น้ำส้มปลอมของคนไทย (อาหารปลอม #1)

น้ำส้มปลอม
น้ำส้มปลอม

อ่านเดลินิวส์ 24 พ.ค.59 เตือน .. พี่ไทยก็ไม่น้อยหน้า
หนุ่มพ่อค้ารถเข็นหลอกขาย “น้ำส้มปลอม” ย่านเกษตร
น้ำส้มคั้นปลอม ขายขวดละ 20 บาท
http://www.dailynews.co.th/regional/399824

ข่าวโพสต์ทูเด 23 พ.ค.59 จับหนุ่มสาวเวียดนาม
นำหัวเชื้อน้ำส้มผสมน้ำประปากรอกใส่ขวดขาย
แต่งรสหวานจากสารขัณฑสกรหรือสารใช้แทนน้ำตาลและสีส้ม
บรรทุกใส่รถเข็นออกเร่ขายไปทั่วเมือง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
http://www.posttoday.com/social/hot/433424

ข่าวสด 27 พ.ค.59 ที่สระบุรี
ผสมสี และสารกันบูดเกินมาตรฐาน
ซึ่งสี กับสารกันบูดพอจะรับประทานได้ แต่มากไปก็ไม่ดี
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1464359933

ไทยรัฐนิวส์โชว์ คลิ๊ปคนเวียดนามทำน้ำส้มปลอม

มารู้จัก ขัณฑสกรหรือแซกคาริน (saccharin)
เป็นสารสังเคราะห์ที่ให้รสหวานที่มีความหวาน
สูงกว่าน้ำตาลถึง 300-700 เท่า รสหวานจัด บางคนอาจรู้สึกได้รสขมด้วย
สารนี้ไม่ให้พลังงาน จึงนิยมนำไปใช้ในอาหารควบคุมน้ำหนักพลังงานต่ำ
รวมทั้งในน้ำอัดลมและน้ำหวานต่าง ๆ
แต่สำหรับในประเทศไทยนั้นไม่อนุญาตให้ใช้ขัณฑสกรในเครื่องดื่ม
สำหรับด้านความปลอดภัยของการบริโภคขัณฑสกรก็เป็นปัญหาหนึ่ง
ซึ่งนักวิชาการได้ถกเถียงกัน เช่นเดียวกันกับไซคลาเมต
ได้มีการทดลองพบว่า ขัณฑสกรสามารถทำให้เกิดโรคมะเร็ง
ในกระเพาะปัสสาวะของสัตว์ทดลอง
บางประเทศจึงได้ประกาศห้ามใช้สารนี้ผสมอาหาร
https://www.doctor.or.th/article/detail/4339

 

รายการเขย่าข่าวเข้ม

คดีแป้งฝุ่น เหมือน Minority report เกี่ยวกับมะเร็ง

รังไข่
รังไข่

มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำให้ร่างกายเราเปลี่ยนแปลง
มีโทษมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป
ดังคำว่าใช้มากไปเป็นโทษ ใช้แต่พอดีเป็นคุณ
กรณีแป้งฝุ่นทาจุดซ่อนเร้น จนส่งผลถึงการเป็นมะเร็งรังไข่
นี่ก็คงทำให้สาว ๆ อึ้งไปเหมือนกันว่า
แป้งฝุ่นอันตรายขนาดนี้เลยเหรอ
ผู้ประกอบการเองทำอะไรออกมาจำหน่ายให้เขียนคำเตือนไปเยอะ ๆ
เหมือนบุหรี่ สุรา เขียนไปเลยว่าสูบแล้วดื่มแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น
จะได้ไม่โดนฟ้องเสียเงินสองพันล้านแบบกรณีของคุณ Jackie Fox
เพราะสารที่ชื่อว่าแร่ทัลก์ (Talc) ทำเหตุ
http://www.bloomberg.com/news/articles/2016-02-23/j-j-ordered-to-pay-72-million-over-talc-tied-to-ovarian-cancer
http://health.kapook.com/view142426.html

ภาพจาก
http://drchawtoo.com/2014/06/19/%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-vs-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89/

Minority report พูดถึงรายงานเล็ก ๆ แต่สำคัญ

ขนมเหรียญพุทราจีน แสนอร่อย ถูกห้ามจำหน่าย

ขนมเหรียญพุทราจีน
ขนมเหรียญพุทราจีน

คร่ำครวญ ..
สมัยเด็ก เรียนอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง #acl
ตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 1 ที่แม่ให้ตังซื้อขนม #deหsert
แต่นั้นมาก็เป็นขาประจำล้อส้มเหมือนเพื่อน ๆ
ตอนเที่ยงทานข้าวเสร็จก็จะไปซื้อขนม
และหนึ่งในของโปรดก็คือขนมเหรียญ
เพราะซื้อแล้วกินได้นาน มีหลาย ๆ แผ่น
รสชาดดี หวานลิ้น เปรี้ยวกำลังดี

http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000014582
หลังจากนั้นเกือบ 40 ปี ก็มีข่าวว่า
ขนมเซียงจา ของบริษัทชิงโจวอี้ว์ป๋อสือผิ่น
บริษัทเป่ยจิงจางหยังซางเม่า และบริษัทเป่ยจิงรุ่ยอี๋ชุนสือผิ่น
เป็นขนมที่ทำจากพุทราจีนใช้วัตถุเพิ่มสีแดง
มีสารก่อมะเร็ง #cancer และถูกสั่งห้ามจำหน่าย
บอกตรง ๆ เลยครับ ถ้ามีโอกาสได้ซื้ออีก
ผมก็คงจะซื้อทานสักชิ้นหนึ่งเป็นแน่ .. ชอบอ่ะ
โบราณว่า “รู้ทั้งรู้ .. แต่หักใจไม่ลง”

