บริษัทโนเกียปลดคนงานเป็นหมื่น (you are fired)

บริษัทโนเกียปลดคนงานเป็นหมื่น
บริษัทโนเกียปลดคนงานเป็นหมื่น

บริษัทโนเกียปลดคนงานเป็นหมื่น

ปัจจุบันมีบริษัทขนาดใหญ่มากมายเกิดขึ้นในโลก โดยอาศัยแรงผลักจากนวัตกรรมแบบก้าวกระโดด แต่จากการติดตามข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีก็พบว่าบริษัทขนาดใหญ่ไม่น้อยยุบรวมเข้าด้วยกัน ทำให้สัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ไม่แน่นอน แม้แต่บริษัทแอบเปิ้ลก็เคยสั่นคลอนมาก่อนที่สตีฟ จ็อบ จะเข้าไปรับตำแหน่งบริหารในรอบสอง แล้วด้วยความนิยมในผลิตภัณฑ์ อาทิ ipod iphone และ ipad ทำให้มีบริษัทมากมายต้องล้มหายไปจากการพ่ายแพ้ในการแข่งขัน บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ระดับโลกอย่างบริษัท HP และ Compaq ก็ยุบรวมกันมาหลายปีแล้ว แต่หลังยุบรวมก็ยังมีแนวโน้มที่ไม่ดีนัก เพราะลูกค้ามีตัวเลือกมากมาย
มาตรการลดค่าใช้จ่ายถูกนำมาใช้กับบริษัทโนเกีย ซึ่งคนไทยทุกคนน่าจะรู้จัก เพราะเป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุดยุคหนึ่ง ถ้าจะใช้โทรศัพท์ไฮโซก็ต้องยี่ห้อโนเกีย แต่มาวันนี้มีข่าวว่า Stephen Elop ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท ประกาศจะลดพนักงานลงกว่า 10,000 คน จากก่อนหน้านี้ลดไปแล้วหลายพันตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยให้โนเกียมีศักยภาพในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในระยะยาว ตั้งแต่บริษัทประกาศในต้นปี 2554 ว่าจะยกเลิกระบบปฏิบัติการซิบเบียน (Symbian) แต่ไปใช้ระบบวินโดว์โฟน (Windows Phone) ของไมโครซอฟท์สำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของบริษัท ทำให้หุ่นตกลงอย่างต่อเนื่องกว่า 70%
เมื่อต้นปี 2012 มีรายงานว่าบริษัทโนเกียเคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของโลกติดต่อกัน 14 ปี แต่ถูกบริษัทซัมซุงของเกาหลีใต้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทน จากการคาดการณ์เชื่อว่ามาตรการลดค่าใช้จ่าย (Reduce Cost) จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะความนิยมในการใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อ iPhone ยังไม่มีทีท่าชะลอตัว ประกอบกับกระแสของ Windows 8 จะส่งเสริมให้ TabletPC เป็นทางเลือกใหม่ของการสื่อสาร แล้ว อ.ธวัชชัย แสนชมภู แนะนำว่า Samsung Galaxy Tab 10.1 ที่มหาวิทยาลัยเนชั่นจัดให้นั้น สามารถใช้เป็นโทรศัพท์แบบเห็นหน้าที่โทรออกผ่านซิม 3G หรือ Wi-Fi ด้วย Tango Apps ได้ เป็นอีกนวัตกรรมของการสื่อสารที่กระทบสมาร์ทโฟนแบบเดิมอย่างแน่นนอน

แหล่งเก็บข้อมูลในก้อนเมฆ

แหล่งเก็บข้อมูลในก้อนเมฆ (Cloud Storage)

storage-cloud
storage-cloud

ในอนาคตอันใกล้ แนวโน้มการจัดเก็บข้อมูลในสื่อต่าง ๆ อาจเปลี่ยนเป็นไป เราเคยใช้แผ่นดิสก์ (Floppy Disk) ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) แผ่นซีดี (CD-ROM) และแฟรชไดร์ฟ (Flash Drive) ปัจจุบันมีบริการคลาวสตอเรจ (Cloud Storage) หรือ แหล่งเก็บข้อมูลในก้อนเมฆ หรือ แหล่งเก็บข้อมูลในระบบอินเทอร์เน็ต คือ การมีผู้ให้บริการจัดเตรียมสื่อเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่พร้อมให้บริการ โดยผู้ใช้ไม่ต้องทราบว่าเครื่องจัดเก็บข้อมูลนั้นอยู่ที่ใด เพียงแต่เสียค่าใช้จ่ายตามลักษณะของบริการ ขนาด หรือ Bandwidth ที่ใช้ ส่วนสถานที่จัดเก็บ การดูแลรักษา หรือเทคโนโลยีที่ใช้เป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการ
ผู้เขียนมีโอกาสใช้แท็บเล็ต (TabletPC) ที่ใช้ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัทกูเกิ้ล (Google) ชื่อว่าแอนดรอย (Android) รุ่นหนึ่ง ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์พกพาอาท สมาร์ทโฟน (Smart Phone) หรือแท็บเล็ต พบว่า ซอฟท์แวร์ในอุปกรณ์ได้จำกัดความสามารถในการเลือกแฟ้มที่จะอัพโหลด (Upload) โดยแฟ้มที่สามารถอัพโหลดได้มีเพียงแฟ้มประเภทภาพถ่าย (Photo) เสียง (Sound) และคลิ๊ปวีดีโอ (Video) เป็นต้น แต่ถ้าจะอัพโหลดแฟ้มประเภท PDF, DOC, PPT, XLS ก็ต้องถ่ายโอนออกจากแท็บเล็ต ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) จึงจะอัพโหลดไปยังแหล่งเก็บข้อมูลที่ต้องการได้
หากต้องการจัดการกับแฟ้มเอกสารก็พบว่ามีบริการกูเกิ้ลดอค (Google Docs) ของบริษัทกูเกิ้ล ซึ่งเป็นสื่อประเภทคลาวสตอเรจ ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถสร้างแฟ้ม แก้ไข ดาวน์โหลด หรือแบ่งปันแฟ้มกับเพื่อนให้ร่วมกันแก้ไขแบบร่วมแรงร่วมใจ (Collaboration) ดังนั้นอีกทางเลือกที่จะใช้แท็บเล็ตทำงานกับแฟ้มข้อมูล คือ ใช้บริการของกูเกิ้ลดอค แทนการเก็บข้อมูลในสื่อดั่งเดิมที่สามารถดาวน์โหลดแฟ้มเอกสารมาอ่าน และแก้ไขได้ แต่ไม่สามารถอัพโหลดแฟ้มที่แก้ไขแล้วกลับเข้าไปทับแฟ้มเดิม หากจะใช้งานได้ก็ต้องเลือกใช้งานคลาวสตอเรจ หากแนวโน้มเป็นการใช้คลาวก็จะทำให้ความนิยมแฟรชไดร์ฟ และซอฟท์แวร์จัดการเอกสารดั้งเดิม (Classic Document Software) ลดบทบาทไปในอนาคต แล้วเรามาร่วมสังเกตการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้สตอเรจของมนุษย์ที่กำลังปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยกัน

Cloud storage is a model of networked online storage where data is stored in virtualized pools of storage which are generally hosted by third parties. Hosting companies operate large data centers, and people who require their data to be hosted buy or lease storage capacity from them. The data center operators, in the background, virtualize the resources according to the requirements of the customer and expose them as storage pools, which the customers can themselves use to store files or data objects. Physically, the resource may span across multiple servers.
http://en.wikipedia.org/wiki/Cloud_storage

เหตุผลที่อาจเลิกเข้าเฟซกรุ๊ป

old version of yammer.com
old version of yammer.com

2 มิ.ย.55 หากมีคำถามว่า ในปัจจุบันผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้เวลานาน และมีจำนวนผู้ใช้มากที่สุด อยู่ในเว็บไซต์ใด ก็คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมของเฟซบุ๊ค (Facebook.com) และพฤติกรรมของผู้ใช้ส่วนหนึ่ง ก็มิได้เกาะติดกับหน้าโปรไฟร์ (Profile) แต่เป็นขาประจำของกรุ๊ป (Group) หรือกลุ่มเฉพาะ อาทิ เพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมหอพัก เพื่อนร่วมองค์กร เพื่อนร่วมธุรกิจ เพื่อนร่วมชมรม เพราะมีเป้าหมาย และสนใจเรื่องเดียวกัน ซึ่งเฟซบุ๊คสามารถตอบความต้องการของกลุ่มได้อย่างลงตัว หากรวมคำว่าเฟซบุ๊ก กับคำว่ากลุ่มเพื่อน ก็อาจเรียกอีกชื่อว่า เฟซกรุ๊ป (Facegroup = Group in Facebook.com) ซึ่งผู้เขียนพบเพื่อนหลายท่านมิได้สนใจการแบ่งปันในหน้าโปรไฟร์ จะมีกิจกรรมเฉพาะในกลุ่ม เพราะคนคุ้นเคย หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียล้วนอยู่แต่ในกลุ่ม

