31 นโยบายหลักด้านการศึกษา

ศ.ดร.สุชาติ  ธาดาธำรงเวช  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงศึกษาธิการสู่การปฏิบัติ ระหว่างวันที่ 9 – 10 สิงหาคม 2555 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์  กรุงเทพมหานคร

ศ.ดร.สุชาติ  ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  กล่าวให้นโยบายถึงการทำงานในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้ประสบผลสำเร็จและมีความก้าวหน้าในการดำเนินงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ  โดยได้ขับเคลื่อนการทำงานตาม  “31 นโยบายหลักด้านการศึกษา” ๑) ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง  ๒) ปฏิรูปการศึกษารอบใหม่  ๓) ปรับเลื่อนวิทยฐานะโยกย้ายครูด้วยความเป็นธรรม  ๔) สอบ O-Net ป.๖ ม.๓ ม.๖ ทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา  ๕) กระทรวงศึกษาธิการไทยใสสะอาด   ๖) ปฏิบัติธรรม นำการศึกษา   ๗) แท็บเล็ตพีซี เพื่อการศึกษา  ๘) เรียน ม.๖ จบได้ใน ๘ เดือน   ๙) กองทุนตั้งตัวได้   ๑๐) ๑ อำเภอ ๑ ทุน   ๑๑) สื่อสารภาษาอังกฤษได้ พร้อมเข้าสู่ประชาคม ASEAN  ๑๒) เรียนดีอย่างมีคุณภาพ ตั้งแต่อนุบาลจนจบ ม.๖  ๑๓) สร้างผู้นำอาเซียน ASEAN Leaders Scholarship  ๑๔) ทุนการศึกษาเพื่ออนาคต (กรอ.) Income Contingency Loan  ๑๕) ครูมืออาชีพ  ๑๖) ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix-it Center   ๑๗) การศึกษาดับไฟใต้   ๑๘) ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน OTOP Mini MBA   ๑๙) กระทรวงศึกษาไทย ปลอดภัย ไร้บุหรี่   ๒๐) ศูนย์กลางการศึกษานานาชาติ   ๒๑) อัจฉริยะสร้างได้   ๒๒) อินเทอร์เน็ตตำบลและหมู่บ้าน  ๒๓) คูปองสร้างเสริมอัจฉริยะ   ๒๔) โรงเรียนในโรงงาน   ๒๕) อาชีวะไทย ก้าวไกล ใช้เทคโนโลยี   ๒๖) สร้างพลังครู  ๒๗) หลักสูตรคิดเป็น ทำเป็น   ๒๘) โรงเรียนร่วมพัฒนา   ๒๙) ศูนย์อบรมอาชีวศึกษา  ๓๐) ตั้งสถาบันอาชีวศึกษาเพื่อความเป็นเลิศในการเรียนสายอาชีพ   ๓๑) เทียบโอนประสบการณ์สายอาชีพ จบ ปวช.ได้ใน ๘ เดือน

http://www.vec.go.th/portals/0/tabid/103/ArticleId/477/477.aspx

นอกจากนั้นยังได้เน้นนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการอาชีวศึกษา อาทิ ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix-it Center ,  ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน , โรงเรียนในโรงงาน , การตั้งสถาบันอาชีวศึกษาเพื่อความเป็นเลิศในการเรียนสายอาชีพ รวมทั้งนโยบายเทียบโอนประสบการณ์สายอาชีพ จบ ปวช.ได้ใน ๘ เดือนแล้ว ได้กล่าวถึงเป้าหมายของกระทรวงศึกษาธิการที่จะดูแลลูกหลานของพี่น้องประชาชนเหมือนลูกหลานของเราเอง ซึ่งก็คือการ “ยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง” โดยอธิบายว่าหากเป็นลูกของคุณ คุณจะทำอย่างไร คือให้มองเด็กๆ ให้เป็นลูกหลานของเรา ขณะเดียวกันครูอาจารย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้บริหารก็ควรมองให้เป็นเหมือนน้องชายน้องสาว  เพราะว่าผู้บริหารก็เหมือนครูรุ่นพี่ ซึ่งต้องมาช่วยเราสอนลูกของเราให้มีอนาคตมีการศึกษา

นายศักดา  คงเพชร  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า  ตนต้องการให้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  สร้างบุคลากรคุณภาพ  ครูและนักศึกษาต้องมีความรู้ความสามารถ  แต่มีความเป็นห่วงว่าเงินงบประมาณ ปี2556  ซึ่งได้น้อยลงจะทำให้การพัฒนาอาชีวศึกษาที่เข้มแข็งทั้งคุณภาพ และประมาณได้มากน้อยเพียงใด ฝากให้ส่วนกลางจัดทำฐานข้อมูลของสถานศึกษาให้ชัดเจนเพื่อช่วยให้การจัดสรรเงินงบประมาณมีความเป็นธรรม  และตรงกับความต้องการมากที่สุด

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประสานงานขอรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นของกลางที่ไม่สามารถใช้งานได้มาเป็นวัสดุฝึก  หรือนำมาพัฒนาต่อยอดเพื่อมาใช้ประโยชน์ การสนับสนุนให้ครูและนักเรียนมีรายได้โดยแปลงทักษะวิชาชีพให้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ รวมทั้งต้องเตรียมพร้อมการแข่งขันในประชาคมอาเซียน  โดยเน้นให้เด็กสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ  และภาษาอาเซียน

