ไลน์กลุ่มในที่ทำงาน
 
#464 ไลน์กลุ่มในที่ทำงาน

    เพื่อนผมบอกว่าไม่มีใครคิดถูกไปหมด หรือคิดผิดไปทุกครั้ง หลังจากไปอ่านโพสต์ในเว็บไซต์พันธุ์ทิพย์ดอทคอม เรื่อง การถูกบังคับให้เข้ากลุ่มไลน์ (Line group) ของที่ทำงาน แล้วเห็นบางคนเข้าไปตอบทำให้เข้าใจว่าพวกเขามีความคิดที่แตกต่างเรื่องการสื่อสารในองค์กร แล้วมองไปว่าอาจมีการละเมิดความเป็นส่วนตัว สอดรับกับความคิดที่ว่า เมื่อตนเองคิดถูกแล้วคนที่คิดต่างย่อมคิดผิด ซึ่งบางทีทุกคนก็มีเหตุผลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน เช่น การใช้ไลน์เพื่องาน กับการใช้ไลน์คุยเล่นกับเพื่อน ถ้านำวัตถุประสงค์มาเชื่อมโยงผสานกันไม่ได้ ยึดแต่วัตถุประสงค์ของตนก็คงหาจุดลงตัวไม่ได้

    การใช้ไลน์กลุ่มเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อการสื่อสาร แต่บางท่านอาจใช้เพื่อความบันเทิง หรือติดต่อกับคนที่บ้านเป็นสำคัญ ซึ่งหัวหน้างานบางท่านที่ใช้เทคโนโลยีและเห็นว่าเป็นประโยชน์น่าจะนำมาประยุกต์ใช้สื่อสารกันเรื่องงานได้ เพราะหัวหน้าบางท่านอาจไม่สะดวกใช้เฟสบุ๊คบนคอมพิวเตอร์ แต่สะดวกใช้ไลน์ที่ทำงานบนสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถแสดงวิสัยทัศน์ นโยบาย มอบหมายงาน ทวงถาม ติดตาม รายงานผล หรือบันทึกการสื่อสารได้ ความขัดแย้งเกิดขึ้นในกรณีที่ลูกน้องไม่ต้องการสื่อสารกับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงาน แต่ถูกทวงให้เข้าไปสื่อสารกันในกลุ่มเฉพาะของหน่วยงาน จึงมีประเด็นว่าจะทำอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการสื่อสาร ถ้าลูกน้องปฎิเสธและหัวหน้ารับได้ก็ถือว่าเป็นการยอมความกันไป

    ในบางองค์กรมีความเชื่อว่าลูกน้องไม่สามารถปฏิเสธที่จะสื่อสารกับหัวหน้า เมื่อได้รับมอบหมายให้ต้องเปิดการสื่อสาร จึงหาวิธีปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงที่จะสื่อสารเรื่องงานกับหัวหน้าผ่านอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน ถ้าเป็นส่วนราชการก็มีการแนะนำให้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังผู้ใหญ่ที่ใหญ่กว่าก็จะทำให้หัวหน้ายอมถอย แล้วหันไปใช้วิธีเดิม เช่น อีเมล หรือโทรศัพท์ในองค์กร ซึ่งบางองค์กรมีกติกาว่าจะไม่สื่อสารกันหลังเลิกงาน เวลางานคือเวลาราชการเท่านั้น ทำให้หัวหน้างานไม่สามารถติดต่อกับลูกน้องหลังเลิกงานได้เลย เพราะลูกน้องบางท่านเกรงว่าเวลาส่วนตัวจะหายไป และเชื่อว่าหัวหน้างานจะติดต่อหลังเลิกงานอยู่เป็นประจำ เรื่องนี้จะผิดถูกประการใดต้องขึ้นกับแต่ละคู่กรณีว่าจะมีผลการพิจารณาเป็นอย่างไร หรือไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่

    ในบางองค์กรมีความเชื่อว่าลูกน้องไม่สามารถปฏิเสธที่จะสื่อสารกับหัวหน้า เมื่อได้รับมอบหมายให้ต้องเปิดการสื่อสาร จึงหาวิธีปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงที่จะสื่อสารเรื่องงานกับหัวหน้าผ่านอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน ถ้าเป็นส่วนราชการก็มีการแนะนำให้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังผู้ใหญ่ที่ใหญ่กว่าก็จะทำให้หัวหน้ายอมถอย แล้วหันไปใช้วิธีเดิม เช่น อีเมล หรือโทรศัพท์ในองค์กร ซึ่งบางองค์กรมีกติกาว่าจะไม่สื่อสารกันหลังเลิกงาน เวลางานคือเวลาราชการเท่านั้น ทำให้หัวหน้างานไม่สามารถติดต่อกับลูกน้องหลังเลิกงานได้เลย เพราะลูกน้องบางท่านเกรงว่าเวลาส่วนตัวจะหายไป และเชื่อว่าหัวหน้างานจะติดต่อหลังเลิกงานอยู่เป็นประจำ เรื่องนี้จะผิดถูกประการใดต้องขึ้นกับแต่ละคู่กรณีว่าจะมีผลการพิจารณาเป็นอย่างไร หรือไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่

http://pantip.com/topic/31845753
http://pantip.com/topic/31845753
บทความเมื่อเร็ว ๆ นี้
465. ไอโฟนเครื่องหิ้ว
464. ไลน์กลุ่มในที่ทำงาน
463. คนจีนซื้อออนไลน์เกินครึ่ง
462. ตามกฎว่ามีอุปสงค์จึงจะมีอุปทาน
ค้นในบทความ
กลับหน้าแรก
Thaiall.com