คำถาม .. จะมีพ่อแบบที่ google ฉายภาพออกมา มีจริงอ่ะ
คำตอบ .. มีจริงครับ เช่น คุณพ่อน้องเป๊ป กับ คุณพ่อน้องเอมิจัง
1. คุณพ่อภาวุธ แห่ง tarad.com หรือคุณพ่อน้องเป๊ป กับน้องป้อน
https://pawoot.wordpress.com/2014/04/13/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A9%E0%B8%B2-2014/
2. คุณพ่อน้องเอมิจัง (Amijung)
http://karn.tv/easyblog/categories/listings/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81
—
เคยดูคลิ๊ป “จากใจพ่อ” ของ google.com
เผยแพร่เมื่อ 7 มิถุนายน 2011 ใน https://www.youtube.com/user/GOOGLEThailand
เป็นเรื่องของ พ่อนรินทร์ กับน้องนิม เป็นคลิ๊ปแรกที่กูเกิ้ลทำโฆษณาทีวีสำหรับท้องถิ่น ก็ที่ประเทศไทยนี่หละ
Category: ศิลปวัฒนธรรม
ศิลปวัฒนธรรม
วู้ดดี้ กับแจ็คแฟนฉัน พิธีกรคู่ผิดจรรยาบรรณ ติดคุก ไม่รอลงอาญา
เป็นพิธีกรก็ลำบากใจ และกาย ได้เหมือนกันนะ
จากกรณีที่พิธีกรนำเสนอข่าวอย่างไม่เป็นกลาง ถือว่าผิดจรรยาบรรณ
ศาลพิพากษาจำคุก นายวุฒิธร หรือวู้ดดี้ และ นายเฉลิมพล หรือแจ๊ค แฟนฉัน ในฐานะพิธีกร และพิธีกรร่วม
คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา เพราะ ไปคดีหมิ่นไฮโซแชมป์ เมื่อปี 2556
ในรายการเช้าดูวู้ดดี้ ที่ช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี
—
ผมว่าเป็นคดีประวัติศาสตร์อีกคดี ที่พิธีกรชื่อดัง
ระดับประเทศที่ใคร ๆ ก็รู้จัก .. ติดคุก
เพราะผู้ร่วมรายการไปว่าร้ายคนอื่น แล้วตัวเองต้องรับโทษไปด้วย
นึกถึงพิธีกรบางคน .. ไม่เห็นสาหัสขนาดนี้เลย
http://news.voicetv.co.th/thailand/182892.html
http://www.thairath.co.th/content/488546
สลุงหลวง กลองใหญ่ ปีใหม่เมือง นครลำปาง
http://thaiabc.com/lampangnet/admin/1193/
บริษัทรับจ้างจับผิด
มีตอนหนึ่งในเรื่องบอกว่า เมื่อจับผิดใครได้
ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงออกว่าเราจับผิดได้ ทุกครั้งไป
บางเรื่องก็ควรปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เพราะธรรมชาติของมนุษย์ย่อมมีการโกหก
มิเช่นนั้นก็จะทำให้เครียดเกินไป .. ปล่อยวางซะบ้าง
รวมคลิ๊ปเกี่ยวกับพิธีประสาทปริญญาบัตร
รวมคลิ๊ปงานรับปริญญา และภาพบรรยากาศ
1. น้องเอ๋ เล่าบรรยากาศงานรับปริญญา
https://www.youtube.com/watch?v=I7T1ByJP-8E
1.1 ข่าวงานรับปริญญาโดย ธัญพิสิษฐ์ เล่าเรื่องคลิ๊ปน้องเอ๋
https://www.youtube.com/watch?v=I7T1ByJP-8E
2. พิธีประสาทปริญญาบัตร วันแรก โดยเจม (9.21 นาที)
https://www.youtube.com/watch?v=I2FDTYzZM44
3. พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) บรรยายพิเศษ
https://www.youtube.com/watch?v=PiglXCxn7QA
4. แสดงความยินดีกับบัณฑิต ขอ 3 คำ
https://www.youtube.com/watch?v=J0oINaER43s
5. ขานชื่อบัณฑิตเดินเข้ารับปริญญาของคณะต่าง ๆ
https://www.youtube.com/watch?v=bKdK6_vwFQ0
6. บูมบัณฑิต วีดบูม
https://www.youtube.com/watch?v=x4By0hLFERY
7. ซ้อมรับปริญญาคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
https://www.youtube.com/watch?v=xaeJ-UbEML4
8. สัมภาษณ์บัณฑิต .. ลูกสาวคุณนิเวศน์ อินติ๊บ
https://www.youtube.com/watch?v=OGeKOJf-wH8
9. พิธีประสาทปริญญาบัตร
https://www.youtube.com/watch?v=c03tWmIhkmo
ข้อพึงปฏิบัติและข้อห้ามในพิธีประสาทปริญญาบัตร
ลูกค้าถูกเสมอ เป็นกฎที่ทำให้ผู้คนเชื่อว่ามีอย่างอื่นสำคัญกว่า “ความถูกต้อง”
ชวนมองต่างมุมเฉย ๆ ครับ
จากการที่เคยเรียน และเคยเชื่อ
ว่า .. มีอย่างอื่นสำคัญกว่าความถูกต้อง คือ “ลูกค้า”
เพราะเคยเห็นนโยบายขององค์กรในตำรา ที่เขียนว่า
Rule 1. The customer is always right!
