ระบบปฏิบัติการ
http://dev.mysql.com/doc/refman/5.0/en/full-table.html
Operating SystemFile-size Limit
Win32 w/ FAT/FAT322GB/4GB
Win32 w/ NTFS2TB (possibly larger)
Linux 2.2-Intel 32-bit2GB (LFS: 4GB)
Linux 2.4+ (using ext3 filesystem)4TB
Solaris 9/1016TB
MacOS X w/ HFS+2TB
NetWare w/NSS filesystem8TB
ระบบ MBR ไม่สนับสนุน HD มากกว่า 2 GB ต้องเป็น GPT
GUID Partition Table (GPT)
ปัจจุบัน ระบบปฏิบัติการใหม่ขึ้น ความจุฮาร์ดไดรฟ์สูงขึ้น หากต้องการใช้ HD มากกว่า 2 TB ต้องกำหนดให้เป็นแบบ GPT จะใช้ MBR แบบเดิมไม่ได้ และต้องใช้ UEFI Boot แทน Legacy Boot เข้าไปดูใน Disk management (DOS> diskmgmt) จะเห็นข้อมูลการแบ่งฮาร์ดดิสก์ หรือใช้ Disk partition (DOS> diskpart) เพื่อเปลี่ยน partition เป็น GPT ก็ได้ ถ้ายังไม่ได้เปลี่ยนไปแล้ว
การทำงานของ FB Live
เห็นมีหลายคนสงสัยว่า FB Live ทำไมถึงรับคนดูได้มากขนาดนั้น เลยเอาข้อมูลมาฝากครับแยกเป็นข้อ ๆ
1. เกือบทุก ISP ได้ทำ Caching Content ไว้ที่ตัวเองเพื่อลดต้นทุน International Bandwidth ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ทำกับ Youtube ส่วน ISP รายใดไม่มี Cache ก็จะต้องไปดึงข้อมูลจาก CDN ของ Facebook เอง ใกล้บ้านเราที่สุดจะเป็นสิงคโปร์
2. รูปแบบการถ่ายทอดสด ฝั่งขาขึ้น Facebook ยังคงใช้ RTMP จาก RTMP Server ทาง Facebook เลือกที่จะใช้ Streaming แบบ HTTP Based คือ DASH สำหรับคอมและ HLS สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ทำให้บนคอมไม่ต้องพึ่ง Flash player อีกต่อไป
3. ทั้ง DASH และ HLS มีรูปแบบคล้าย ๆ กันคือ มีไฟล์ meta data มาก่อน ของ DASH จะเป็น .mpd และ HLS จะเป็น .m3u8 ข้างในจะมีรายการของ Video และ Audio ขนาดเล็ก ๆ ให้ player เล่นไปเรื่อย ๆ เมื่อหมดก็กลับไปดึง meta data ถัดไป ทำซ้ำเรื่อย ๆ จนกว่าจะ streaming จะสิ้นสุด
4. Video ของ DASH จะเป็นแบบ MP4 และ HLS จะเป็น MPEG-2 (ตามข้อกำหนด) โดยเลือกใช้ H.264 Codec
5. Audio จะใช้ AAC Codec

อัพเดต (Update)

เนื่องจากมีผู้สนใจนอกวงการ IT งงเยอะมาก ขอโอกาสอธิบายคำศัพท์เพิ่มเติม เผื่อจะช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ แต่ออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่นิยามนะครับ เป็นการอธิบายเฉพาะกรณีนี้ และไม่ได้ถูกต้องตามหลักด้วย เน้นความเข้าใจเนื้อหาข้างต้นเป็นหลัก
ISP (Internet Service Provider)

ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต เช่น 3BB, TOT, True รวมไปถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 3G/4G เช่น AIS, TRUEMOVE, DTAC, CAT
Cache, Caching

เนื้อหาที่ถูกสำรองข้อมูลเอาไว้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำจ่ายเนื้อหา (เป็นเชิงเทคนิค) ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ทำให้ส่งข้อมูลได้ไวขึ้น, ISP ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
BW (Bandwidth)

ปริมาณข้อมูลที่ถูกโอนถ่ายในช่วงระยะเวลาที่กำหนด เช่น 1TB ต่อเดือน ถ้ามีการโอนถ่ายข้อมูลเยอะ ISP จะยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
Inter BW (International Bandwidth)

