จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 11 บริจาคโลหิต ครั้งนี้มีใจหาย

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

วันนี้ให้เลือดค่ะ” หนูพูดกับตัวเอง
ตอนที่กำลังนั่งให้เลือดบนรถรับบริจาคโลหิต
ที่มหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก

บริจาคโลหิต ครั้งแรก ในแคมปัส
บริจาคโลหิต ครั้งแรก ในแคมปัส

วันนี้ 23 มกราคม 2561
หนูมาบริจาคเลือดกับสภากาชาติไทย
เค้านำรถบัสมาให้บริการถึงที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเลยค่ะ
เค้าจะมาเทอมละครั้ง
แต่เทอมที่แล้วหนูไม่ได้มาบริจาค
เพราะติดเรียน และคิดว่าถ้ากลับบ้าน
จะไปบริจาคที่โรงพยาบาลที่ลำปาง
แต่วันที่ไปเขาปิดทำการ 1 วันพอดี (1 ม.ค.61)
เลยไม่ได้บริจาคอีกแล้ว

รถรับบริจาคโลหิต
รถรับบริจาคโลหิต

ก่อนหน้านี้
หนูก็ไปโรงพยาบาลลำปาง 2 – 3 ครั้งได้
แต่ความดันเลือดหนูต่ำเลยไม่เคยบริจาคได้เลยค่ะ
ครั้งนี้หนูเลยกินเยอะ ๆ ก่อนไป
เพื่อเตรียมตัวบริจาคในวันนี้ค่ะ
พอมาวัดความดันก็ปกติ 114/98 ผ่าน
พอขึ้นรถไปบริจาคก็นอนสักพักพยาบาลก็มาเจาะให้ค่ะ
พี่พยาบาลบอกหนูว่าให้นอนนิ่ง ๆ
ห้ามขยับแขนเดี๋ยวเข็มหลุด 555
พอหนูหันหน้าไปหาพี่พยาบาล
ก็บอกห้ามหันหน้า เดี๋ยวเวียนหัว ทำไรก็ไม่ได้ค่ะ
สงสัยพี่เค้าจะเป็นห่วงเราแหละค่ะ
แต่เลือดหนูก็เต็มถุงไวอยู่นะคะ
พอเสร็จ ก็นอนบนเตียงสักพัก
เพื่อนหนูที่นอนเตียงข้าง ๆ ก็เสร็จพร้อม ๆ กับหนูค่ะ

ยาบำรุงโลหิต
ยาบำรุงโลหิต

คุยกันแปปนึง
เพื่อนก็บอกมึนหัวพี่พยาบาลเลยเอาแอมโมเนียให้
ยังไม่ทันดมยาเพื่อนก็เป็นลมไปเฉยเลยค่ะ
พยาบาลปรับเตียงให้เอนลงนอน
แล้วเพื่อนก็ชักกะตุกประมาณ 5 ครั้งแล้วก็นิ่งไป
หนูตกใจ และกลัวมาก แล้วพี่พยาบาลก็มาดูแลเพื่อน
แล้วก็บอกให้หายใจช้า ๆ ใจเย็น ๆ
สักพักพี่เค้าก็พูดว่าน้องมาแล้ว โล่งใจเลยค่ะ

พอได้นั่งพัก
หนูถามเพื่อนว่าเมื่อกี้รู้สึกยังไง
เพื่อนบอกว่าจำได้แค่ว่าบอกพี่พยาบาลว่ามึนหัว
แล้วก็ไม่รู้สึกตัวเหมือนหลับไป
ได้ยินอีกที ก็ตอนพี่บอกใจเย็น ๆ น้องมาแล้ว
จากนั้นก็ตื่น