Rule 2. If the customer is ever wrong reread rule 1.
แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น
http://www.aecnews.co.th/focus/read/261
กรณีที่ 1
มีข่าวว่าแม่ค้าที่ประเทศจีน
แก้ผ้าลูกค้าประจาน ในความผิดที่ขโมยเสื้อผ้าในร้าน
ถ้าแม่ค้ายึดนโยบายลูกค้าถูกเสมอ เหตุการณ์นี้คงไม่เกิดขึ้น
http://news.truelife.com/detail/3256491
กรณีที่ 2
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกปิด
เพราะมองนักศึกษาเป็นลูกค้า
เมื่อลูกค้าอยากซื้อใบปริญญา ก็ขายให้
แม้นักศึกษากระทำผิดแต่ก็ไปสนับสนุน
โดยเชื่อว่าลูกค้าถูกเสมอ แล้วตนเองก็กระทำผิด
http://www.globalpurchasinggroup.com/the-customer-isnt-always-right/
กรณีที่ 3
ผลสำรวจของ ABAC Poll
เผยผลสำรวจ ระบุประชาชน เกินร้อยละ 60 รับได้
ถ้ารัฐบาลคอร์รัปชั่น แล้วตนเองได้ประโยชน์
อะไรก็ตามที่ทำแล้วตนเองได้ประโยชน์ มีมนุษย์ไม่น้อยคิดว่าเป็นความถูกต้อง
ผมว่าน่าคล้อยตามอยู่ไม่น้อย
http://www.thaiall.com/blog/burin/5410/
ความเป็นมาของการส่งความสุขที่เปลี่ยนไป (itinlife 481)
http://tccontent.blogspot.com/2013/11/blog-post_3001.html
ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ พบว่าเริ่มมีการส่งบัตรเยี่ยม หรือ การ์ดข้อความมามากกว่า 200 ปีแล้ว ประเทศไทยรับธรรมเนียมการส่งบัตรอวยพรจากต่างชาติ แบบแรกคือ บัตรอวยพรปีใหม่ ซึ่งพบหลักฐานที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 เคยจัดทำเป็นภาษาอังกฤษเมื่อ พ.ศ.2409 ปรากฏในหนังสือพิมพ์ The Bangkok Recorder ของ หมอบรัดเลย์ (Dr.Dan Beach Bradley) ต่อมาได้เกิดคำว่า ส.ค.ส. ที่ย่อจาก ส่งความสุข ในต้นรัชกาลที่ 5 จนมีการเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากเมษายน เป็นมกราคม ตามแบบสากลเมื่อ พ.ศ.2483 และนิยมสงการ์ดอวยพรเรื่องมาถึงปัจจุบัน
เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างมาก หลายปีก่อนนิยมส่งข้อความถึงกันด้วยอีเมล (E-Mail) และมีบริการส่งบัตรอวยพรทางเว็บไซต์ ทำให้บัตรอวยพรที่ส่งทางไปรษณีย์เริ่มเสื่อมความนิยมลง แต่มีการรับส่งบัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ (E-Card) ทางอีเมลกันมากขึ้น ต่อมาโทรศัพท์มีบริการรับส่งข้อความแบบสั้น หรือ SMS (Short Message Service) ทำให้การส่งความสุข หรือข้อความยินดีในแต่ละเทศกาลเริ่มเปลี่ยนไป บางท่านที่มีเพื่อนมากอาจได้รับข้อความในเทศกาลปีใหม่นับร้อย บางท่านมีเพื่อนน้อยอาจได้รับเป็นสิบข้อความเข้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในต้นปี 2558 สถิติการส่งข้อความสั้นลดลงตามคาด และลดลงมากกว่าปีที่ผ่านมา จากรายงานข้อมูลของผู้ให้บริการทั้ง ดีแทค เอไอเอส และทรูมูฟ เอช
การใช้งานดาต้าในช่วง 23.45 – 00.15น. เปลี่ยนปีเก่าเป็นปีใหม่ เทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่ามียอดการใช้งานสูงขึ้น 3 – 4 เท่า ซึ่งผู้ใช้ส่งข้อความหากันผ่านโซเชียลมีเดียหลัก 3 ราย คือ Line, Facebook และ Instagram ทั้งนี้กระแสการใช้งาน Line Sticker ได้รับการสนับสนุนประชาสัมพันธ์จากภาครัฐ มีแบบสติ๊กเกอร์ 16 แบบให้ดาวน์โหลดฟรี เพื่อส่งเสริม “ค่านิยมสิบสองประการ” และแบบที่ 13 มีคำว่า “สวัสดีปีใหม่” ซึ่งผมก็ได้รับจากเพื่อนหลายท่าน แต่ในทางตรงกันข้ามปีนี้กลับไม่ได้รับข้อความส่งความสุขทาง SMS เลย ต่อจากนี้แนวโน้มการส่งข้อความของผู้ใช้เทคโนโลยีก็จะใช้บริการผ่าน Line และ Facebook เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าท่านกำลังพิจารณาว่าจะส่งความสุขถึงใครสักคนก็คงต้องพิจารณาว่าผู้รับจะสะดวกรับทางใด ซึ่งคาดเดาได้ไม่ยากนักในยุคสังคมก้มหน้า