โดย กลุ่มประชาสัมพันธ์ 10 สิงหาคม 2555

นักพนันสอนเกม (The Gambler)

gambler teach boy
gambler teach boy

The Gambler .. by Kenny Rogers
ผู้ใหญ่เล่าเรื่องนักพนันให้ฟัง ผมว่ามีหลายประเด็นน่าสนใจนะครับ
ชอบตรงมองตา แล้วรู้ใจนี่สิครับ ต่อไปเวลาซื้อหวย ต้องมองตาคนขายซะแล้ว

The Gambler .. by Kenny Rogers

On a warm summer’s evenin’ on a train bound for nowhere,
ตอนเย็นในฤดูร้อน บนรถไฟที่ไม่รู้ที่หมาย

I met up with the gambler; we were both too tired to sleep.
ฉันได้พบกับนักพนัน เราทั้งสองเหนื่อยล้าเกินกว่าจะหลับลง

So we took turns a starin’ out the window at the darkness
เราต่างจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างในความมืด

‘Til boredom overtook us, and he began to speak.
จนกระทั่ง เราเริ่มเบื่อ และเขาก็เริ่มพูด

He said, “Son, I’ve made my life out of readin’ people’s faces,
เขาพูด “ไอ้หนู ฉันใช้ชีวิตของฉันกับการอ่านสีหน้าของคน

And knowin’ what their cards were by the way they held their eyes.
และรู้ว่าไพ่ในมือของพวกเขาคืออะไร ผ่านสายตาของพวกเขานั่นหละ

So if you don’t mind my sayin’, I can see you’re out of aces.
นี่นะ ถ้าคุณไม่ใส่ใจที่จะฟังผม ผมสามารถเห็นได้เลยว่าคุณกำลังจะเสีย A ไปแล้ว

For a taste of your whiskey I’ll give you some advice.”
อ้อ ขอลิ้มรสวิสกี้สักแก้ว แล้วฉันจะบอกเคล็ดลับให้”

So I handed him my bottle and he drank down my last swallow.
ดังนั้น ฉันยืนขวดวิสกี้ให้เขา และเขาก็กระดกลงคอไปหมด

Then he bummed a cigarette and asked me for a light.
จากนั้นเขาก็คาบบุหรี่ และถามขอไฟแช็คจุดบุหรี่

And the night got deathly quiet, and his face lost all expression.
กลางคืนเขามาเยือนแล้ว และหน้าของเขาก็ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ

Said, “If you’re gonna play the game, boy, ya gotta learn to play it right.
เขาพูด “ถ้าฉันเล่นเกมนะไอ้หนู ฉันจะเรียนรู้วิธีเล่นที่ถูกต้องก่อนเลย

You got to know when to hold ’em, know when to fold ’em,
เอ็งต้องรู้ว่าเมื่อไร ควรถือไว้ เมื่อไรควรทิ้งไพ่

Know when to walk away and know when to run.
รู้ด้วยว่าเมื่อไรควรเดินออกมา และรู้ว่าต้องวิ่ง

You never count your money when you’re sittin’ at the table.
แล้วอย่าไปนับเงิน ตอนนั่งอยู่ในโต๊ะนะ

There’ll be time enough for countin’ when the dealin’s done.
มีเวลาถมเถที่จะนับ หลังเกมพนันจบลง

Now Ev’ry gambler knows that the secret to survivin’
เดี๋ยวนี้ นักพนันทุกคนรู้เคล็ดลับที่จะเอาตัวรอด

Is knowin’ what to throw away and knowing what to keep.
รู้ว่าอะไรควรโยนทิ้ง อะไรควรเก็บไว้

‘Cause ev’ry hand’s a winner and ev’ry hand’s a loser,
เพราะทุกมือเคยชนะ และทุกมือก็เคยแพ้ มีโอกาสแพ้ได้ชนะได้

And the best that you can hope for is to die in your sleep.”
และที่ดีที่สุด ก็หวังว่าได้ตายตอนหลับ

So when he’d finished speakin’, he turned back towards the window,
เมื่อเขาพูดเสร็จ ก็หันหน้าไปทางหน้าต่าง

Crushed out his cigarette and faded off to sleep.
ดับบุหรี่ แล้วเบือนหน้าไปหลับ

And somewhere in the darkness the gambler, he broke even.
และบางแห่งในความมืดของนักพนัน เขาก็ทำสำเร็จเช่นเคย

But in his final words I found an ace that I could keep.
แต่ในคำสุดท้ายของเขา เด็กน้อยพบ A และเก็บเอาไว้ได้

You got to know when to hold ’em, know when to fold ’em,
เอ็งต้องรู้ว่าเมื่อไร ควรถือไว้ เมื่อไรควรทิ้งไพ่

Know when to walk away and know when to run.
รู้ด้วยว่าเมื่อไรควรเดินออกมา และรู้ว่าต้องวิ่ง