มาให้บริการ เทอมละครั้ง
มาให้บริการ เทอมละครั้ง

ส่วนเพื่อนอีกคนก็บริจาคไม่ได้
เพราะเกล็ดเลือดต่ำ 10/12 ค่ะ
สาเหตุ คือ หลังจากที่เพื่อนบริจาคครั้งแล้ว
ก็ไม่ได้ทานยาบำรุงโลหิตจนหมดค่ะ
ทานไปแค่ 2 เม็ด
ครั้งนี้เลยเกร็ดเลือดต่ำ
ส่วนครั้งนี้หนูก็ปลื้มปริ่มค่ะ
กว่าจะได้บริจาคห่างกับครั้งแรกก็เป็นปีแล้วค่ะ
สรุปว่า บริจาคเสร็จ
ต่อไปต้องทานยาบำรุงโลหิตให้หมด

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

FB Group : ผู้บริจาคโลหิต อวัยวะ และร่างกาย

รถบริจาคโลหิต ของสภากาชาดไทย
รถบริจาคโลหิต ของสภากาชาดไทย

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 8 จะเป็นโฮมซิกไหมนะ

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

อือ ๆ ๆ” หนูร้องไห้ด้วย
ตอนที่แม่กับน้องไปส่งที่ท่ารถ บขส.
อยากอยู่กับแม่ และน้อง ๆ จังเลย

ช่วงปิดภาคเรียนแรก ของปีหนึ่ง
หนูกลับบ้าน แล้วมีความสุขมากเลยค่ะ
พวกเราไปซื้อเตาอบขนมใหม่ ราคาไม่กี่พันบาท
แล้วก็ซื้ออุปกรณ์มาทำเค้ก ทำคุกกี้ ทำบราวนี่
ทานเอง ขาย และแจก สนุกจัง
พอดีกับที่น้องหยุดเรียน หลังสอบกลางภาค
และเป็นช่วงหยุดยาวปีใหม่

จำได้ว่า
หนูขึ้นสี่ล้อไปเยี่ยมคุณย่าที่เกาะคา
ไปเปลี่ยนกับพ่อเก๋ ที่มาธุระที่มหาวิทยาลัย
ได้สอยมะพร้าวในสวนไปวางขาย
ขายดีมาก ลูกละ 10 บาท แป๊ปเดียวหมดล่ะ
อีกไม่กี่วันต่อมา
หนูเอาขนม และมะละกอจากในตัวเมือง
ไปวางขายหน้าบ้าน แต่ขายไม่ค่อยดี
คนแถวนี้เค้าไม่ชอบขนมหวาน
สงสัยกลัวน้ำตาล ความดันกัน โรคฮิตด้วย
ช่วงนี้มะละกอเริ่มสุก บ้านไหนก็คงจะมี
มะละกอลูกเหลืองใหญ่ ๆ ก็เลยขายไม่ค่อยดี
แต่ก็ขายได้ค่ะ ขายได้ พอได้ทุนคืน
ส่วนกำไร คือ ลูกที่เหลือก็เอาไว้ทาน
แบ่งให้คุณย่าไว้ทาน 1 ลูกด้วย
หนูแบ่งกลับไปบ้านกล้วยไม้ 2 ลูก

วันขึ้นปีใหม่ ทำอาหารทานร่วมกัน
วันขึ้นปีใหม่ ทำอาหารทานร่วมกัน

เย็นนั้นหนู ต้องนั่งพรพิริยะทัวร์กลับกรุงเทพ
รถคันนี้ไม่แวะทานข้าวต้ม วิ่งรวดเดียวเลย
หนูก็หลับยาวเหมือนกัน หลับสนิทเลย
ตอนไปจอง คันอื่นเต็มหมด แต่คันนี้มีว่างหลายที่
จึงได้กลับก่อนเปิดเรียน กลับปุ๊ปก็เปิดเรียนเช้านั้นเลย
ก่อนขึ้นรถแอบร้องไห้ คิดถึงบ้าน อยากอยู่บ้านกับแม่
แต่หนูก็รู้ว่าเป็นหน้าที่ มีหน้าที่ต้องไปเรียนหนังสือ
ก็ต้องไป หนูจะตั้งใจเรียนให้จบค่ะ