BW ที่เกิดขึ้นกับข้อมูลระหว่างประเทศ ช้ากว่า และมีราคาแพงกว่า BW ที่เกิดขึ้นในประเทศ (Domestic Bandwidth) ทาง ISP จึงมีความพยายามที่จะลด Inter BW ลง ด้วยวิธีการ Cache ข้อมูลที่มาจากต่างประเทศมาเก็บไว้ในประเทศ เพื่อให้ผู้ชมในประเทศได้รับข้อมูลที่รวดเร็ว ไม่กระตุก อีกทั้งยังช่วย ISP ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย
CDN (Content Distribution Network)

จุดนำจ่ายข้อมูลของผู้ให้บริการเว็บไซต์ ในกรณีนี้เราจะพูดถึง CDN ของ Facebook และ Youtube ซึ่งหน้าที่ของ CDN นั้นก็คือ ช่วยให้รับส่งข้อมูลได้ไวยิ่งขึ้น ในกรณีของประเทศไทย เราจะใช้ CDN ของ Facebook และ Youtube ที่อยู่ประเทศสิงคโปร์เป็นหลัก (การไปรับข้อมูลมาจากสิงคโปร์ จะรวดเร็วกว่าไปรับมาจากประเทศสหรัฐฯ เนื่องจากระยะทางสั้นกว่ามาก)
RTMP (Real-Time Messaging Protocol)

ชื่อเทคโนโลยีในการนำส่งข้อมูลภาพและเสียงในการถ่ายทอดสด
Streaming

ความหมายโดยทั่วไป หมายถึง การออกอากาศผ่านอินเทอร์เน็ต มักพบในการรับชม Live ต่าง ๆ ที่ออกอากาศสด ๆ ถึงแม้บางทีก็ไม่สด เป็นการนำเทปที่อัดไว้มาออกอากาศอีกทีก็ตาม
DASH (Dynamic Adaptive Streaming over HTTP)

ชื่อเทคโนโลยีการ Streaming ข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี HTTP อีกทอด พบมากในการ Streaming บนเว็บสำหรับคอมพิวเตอร์
HLS (HTTP Live Streaming)

ชื่อเทคโนโลยีการ Streaming ข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี HTTP อีกทอด พบมากในการ Streaming บนอุปกรณ์เคลื่อนที่
Flash player

เทคโนโลยีเก่าที่เว็บต่าง ๆ นิยมใช้ในการทำให้สามารถรับชมวิดีโอออนไลน์ได้ มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยสูงมาก ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจึงมีความพยายามเลิกใช้เทคโนโลยีนี้กัน
Meta data

ไฟล์ที่มีข้อมูลอธิบายภาพรวมของข้อมูลทั้งหมดอีกทอดหนึ่ง ในที่นี้หมายถึงไฟล์ที่จะระบุว่าให้ Video Player ไปรับข้อมูลภาพและเสียงจากที่ไหน และถอดรหัสด้วยวิธีอะไร
MPEG-4/MP4

ชนิดของไฟล์ภาพเคลื่อนไหว โดย MPEG มาจาก Moving Picture Experts Group เป็นชื่อกลุ่มนักพัฒนา ระบบมาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอและออดิโอ ของ ISO/IEC เริ่มพัฒนาร่วมกันครั้งแรก พ.ค. 2531 ที่ประเทศแคนาดา
MPEG-3/MP3

ชนิดของไฟล์เสียง
MPEG-2/MP2

ชนิดของไฟล์ภาพเคลื่อนไหว
Codec

วิธีการเข้า/ถอดรหัสข้อมูลที่ถูกบีบอัดเอาไว้นั้น มีหลายรูปแบบ (Format) แม้จะมี Extension เดียวกันก็ตาม ถือว่า Codec เป็นตัวกลางที่ทำให้ Windows หรือ Computer รู้จักกับ File แบบ Multimedia ซึ่งมีมากมายหลายแบบ บางซอฟต์แวร์มี Codec มาพร้อมโปรแกรม ทำให้สามารถ Preview , Editing , Render ได้ แต่ถ้าไม่มีก็ต้องใช้ Codec ที่ Windows รู้จัก เช่น H.264 หรือ AAC เป็นต้น
H.264

