แจก Chinese tablets ไม่ใช่ samsung galaxy tab 10.1

One Tablet PC Per Child project
One Tablet PC Per Child project

16 ก.พ.2555 อ่านข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์ และ nation multimedia เรื่องแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน .. ทำให้ทราบว่าเด็กไทยจะได้ chinese tablets ซึ่งทำให้กลายเป็นมาตรฐาน tablet ของเด็กไทยไปในทันที ส่วน samsung galaxy tab 10.1 หรือ ipad3 หรือ iphone4s ก็คงไม่ใช่ตัวเลือกของรัฐบาลที่จะนำมาแจกนักเรียนไทย .. ถ้าเพื่อนถามว่า 2 ตัวนี้ต่างกันอย่างไร ก็คงตอบได้ในเบื้องต้นว่าราคาต่างกันลิบเลย แต่เปิดเน็ตได้ทั้งคู่ .. (งานนี้เป็นตามนโยบาย ซึ่งนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยไม่ได้รับสิทธิ์ส่วนนี้) .. มีรายละเอียดตามข่าวดังนี้

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ (Anudith Nakornthap) รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการร่วมบริหารนโยบาย 1 แท็บเล็ต 1 นักเรียน (One Tablet PC Per Child project) ตามนโยบายรัฐบาล มีข้อสรุป 3 ประเด็น ที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 ก.พ.2555 อนุมัติในหลักการ คือ 1) ให้ไอซีทีเป็นผู้จัดซื้อแท็บเล็ตและโครงข่ายทั้งหมด 2) ให้ดำเนินการโครงการโดยทำข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ หรือจีทูจี  (G-to-G : government-to-government) และ 3) ขอให้ไอซีทีเป็นผู้เบิกจ่ายงบประมาณในการจัดซื้อแทนหน่วยงานที่เป็นเจ้า ของงบประมาณ ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานอื่นที่มีการจัดการเรียนสอนชั้นประถมปีที่ 1 ส่วนงบประมาณที่ ครม.อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้ 1,900 ล้านบาท เท่าที่ประเมินจะจัดซื้อแท็บเล็ตได้เพียง 560,000 เครื่อง ซึ่งไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 ที่มีอยู่ราว 860,000 คน จึงต้องขอผูกพันงบประมาณปี 2556 ไว้ล่วงหน้า

สำหรับสเป๊กแท็บเล็ตใช้ของเดิมที่นายโอฬาร ไชยประวัติ เป็นประธานกำหนดสเป๊ก เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับการเจรจา เบื้องต้นราคาเฉลี่ยตัวเครื่อง ประมาณ 3,100 บาท อุปกรณ์เสริมอีกไม่เกิน 300 บาท และให้จัดซื้อแบบจีทูจี (G-to-G) เนื่องจากความร่วมมือด้านการศึกษาเป็น 1 ในบันทึกความเข้าใจที่ทำไว้กับประเทศจีนก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าของที่ส่งมอบจะเป็นไปตามสเป๊ก ราคาถูก คาดว่าจะส่งมอบได้ทันเปิดภาคการศึกษาที่ 1 ปี 2555 ส่วนระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่จะใช้กับแท็บเล็ตนั้นกระทรวงศึกษาธิการได้ ติดตั้งระบบเครือข่ายแล้ว 10,000 โรงเรียน ส่วนอีก 20,000 แห่งจะพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป โดยคาดว่าจะให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้

http://www.techmoblog.com/ipad-3/

http://www.nationmultimedia.com/national/Cashbarter-for-Chinese-tablets-30175891.html

http://www.china-tablet-pc.com/
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1329384928&grpid=&catid=19&subcatid=1903

Tablet จากจีนคืออะไร, ดีหรือไม่?