การใช้จิตของ Steve Jobs

steve jobs by walter isaacson
steve jobs by walter isaacson

จากหนังสือภาษาไทย  Steve Jobs by Walter Isaacson
ทั้งหมด 668 หน้าใน 41 บท สำหรับผมจำแนกได้ 3 ส่วนหลัก คือ ตัวเขา ครอบครัว และงาน ซึ่งเชื่อได้ว่าผู้อ่านส่วนใหญ่สนใจในความเป็นนักนวัตกรรมของเขา อันเป็นผลงานที่โดดเด่นมากมาย แต่หนังสือเล่มนี้สื่อเรื่องตัวเขาได้อย่างละเอียดเหลือเชื่อ โดยเฉพาะเรื่องการต่อสู้กับมะเร็ง ในฐานะผู้ป่วย

หน้า 555 ตอนมะเร็งกลับมา
จากที่แคธรีน สมิธ เล่า ผมว่าจ็อบเป็นคนที่เข้าใจธรรมมะ เพราะเขาศึกษา ศาสนาพุทธนิกายเซน ค่อนข้างลึก ซึ่งการลดความเจ็บปวดด้วยจิตที่เขาทำ น่าสนใจ  เขาก็ใช้จิตคุมจิต แก้ปัญหาแบบไม่ใช้ยาในบางเวลา

แคธรีน สมิธ เล่าว่า
สตีฟบอกว่า เวลาที่เขารู้สึกแย่มาก ๆ
เขาจะทำสมาธิกำหนดจิตไปที่ความเจ็บปวด
เข้าไปให้ถึงมัน ซึ่งดูเหมือนะทำให้เขารู้สึกค่อยยังชั่วขึ้น

Kathryn Smith เล่าว่า
He told me that when he feels really bad,
he just concentrates on the pain, goes into the pain,
and that seems to dissipate it

ชีวิตของ steve jobs น่าสนใจ
เขา คือ นักนวัตกรรม ที่มีชีวิตหลายมุมให้เรียนรู้
ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งถึง 8 ปี และเสียชีวิตด้วยวัยเพียง 56 ปีเท่านั้น

มีมนุษย์ที่ไม่สังวรต่อมะเร็ง

หมูปิ้ง
หมูปิ้ง

คำถาม : กินหมูปิ้ง เป็นมะเร็งไหม
คำตอบ : เหมือนคนซื้อหวย กับคนไม่ซื้อหวย

ถ้ามีคนถามผมว่า ผมกินหมูปิ้งไหม
ผมขอตอบว่า ผมก็เป็นพวกไม่เจียมสังขาร เหมือนกัน

แม้มีความรู้ว่าหมูไหม้มีสารก่อมะเร็ง แต่ก็เห็นผู้คนหลั่งไหลกันไปทาน ซื้อหาอยู่เป็นนิจ เรียกว่ามีความรู้ มีข้อมูล แต่ไม่ได้ใช้ความรู้กันเท่าที่ควร .. เรียกได้ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่สมเหตุสมผล

ที่มา : สารโพล่าหรือสารก่อมะเร็งนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อเรานำเนื้อไปปิ้งหรือย่างแล้ว ไขมันจากเนื้อนั้นหยดลงไปถูกถ่านไฟที่ร้อนจัด เมื่อไขมันโดนถ่านไฟที่มีอุณหภูมิสูงก็จะเกิดเป็นควันซึ่งมีสารก่อมะเร็ง และควันที่เกิดขึ้นนั้นก็จะพาสารก่อมะเร็งลอยกลับมาที่เนื้อชิ้นนั้นอีก และหากเรากินเข้าไปสะสมในร่างกายเรื่อยๆ ก็อาจกลายเป็นมะเร็งได้ในที่สุด

เรื่องของสาร : สารประกอบกลุ่ม พีเอเอ็ช (PAH) พบได้ในเนื้อปิ้งย่าง ผัก น้ำมัน ธัญพืช ผลไม้ ปลารมควัน .. สารประกอบนี้เรียกว่า เบนโซ(เอ)ไพรีน (Benzo(a)pyrene) จัดอยู่ในกลุ่ม โพลีซัยคลิก อโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic aromatic hydrocarbon, PAH) และเป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งที่แรงที่สุดในกลุ่มนี้   จากการศึกษาต่าง ๆ พบว่าสารประกอบนี้สามารถจับกับเซลของอวัยวะต่าง ๆ จากมากไปหาน้อย คือ แขนงหลอดลม (bronchus) > หลอดอาหาร(esophagus) >  ลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum) > ลำไส้ใหญ่ส่วนขวาง (transverse colon)
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=21