ชื่อ Codec ชนิดหนึ่งที่ใช้ในการบีบอัดภาพเคลื่อนไหว
AAC

ชื่อ Codec ชนิดหนึ่งที่ใช้ในการบีบอัดเสียง
อ่านจาก https://web.facebook.com/domecloud.io/posts/1328006510608353
ถาม - ตอบ ส่วนหนึ่งเรียบเรียงจากหนังสือของ รศ.ดร.กฤษดา ขันกสิกรรม
ถามลำดับชั้นของข้อมูล มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ตอบแบ่งได้ 8 แบบ
1. บิต (Bit)
2. ไบท์ (Byte)
3. เวิร์ด (Word) ต่างกันไปตามระบบปฏิบัติการ ถ้าเป็นระบบ 32 bit แล้ว 1 word จะใช้ 4 bytes ถ้าเป็นระบบ 64 bit แล้ว 1 word จะใช้ 8 bytes
4. ตัวอักษร (Character) ถ้ามาตรฐาน ASCII จะใช้ 1 byte ส่วนมาตรฐาน EBCIDC จะใช้ 1 byte ส่วนมาตรฐาน Unicode อาจใช้ 1 byte 2 bytes หรือ 4 bytes เพื่อใช้แทน character set
5. ฟิลด์ (Field)
6. เรคคอร์ด (Record)
7. ไฟล์ (File)
8. ระบบไฟล์ (File System)
ถามหน้าที่หลักของระบบไฟล์ คืออะไร
ตอบ1. จัดหาวิธีจัดเก็บไฟล์ อ้างอิงงานในไฟล์ แบ่งใช้ไฟล์ร่วมกัน รักษาความปลอดภัยกับไฟล์
2. จัดสรรพื้นที่ให้กับไฟล์ในหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง
3. รับประกันว่าข้อมูลที่จัดเก็บจะไม่เสียหาย
4. ระบุว่าจะเข้าใช้งานข้อมูลที่ถูกเก็บในไฟล์ได้อย่างไร
ถามDirectories ในระบบไฟล์คืออะไร
ตอบเป็นการจัดการไฟล์ให้จัดเก็บ ค้นหา และเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วพัฒนาให้มีการจัดเก็บแบบหลายชั้น (Hierarchical directory) แบ่งเป็น Parent directory และ Child directory
ถามPath name ในระบบไฟล์คืออะไร
ตอบนอกจาก Filename แล้ว การอ้างตำแหน่งไฟล์ก็ต้องมี Path name ก่อนถึงชื่อไฟล์ ประกอบด้วย Root Directory, Parent Directory, Child Directory ถ้ามีหลายชั้นก็จำมี Child Directory ที่ทำหน้าที่เป็น Parent Directory ลงไปอีก
ถามRelative pathname ในระบบไฟล์คืออะไร
ตอบRelative pathname คือ ชื่อพาธสั้น ๆ ที่อ้างอิงได้ผ่าน Working directory หรือ Current directory ซึ่งระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จะอ้างถึง Relative pathname ได้ เช่น Working directory คือ /CD/Disk1/work1 หากจะเข้า Relative Directory ก็พิมพ์ DOS>cd project1 ไม่ต้องพิมพ์ชื่อ Directory ยาว ก็จะเข้าไปทำงานใน /CD/Disk1/work1/project1 ได้ กรณีนี้ก็จะมี Relative pathname ว่า project1
ถามAbsolute pathname ในระบบไฟล์คืออะไร
ตอบAbsolute pathname คือ Full pathname ของ Working directory เช่น /CD/Disk1/work1 แต่เมื่อสั่ง DOS>cd project1 ก็จะมี Absolute pathname ของ Working directory ใหม่ เป็น /CD/Disk1/work1/project1
ถามลิงค์ (Link) ในระบบไฟล์คืออะไร มีกี่แบบ
ตอบแบ่งได้ 2 แบบ
ลิงค์ คือ การเชื่อมโยงแฟ้มไปไว้ใน directory ต่าง ๆ ที่ต่างจากการคัดลอก
ซอฟต์ลิงค์ (Soft link) คือ การเชื่อมการอ้างอิงโดยเก็บชื่อพาธ เป็น Indirect Reference ในวินโดวส์เรียกว่า short cut ใน MAC OS เรียกว่า Alias เป็นการเพิ่มการสร้าง Reference ไปยังแฟ้มปลายทาง ในทางเทคนิค ซอฟต์ลิงค์จะเก็บ path ของแฟ้มที่ทำการลิงค์
ฮาร์ดลิงค์ (Hard link) คือ การเชื่อมการอ้างอิงโดยเก็บหมายเลขบล็อกในหน่วยเก็บข้อมูล เป็น Direct Reference
ถามMetadata ในระบบไฟล์คืออะไร
ตอบข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์อื่น ๆ อาทิ เวลาที่สร้างแฟ้ม เวลาปรับปรุง หรือสิทธิ์เข้าแฟ้ม
ถามFile Descriptor ในระบบไฟล์คืออะไร
ตอบเป็นข้อมูลที่ใช้อธิบายไฟล์
1. File name
2. File size
3. File type
4. File location
5. Date and time of creation
6. Protection information
7. Record size