Top 5 Android Tablet PC for China National Days
1. ZeniThink C91
2. Wopad i7
3. FlyTouch 5 EPad
4. Haipad M8
5. Apad A820

http://blog.wholesaleonepiece.com/top-5-android-tablet-pc-for-china-national-days/

android tablet 11
android tablet 11

เฟซบุ๊คอาจล้มบางชั่วขณะได้

facebook down
facebook down

10 ก.พ.55 เว็บไซต์ต่าง ๆ ก็มีโอกาสล้มในบางชั่วขณะ อย่างเช่น facebook.com ที่มีสมาชิกกว่า 600 ล้านคน มีคนไทยกว่า 7 ล้านคน การที่เครื่องบริการตอบสนอง 24 ชั่วโมงนั้นต้องอดทนมาก .. ในบางขณะเครื่องบริการอาจมีปัญหาและไม่ต้องสนองกับการร้องขอจากผู้ใช้ก็ย่อมเกิดขึ้นได้ .. อย่างเช่นเวลานี้ผมอยู่ที่บ้านใช้ adsl of tot ซึ่งบริการ plug-in บนเว็บไซต์ไม่พบปัญหา หน้าแรกก็ตอบสนองปกติ แต่ login ไม่ผ่าน (ทดสอบต่อเนื่องมา 2 ชั่วโมงแล้ว) .. มีข้อความจาก firefox ว่า เครื่องบริการตอบรับช้าเกินไป
สิ่งที่ทำได้คือ รอคอย
http://downrightnow.com/facebook
http://wiki.answers.com/Q/Is_the_Facebook_server_down_at_the_moment

http://archive.voicetv.co.th/content/8719

ข่าวจาก voicetv เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2553
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการ Facebook จากหลายๆ ประเทศบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่สามารถ log in เข้าไปใน facebook ได้ หรือเข้าไปได้แล้วก็ช้ามาก และหลายๆ บริการบน Facebook ก็ใช้การไม่ได้ ซึ่งสำนักข่าวเอพี ได้รายงานว่า มีการรายงานปัญหาดังกล่าวจากผู้ใช้บริการในหลายเมือง ทั้งจากลอนดอน เม็กซิโกซิตี้ หรือแม้แต่กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลายคนแจ้งปัญหาดังกล่าวผ่านบริการ Twitter

แม็ต ฮิคส์ โฆษกของ Facebook ออกมาแถลงยอมรับว่ามีเซิร์ฟเวอร์ของ Facebook มีปัญหาบ้างเล็กน้อย แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิก ไม่สามารถ log in เข้าไปได้ หรืออาจจะเข้าไปดู Profile ของเพื่อนไม่ได้ชั่วขณะ ซึ่งรายงานล่าสุดจากทาง Facebook ว่าทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้วเมื่อเวลา 6.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ปัจจุบัน Facebook มีผู้ใช้บริการกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก และพยายามอย่างเต็มที่ไม่ให้เกิดปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่ม ซึ่งที่ผ่านมา Facebook ยังไม่เคยล่มทั้งระบบ แตกต่างจาก Twitter ที่เคยถูกแฮ็คเกอร์โจมตีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้ล่มทั้งระบบมาแล้ว

เล่นเฟซบุ๊คนาน อาจทำให้ผิดปกติทางจิต

สมาคมจิตวิทยาอเมริกา (American Psychological Assasociation) ได้นำเสนองานวิจัยโดยสำรวจพฤติกรรมของวัยรุ่นที่ใช้อินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะการเข้าไปดูกิจกรรมต่าง ๆ บนเว็บไซต์ facebook  พบว่า วัยรุ่นเล่น facebook มีทั้งข้อดีและข้อเสีย   แต่ถ้าหากปล่อย เล่น facebook มากเกินไปอาจส่งผลกระทบทางจิตใจหลายอย่างดังนี้
– เกิดอาการติด  หลงตัวเอง มีอารมณ์ก้าวร้าว
– ไม่มีสมาธิในการเรียน ขาดเรียนเพิ่มขึ้น ผลการเรียนแย่ลง
– วิตกกังวล ตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า
– เสพติดอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน เช่น ติดแชต ติดเกม เป็นต้น
– ทำให้มีปัญหานอนดึกมากขึ้น พักผ่อนไม่เพียงพอ

แต่จากงานวิจัยนี้ก็ยังมีข้อดีเกี่ยวกับการใช้ facebook ด้วย คือการดูแลเอาใจใส่เพื่อน เห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แม้ว่าเราจะอยู่ในที่ต่างกันไกลแค่ไหน ก็ยังสามารถติดต่อกันได้และเป็นการเรียนรู้การเข้าสังคมได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้จากการรวมกลุ่มทำกิจกรรมดีๆของชาว facebook บนโลกความเป็นจริงที่ รวบรวมสมาชิกทำเพื่อสังคมเป็นจำนวนมากได้ ซึ่งมีจำนวนกลุ่มมากมาย

ผู้ใหญ่ควรดูแลแนะนำเรื่องเนื้อหาที่เหมาะสมบนโลกอินเทอร์เน็ต ให้กับลูกๆ ให้รู้เนื้อหาไหนดีไม่ดี ควรและไม่ควรทำและต้องเรียนรู้ปรับเข้าหากิจกรรมทางสังคมออนไลน์กับลูกๆ เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมและชี้นำคอยตัดเตือนลูกๆด้วยไม่ให้ลูกหลงผิดจากโลกออ นไลน์ ส่วนเด็กๆวัยรุ่น ก็ควรแบ่งเวลาในการใช้อินเทอร์เน็ต สลับกับพบกับเพื่อนบนโลกแห่งความเป็นจริง รวมทั้งแบ่งเวลาให้กับการอ่านหนังสือการทบทวนเนื้อหาตำราด้วย ทั้งในหนังสือและเนื้อหาบนโลกอินเทอร์เน็ต วิธีนี้จะช่วยให้ผลการศึกษาที่ดีต่อลูกได้ด้วย

http://www.it24hrs.com/2011/facebook-teens-study/
http://mashable.com/2011/08/08/facebook-teens-study/

จากข่าวที่ว่า สูญเงินมากไปกับโฆษณาออนไลน์รึเปล่า

chyutopia from thumbsup.in.th
chyutopia from thumbsup.in.th

คุณ chyutopia ชวนคิดว่า “ในขณะที่หลากหลายสื่อ หลากหลายกระแสต่างก็ชี้ไปในทิศทางเดียวกันเกี่ยวกับการเติบโตของการโฆษณาออ นไลน์ และผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนบนช่องทางเหล่านี้ นักโฆษณาและแบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มหันมาทุ่มเม็ดเงินจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ให้กับโลกไซเบอร์เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ในขณะที่ทุกคนต่างพยายามมองหา “เครื่องมือ” บนโลกออนไลน์ที่ทันสมัยและมีฐานผู้ใช้ที่ใหญ่โต หลายๆ คนกลับมองข้ามการเลือกใช้เครื่องมือใน “พื้นที่ที่เหมาะสม” กับ กลุ่มเป้าหมายด้วย ซึ่งนั่นจึงเป็นที่มาของการสูญเสียเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับการโฆษณาที่ไม่ ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ และในบางครั้งอาจจะเลวร้ายจนทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นลบกับแบรนด์หรือสินค้าไป ด้วยซ้ำ”
ชวนคิดต่อว่า “หากลองนั่งนึกกันเล่นๆ การที่จะเลือกลงโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เราอาจจะแค่หันมาตอบคำถามที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Who? (ใครคือกลุ่มเป้าหมาย) What? (สื่อสารด้วยข้อความอะไรดี) Where? (เลือกช่องทางไหนดีที่ให้ผลลัพธ์ทีี่ดีและคุ้มค่าที่สุด) When? (ประชาสัมพันธ์เวลาไหนถึงจะเหมาะสม) How? (จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีอย่างไรและวัดผลอย่างไร)?”

4w1h : who, what, where, when, how

http://thumbsup.in.th/2012/01/online-ads-waste-us-12bl/

ปี 2012 ปีที่ Facebook อาจถล่ม Google

ก่อนนี้ชาวออนไลน์นิยมค้นหาเว็บไซต์แปลกใหม่บนกูเกิล (Google.com) แต่วันนี้หลายคนพบเว็บไซต์ใหม่ผ่านเฟซบุ๊ก (Facebook) และทวิตเตอร์ (Twitter) ทิศทางทั้งหมดชัดเจนขึ้นมากในปี 2011 และกำลังมีแนวโน้มชัดเจนขึ้นอีกในปี 2012

สำนักข่าวพีซีเวิร์ลตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่ทำให้มนต์ขลังของกูเกิลเริ่มเสื่อมลงคือการแชร์หรือแบ่งปันลิงก์ เว็บไซต์บนเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ หากลิงก์เว็บไซต์ใดถูกโพสต์บนเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ แล้วเกิดโดนใจผู้ใช้รายอื่น ลิงก์เว็บไซต์เหล่านั้นก็จะถูกส่งต่อไปไม่รู้จบ ผลจึงทำให้ผู้ใช้สามารถพบเว็บไซต์ใหม่น่าสนใจบนเครือข่ายสังคมได้มากกว่าการ ค้นหาบนกูเกิล

หากมองในแง่ของสถิติการใช้งาน บริษัทวิจัย Nielsen ระบุว่าเฟซบุ๊กคือเว็บไซต์เดียวที่มีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกต่อเดือนไล่ตามกู เกิลได้มากที่สุด ปี 2011 เฟซบุ๊กนั้นมี 137 ล้านยูนีคไอพี เทียบกับกูเกิลซึ่งมี 153 ล้านไอพี แม้จะน้อยกว่า แต่เฟซบุ๊กกลับมีระยะเวลาผูกติดกับผู้มใช้ได้มากกว่า โดยการสำรวจเบื้องต้นพบว่า ชาวออนไลน์เทเวลามากกว่า 16% ให้กับเฟซบุ๊ก ซึ่งถือว่ามากกว่าเวลาที่ผู้ใช้เทเวลาให้เว็บไซต์อดีตยักษ์ใหญ่อย่างยาฮู (Yahoo), กูเกิล (Google), เอโอแอล (AOL) และยูทูบรวมกัน
เท่านี้ก็เรียกว่า เฟซบุ๊กสามารถถล่มเว็บไซต์อื่นได้ราบเรียบแล้วไม่เฉพาะกูเกิล แถมนาทีนี้ เฟซบุ๊กหรือ Facebook ยังกลายเป็นเว็บไซต์ที่ถูกค้นหาหรือเสิร์ชมากที่สุดในโลก โดยปี 2011 ถือว่าเฟซบุ๊กเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกันมาแล้ว

หากมองย้อนไปที่กูเกิลพลัส (Google Plus) เว็บเครือข่ายสังคมที่กูเกิลสร้างขึ้นเองนั้นถูกกูเกิลการันตีว่ามีการแชร์ คอนเทนต์เกินกว่า 1 พันล้านครั้งแล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังคิดเป็นเพียง 1 ใน 4 ของการแชร์คอนเทนต์บนเฟซบุ๊ก ซึ่งมีอัตราเติบโตมากกว่าเท่าตัวในแต่ละปี
อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้กูเกิลหมดมนต์ขลัง คือปัญหาเรื่องความปลอดภัย ในสายตาของชาวออนไลน์บางคน กูเกิลเริ่มเป็นสถานที่ซึ่งมีภัยเว็บไซต์ล่อลวงแฝงตัวอยู่จำนวนมาก และผู้ใช้ต้องระวังตัวในการคลิกลิงก์เว็บไซต์บนกูเกิลตลอดเวลา

ไม่แน่ว่ากูเกิลจะสามารถรู้ชะตาชีวิตตัวเองดีกว่าใคร จึงตัดสินใจเปิดตัวบริการกูเกิลพลัสซึ่งเป็นบริการที่สำคัญที่สุดนับตั้งแต่ กูเกิลเปิดบริการฟรีอีเมล Gmail ในปี 2004 ทั้งหมดนี้ทำให้แลร์รี่ เพจ (Larry Page) ผู้ก่อตั้งกูเกิลเบนเข็มบริษัทไปที่วงการโซเชียลมีเดีย โดยยอมตามหลังเฟซบุ๊กชนิดไม่แคร์สายตาใคร

หากรูปการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป กูเกิลซึ่งเป็นเจ้าแห่งตลาดเสิร์ชเอนจิ้นของโลกและครองตลาดโฆษณาออนไลน์ที่ ใหญ่ที่สุด จะต้องตกที่นั่งลำบากแน่นอน เพราะมีโอกาสสูงที่กูเกิลจะตกที่นั่งเดียวกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) ซึ่งแม้จะเป็นเจ้าตลาดเดสก์ท็อปอยู่ต่อไป แต่กลับไม่มีใครเห็นแววผู้นำในตัวไมโครซอฟท์

แน่นอนว่าเฟซบุ๊กคือส่วนหนึ่งในหลายเรื่องเด่นที่เกิดขึ้นตลอดปี 2011 ทั้งการจากไปของสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) และการบุกตลาดของแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนที่มากขึ้น แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้คือปี 2011 คือจุดเริ่มต้นการครองตลาดโลกของเฟซบุ๊กที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งมีโอกาสที่อิทธิพลของเฟซบุ๊กจะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2012 ซึ่งเป็นปีที่เฟซบุ๊กจะเริ่มขาย IPO และเข้าตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการ

ไม่แน่ว่า ปี 2012 เราอาจจะได้พูดถึงเฟซบุ๊กในฐานะเรื่องราวบนโลกไอทีที่ใหญ่ที่สุดประจำปีก็ ได้ ใครจะรู้

http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166794

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เราคุยกับสมาร์ทโฟนรู้เรื่อง (itinlife323)

โทรศัพท์ธรรมดาที่เคยใช้เพื่อการโทรออก และรับสายเข้าถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีการพัฒนาสมาร์ทโฟน (Smart Phone) ที่เป็นได้มากกว่าโทรศัพท์ธรรมดา ยุคสมัยหนึ่งนิยมเรียกสมาร์ทโฟนว่าคอมพิวเตอร์มือถือ เพราะนอกจากจะดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายภาพได้แล้ว ยังสามารถเปิดอ่านเอกสาร ตารางข้อมูล ตารางนัดหมาย ภาพถ่าย คลิ๊ปวีดีโอ หรือแฟ้มอื่นอย่างหลากหลาย ปัจจุบันรุ่นของสมาร์ทโฟนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ IPhone 4S ของบริษัทแอ็บเปิ้ล มีความสามารถใกล้เคียงกับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างมาก รองรับโปรแกรมจากผู้พัฒนาทั่วโลก และส่วนใหญ่ดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี

ในบรรดาโปรแกรมเสริม หรือแอพพลิเคชั่น (Application) ที่สามารถดาวน์โหลด หรือซื้อหามาติดตั้งนั้น มีแอพที่ชื่อว่า สิริ (SIRI) คือ ซอฟท์แวร์รับคำสั่งด้วยเสียง สามารถตอบคำถาม หรือสั่งงานอุปกรณ์ได้อย่างน่าทึ่ง เสมือนพูดคุยกับมนุษย์ตามหลักปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) โปรแกรมสิริเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 มีนักทำนายด้านเทคโนโลยีคาดการณ์ว่า การรับคำสั่งด้วยเสียง และนำไปพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ จะเป็นเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดในพ.ศ.2555 นี้ แม้อุปสรรคสำคัญของการรับคำสั่งด้วยเสียงคือภาษาและเสียงของมนุษย์ แต่จากการทดสอบ และมีผู้นำเสนอผลการทดสอบไว้ใน youtube.com ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นว่าอุปกรณ์กลุ่มสมาร์ทโฟนจะมีการพัฒนาไปในแนวของการรับคำสั่งด้วยเสียง หลังจากความสำเร็จจากการรับคำสั่งทางจอภาพ (Touch Screen) กลายเป็นที่ยอมรับไปแล้ว

ตัวอย่างประโยชน์ของการรับคำสั่งด้วยเสียง อาทิ บอกเวลา สั่งตั้งนาฬิกาปลุก สั่งเปิดเพลง สั่งเปิดเว็บไซต์ ตอบคำถามทั่วไป ตอบเรื่องการพยากรณ์อากาศ เวลา หรือสถานที่ ตอบได้ว่าผลบวก ลบ คูณ หารของจำนวนเป็นเท่าใด ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการประยุกต์ใช้สิริในสมาร์ทโฟน สำหรับโปรแกรมที่มีความสามารถคล้ายกับสิริ อาทิ Dragon Go หรือ Vlingo หรือ Tellme ความพยายามต่อยอดในการพัฒนาสิริพบได้อีกมายมาย อาทิ การสนับสนุนการใช้งานของผู้พิการ (Disability) การสั่งงานด้วยคลื่นสมอง (Brain Waves)

DSI บุกรวบหนุ่มไทยหลอกตั้งแชร์ลูกโซ่ iPhone 5

iphone4s & iphone4
iphone4s & iphone4

iPhone 5 (4S) – มิจฉาชีพอาศัยกระแสความต้องการ iPhone 5 (ก่อนที่จะกลายร่างมาเป็น iPhone 4S ในเวลาต่อมา) มาหลอกลวงและเอาเปรียบผู้ที่ไม่รู้เรื่องราวโดยทั่วไป หลังจากมีรายงานข่าวบนเว็บไซต์ Matichon ระบุว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ iPhone 5 เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สำหรับยอดค่าความเสียหายของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากกรณีแชร์ลูกโซ่ iPhone 5 ดังกล่าวมีรวมกันถึงเกือบ 300 ล้านบาทเลยทีเดียว!

เห็นแล้วก็นึกถึงกรณี ไอโฟนห่า ที่ก็เป็นกระทู้ยอดฮิตประจำปีในเว็บไซต์ Drama-Addict อยู่ไม่น้อยเหมือนกันกับความเสียหายของเหยื่อหลายรายที่ต้องหมดเงินจำนวนมาก ไปกับ iPhone 5 ที่แม้แต่ Steve Jobs ยังไม่เคยเห็นหน้าตาเลยด้วยซ้ำมั้ง!  ดีเอสไอจับหนุ่มหลอกตั้งแชร์ลูกโซ่ iPhone 5 เหยื่อเสียหายรวมมูลค่ากว่า 300 ล้าน (ที่มา: matichon)
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ศุภางค์ ตรงกมลธรรม กับผู้เสียหายรวม 22 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ กล่าวคือ ระหว่างเดือน มิ.ย.53 ถึง ต.ค.54 นายพฤติ จารุโภคกุล ได้ชักชวนหลอกลวง น.ส.ศุภางค์ ตรงกมลธรรม กับผู้เสียหายรวม 22 คน ว่าประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายโทรศัพท์มือถือ iPhone 4, iPhone iOS และ BlackBerry Bold 9900 รวมทั้งประมูลคอมพิวเตอร์ทางอินเตอร์เน็ตจากแหล่งรับซื้อขายโทรศัพท์ที่ต่าง ประเทศ ในลักษณะเก็งกำไร โดยมีร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองชื่อหมูแซตเทิลไลท์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นริชชี่ ชั้น 4 ฝั่งโซนคิว

นายพฤติ ได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ให้กู้ยืมเป็นเงินในอัตรา ร้อยละ 10-40 ของเงินลงทุนต่อรอบการลงทุนประมาณ 25-34 วัน ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ ทำให้ น.ส.ศุภางค์กับพวกหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงร่วมลงทุนและมอบเงินให้นายพฤติไป ซึ่งนายพฤติก็ได้ให้ผลประโยชน์ตอบแทนตามที่ตกลงเอาไว้มาโดยตลอด แต่ต่อมาประมาณเดือนมิถุนายน นายพฤติได้ส่งข้อความว่า จะซื้อ iPhone 5 มาขาย โดยอ้างว่าจะสั่งซื้อสินค้ากับบริษัทแอปเปิ้ล (Apple Computer Inc.) โดยตรงและจะเป็นผู้นำสินค้าไปขายให้กับกลุ่มลูกค้า หากสนใจร่วมลงทุนให้แจ้งความประสงค์ และโอนเงินเข้าบัญชี โดยจะให้กำไรถึงร้อยละ 10-42 ของเงินลงทุนต่อรอบการลงทุน 25-34 วัน ทำให้ น.ส.ศุภางค์กับพวกหลงเชื่อและโอนเงินให้ซึ่งก็ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเรื่อย มา กระทั่งในวันที่ 5 ตุลาคม บริษัท Apple ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย iPhone 5 ได้แถลงข่าวเลื่อนการเปิดตัว iPhone 5 เข้าสู่ตลาดออกไปก่อน ทำให้ น.ส.ศุภางค์กับพวกสงสัยและพยายามติดต่อกับนายพฤติ แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปและไม่จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้เสียหายที่ร่วม ลงทุนตามที่ตกลง รวมเงินที่นายพฤติหลอกลวงไปจากผู้เสียหายทั้งหมดจำนวน 301,329,977 บาท

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สอบปากคำผู้เสียหาย พบว่า ผู้เสียหายไม่เคยได้รับสินค้า เพราะนายพฤฒิจะเป็นผู้นำไปขายให้เองโดยอ้างว่ามีกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่าง ประเทศรับซื้ออยู่แล้ว จึงสืบสวนหาร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองตามที่นายพฤฒิ กล่าวอ้าง แต่ไม่ปรากฏว่ามีชื่อร้านดังกล่าวตั้งอยู่ หรือเคยทำสัญญาเช่าสถานที่กับห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง แต่อย่างใด นอกจากนี้ จากการสืบสวนหาข้อมูลจากกรมศุลกากร กรณีการประมูลโทรศัพท์มือถือจากต่างประเทศ และการนำเข้าโทรศัพท์มือถือในเบื้องต้นทราบว่า ไม่มีข้อมูลการได้รับใบอนุญาตนำเข้า และใบอนุญาตจากการกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรณีสินค้าลิขสิทธิ์ และจากการตรวจสอบเอกสารทางการเงินพบว่ามีการโอนระหว่างนายพฤฒิกับผู้เสียหาย ผ่านธนาคารต่างๆ จริง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับนายพฤฒิและสามารถติดตามตัวจับกุมมาได้ใน ที่สุด รวมทั้งได้ทำการบุกค้นบ้านพักในย่านห้วยขวาง พร้อมกับทำการตรวจยึดเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 รายการไว้ทำการตรวจสอบต่อไป

บทความโดย: ekk TechXcite
ที่มา: matichon

http://hitech.sanook.com/944406/dsi-%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88-iphone-5-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88/

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sitcom&month=08-12-2011&group=9&gblog=232

http://www.techxcite.com/content.php/10/7721/iPhone+5%3A+DSI+%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88+iPhone+5+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2+300+%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97!/

http://www.n1t2asuz.com/iphone-4s

คลิ๊ปแนะนำการติดตั้ง Flash Player ใน iphone 4

แกะเสียงร้องออกจากเสียงเพลง

2 ธ.ค.54 มีนักศึกษาถามว่า
จะทำ karaoke จากไฟล์เพลงได้อย่างไร
เมื่อถามในรายละเอียดก็พบว่า ต้องการตัดเสียงร้องออกไป
ผมได้ทดสอบโปรแกรมหนึ่ง คือ karaoke sound tools
ผลการทดสอบใน 3 ไฟล์เพลง ได้ผลดังนี้
1. เพลง ในหลวงของแผ่นดิน ที่ศิลปินร้องเป็นกลุ่ม
พบว่า โปรแกรมนี้แกะเสียงคนออกได้ระดับหนึ่ง
และทำได้เฉพาะตอน test
เมื่อส่งออกเป็นแฟ้มแล้วพบปัญหา ฟังไม่ได้เลย
และเครื่องที่ผมใช้ทดสอบ ไม่สามารถใช้ sound recorder
จึงไม่ได้ทดสอบบันทึกผลในขณะ test
ปัญหาเกิดจากเสียงเพลงต้นฉบับ เป็นเสียงประสาน
2. เพลง ที่ผมร้องเองที่บ้าน
พบว่า ระบบบันทึกไม่ดี เมื่อแกะเสียงคนออก
ทั้งเพลงทั้งคนหายหมดครับ
3. เพลง ใช่เลย ที่ download แบบ mp3
พบว่า เสียงต้นฉบับสมบูรณ์
เมื่อแยกเสียงคน กับดนตรี ก็จะได้เสียดนตรีออกมาชัดเจน
สรุปว่าการแยกเสียงคนออกจากเพลง
เพื่อนำไปทำคาราโอเกะ
จะต้องมีแฟ้มเพลงที่สมบูรณ์เพียงพอ
http://www.thaiall.com/blogacla/admin/799/

3.9G คืออะไร (itinlife 317)

19 พ.ย.54 ปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยในการดำรงชีวิตของคนทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางคนต้องพก 2 เครื่อง เพื่อใช้ในการทำงาน และใช้ส่วนตัว ส่วนนักเรียน นักศึกษาเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่ถูกยอมรับว่ามีกำลังซื้อสูงสุด เพราะเปลี่ยนมือถือตามแฟชั่น ผู้ผลิตออกรุ่นใหม่มาเป็นต้องเกาะกะแสไม่เคยพลาด ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่จะเปลี่ยนแต่ละทีคิดแล้วคิดอีก กำเนิดของโทรศัพท์เกิดในปีพ.ศ.2419 โดยนักประดิษฐ์ชื่ออเล็ก ซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander  Graham  Bell) แล้วในปี พ.ศ. 2420  โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas  Alwa  Edison) ก็นำมาพัฒนาต่อจนสามารถใช้งานได้จริง สำหรับประเทศไทยเริ่มใช้โทรศัพท์ในปีพ.ศ.2450 โดยกรมไปรษณีย์โทรเลขได้นำเครื่องโทรศัพท์ระบบไฟกลาง (CENTRAL BATTERY: CB)  ติดตั้งเครื่องชุมสายระบบไฟกลางวัดเลียบ ซึ่งเป็นเครื่องชุมสายแห่งแรกในประเทศไทย

แต่ละยุคมีเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน ยุคแรก หรือ 1G ใช้ Cellular ที่ยังเป็น Analog มาเป็นยุค 2 G ใช้ GSM ที่เริ่มเป็น Digital แล้ว ยุค 2.5 ใช้ GPRS ยุค 2.75G ใช้ EDGE ยุค 3G ใช้ WCDMA ยุค 3.5G ใช้ HSDPA ยุค 3.9G ใช้ HSDPA+ โดยสรุปแล้ว 3.9G เร็วกว่า 3G กว่า 20 เท่า แล้ว 3G ก็เป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยไปแล้ว ส่วน 4G ยังเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่เกิดขึ้นในโลก ดังนั้นเราไปได้ไกลสุดก็เพียง 3.9G

ถ้าเราใช้ 3.9G ก็จะเป็นประเทศแรก ๆ ในอาเซียน และให้บริการระยะเดียวกับญี่ปุ่น ระบบนี้ใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz เป็นคลื่นความถี่สากล โดยเราเป็นประเทศที่ 24 ของโลก และเป็นประเทศที่ 4 ของเอเชียที่ใช้คลื่นนี้ ถ้ามีโทรศัพท์ที่รองรับ 3.9G คือ รองรับ HSDPA+ ก็จะโทรศัพท์แบบเห็นกันได้   เล่นอินเตอร์เน็ตด้วยความเร็วถึง 42 Mbps แต่โทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ยังหาได้ยากในท้องตลาด และมีราคาสูง ซึ่งเชื่อได้ว่าอีกไม่นานเราก็จะได้ใช้ 3.9G กันทุกคน เพราะถ้าผู้ส่งต้องการเห็นภาพของเรา แต่โทรศัพท์ของเรายังเป็นจอสีเดียว คงสื่อสารกันไม่สนุก แล้วเวลานั้นก็คือเวลาที่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์อีกครั้ง

http://www.thailand39g.com

http://www.39gthailand.com

java version 7 update 1

ภาษาจาวา ของ sun ที่ถูกซื้อโดย oracle เมื่อปี 2009
java compiler รุ่น 7 update 1 มี logo ของ oracle ชัดเจน จึงต้องทำ clip แนะนำการติดตั้ง การเขียน การแปล และประมวลผล ตอนใหม่อีกแล้ว เพราะตำแหน่งเข้าถึงตัวแปลภาษาเปลี่ยนไป เปลี่ยนตามรุ่นของตัวแปลภาษา ตัวแปลภาษามีขนาดประมาณ 80 MB และยังใช้ javac กับ java ได้เหมือนเดิม แล้วยังใช้ editplus สั่งงานได้ มีวิธีติดตั้งที่
http://www.oracle.com/technetwork/java/javase/downloads/index.html
http://www.oracle.com/us/corporate/press/018363