หยุดผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย

ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

ใครที่ไม่อยากผมร่วง-หงอก วันนี้เกร็ดความรู้มีอาหารที่กินแล้วช่วยหยุดปัญหาผมร่วง-หงอก มาบอก

หยุดผมร่วง – ควรกินกล้วย ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี มีสรรพคุณป้องกันผมร่วงได้ดี มีสารอาหารบำรุงเส้นผมที่ดีมาก การกินกล้วยเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยรักษาเส้นผม ให้อยู่คู่กับหนังศีรษะได้นานวัน

ชะลอผมหงอกหรือผมสีดอกเลา – กินถั่วลิสงอบเนย ร่วมกับเกร็ดขนมปังที่อบมาร้อน ๆ ก่อนมื้ออาหาร สามารถหยุดยั้งการเปลี่ยนสีผม เนื่องจากอาหารดังกล่าวอุดมไปด้วยวิตามินบี ที่หยุดการเปลี่ยนเป็นสีดอกเลาได้ และทำให้ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วย ถ้าไม่ชอบถั่วลิสง ลองมันฝรั่งอบร้อน และชุบเนยแทน

จำไว้ว่าการกินอาหารเฉพาะอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ไม่ใช่ช่วยให้สวย หล่อภายใน 2-3 วันต้องกินอย่างต่อเนื่องทุกวันอย่างน้อย 3-6 เดือนขึ้นไป

วิตามินและแร่ธาตุด้านผมหงอกก่อนวัย

1.ทองแดง พบมากในถั่วฝักยาว ถั่วแขก ถั่วลันเตา เมล็ดทานตะวัน ลูกเกด ลูกพลับ กล้วยตาก แครอท หัวไชเท้า เผือก มัน ผลไม้สดทุกชนิด

2.ไอโอดีน พบมากในอาหารทะเลทุกชนิด และอาหารที่ปรุงด้วยเกลือไอโอดีน

3.เหล็ก มีมากในปลา ลูกเกด ผักใบเขียว เช่น คะน้า ตำลึง กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักพื้นบ้าน เช่น มะเขือพวง ใบชะพลู ผักโขมหนาม และผักกูด

4.กรดโฟลิก พบมากในถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักบุ้ง กวางตุ้ง แครอท ฟักทอง ไข่แดง และตับ

5.กรดแพนโทเทนิก หรือวิตามินบี 5 พบมากในข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด แอ๊ปเปิ้ล

6.พาบา อยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม ซึ่งเป็นวิตามินเทียมที่ละลายในน้ำ พบมากในจมูกข้าวสาลี ข้าวกล้อง โยเกิร์ต และผักใบเขียว

7.ไบโอติน เป็นหนึ่งในกลุ่มวิตามินบีคอมเพล็กซ์ พบมากในอาหารจำพวกถั่วเหลือง และซีเรียล (การกินยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้การสังเคราะห์ไบโอตินในลำไส้ลดลง)
อาหารยับยั้งผมหงอกก่อนวัยกลุ่มอาหารที่มีความจำเป็นต่อการยับยั้งผมหงอกก่อนวัยมีดังนี้

1.สาหร่ายทะเล นำมาปรุงเป็นอาหารจำพวกข้าวปั้น ต้มจืด หรืออบกรอบกินเป็นของขบเคี้ยวยามว่าง นอกจากจะช่วยยับยั้งผมหงอกก่อนวัยแล้ว ยังช่วยทำให้ผมดกดำด้วย เพราะอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และไอโอดีน

2.งา โรยงาลงในอาหารในแต่ละมื้อ จะช่วยยับยั้งปัญหาผมหงอกก่อนวัยได้ เพราะในงามีไขมันจากธรรมชาติ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินอี และเกลือแร่