จากการใช้บริการ yammer.com แล้วมีผู้ใหญ่ใจดีแนะนำว่าน่าจะย้ายจาก เฟซกรุ๊ป ไปอยู่ใน yammer แทนด้วยเหตุผล 5 ข้อ คือ 1) มีบริการสนับสนุนการสื่อสารที่ดีกว่า อาทิ การตอบผู้เขียนบันทึก หรือตอบผู้ที่ตอบบันทึกเฉพาะคนได้ 2) สร้างกลุ่มเฉพาะในองค์กรที่มีความเป็นส่วนตัว และข้อมูลปลอดภัยกว่า 3) ควบคุมการเข้าออกของสมาชิกได้ดีกว่า 4) สนับสนุนให้บุคลากรทั้งองค์กรใช้ระบบอีเมลเดียวกัน ทำให้การสื่อสารมีความเป็นมาตรฐาน 5) รองรับห้องเก็บแฟ้มข้อมูลของกลุ่ม และมีระบบรุ่นของเอกสารที่เข้าถึงได้ทุกรุ่น

ปัจจุบันพฤติกรรมการเข้าถึงเครือข่ายสังคมของผู้ใช้ในบางองค์กรเริ่มเปลี่ยนจากการเข้าไปพบเพื่อนร่วมงานในเฟซกรุ๊ปก็หันไปพบเพื่อนร่วมงานใน yammer เพราะส่วนใหญ่ไปใช้ชีวิตกันใน yammer หมด สาเหตุมาจากสามารถคุยเรื่องงานได้เต็มที่ ไม่มีคนนอกองค์กรเข้ากลุ่ม รองรับการเขียน Page หรือ Poll เพื่อนำเสนอเนื้อหาแบบไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลด มีบริการ Subscribe ส่งรายละเอียดแจ้งไปกับอีเมลได้ มี Apps เพิ่มเติมให้ใช้งาน และการใช้งานเหมือนกับเฟซบุ๊กก่อนเปลี่ยนเป็น timeline ทำให้ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ แล้วเรามาดูอนาคตของเฟซบุ๊คกันต่อไป ว่า yammer จะมาแทนเฟซบุ๊คได้หรือไม่ และเป็นอย่างไรต่อไป

http://blog.duoconsulting.com/tag/yammer/

ชวนมองโอเอสของปี2556 (itinlife341)

สถิติการใช้งานระบบปฏิบัติการของผู้ใช้
สถิติการใช้งานระบบปฏิบัติการของผู้ใช้

6 พ.ค.55 พ.ศ.นี้ชาวโลกใกล้ชิดกับความหลากหลายของระบบปฏิบัติการมากขึ้น เพราะในอดีตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานทั้งในสำนักงานและที่บ้านคือ เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) ล้วนแต่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ จากตารางสถิติใน truehits.net เดือนเมษายน 2555 พบว่า ระบบปฏิบัติการของผู้ใช้ที่บันทึกไว้เป็นกลุ่ม Windows มีร้อยละ 89.39 ที่ตามมาคือ iOS ของ Apple มีร้อยละ 13.24 และ Linux OS ของทุกค่าย มีร้อยละ 0.26 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า กลุ่ม Windows มีร้อยละ 96.41 ที่ตามมาคือ iOS ของ Apple มีร้อยละ 4.09 และ Linux OS ของทุกค่าย มีร้อยละ 0.11 ซึ่งการแข่งขันของระบบปฏิบัติการยังคงดุเดือนอยู่ต่อไป