ถามรูปแบบของเรคคอร์ด มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ตอบมี 2 แบบ
1. Fixed-length records
2. Variable-length records
ถามโครงสร้างไดเรกทรอรี่มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ตอบมี 5 แบบ
1. Single level directory ไม่มีไดเรกทรอรี่ย่อย
2. Two level directory มีไดเรกทรอรี่ย่อยแยกตามผู้ใช้ (Master File Directory) และผู้ใช้มี directory (User File Directory) ได้อีก 1 ระดับ เพื่อจัดการไฟล์
3. Tree structured directory เป็นไดเรกทรอรี่แบบต้นไม้ ลึกกี่ชั้นก็ได้
4. Acyclick graph directory เป็นไดเรกทรอรี่แบบไม่มีวง ไม่วนกลับที่จุดเดิม แต่อาจเกิดลงได้ มีจำนวนชั้นได้เหมือนแบบต้นไม้ จุดเด่นคือไฟล์เดียว เก็บได้ใน 2 ไดเรกทรอรี่
5. General graph directory เป็นไดเรกทรอรี่แบบกราฟ เป็นไดเรอทรอรี่แบบไม่มีวง มีความยืดหยุ่นสูง แต่เสี่ยงกับการลบไดเรกทรอรี่ แล้วเกิดการลบอย่างต่อเนื่องได้ ต้องอาศัย Garbage collection ในการช่วยจัดการ
ถามการควบคุมการเข้าถึงไฟล์ แบ่งได้กี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบแบ่งได้ 4 แบบ
1. Access Control Matrix เป็นตารางสำหรับควบคุมการเข้าถึงแฟ้ม เชื่อมผู้ใช้กับรายการแฟ้ม สิ่งที่ควบคุมอาจเป็น 0 กับ 1 หรือ RWX ก็ได้
2. Access Control Lists เป็นตารางที่ระบุว่าแฟ้มงานนั้น ใครเข้าถึงได้บ้าง มีคำสำคัญคือรายการงาน ส่วนข้อมูลคือรายงานชื่อผู้ใช้ว่าใครทำอะไรกับแฟ้มงานใดได้บ้าง ผลเหมือน Access Control Matrix แต่ใช้พื้นที่น้อยกว่า
3. Capability Lists เป็นตารางที่ระบุว่าใคร เข้าถึงแฟ้มงานใดได้บ้าง เป็นตารางคล้าย Access Control Lists แต่มีคำสำคัญคือชื่อผู้ใช้ ส่วนข้อมูลคือแฟ้มงานที่จะควบคุม
4. Lockwords เป็นรหัสป้องกันการเข้าถึงไฟล์ แฟ้มที่ถูกล็อก จะจัดเก็บใน Directory เฉพาะ ต่างกับ Password เป็นรหัสป้องกันการเข้าใช้ระบบ
ถามระบบไฟล์ (File System) ของระบบปฏิบัติการ ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง
ตอบ AFS (Andrew File System) : a distributed file system, often used in WAN. It was developed by Carnegie Mellon University as part of the Andrew Project.
AUTOFS : for automatically mounting file systems/data media to the system, therefore not a real file system
DEVPTS : for pseudo-terminals (complies with UNIX'98 specification) (TTY = เครื่องโทรพิมพ์ / teletype / teletypewriter / touch teletype และ PTY (pseudo terminal device) is a terminal device which is emulated by an other program (example: xterm, screen, or ssh are such programs). A pts is the slave part of a pty.)
ext2 : second extended filesystem is a file system for the Linux kernel. It was initially designed by R?my Card as a replacement for the extended file system (ext).
ext3 : third extended filesystem, is a journaled file system that is commonly used by the Linux kernel.
HPFS (High Performance File System) : is a file system created specifically for the OS/2 operating system to improve upon the limitations of the FAT file system.
ISO 9960 : is a file system standard published by the International Organization for Standardization (ISO) for optical disc media.
JFS : journaling file system originally developed by IBM for AIX (IBM UNIX); since February 2000 an Open-Source-licensed beta version is available as a patch for Linux
MINIX (Mini Unix) : file system from Minix, often used for Linux floppy disks
MSDOS : file system for MS-DOS partitions and floppy disks (short file names)
NFS (Network File System) : is a distributed file system protocol originally developed by Sun Microsystems in 1984, allowing a user on a client computer to access files over a computer network much like local storage is accessed.
NTFS (New Technology File System) : is a proprietary file system developed by Microsoft. Starting with Windows NT 3.1. it is the default file system of Windows NT family.
NWFS : is a file system based on a heavily modified version of FAT. It was used in the Novell NetWare operating system.
PROC / PROCFS : process management under /proc
ReiserFS : Reiser file system, named after its creator Hans Reiser. Introduced in version 2.4.1 of the Linux kernel.
SMBFS : Samba (network file system under Windows)
SWAP : swap partitions or files
UDF : universal disk format (CD-RWs and DVDs)
USBDEVFS : for connecting and managing USB devices
VFAT : DOS/Windows 9x file system (long file names)
XFS : journaling file system in UNIX; originally developed by SGI for IRIX, its custom-made UNIX; meanwhile a GPL beta version has become available as a patch for Linux
ถามการเข้าถึงดิสก์ (Disk Scheduling) มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ตอบมี 5 แบบ
1. การจัดเวลาแบบมาก่อนได้ก่อน (FCFS scheduling)
2. การจัดเวลาแบบเวลาสั้นสุดได้ก่อน (SSTF scheduling)
3. การจัดเวลาแบบ SCAN (SCAN scheduling)
4. การจัดเวลาแบบ C-SCAN (Circular-SCAN scheduling)
5. การจัดเวลาแบบ (Look scheduling)
แนะนำเว็บไซต์ (Website guide) http://www.sirikitdam.egat.com/WEB_MIS/103_116/07.html
http://www.cs.wisc.edu/~bart/537/lecturenotes/s28.html
http://www.cs.cf.ac.uk/User/O.F.Rana/os/lectureos11/node24.html
เอกสารอ้างอิง (Reference) [1] Abraham silverschatz, Peter baer galvin, "Operating system concept", John wiley & Sons, New York, 2003.
[2] Milan Milenkovic, "Operating systems: concepts and design", McGraw-Hill inc., New York, 1992.
[3] William stallings, "Operating system", Prentice hall, New York, 1999.
[4] ไพศาล โมลิสกุลมงคล และคณะ, "ระบบปฏิบัติการ", สำนักพิมพ์ดวงกมลสมัย, กรุงเทพฯ, 2545.
[5] พิเชษฐ์ ศิริรัตนไพศาลกุล, "ระบบปฏิบัติการ (Operating system)", บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด., กรุงเทพฯ, 2546.
[6] ดร.ยรรยง เต็งอำนวย, "ระบบปฏิบัติการ (Operating system)", บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด., กรุงเทพฯ, 2541.
[7] ประชา พฤกษ์ประเสริฐ, "ระบบปฏิบัติการ", บริษัท ซัคเซส มีเดีย จำกัด., กรุงเทพฯ, 2549.
[8] วศิน เพิ่มทรัพย์, "คู่มือ MS-DOS", พี.เอ็น.การพิมพ์, กรุงเทพฯ, 2545.
[9] ชนินทร์ เชาวมิตร, "คู่มือยูนิกซ์เดสก์ทอป", บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด., กรุงเทพฯ, 2538.
[10] รศ.ดร.กฤษดา ขันกสิกรรม, "ระบบปฏิบัติการ (Operating Systems)", อาง้วนการพิมพ์, นครสวรรค์, 2555.
[11] ผศ.ดร.สุชาติ คุ้มมะณี, "พื้นฐานระบบปฏิบัติการยูนิกซ์", [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก : http://goo.gl/14xVey (วันที่ค้นข้อมูล 15 ตุลาคม 2558)
Thaiall.com