เที่ยวนี้ หนูนั่งแถวที่สอง
พบลุงอนุชิตที่บ้านอยู่ใกล้กันด้วย
เค้านั่งแถวแรก หนูสวัสดีเค้าแล้วนะคะ
เมื่อไปถึงหมอชิต หนูไม่เข้าห้องน้ำ
รีบไปขึ้นรถตู้ รถเต็มพอดี แล้วออกเลย
ถ้าไปเข้าห้องน้ำก่อน คงรอรถคิวต่อไปอีกนาน

เช้าวันเปิดเรียนวันแรกขลุกขลักนิดหน่อย
หนูยังไม่ได้จ่ายตังค่าลงทะเบียนในส่วนที่เกิน
เค้าจะเปิดให้จ่ายวันจันทร์ถัดไป
เสียค่าปรับนิดนึง
ครั้งนี้หนูพลาดไป ขอโทษด้วยนะคะ
แต่เทอมต่อไปไม่พลาดล่ะ พ่อช่วยเตือนด้วยนะ

สรุปคิดถึงเยอะเลย
คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงน้อง คิดถึงคุณย่า คุณตา
คิดถึงมะพร้าว มะละกอ เค้ก คุกกี้ บราวนี่
คิดถึงปิ้งย่างที่บ้านย่าในวันปีใหม่ และอีกมากมาย
หนูจะสู้ จะตั้งใจเรียน เพราะเรามาเรียนนี่นะ

ขายมะละกอกับคุณย่า
ขายมะละกอกับคุณย่า

 

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

FB Group : ผู้บริจาคโลหิต อวัยวะ และร่างกาย

ประเทศไทยมีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน อันดับ 3 ของโลก

สืบเนื่องจาก อ.ทรงเกียรติ แชร์ข่าวมาให้อ่าน ว่าไทยเราติดที่ 3 เรื่องภัยทางถนน พอติดตามก็ทำให้รู้สึกกังวล เพราะมีผู้คนที่รู้จักจำนวนไม่น้อยจากไป หรือประสบภัยทางถนนในหลายรูปแบบ .. ต่อไปจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย อย่างเอาจริงเอาจังซะแล้ว ก็เพราะไทยที่ 3 ของโลกนี่หละ

ประเทศไทยมีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน อันดับ 3 ของโลก
ประเทศไทยมีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน อันดับ 3 ของโลก

http://www.thairath.co.th/content/edu/359132

อึ้ง .. ไทยติดที่ 3 ของโลก ‘ประเทศที่มีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน’

องค์การอนามัยโลกเผยรายงานสถานะประเทศ 2013 ไทยมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นที่ 3 ของโลก มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน และเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉลี่ยทุกๆ 1 ชั่วโมงมีคนเจ็บ-ตาย 2 คน
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกด้านการป้องกันอุบัติเหตุ เปิดเผยรายงานความปลอดภัยทางถนนของโลก พ.ศ.2556 (Global Status Report on Road Safety 2013) จัดทำโดยองค์การอนามัยโลก พบอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยพุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก เสียชีวิตถึง 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน รองจากประเทศเกาะนีอูเอ และสาธารณรัฐโดมินิกัน