3.เครื่องดื่มสมุนไพร ปั่นแครอทหั่นหยาบ 1/2 ถ้วย หัวไชเท้าหั่นหยาบ 1/2 ถ้วย และน้ำเย็นจัด 1 ถ้วยเข้าด้วยกัน กรองเอาแต่น้ำใส่ในแก้ว ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่น 1/4 ช้อนชา ดื่มทันที
ครีมหมักผมสมุนไพรต้านผมหงอกเพียงนำสมุนไพรที่เราแนะนำต่อไปนี้ มาทำเป็นครีมหมักผม จะช่วยต้านปัญหาผมหงอกก่อนวัยของคุณได้

1.นำใบบัวบกสดปั่นกับน้ำสะอาด ปริมาณพอเหมาะให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำมาเคี่ยวกับน้ำมะพร้าว จากนั้นนำมาชโลมผม หรือนวดหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

2.นำใบบัวบกสดมาตำแล้วคั้นเอาแต่น้ำ แล้วชโลมผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นสระผมตามปกติด้วยแชมพูสมุนไพร

3.นำน้ำมันมะกอกนวดหนังศีรษะ ใช้ผ้าโพกหัวทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนำผลมะกรูด 2-3 ผล เผาไฟพอสุก จากนั้นนำมาขยำกับน้ำ และนำน้ำที่คั้นได้ไปสระผม

4.ใช้น้ำเมือกว่านหางจระเข้ชโลมผมจนทั่ว
อย่าให้เปียกมากเกินไป ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ผมจะแห้งพอดี ทำเป็นประจำทุกเช้า-เย็น และหลังสระผม
เมื่อแก้ปัญหาอย่างถูกวิธี นอกจากจะไร้ปัญหาเรื่องผมหงอกก่อนวัยแล้ว อาจส่งผลให้คุณมีผมดกดำสลวยอย่างคนสุขภาพดีได้อีกด้วย ส่วนคนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี แล้วมีปัญหาผมหงอกก่อนวัย ควรรีบไปพบแพทย์โรคผิวหนัง เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัด และหาทางรักษาที่ถูกวิธีต่อไป

อันนี้ก็ลองมาหาวิธีแก้ที่เราพอจะทำด้วยตัวเองได้กัน

สูตรที่ 1
เอาบอระเพ็ดสดหั่นแล้วชั่งให้ได้ 3 กก. เอามาตำคั้นเอาน้ำ จากนั้นนำน้ำคั้นบอระเพ็ดมาคั้นกับมะพร้าวขูด 1 กก. คั้นเอาน้ำ นำมาตั้งไฟเคี่ยวในกะทะทองเหลืองหรือหม้อสแตนเลส แล้วเอาขิงสดซอยบางๆ ประมาณ 1 กำมือ ใส่ลงไปเคี่ยวพร้อมกันจนน้ำระเหยไปหมดเหลือแต่น้ำมัน เสร็จแล้วนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เหลือเป็นน้ำมันเก็บไว้ชโลมผมและนวดหนังศีรษะอย่างน้อย 15 นาทีจึงล้างออก
หมายเหตุ สัดส่วนในการทำอาจลดหรือเพิ่มได้ตามส่วน

สูตรที่ 2
ใบบัวบกสดทั้งต้น 1 กิโลกรัม เติมน้ำ 1 ลิตร ปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำมาเคี่ยวกับน้ำมันามะพร้าวประมาร 1 แก้ว เคี่ยวจนน้ำระเหยไปหมด เอาน้ำมันมาชโลมผมหรือนวดหนังศีรษะทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที แล้วจึงล้างออก

สูตรที่ 3
ใช้กะเม็งตัวเมียทั้งต้น ทำน้ำมันโดยใช้สัดส่วนและวิธีการเช่นเดียวกับสูตรที่ 2

สูตรที่ 4
เอาเนื้อลูกมะขามป้อมมาทำน้ำมันโดยใช้สัดส่วนและวิธีการเช่นเดียวกับสูตรที่ 2

ลองใช้สูตรดังกล่าวแล้วผมคุณจะกลับดกดำไม่ต้องอายใครต่อใครอีกแล้ว…

———————-ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/AreyouThai/2010/09/28/entry-1