You never count your money when you’re sittin’ at the table.
แล้วอย่าไปนับเงิน ตอนนั่งอยู่ในโต๊ะนะ

There’ll be time enough for countin’ when the dealin’s done.
มีเวลาถมเถที่จะนับ หลังเกมพนันจบลง

————


http://www.lyricsfreak.com/k/kenny+rogers/the+gambler_20077886.html

play game
play game

จอผ้า จอแอล และจอแท็บ (itinlife 360)

multi monitor
multi monitor

8 ก.ย.55 จอผ้า หมายถึง จอภาพแบบแขวนขนาดใหญ่ (Screen) ประมาณ 100 นิ้วที่ใช้เป็นฉากให้เครื่องโปรเจคเตอร์ (Projector) ฉายแสงออกไปกระทบ นิยมใช้งานในสถาบันการศึกษา งานประชุม  บริษัท หรืองานนำเสนอขายสินค้าแบบเคลื่อนที่ ส่วนจอแอล หมายถึง จอแอลซีดี (LCD = Liquid Crystal Display) หรือจอเลด (LED = Light-Emitting Diode) ที่นิยมใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องโน๊ตบุ๊ค หรือทีวี ปัจจุบันจอแอลเป็นที่นิยมที่สุด แต่กำลังจะถูกท้าทายด้วยจอแทบ หมายถึง จอแท็บเล็ตพีซี รวมถึงอุปกรณ์กลุ่มสมาร์ทโฟน ที่มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน และเป็นไปได้ว่าในอนาคตยอดจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์จะต่ำกว่าแท็บเล็ตพีซี

โดยปกติการใช้จอภาพในการประชุมสัมมนามักใช้แบบจอผ้าขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสัมมนาที่มีจำนวนมากมองเห็น และรับรู้ข้อมูลข่าวสารตามหัวข้อประกอบการบรรยายพร้อมกัน ส่วนผู้นำเสนอจะใช้จอแอลซีดีของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ หรือโน๊ตบุ๊ค ซึ่งปกติภาพที่ปรากฎในจอทั้ง 2 แบบนี้จะเป็นภาพเดียวกัน และโปรแกรมที่นิยมใช้ที่สุดสำหรับการนำเสนอคือโปรแกรม Powerpoint จากการพัฒนาเทคโนโลยีและความต้องการในการสื่อสาร ทำให้เกิดการสื่อสารแบบประชุมทางไกล (Conference) ที่มีกลุ่มผู้ฟัง 2 กลุ่มสื่อสารกัน แต่อยู่ในพื้นที่แยกกัน

ปัจจุบันผู้ใช้เทคโนโลยีไม่จำกัดด้วยวัยวุฒิ หรือคุณวุฒิ ทุกคนมีสิทธิพกพาเครื่องแท็บเล็ตพีซีติดตัว ในประเทศไทยเด็กนักเรียนเริ่มตั้งแต่ชั้นประถมปีที่ 1 เมื่อกลางปีพ.ศ. 2555  ดังนั้นหากมีการประชุมทางไกลทั้งผู้ร่วมสัมมนา ผู้ดูแลการสื่อสาร หรือผู้นำเสนอข้อมูล ย่อมสามารถมีจอภาพที่ใช้สื่อสารกับอีกกลุ่มหนึ่งได้หลายจอภาพพร้อมกันโดยง่าย เหมือนศูนย์รวมกล้องวงจรปิดในภาพยนตร์หรือของหน่วยงานรักษาความปลอดภัยของอาคารขนาดใหญ่ ที่ช่วยสนับสนุนให้การสื่อสาร และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การพัฒนาต้องควบคู่ไปกับความเข้าใจของผู้เกี่ยวข้อง แต่ดูทีท่าว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะมุ่งไปข้างหน้าแซงการพัฒนาทางจิตใจไปหลายก้าวแล้ว

http://www.fxrebategurus.com/blog/

พออ่านน้อยยอดซื้อแท็บเล็ตก็น้อย (itinlife 359)

library
library

6 ก.ย.55 จากสถิติข้อมูลการอ่านหนังสือของคนไทยของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่าคนไทยอ่านหนังสือประมาณ 2 – 5 เล่มต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสิงคโปร์ที่อ่านหนังสือ 50 – 60 เล่มต่อปี ซึ่งมากกว่าประเทศไทยสิบเท่าทำให้ก็อดใจหายไม่ได้ เมื่อสังเกตพฤติกรรมของชาวลำปางก็พบว่าร้านหนังสือหลายแห่งปิดตัวไป ส่วนที่มีอยู่ก็มีคนเข้าไปใช้บริการไม่หนาแน่น รายการหนังสือก็ลดลงเปลี่ยนเป็นสินค้าประเภทอื่นเข้าไปแทน ส่วนนักวิชาการระดับประเทศได้ให้ความเห็นว่าประเทศไทยลงทุนทางการศึกษามาก (ปีละกว่า 4 แสนล้านบาท หรือ 25% ของงบทั้งหมด) แต่ล้มเหลวในด้านการจัดการศึกษาให้ทั่วถึง ครูอาจารย์คุณภาพปานกลาง สอนและสอบแบบท่องตามตำรา ทั้งครู อาจารย์ และนักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่รักการอ่าน อ่านจับใจความไม่เก่ง คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ไม่ค่อยเป็น

มาร์ค ไอนสไตน์ ผู้จัดการฝ่ายอุตสาหกรรม เอเชีย-แปซิฟิก บริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน มีความเห็นว่า นิสัยการอ่านของคนไทยรั้งการเติบโตของแท็บเล็ต หมายความว่า คนไทยไม่นิยมซื้อแท็บเล็ตเนื่องจากอ่านน้อย เพราะเชื่อว่าแท็บเล็ตที่คนไทยตัดสินใจซื้อก็เพื่อใช้อ่านหนังสือโดยเลือกซื้ออีบุ๊ค (e-book) ที่มีขายอยู่ในอินเทอร์เน็ต แทนการซื้อหนังสือในรูปของสิ่งพิมพ์ แต่ปลายปี 2555 สถิติการอ่านหนังสือจากอีบุ๊คจะเพิ่มขึ้น เพราะนักเรียน ป.1 กำลังจะมีแท็บเล็ตถ้วนทั่ว และรัฐบาลกำลังพัฒนาสื่อการสอนที่ใช้สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนให้มีประสิทธิภาพ

เคยฟังกูรูท่านหนึ่งให้ทัศนะต่อการพัฒนาของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการศึกษาว่า ยุคสื่อสิ่งพิมพ์จะเปลี่ยนเป็นยุคคลิ๊ก (Click) เพราะอะไรก็เข้าถึงได้ง่ายเพียงผ่านปลายนิ้วสัมผัสด้วยการคลิ๊ก ต้องการอะไรก็เพียงแต่คลิ๊ก ต่อไปเวลาถามนักเรียน เขาก็คงจะหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาใช้หาข้อมูลมาตอบคำถามเป็นแน่ ซึ่งบางคนคิดว่าเรากำลังข้ามผ่านจากยุค Read เป็นยุค Click เพราะนักเรียนบางคนทำรายงานด้วย 3 ขั้นตอน คือ Click, Copy และ Paste ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ต้องเข้าห้องสมุด ไปค้นบัตรรายการ ไปหยิบหนังสือมาอ่านหลายเล่มกว่าจะวิเคราะห์ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นต่อการทำรายงาน แล้วต้องสังเคราะห์เนื้อหาไปเขียนด้วยมือลงกระดาษรายงาน รวบรวมนำไปเข้าเล่มส่งครู แต่ปัจจุบันทุกอย่างเสร็จได้ด้วยการคลิ๊กไม่กี่ครั้ง

http://www.siamturakij.com/home/news/display_news.php?news_id=413359489

http://www.m-culture.go.th/it/detail_page.php?sub_id=266

http://witayakornclub.wordpress.com/

การรวมศูนย์กับกระจายศูนย์ในปัจจุบัน (itinlife 358)

eniac 1946
eniac 1946

31 ส.ค.55 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกมีชื่อว่า ENIAC พัฒนาในปีค.ศ.1946 แล้วอีกหลายสิบปีต่อมา จึงเริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในช่วงแรกนั้นระบบคอมพิวเตอร์ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดของการรวมศูนย์ เพราะง่ายต่อการควบคุม ดูแล และแก้ปัญหา เหตุที่ต้องรวมศูนย์เพราะอุปกรณ์ยังไม่มีมาตรฐาน ผลิตได้น้อย ราคาจึงสูง ยังใช้ไม่แพร่หลาย ผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้บริการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ดูแล และผู้ใช้ยังมีน้อย ทำให้การเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายมีขั้นตอนที่ซับซ้อน นำมาใช้งานน้อย ดังนั้นการรวมศูนย์จึงกลายเป็นทางเลือกที่จะทำให้การเชื่อมโยงระบบทั้งหมดเกิดขึ้นได้ในทางปฏิบัติ และใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เกิดแนวคิดเรื่องการกระจายศูนย์ และถูกนำไปใช้ในองค์กรเอกชนเพิ่มขึ้น ประกอบกับสามารถลดขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ให้เล็กลง และราคาถูกลดลง  จึงนำไปสู่การสร้างเครือข่ายในองค์กร เกิดการแบ่งปันเครื่องพิมพ์ และหน่วยเก็บข้อมูล ในปีค.ศ.1969 เริ่มโครงการเชื่อมระหว่างมหาวิทยาลัยจำนวน 4 แห่ง แล้วขยายสู่การเชื่อมกับภาคธุรกิจ จนขยายที่เชื่อมโยงทั้งโลกเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน  แล้วใช้ชื่อว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet)

เมื่อโลกได้กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จนเป็นที่ยอมรับ ก็เริ่มคิดใหม่ว่าแนวคิดแบบกระจายอาจเหมาะกับองค์กรที่ต้องการความคล่องตัว แต่ปัญหาที่ตามมาคือการขาดประสิทธิภาพในการควบคุม และใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า อาทิ องค์กรที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ ซึ่งทุกคนมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หากจะจัดหาเครื่องพิมพ์พร้อมหมึกให้รองรับทุกคนได้ จะมีประเด็นเรื่องความคุ้มค่า หากเลือกการเช่าเครื่องพิมพ์แบบมัลติฟังก์ชันก็จะแบ่งปันและควบคุมให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันพบคำว่า Convergent แปลว่า ซึ่งมาบรรจบกัน ถูกใช้ขยายคำนามหลายคำ เมื่อนำมาใช้ในภาคธุรกิจจะหมายถึงการมาบรรจบของหน่วยงานที่เคยกระจัดกระจาย สามารถพิจารณาว่าทรัพยากรใดใช้ร่วมกันได้ ทำให้เกิดการควบคุม ตัดลด และแบ่งปันทรัพยากรให้เกิดการใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วเหลือทรัพยากรส่วนเกินที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก

Astrophytum asterias .. convergent evolution
Astrophytum asterias .. convergent evolution

คนแก่ชอบเล่าเรื่องเก่า

code compare
code compare

คนแก่ ก็ชอบพูดเรื่องเก่า .. วันนี้นั่งย้อนอดีตวัยเด็ก เห็นมนุษย์จำนวนไม่น้อยไปห้างสรรพสินค้า แล้วก็เดินไปที่ตู้หยอดเหรียญ ใช้นิ้วจิ้มไปที่ตู้ หน้าตาก็ดูอิ่มเอิบ ครุ่นคริด หงุดหงิด บางทีก็ทำท่าควักกระเป๋าหาเหรียญเพื่อหยอดลงไปใหม่ สุดท้ายก็มักจบด้วยการเดินคอตก ผละออกจากตู้ไปยังที่ชอบ ที่ชอบของเขาต่อไป

# พอปลอดคน ผมก็เดินไปดูที่ตู้ ถึงรู้ว่าเป็นตู้เกมจับผิดภาพ มีตัวอย่างให้ดู ผมก็ยืนดูตัวอย่างอยู่พักหนึ่ง ถึงรู้ว่าคนเมื่อครู่คงมีความสุขกับเกมจับผิดภาพ ว่าต่างกันอย่างไร อาจเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ก็ได้ ที่มีความสุขกับการจับผิดภาพ พอรู้ว่าผิดตรงไหนก็มีความสุข เมื่อด่านแรกผ่านไป นาฬิกาก็หมุนเร็วขึ้น สุดท้ายก็หมดเวลา ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามเกณฑ์ที่แต่ละด่านตั้งขึ้นมา
??? มีคำถาม 2 คำถาม ที่คาใจตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน
1. เล่นไปแล้วได้อะไร มากกว่าจิตที่ไม่สงบ ดีใจ เสียใจ ไปตามเกม
2. เล่นไปแล้วเสียอะไร นอกจากจิตที่มีแต่เศร้าหมองหลังแพ้เกม
>> เข้าเรื่องเลยครับ .. ว่าจะสอนนักศึกษาจับผิด source code เพราะปรับโปรแกรมระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ แล้วคุยกันว่าการเปลี่ยนรุ่นนั้น หรือการแก้โปรแกรมในแต่ละจุดมีเหตุผลอะไรที่ต้องเปลี่ยน

>> แล้วบรรลุตามตัวบ่งชี้ของการพัฒนาโปรแกรม ที่ตั้งไว้หรือไม่
แต่ก่อนอื่นต้องถามว่ากำหนดตัวบ่งชี้ กับเกณฑ์การให้คะแนนไว้อย่างไร

new version : http://dl.dropbox.com/u/50010673/source/a1-7.zip

อิทธิพลของการกดไลค์

press like by NineBU

การกดไลค์ หมายถึง การแสดงความชื่นชอบ หรือตอบว่าใช่ ต่อเนื้อหาที่ปรากฎ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของข้อความ รูปภาพ หรือคลิ๊ปวีดีโอ การกดไลค์เป็นที่แพร่หลายพร้อมกับความนิยมที่มีต่อเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่เพิ่มขึ้น แล้วส่งผลถึงการนำไปใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ยี่ห้อ องค์กร หรือสินค้า จนปรากฎภาพสัญลักษณ์ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้เห็นในสื่ออย่างหลากหลาย รวมถึงการนำผลกา
รกดไลค์ไปใช้ประกอบการตัดสินความนิยมในการแข่งขันมากมาย อาทิ ประกวดภาพเดี่ยว ภาพครอบครัว หนังสั้น หรือเพลง

การปรากฎในสื่อ พบว่า มีการใช้คำว่า กดไลค์ มาเป็นชื่อภาพยนตร์ คือ “ชอบกดไลค์ใช่กดเลิฟ” เป็นชื่อภาพยนตร์ มีนักแสดงนำคือ มอส ปฏิภาณ และ ออม สุชาร์ และ อัทธ์ อังค์กูณฑ์ หรือเพลงที่ชื่อ กดเลิฟ ของ so cool ที่มีเนื้อเพลงเกี่ยวกับ status หรือ comment มีข้อความในเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “ได้แต่คอยกด like อีกเมื่อไรไม่รู้จะได้กด love เธอ” ก็ล้วนมีอิทธิพลมาจาก social media ซึ่งแสดงในมุมของคนที่มีความรักให้กันฉันท์ชู้สาว แต่การกดไลค์ในชีวิตจริงมีวัตถุประสงค์กว้างกว่านั้น เพราะการกดไลค์เริ่มต้นจากการมีความรู้สึกดี ชื่นชอบ หรืออยากบอกต่อ อาจพบปุ่มกดไลค์ในเว็บไซต์ด้านข่าว หรือร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ ที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ใน social media ก็ได้

อิทธิพลของการกดไลค์
เป็นเครื่องแสดงจุดยืนว่าเรายืนอยู่ที่ใด ชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ถ้าไม่กด หมายถึง การไม่แสดงความเห็น หรือ เฉย ๆ หรือเจตนาละเว้น หากสนใจประสิทธิผลการกระจายข่าวสารพบว่าจำนวนการกดไลค์ หรือแสดงความเห็น มีผลต่อค่าสถิติการบอกต่อ (Viral) บางเรื่องที่ถูกกดไลค์ หรือแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากก็จะมีค่า viral ที่สูง ซึ่งค่า Virality คือ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้สร้างเนื้อหาเพิ่มหลังมองเห็นต่อจำนวนผู้มองเห็นเนื้อหา แล้วค่านี้มีผลต่ออันดับการนำเนื้อหาไปแสดงในเพจของเพื่อนในเครือข่ายสังคม เกิดจำนวนการรับรู้ต่อข่าวสารนั้นสูง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายของผู้ส่งข่าวสารนั้น

นี่เป็น post แรก ที่ทดสอบใช้ภาพจาก fb page

คิดมากจนไม่ได้ทำ

คิดมากจนไม่ได้ทำ กับ ทำมากจนไม่ได้คิด
คิดมากจนไม่ได้ทำ กับ ทำมากจนไม่ได้คิด

คิดมากจนไม่ได้ทำ โดย ดร.บวร ปภัสราทร

งานจะสำเร็จได้นั้นว่ากันว่าต้องมีการวางแผนที่ดีเป็นเบื้องต้น แต่มีแผนที่ดีไม่ได้หมายความว่างานทุกงานจะประสบความสำเร็จ

งานจะสำเร็จได้ ต้องมีคนลงมือทำงานนั้น ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ก็ต้องลงมือทำเสียก่อนงานจึงจะเสร็จได้ หลายงานที่ว่ากันว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดีนั้นกลายเป็นวิมานในอากาศคือมีแต่แผนสวยหรู แต่งานจริงไม่เกิดขึ้น ยิ่งในยามที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องมีขั้นตอนการวางแผนที่พิสดารเกินกว่าที่บ้านอื่นเมืองอื่นเขาทำกัน เกาหลีมีแผนไอทีไม่กี่หน้ากระดาษ แต่สร้างงานจริงได้อย่างมหาศาลจนเปลี่ยนให้เกาหลีเป็นเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีหลากหลายชนิดได้อย่างน่ามหัศจรรย์ บ้านเรามีแผนไอทีสองสามแผน แต่ละฉบับหนานับร้อยหน้า แผนก็ดีจริงๆ ด้วย แต่วันนี้บ้านเราก็ยังห่างไกลจากเกาหลีอย่างมากมาย แผนไอทีไม่กี่หน้าเอาชนะแผนไอทีหนานับร้อยหน้าได้อย่างสบายเพราะเกาหลีมีแผนแล้วมีคนลงมือทำตามแผนอย่างจริงจังจนกระทั่งบรรลุผล
อะไร ทำให้คนมัวแต่คิดแผน หรือคิดว่าจะทำตามแผนได้อย่างไร จนกระทั่งรีรอไม่ลงมือทำงาน คิดเรื่องแผนว่าดีไม่ดีอย่างไรจนไม่มีใครลงมือทำตามแผนนั้น แผนดีมีอยู่จริง แต่งานดีไม่มีสักเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุที่คนมัวแต่ถกเถียงกันเรื่องแผนนั้นมาจากการที่ไม่ได้ตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าคำว่าประสบความสำเร็จนั้นคือเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้ายังมองไม่ชัดว่าแค่ไหนเรียกว่าประสบความสำเร็จในงานนั้น ต่างคนต่างก็นิยามความสำเร็จของตนเองขึ้นมาแล้วอนุมานไปเองว่าคนอื่นก็ใช้นิยามของความสำเร็จของงานนั้นเหมือนกับที่ตนเองเชื่อ การถกเถียงจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ว่าจะเริ่มงานกันอย่างไร เพราะปลายทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเริ่มต้นลงมือทำงานจะเกิดขึ้นได้เร็วช้าขึ้นกับว่าเราตกลงความหมายของคำว่างานสำเร็จได้เร็วเพียงใด การตกลงเรื่องความสำเร็จนี้ ขอเพียงแค่ทุกคนยอมรับว่าคำว่าความสำเร็จของแต่ละหน่วยงานนั้นแตกต่างกันไปตามอายุงานและขีดความสามารถของแต่ละหน่วยงาน ผลงานอย่างหนึ่งที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในหน่วยงานหนึ่งอาจหมายถึงผลงานที่ล้มเหลวในอีกหน่วยงานหนึ่งก็ได้
เริ่มทำงานมาแค่สองสามปี คงไม่สามารถนิยามความสำเร็จของงานได้เหมือนกับหน่วยงานที่ทำงานมาเกือบร้อยปี มีคนแค่สามสี่คนคงไม่อาจใช้นิยามความสำเร็จของงานได้เหมือนกับหน่วยงานที่มีคนนับร้อยนับพัน ยอมรับและรู้จักขีดความสามารถของกลุ่มของตนได้มากเท่าใด เวลาที่ใช้ในการตกลงนิยามของความสำเร็จก็เร็วขึ้นเท่านั้น

หลายครั้ง ที่มีประเด็นที่มาถกเถียงกันจนไม่ได้ลงมือทำงานกันสักที นั้นมาจากข่าวลือบ้าง มาจากคำติเตียนอย่างไม่สร้างสรรค์บ้าง มาจากคำแนะนำของบางคนที่ดูเหมือนว่าจะหวังดีแต่จริงๆ แล้วเจตนาร้ายคือไม่ต้องการให้งานเดินหน้าได้บ้าง โบราณกล่าวไว้ว่าจิ้งจกทักให้รับฟังก็จริง แต่ถ้าไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน เพราะมัวแต่กังวลกับจิ้งจก การงานคงไม่อาจเดินหน้าไปได้ ทั้งนี้ ต้องยอมรับความจริงไว้ด้วยว่าหลายคนรักษาหน้าที่การงานของตนไว้ได้ด้วยการคอยติเตียนงานของคนอื่นว่าเป็นไปไม่ได้บ้าง ว่าวางแผนไม่ดีพอบ้าง ทั้งๆ ที่พอย้อนถามกลับว่าที่ต้องทำเพิ่มเติมนั้น ต้องทำอะไรบ้าง คนเหล่านี้ก็ตอบไม่ได้ ดังนั้น หากไม่อยากกังวลกับสารพัดเรื่องจนรีรอไม่กล้าลงมือทำงานกันอย่างจริงจัง ต้องรู้จักเอาหูไปนา เอาตาไปไร่กับคำนินทาหรือคำเล่าลือต่างๆ เกี่ยวกับงานนั้นเสียบ้าง ถ้าตกลงกันเรื่องนิยามของความสำเร็จของงานนั้นได้แล้วให้ลงมือทำทันที อย่ากลัวคำนินทา อย่ารีรอกับสารพัดคำแนะนำเสนอแนะต่างๆ มากจนเกินไปเพราะลงมือทำงานแล้วงานจะดีเลวอย่างไรก็ยังบอกได้ว่างานได้เกิดขึ้นแล้ว

ถ้าทีมงาน มีคนที่ชิงดีชิงเด่นกันมาร่วมทำงานกัน ปรากฏมามากต่อมากแล้วว่างานจะเริ่มต้นได้ช้ามาก เพราะหมดเวลาไปกับการที่ต่างฝ่ายต่างหาทางกีดกันอีกฝ่ายหนึ่งให้ห่างไกลจากความสำเร็จของงาน ถ้าไม่ใช่งานที่ฉันได้ประโยชน์แล้ว ฉันไม่ยอมให้ใครได้หน้าได้ตาจากความสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าอยากเริ่มลงมือทำงานตามแผนได้เร็ว ต้องขอให้ทุกคนที่มาทำงานด้วยกันแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกไปก่อน ขอให้ลงมือทำงานก่อนแล้วค่อยมาชิงดีชิงเด่นกันทีหลัง หรือถ้าทำได้ขออย่าได้เลือกทีมงานที่มัวแต่ชิงดีชิงเด่นกัน เลือกคนไม่เก่งแต่ไม่เกี่ยงงานดีกว่าเลือกคนเก่งที่อิจฉาตาร้อนไปหมดทุกเรื่อง การชิงดีชิงเด่นกันนั้นดีสำหรับงานที่ต่างคนต่างทำ ชิงดีชิงเด่นในงานเดียวกันไม่เคยทำให้งานนั้นสำเร็จได้

ความกังวล ที่มากเกินไปกับการที่ผลงานที่ได้อาจไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวังไว้ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หลายงานจบลงที่ว่าได้คิดงานนั้น แต่ไม่ได้ทำงานนั้น ถ้าคาดหวังว่างานนั้นต้องสมบูรณ์แบบมากเกินไป ก่อนลงมือทำงานก็เลยต้องคิดมากหน่อย คิดมากไปจนกระทั่งต้องมาคบคิดเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ถึงหนึ่งในล้าน วันเวลาผ่านไปก็ยิ่งสนุกกับการคิดประเด็นที่สมมุติขึ้นมาว่าถ้าเกิดเช่นนี้ ต้องทำอะไร จนหมดสนุกที่จะลงมือทำงานอย่างจริงจัง ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายักษ์ใหญ่ในวงการไอทีไม่เคยรีรอที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับความบกพร่อง ออกตัวมาก่อนแล้วค่อยตามแก้ไขภายหลัง ทุกวันนี้ เราจึงได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ไอทีที่ออกตัวเร็วแต่มีการตามแก้ไขสารพัดเรื่องอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อย่ากังวลกับความสมบูรณ์แบบของผลงานมากเกินไป แต่ให้เร่งลงมือทำไปก่อน ผิดพลาดประการใดก็น่าจะมีเวลาแก้ไขให้ถูกต้องได้ ลงมือทำงานด้วยกันดีกว่าลงแรงวิตกสารพัดเรื่องร่วมกัน

มีหลายงาน ที่ผู้บริหารบอกให้ทำเพื่อให้ดูเหมือนว่าได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้ผลงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งที่จริงแล้วผู้บริหารไม่ได้อยากให้เกิดผลงานอย่างที่บอกไว้ แค่มีงานไว้ใช้บอกกล่าวเป็นการแก้ตัวว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง งานแบบนี้ลงมือทำได้ยากเพราะมีความไม่แน่นอนว่าจะให้ทำอะไรกันแน่ ดังนั้น ถ้าเห็นว่างานใดผู้บริหารสรรหามาให้ทำเพียงเพื่อใช้แก้ตัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็อย่าตกอกตกใจที่งานไม่เดินหน้าเสียที แค่แกล้งทำท่าทำทางว่ากำลังจะลงมือทำก็เป็นที่พอใจของผู้บริหารแล้ว เคล็ดลับคือถ้าต้องทำงานภายใต้การบริหารของใคร ให้สร้างทักษะในการแยกแยะระหว่างงานที่ผู้บริหารหวังว่าจะให้เกิดขึ้นจริง กับงานที่มีไว้ใช้แก้ตัวในบางเรื่อง ถ้าแยกแยะไม่ได้ให้ระวังให้ดีว่าเราจะไปสร้างความสำเร็จกับงานที่ผู้บริหารไม่ตั้งใจจะให้เสร็จโดยไม่รู้ตัว งานสำเร็จแต่คราวนี้ตัวเราก็เสร็จตามไปด้วย

โดย ดร.บวร ปภัสราทร
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประจำคอลัมน์ “ก้าวไกล วิสัยทัศน์

http://www.bangkokbiznews.com

ปล. ผมพบเรื่องนี้ เพราะ อ.อุดม ไพรเกษร ได้ share link มาให้อ่าน เมื่อวันที่ 30 ก.ค.55
แต่กว่าผมจะเข้ามาเก็บประเด็นได้ ก็21 ส.ค.55 แล้วครับ

น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)

น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)
น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)

น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)

ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนลำปางกัลยาณี

ผลงาน
– ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงในรายการตีสิบ
– ประกวดร้องเพลงลุกทุ่งในรายการอาทิตย์ลุกทุ่งของเจนภพ จบกระบวนวรรณ
– ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงไทยสากลระดับชาติที่เมืองทองธานี ปี 2553-2554
– รางวัลอื่นๆอีกมากมาย
* ปัจจุบันเซ็นสัญญากับค่ายอาร์สยาม เครืออาร์เอส โปรโมชั่น
* รับเชิญร่วมเวที “ดาวรุ่งลูกทุ่งเนชั่น” ณ ห้าแยกหอนาฬิกา ข่วงนคร วันที่ 4 เมษายน 2555
* วันที่ 12 สิงหาคม 2555 พบน้องผึ้งร้องเพลงที่หน้าห้างเสรี สรรพสินค้า

คลิ๊ป ธรรมะเดลิเวอรี่จูเนียร์สัญจร ณ ห้างบิ๊กชี จ.ลำปาง

มินิคอนเสิร์ตธรรมะคละเพลงสร้างสรรค์ บันดาลใจใฝ่ธรรมะ

http://www.youtube.com/watch?v=U_R2o5xo-RI

ดาวรุ่งลูกทุ่งเนชั่น

open book and open quipment sample

ติ้งต่างว่า นี่คือ ตัวอย่างข้อสอบแบบ open อุปกรณ์
สามารถนำ samsung galaxy tab 10.1
ที่มหาวิทยาลัยจัดหาให้กับนักศึกษาใช้ประกอบการเรียนการสอน
1. จากหนังสือ “หนังสือสตีฟ จ็อบส์ โดยวอลเตอร์ ไอแซคสัน
ที่ได้ฟังบรรยายจากคุณสุทธิชัย หยุ่น และสามารถดาวน์โหลดบทความที่เกี่ยวข้องได้จากระบบอีเลินนิ่งนั้น
คำว่า สนามความจริงที่ถูกบิดเบือน (reality distortion field)
ที่ปรากฎในบทที่ 11 จงตอบคำถาม 2 ข้อ คือให้เหตุผลว่าความคิด หรือพฤติกรรมข้างต้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับสตีฟ จ็อบส์
และคนรอบตัวเขามีความคิดอย่างไร ให้ยกตัวอย่างชื่อบุคคล พร้อมคำกล่าวของคนเหล่านั้นมาพอสังเขป
2. จงบอกชื่อ app บน android และนำเสนอประสบการณ์การใช้งาน
ในประเด็นได้ประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมี 4 ด้าน
และ capture screen ที่มีชื่อของท่านใน apps
ส่งไปตามอีเมลที่ระบุในข้อสอบ ในระหว่างการสอบ