แต่ในการรับรู้ของผู้ใช้ พบว่ายอดขายของ iPad พุ่งทะลุทุกค่าย จนมีข่าวการแข่งขันระหว่าง iOS และ Android ในสื่ออย่างต่อเนื่อง แล้วองค์กรหรือสถาบันการศึกษาหลายแห่งก็เปลี่ยนนโยบายจากการแจก Notebook ไปเป็น Tablet PC ตามกระแสความนิยม ซึ่งระบบปฏิบัติการของ iPad คือ iOS แต่ถ้าเป็น Samsung Galaxy หรือ Acer iconia จะใช้ Android ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Linux ที่พัฒนาโดยบริษัท Google แต่ข่าวการพัฒนาที่จะกระทบผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ของโลกคือระบบปฏิบัติการวินโดว์ 8 ที่จะเปิดตัวรุ่นตัวอย่าง (Preview Version) ในเดือนมิถุนายน 2555

การเปิดตัวระบบปฏิบัติการวินโดว์ 8 น่าจะมีความพร้อมในปี 2556 เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูลผ่านระบบสัมผัสจอภาพ (Touch Screen) ยังมีราคาสูง เชื่อว่าความพร้อมของเทคโนโลยี การยอมรับของผู้ใช้จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตจอภาพที่ทำงานร่วมกับวินโดว์ 8 มีราคาลดลงพอที่ผู้บริโภคจะสามารถเป็นเจ้าของได้ ปัจจุบันผู้ใช้บางคนมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานประจำถึง 3 เครื่อง เพราะการพกพาอุปกรณ์ติดตัวเพื่อตามข้อมูลข่าวสารก็ใช้ Tablet PC แต่ถ้าต้องใช้ซอฟท์แวร์ด้านประมวลผล พัฒนาระบบ กราฟฟิก และนำเสนอ ที่เคลื่อนย้ายได้ก็จะเลือกใช้ Notebook แต่ถ้าต้องการเครื่องที่ประมวลผลสูงสุด ความปลอดภัยเป็นเลิศ หรือจอแสดงผลขนาดใหญ่ก็ต้องเลือก Desktop ซึ่งอุปกรณ์แต่ละแบบอาจใช้ระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน หากวินโดว์ 8 เปิดตัว และสามารถประมวลผลได้กับคอมพิวเตอร์ทุกแบบ นั่นอาจเป็นการผูกขาดของระบบปฏิบัติการอีกครั้งก็เป็นได้

http://truehits.net/graph/graph_stat.php

http://www.bestcovery.com/best-free-operating-system

http://www.rankings.cz/en/rankings/operating-systems.html

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1335354300&grpid=&catid=09&subcatid=0904

http://www.digitaltrends.com/mobile/android-grabs-number-one-mobile-operating-system-ranking/

ภาพโป๊ในสภากับวายฟาย (itinlife 340)

LG LX9500 3D TV
LG LX9500 3D TV

กลายเป็นข่าวดัง กับภาพฉาวกลางสภา 2 เหตุการณ์ ทั้ง ส.ส.เปิดภาพโป๊ด้วยไอโฟนในระหว่างการประชุม และจอทีวียี่ห้อแอลจีเครื่องหนึ่ง แพร่ภาพโป๊โดยไม่ทราบแหล่งที่มาชัดเจน จนเกิดความพยายามในการหาต้นตอ ซึ่งเป็นที่มาของภาพ เหตุที่เรื่องนี้เป็นข่าวเพราะเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นที่รวมพลผู้นำของประเทศไทย ที่คนไทยเลือกตั้งเข้าไปเป็นตัวแทนของชุมชนร่วมกำหนดทิศทางของประเทศ อาจสรุปได้ว่าผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านเป็นผู้ที่ล้วนมีเกียรติ

ในที่ชุมนุมอันทรงเกียรติ มักมีการควบคุมเรื่องอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อให้เกียรติประธานและผู้ร่วมประชุมว่าจะไม่ส่งเสียงรบกวนให้เสียสมาธิ จนทำให้พลาดประเด็นใดที่เกิดจากการประชุม คนไทยเรามีวัฒนธรรมให้เกียรติผู้ใหญ่ ดังนั้นการให้เกียรติประธานในที่ประชุมจึงควรถือปฏิบัติยกเว้นว่าประธานในที่ประชุมเป็นผู้ไม่สมควรให้เกียรติ เพราะถ้าในขณะประชุมแล้วนั่งเปิดรูปโป๊ อ่านข่าวหุ้น ดูคลิ๊ปหรือเล่นเกม ก็แสดงว่าสมาธิหรือความสนใจไม่อยู่ในเนื้อหาของการประชุม และคิดว่าประเด็นที่เกิดในการประชุมนั้นไม่สำคัญ และอาจตีความได้ว่าการประชุมครั้งนั้นไม่สำคัญ แต่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวทีที่สำคัญที่สุดของประเทศที่ใช้เป็นเวทีอนุมัติกฎหมาย และนโยบายของประเทศที่มีผลต่อประชาชนทุกคน

