จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 3 รูมเมทเลดี้

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

สวัสดีค่ะ” หนูทักเพื่อนใหม่ด้วยคำนี้เสมอ
ตอนนี้ รูมเมทของหนูมากันครบแล้ว
คนแรก มาจากเชียงราย น่ารักมาก
เพื่อนอีกคน มาจากพะเยานี่เอง
เราเป็นสาวเหนือเหมือนกันหมดเลย
พวกเรามีญาติอยู่แถวกรุงเทพฯ เหมือนกัน
คนหนึ่งมีคุณแม่ทำงานในห้างใกล้ ๆ นี้เอง
อีกคนมีป้ากับลุงขายอาหารประเภทยำ
ส่วนหนูก็มี อาสาว กับอาหนุ่ม ทำงานในกรุงเทพฯ

ผู้ดูแลหอพักก็เป็นคนลำปาง เห็นว่าบ้านอ.อยู่หน้าค่ายฯ
แต่ไม่ได้กลับหลายปีละ
กลายเป็นคนกรุงเทพฯ ไปแล้ว
พ่อเก๋ แม่ขวัญคงจำได้ เพราะ มาจองห้องพักกับท่านนี่ค่ะ

ผู้ดูแลท่านจัดห้อง คงจะให้คนจังหวัดใกล้กันอยู่ด้วยกัน
เพราะ คนจังหวัดใกล้กันจะเข้ากันง่ายมั้งค่ะ หนูว่าก็ดีนะ
ไม่งั้นป่วยเป็นโฮมซิกแน่เลย

คืนแรก หนูตื่นเต้นมาก นอนไม่ค่อยหลับเลยหละ
ที่ห้องมีระเบียงไว้ตากผ้า
หนูอยู่ชั้น 5 ต้องใช้ลิฟขึ้นลงทุกครั้งเลย
เราคุ้นเคยกันเร็วค่ะ เพราะเรียนคณะเดียวกัน

ห้องนี้ทั้งห้องเรียนคณะเดียวกันหมดเลย
จากระเบียง มองเห็นอะไรในทุ่ง ไกลออกไป
มองแล้วสบายตาสบายใจมากค่ะ

สักพักก็มานั่งคุยกันบนเตียงหนูรู้สึกคิดถึงน้องๆมากเลยค่ะ
อีกสักพักก็นอนคุยกัน แล้วหนูผลอยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้

หอนี้ จัดเตียงเรียงไปตามแนวยาวของห้อง
มีช่องว่างระหว่างเตียง และทางเดินปลายเตียง
หนูเลือกริมหน้าต่างค่ะ
เพดานและผนังสีขาวนวล มีพัดลมหมุนบนเพดาน
พื้นเป็นกระเบื้องสีขาว เย็นดีตอนหน้าร้อน
ถ้าหน้าหนาวคงต้องหารองเท้าแตะมาใส่ละ เย็นเท้าแน่เลย
ที่บ้านเราเป็นพื้นไม้ปาเก้ หนูรู้สึกแปลก ๆ น่ะค่ะ

ตู้เสื้อผ้า เป็นตู้ไม้อัดลายไม้สัก มีให้คนละตู้
ในตู้มีลิ้นชักใส่ของได้ 2 ลิ้นชัก
ข้างตู้ติดกันนั้นเป็นโต๊ะอ่านหนังสือแบบบิ้วอิน
ผนังที่ติดกับโต๊ะ ทำเป็นช่องชั้นวางของ
เป็นช่องขนาดพอวางหนังสือได้แบ่งไว้ 6 ช่อง

หอพักของหนู
หอพักของหนู

โต๊ะทันสมัยนะค่ะ เป็นโต๊ะไม้อัดวางคอมพิวเตอร์ได้
แบบที่แป้นพิมพ์เลื่อนเข้าออก เหมือนในห้องคอมที่โรงเรียน
และมีช่องใส่เครื่องคอมด้านล่าง มาพร้อมลิ้นชักมีกุญแจ

เพื่อน ๆ พกพัดลมมาด้วย
ที่นี่เค้าให้เอาเตารีดกับพัดลมเข้าได้
แต่ห้ามเอาหม้อหุงข้าว กับกระทะไฟฟ้าเข้าหอ
จำได้ว่าวันเข้าหอ หลายคนต้องให้พ่อแม่เอากลับไป
เพราะผู้ดูแลหอยืนตรวจด้านล่าง
พ่อเก๋ก็ยังขึ้นหอไม่ได้ เค้าว่าเป็นหอหญิง ห้ามผู้ชายขึ้น

ถ้าขาดเหลืออะไร
ก็คงไปหาซื้อของแถวมหาวิทยาลัยนี่แหละค่ะ
แถวนี้มีตลาดด้วย ของกินหน้ามอก็เยอะ
ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ แล้วหนูจะตั้งใจะเรียนให้จบค่ะ

 

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

 

ตู้ กับโต๊ะ ของหนู
ตู้ กับโต๊ะ ของหนู

ลิงในห้องแคบ ลิงต่อโต๊ะ หรือ วัฒนธรรมของกลุ่มลิง

ลิงในห้องแคบ ลิงต่อโต๊ะ หรือ วัฒนธรรมของกลุ่มลิง
ลิงในห้องแคบ ลิงต่อโต๊ะ หรือ วัฒนธรรมของกลุ่มลิง

ในการทดลองครั้งหนึ่ง .. ผู้ทดลองเลิง 5 ตัวไว้ในห้องสี่เหลี่ยมที่มีกล้วยหอม 1 ใบ แขวนไว้ที่เพดานกลางห้อง วิธีเดียวที่จะไปถึงกล้วยหอม อันยั่วยวนใจนั้นได้ก็โดยการปีนบันไดที่ตั้งไว้กลางห้อง แต่เมื่อใดก็ตามที่ลิงตัวใดตัวหนึ่งเหยียบบันไดขั้นแรกก็จะมีท่อฉีดน้ำเย็นฉีดไปทั่วห้อง จนลิงทุกตัวหนาวสั่นแทบขาดใจ ซึ่งไม่มีลิงตัวใดอยากปีนบันไดอีก หรือแม้แต่จะคิดก็ยังไม่กล้า

หลังจากนั้น ผู้ทดลองก็ปิดท่อฉีดน้ำและเอาลิงตัวที่ 6 เข้าไปในห้องแทนลิงตัวหนึ่งที่หนาวสั่นจนทนไม่ไหว  วินาทีแรกที่มันเห็นกล้วยหอมมันก็รีบถลาเข้าหาบันได แต่ก็ถูกสกัดกั้นอย่างโหดร้ายบ้าเลือดจากลิงรุ่นพี่ทั้ง 4 ตัว จนลิงน้องใหม่ไม่กล้าเข้าไปใกล้บันไดอีกด้วยความงุนงงและประหลาดในยิ่งนัก .. จากนั้นผู้ทดลองก็ได้ทำเช่นเดิมคือเอาลิงตัวที่ 7 เข้าไปแทนลิงเก่าอีกตัวหนึ่ง และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นอีก เมื่อลิงน้องใหม่ล่าสุดถลาเข้าหาบันได ก็จะถูกรุมกัดอย่างเอาเป็นเอาตายจากรุ่นพี่ทุกตัวรวมทั้งลิงตัวที่ 6 ที่เพิ่งเข้าไปอยู่ใหม่ด้วย  แถมยังเกรี้ยวกราดมากกว่าตัวอื่น  ทั้งที่ตัวมันเองยังไม่รู้เหตุผล ว่าทำไมการปีนบันไดเป็นสิ่งต้องห้าม  และทำไมลิงชุดเก่าจึงต้องกลัวการขึ้นบันไดในขณะนั้น แต่มันก็ยินดีผสมโรงไปกับเขาด้วย
เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อไปอีกนานแสนนาน  จนแม้ลิงเก่าชุดแรกจะครบเกษียณอายุ และถูกทดแทนด้วยลิงชุดใหม่ทั้งหมดแล้ว แต่ลิงรุ่นหลังก็พร้อมใจกันปกป้องบันไดกายสิทธิ์กันอย่างเหนียวแน่น

นี่ คือ ที่มาของนโยบายหรือวัฒนธรรม (Corporate  Culture) ที่พนักงานยึดถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดและพร้อมที่จะปกป้องอย่างรุนแรง แม้จะไม่สามารถอธิบายเหตุผลหรือที่มาที่ไปของการประพฤติ (Norms) และการปฏิบัติ (Standard) ก็ตาม วัฒนธรรมเกิดจากคนและหน่วยงานภายในกิจการตั้งข้อสมมติ (Assumption) ทัศนคติ (Attitude) ค่านิยม  (Value)  และความคาดหวัง  (Expectation)  ที่แตกต่างกัน เมือคนเข้าไปทำงานในหน่วยงานใด ก็จะได้รับการปลูกฝังให้ยึดถือแนวปฏิบัติของหน่อยงาน เช่น นิสัย (Habit)  หลักปฏิบัติ  (Practices)  และวิธีการทำงาน (Style)  ที่เป็นลักษณะเฉพาะของหน่วยงาน เช่น  ฝ่ายบัญชีการเงิน  ฝ่ายขาย  ฝ่ายโรงงาน  เป็นต้น  ในที่สุดแล้วก็จะผสมผสานกันเป็นวัฒนธรรม  ที่มีรากฐานมาจากการปฏิบัติ ในอดีต  (Past Practices)  ประเพณี  (Tradition)  กฏระเบียบทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร  (Rule)  และจารีตประเพณี  (Ritual) ซึ่งรากฐานบางเรื่องนั้นก็ยาวนานจนคนรุ่นหลังไม่สามารถ อธิบายที่มาได้

จึงขอฝากให้ทุกคน คิดถึงวัฒนธรรมที่สั่งสมกันมายาวนานนั้น บางสิ่งบางอย่างยังใช้ได้หรือไม่  อันไหนบ้างที่กีดขวางความมีประสิทธิภาพของกิจการและสมควรได้รับการแก้ไขปรับปรุงอย่างเร่งด่วนในยุคคิดใหม่ทำใหม่  มิฉะนั้นเราก็ไม่ต่างอะรกับ  “ลิงในห้องแคบ

นำเสนอบทความดีๆ โดย คุณดารณี มธุรพจน์วจนะ

http://www.mena2003.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538695212