นพ.วิทยา กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวมจากทุกพาหนะและคนเดินเท้าแล้วถึง 13,766 คน จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2554  (ปี ค.ศ.2010) เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “แต่จากการประมาณการการเสียชีวิตจากอุบัติภัยบนท้องถนนของประเทศไทย โดยองค์การอนามัยโลก ในปี ค.ศ. 2010 สูงถึง 26,312 คน คิดเป็นอัตรา 38.1 ต่อประชากร 100,000 คน”
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตของแต่ละประเทศ ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันคือ จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่อประชากร 1 แสนคน แล้วกลายเป็นว่า ไทยมีอัตราผู้เสียชีวิต 38.1 คนต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 รองจากอันดับ 1 คือ นีอูเอ (Niue) มีอัตราผู้เสียชีวิต 68.3 คน ต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน อันดับ 2  คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน มีอัตราผู้เสียชีวิต 41.7 คนต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน
โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 องค์การอนามัยโลกได้เปิดเผยในรายงานความปลอดภัยทางถนนของโลก พ.ศ. 2556 (Global Status Report on Road Safety 2013) ภาพรวมของการสำรวจจาก 182 ประเทศ มี 6 ประเทศที่ลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างน่าชื่นชม ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และอังกฤษ ส่วนที่เหลืออีก 176 ประเทศ มี 88 ประเทศที่ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้จริง ขณะที่ 87 ประเทศ อีก 1 ประเทศไม่ระบุ มีสถิติผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ในรายงานยังบอกว่า 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 15-29 ปี  ถ้าแต่ละประเทศไม่ป้องกัน การเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจะขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ของการเสียชีวิตของคนทั้งโลกภายในปี พ.ศ. 2573
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา องค์กรอนามัยโลก ร่วมกับศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกกับโรงพยาบาลขอนแก่น แถลงผลการรายงานสถานะความปลอดภัยทางถนนโลก ปี 2556 และจัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อ ทำไมประเทศไทยถึงมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุอยู่อันดับต้นของโลกเพื่อหา แนวทางแก้ไขและแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะในการบรรเทาผู้เสียจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่ง ดร.นิมา อัสการี รักษาการผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า
รายงานความปลอดภัยทางถนนของโลกปี 2556 (Global Stabal Report on Road 2013) พบอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยพุ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิต 38.1 รายต่อประชากร 1 แสนราย รองจากอันดับ 1 แสนราย อันดับ 2 คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน มีอัตราผู้เสียชีวิต 41.7 รายต่อประชากร 1 แสนราย และองค์การอนามัยโลกกำลังเป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะจากตัวเลขยานพาหนะที่จดทะเบียนทั่วโลกมีมากขึ้นร้อยละ 15 และในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอับุติเหตุเป็น 1.24 ล้านราย
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ระดับต่ำถึง ระดับปานกลาง มียอดผู้เสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 33 บางประเทศสูงถึงร้อยละ 75 และจากการสำรวจระหว่างปี 2550-2553 ใน 182 ประเทศ มีประเทศออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และอังกฤษ ที่สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้อย่างน่าชื่นชม
อย่างไรก็ตาม นพ.วิทยา กล่าวย้ำว่า เป็นที่น่าตกใจที่ข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2554 มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวมจากทุกพาหนะและคนเดินเท้าแล้ว แค่ 13,766 คน ต่างจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ที่ทำการประเมินในปีเดียวกัน มีจำนวนสูงถึง 26,312 ราย คิดเป็นอัตรา 38.1 ต่อประชากร 1 แสนราย เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตัวเลขที่ต่างกันอาจเกิดจากวิธีการเก็บข้อมูลที่ต่างกัน แต่ก็มีความหมายเดียวกันว่า ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุทางท้องถนนของประเทศไทย ถือว่าค่อนข้างวิกฤติมีคนเจ็บ คนตาย เฉลี่ยชั่วโมงละ 2คน และทุกคนมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเหมือนกัน.

โดย ทีมข่าวไทยรัฐทีวี 25 กรกฎาคม 2556, 05:15 น.

http://www.autoyim.com/252081/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94-jpg2

การเดินทางกับสมบัติทัวร์ (itinlife299)

sombat bus tour
sombat bus tour

23 ก.ค.54 การติดต่อสื่อสารด้วยอีเมล โทรศัพท์ แฟ็กซ์ หรือส่งไปรษณีย์ ทำให้การเดินทางของมนุษย์น่าจะลดลงได้  แต่ทุกครั้งที่ต้องเดินทางก็จะพบผู้คนจากทั่วสารทิศไปพบกัน ณ จุดให้บริการขนส่งมวลชน อาทิ สถานีรถไฟ ท่ารถ  ท่าเรือ หรือสนามบิน ส่วนการเดินทางที่ใช้พาหนะส่วนบุคคลก็มากซะจนเหมือนการอพยพของแมลงหนีน้ำท่วมเมื่อเกิดอุทกภัย ในหลายปีที่เดินทางจากลำปางไปกรุงเทพฯ ก็มักจะต้องไปถึงสถานีขนส่งหมอชิตในเวลาเช้าตรู่ จะหาที่เดิน ที่นั่ง ที่นอน ที่รับประทานอาหารก็ไม่สะดวก เพราะปริมาณผู้โดยสารมีมาก จนการจัดสถานที่ให้บริการห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ให้มีคุณภาพทำได้ยาก

กลางเดือนกรกฎาคม 2554 ได้พบนวัตกรรมของการให้บริการขนส่งมวลชนที่บริษัทสมบัติทัวร์จัดให้กับผู้โดยสาร คือ การเปิดท่ารถทัวร์ของบริษัทบนถนนวิภาวดีใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าจตุจักร การเดินทางสะดวก มีที่นั่ง ที่เอนนอน ร้านอาหารสะอาด และปลอดภัย และให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ sombattour.com ทำให้การเดินทางไปถึงท่ารถทัวร์ในเวลาตีห้า และต้องรอไปถึงเจ็ดโมงเช้า เพื่อเดินทางไปทำธุระในกรุงเทพฯ ครั้งต่อไปจะไม่กังวลว่าเวลาที่เหลือจะทำอะไร เพราะเลือกได้ว่าจะนอนต่ออีกสักงีบ นั่งดูทีวี เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อสืบค้นข้อมูลหรือทำงานในโลกไซเบอร์ ซึ่งผู้โดยสารที่สนใจใช้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายสามารถนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียนรับรหัสเข้าสู่ระบบที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ถ้าในอนาคตบริษัทพิจารณาลงทุนเพิ่มบริการอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ก็จะทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องนำคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คติดตัวไปด้วยทุกครั้ง และที่นี่ออกแบบมาเป็นท่ารถทัวร์ทำให้การหาปลั๊กไฟฟ้าสำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือชาร์จไฟฟ้าเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่อาจยังมีไม่มากพอ

อินเทอร์เน็ตไร้สายที่พบมีลักษณะเหมือนกับของบริษัท 3BB หรือ TOT ที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าไปเกาะสัญญาณได้ทันที แต่เมื่อเปิดเว็บไซต์จะต้องมีการยืนยันตัวตนที่ใช้รหัสผู้ใช้ และรหัสผ่าน ที่ท่ารถทัวร์แห่งนี้ดำเนินการตามกฎหมาย พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ด้วยการบันทึก ชื่อ สกุล และเลขที่บัตรประชาชนของผู้ใช้ หากผู้ใช้ไปเขียนข้อความที่ไม่ควร หรือกระทำผิดกฎหมายในเว็บบอร์ดต่าง ๆ ทางตำรวจจะสามารถติดตามได้ว่าผู้ใช้บริการคือใคร ซึ่งการบันทึกข้อมูลของผู้ใช้แบบนี้พบได้น้อยในร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไป ก็หวังว่าบริการดี ๆ แบบนี้จะได้รับความนิยม และนำไปใช้กับบริษัทเดินรถรายอื่น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้น แล้วผู้เดินทางก็จะลดการใช้พาหนะส่วนตัว ทำให้การใช้เชื่อเพลิงจากฟอสซิลลดลง  ส่งผลถึงการลดภาวะโลกร้อนที่กำลังคุกคามมนุษย์ในศตวรรษนี้