ที่น่าแปลก คือ ประเด็นที่สื่อสารออกมา กลับเป็นประเด็นว่าใครส่งภาพโป๊ไปออกทีวี ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำนั้นย่อมไม่เหมาะสม แต่เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้วว่าในคนหมู่มาก เราไม่อาจคาดหวังว่าทุกคนจะเป็นคนดี จึงคาดหวังไม่ได้ว่า ส.ส.ทุกคนจะต้องให้เกียรติตนเอง การประชุม หรือประธานในที่ประชุม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่กลับเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นที่สนใจของสังคม เป็นที่สนใจของสื่อ เป็นประเด็นที่ขัดกับศิลปวัฒนธรรม และจารีตประเพณี มีเหตุการณ์ที่ขัดแย้งกับจารีตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสามารถนำกลับมาทบทวน เป็นบทเรียนได้มากมาย อาธิ การสัมภาษณ์คุณโซระ อาโออิ การจัดแสดงคอนเสิร์ตดาราวัยรุ่นสาวแต่งชุดวาบหวิวในงานประเพณีที่ดีงามของไทย การประกวดนางสงกราณต์ การนำเสนอการแต่งกายของดาราที่เรียกว่าผู้นำแฟชั่น เป็นต้น ซึ่งล้วนเกิดจากอิทธิพลการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุควัตถุนิยม ที่เราท่านก็คงต้องรับผลที่กำลังเปลี่ยนแปลงตามกระแสที่ยอมรับว่าทัดทานไว้ไม่ได้

สารสนเทศของท่านในแผนที่ (itinlife339)

ห้าแยก หอนาฬิกา
ห้าแยก หอนาฬิกา

22 เม.ย.55 ในพ.ศ.นี้ ถ้าพูดถึงแผนที่ก็คงต้องยกให้ maps.google.com เป็นเบอร์หนึ่ง ซึ่งบริษัท google กำลังพัฒนาซอฟท์แวร์ประเภทเครือข่ายสังคมที่ทำงานกับแผนที่โลก คือ Latitude Leaderboard แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมที่บูรณาการเข้ากับแผนที่โลกจนประสบความสำเร็จในขณะนี้คือ foursquare.com ที่ใช้ระบบระบุตำแหน่งบนพื้นโลก (Global Positioning System) เปิดตัวในงาน South by Southwest Interactive ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2552
หากเข้าใช้ foursquare.com ในระบบเว็บไซต์ หรือด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะก็อาจไม่เห็นความสามารถที่แท้จริงของบริการได้มากนัก แต่ก็ยังเป็นเครือข่ายสังคมที่สามารถบอกเล่าสถานะปัจจุบัน (Status Update) ค้นหาสถานที่ในตำแหน่งต่าง ๆ บนพื้นโลก เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ชีวิตยามราตรี ร้านค้า ศิลปะ หรือกลางแจ้ง สามารถตรวจสอบสถานะของเพื่อน ๆ ในเครือข่ายได้ หากจะใช้บริการของ foursquare.com อย่างเต็มที่ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์สื่อสารที่ระบุตำแหน่งได้ อาทิ iphone, smart phone หรือ tablet pc เพราะช่วยแสดงตำแหน่งของอุปกรณ์ในเวลาปัจจุบัน และพบรายชื่อเพื่อนของท่านในระแวกใกล้เคียงผ่านการแสดงผลแบบแผนที่ ดังนั้นเพื่อนของท่านก็จะพบท่านในแผนที่ได้เช่นกัน แต่ถ้าท่านไปทำงานแล้วลืมอุปกรณ์ไว้ที่บ้าน สถานะของท่านก็จะอยู่ที่บ้านเมื่อปรากