วิธีแก้เครียด

อย่าปล่อยให้ชีวิตต้องจมอยู่กับความเครียด ไม่ว่าจะจากการทำงาน อันเร่งรีบและเรียกร้อง หรือจากการใช้ชีวิต จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ   ลองใช้วิธีการต่อไนปี้ที่ได้ชื่อว่าช่วยในการ คลายเครียดให้คุณได้

วิธีแก้เครียด

  1. ออกกำลังกาย การ ออกกำลังกายจะทำให้เกิดการหลังของสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งทำให้คุณรู้สึกดี มีพลัง และต่อต้านความเครียดได้ดี ควรใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาที่ในการออกกำลังเพื่อลดความเครียด โดยเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณ เช่น การออกกำลังกายที่ง่ายๆที่สุด คือการวิ่งหรือเดินเร็ว หากเป็นผู้สูงอายุหรือเป็นผู้ที่ไม่สามารถรับแรงกระแทกได้ควร ว่ายน้ำ หรือเล่นโยคะ หากต้องการเล่นกีฬาเป็นทีมควรเลือก ฟุตบอล หรือเทนนิส
  2. หยุดพักหรือท่องเที่ยว การหยุดพักหรือหยุดคิดจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจลดความตึงเครียดและผ่อนคลาย แม้แค่เพียง 5-10 นาที การพักยาวหรือไปเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ พบผู้คนในสถานที่นั้น จะช่วยให้เบนความสนใจในเรื่องที่คิด กังกล หรือเครียดอยู่
  3. ทานอาหารคลายเครียด อาหารที่ลดความเครียดได้แก่ กล้วย ส้ม บลูเบอรี่ นมและโยเกิร์ต ปลา ถั่ว เนื้อไก่ และ ธัญพืช ซึ่งมีสารทริปโตเฟน และกรดอะมิโนที่ช่วยหลั่งสารแห่งความสุข และทำให้รู้สึกสงบ รวมทั้งวิตามินต่างๆที่ช่วยลดความเครียดได้ และต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย
  4. ฝึกหายใจ ทำสมาธิ เมื่อร่างกายเครียดจะทำให้การหายใจผิดปกติ การหายใจลึกๆ จะช่วยให้เลือดและสมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้สดชื่นขึ้น โดยใช้กล้ามเนื้อกระบังลมบริเวณหน้าท้อง เมื่อหายใจเข้าลึกและช้า หน้าท้องจะค่อยๆพองออก และเมื่อหายใจออก หน้าท้องจะค่อยๆยุบลง ใช้มือแตะท้องเพื่อรับรู้สภาพป่องและแฟบของท้องแล้วฝึกไปเรื่อยๆ อาจฝึกร่วมกับการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อ
  5. พูดระบายความเครียด การพูดคือการระบายความเครียดอย่างหนึ่ง หาเพื่อนสนิท ไว้ใจได้ และมีความอดทดสูงในการฟัง ถ้าไม่มีอาจพูดกับสัตว์เลี้ยง หรือกับตัวเองก็ได้ ระบายความรู้สึกทั้งหมดออกมา เพราะเท่ากับเราได้ทบทวนตัวเองไปด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการให้คำปรึกษาแนะนำทางโทรศัพท์จากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาหรือรับฟังเรื่องราวของเรา
  6. รู้จักปฏิเสธ ถ้าคุณรู้สึกว่ากำลังทำงาน เข้าสังคมพบปะผู้คน หรือต้องรับภาระทางครอบครัวมากจนเกินไป คุณควรจะเรียนรู้วิธีการบอกปฏิเสธ หรือร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เพื่อแบ่งเบาภาระหรือความกังวลกับเวลาและพลังงานที่ทุมให้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มากเกินไป
  7. คิดในแง่ดี ความเครียดส่วนใหญ่เกิดจากความคิดและการรับรู้ของแต่ละบุคคล ทำให้แต่ละคนแบกรับความเครียดได้ไม่เท่ากัน ลองหยุดคิดว่าคุณจำเป็นต้องเครียดกับเรื่องเหล่านี้จริงๆหรือ  และมีมุมุมองแง่คิดดีๆใดบ้าง ที่สามารถช่วยคุณหลุดพ้นจากความเครียดเหล่านั้น
  8. ทำกิจกรรมที่อยากทำ เช่น ดูหนังหรือรายการที่ชอบ การฟังดนตรี ปลูกต้นไม้ วาดรูป สะสมสิ่งของที่ชอบ การอ่านหนังสือ การบำบัดอโรมาเทอราพี การคลายความเครียดด้วยการนวด หรือสปา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.prapot.com/healthy

เมื่อร่ายกายขาดแคลเซียมจะเป็นอย่างไร

เมื่อร่างกายขาดแคลเซียมจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมากและทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาดังนี้
– ในสตรีขณะตั้งครรภ์จะมีอาการ ปวดฟัน ปวดเมื่อยหลังและเอว มีภาวะเครียด ร่างกายอ่อนแอ นอนไม่หลับ ตะคิวจับที่น่องบ่อยๆ ฯลฯ

– ในสตรีขณะให้นมบุตรจะมีอาการ ปวดฟัน ปวดเมื่อยหลังและเอว เป็นตะคิว กระดูกพรุน กระดูกหักง่าย

– ในระยะการเจริญเติบโตของเด็ก มีการเจริญเติบโตช้า ภูมิต้านทานต่ำลง เป็นหวัดง่าย เป็นโรคกระดูกอ่อน ฟันผุ สายตาสั้น

– ในวัยกลางคน จะเป็นตะคิว นิ้วล็อก กล้ามเนื้อกระตุก เครียด นอนไม่หลับ หัวใจเต้นผิดปกติ ร่างกายมีสภาวะเป็นกรด

– ในวัยทอง จะปวดเมื่อยหลังและเอว นอนไม่หลับ มีภาวะเครียด ชอบสันโดษ อารมณ์ไม่ดีหรือไม่คงที่

– ในวัยกลางคนและในวัยสูงอายุ มักมีอาการ นอนไม่หลับ เป็นตะคิว กระดูกพรุน กระดูกหักง่าย ร่างกายหดตัวลง ปวดเมื่อยหลังและเอว ชอบสันโดษ

——————–ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://betagen2683.exteen.com/20120126/entry-1