http://www.jobmarket.co.th/news/detail.php?dd=5978
http://www.manager.co.th/cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9580000000110
http://www.mxphone.net/010115-3-operetor-new-year-data-usage-up/
รักพ่อต้องกลับบ้าน
เป็นคลิ๊ปสะท้อนว่า ใครไปทำมาหากินนอกบ้านเกิด
ถ้าลืมตาอ้าปากได้แล้ว มีเงินเก็บพอเกษียณ ก็น่าจะกลับไปอยู่กับพ่อได้แล้ว
ผมว่าสร้างความสะเทือนใจให้ทั้งพ่อและลูกที่แยกกันอยู่ได้ดี
คนไม่เหมือนคอมย่อมลำเอียงได้ (itinlife474)
น้ำต้มผัก ไม่มีน้ำตาล ถ้าบอกว่าหวาน แสดงว่าใช้ความรู้สึก
นั่งอ่านสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับ ได้เห็นความเหมือนและความต่างอย่างชัดเจน ทั้งสื่อท้องถิ่นและสื่อส่วนกลางต่างก็มีแนวโน้มเลือกข้างหรือลำเอียงไปทางผู้ให้การสนับสนุน โดยเฉพาะสื่อท้องถิ่นที่มีค่าสนับสนุนต่ำทำให้ต้องรับผู้ให้การสนับสนุนมากขึ้น และทุกฉบับก็จะมีเนื้อหาเอนไปทางผู้ให้การสนับสนุน จนเหลือพื้นที่ให้กับข้อมูลข่าวสารลดลง ซึ่งมองได้ว่ามีความลำเอียง (Bias) ต่อสารที่สื่อออกไป อาจถือเป็นเรื่องปกติของสื่อที่อยู่ได้ด้วยการสนับสนุนจากองค์กรหรือหน่วยงาน การลำเอียงอาจเกิดขึ้นน้อยกับสื่อที่มีทุนสนับสนุน หรืออยู่ได้ด้วยตนเอง
เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ใช่มนุษย์จึงไม่มีความรู้สึก ทำให้นำเสนอข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีลำเอียง หรือไม่มีปัจจัยทางเศรษฐกิจมาควบคุมจะปฏิบัติตามภารกิจที่กำหนด เช่นภาพยนตร์เรื่อง Transcendence ที่คอมพิวเตอร์สมองมนุษย์ตั้งใจจะช่วยเหลือโลก แต่มนุษย์เป็นฝ่ายที่ตั้งข้อสงสัย และไม่ไว้ใจตามประสบการณ์ที่ผ่านมา มนุษย์เราบางครั้งกำหนดเป้าหมายไว้ทางหนึ่ง ทำแผนไว้ทางหนึ่ง ดำเนินการไปอีกทางหนึ่ง แล้วก็ไปสรุปผลอีกทางหนึ่ง ก็สามารถพบเห็นได้ เพราะความเชื่อเป็นปัจจัยให้มีพฤติกรรมเอนเอียงไม่สนใจความจริง ซึ่งอาศัยความพึงพอใจ และอารมณ์เป็นตัวกำหนดพฤติกรรม ถ้าชอบก็จะหาเหตุผลมาแก้ต่างให้รอดพ้นจากการถูกวิพากษ์อยู่เสมอ
การลำเอียงเป็นเรื่องปกติ เพราะทำให้มนุษย์มีสังคม มีพรรคพวก มีกลุ่มอาชีพ ร่วมกันคิดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และตัดสินใจร่วมกันตามมติของกลุ่ม ไม่ขัดแย้งกันในกลุ่มแต่เอนเอียงการตัดสินใจไปทางเสียงข้างมาก ทำให้เกิดพลังในการต่อรองกับสังคมภายนอก ร่วมเผชิญศึกเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่ม ต่างกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่ลำเอียง ไม่รู้จักการผสมผสานความเชื่อ ถูกหรือผิดมีเพียงสองเงื่อนไขตามตรรกะตัดสินใจ แต่มนุษย์สามารถมองข้ามความผิดพลาดว่าเกิดได้ ทุจริตได้บ้าง โหดร้ายตอนที่หิวก็ได้ เช่นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น ยอมรับได้ถ้าตนเองได้ประโยชน์ หรือทำให้ตนเองอยู่รอด ซึ่งความอยู่รอดไม่ใช่เงื่อนไขที่คอมพิวเตอร์ต้องคำนึงถึง แต่สำหรับมนุษย์แล้วความอยู่รอดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงทำให้การเลือกข้างกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับมนุษย์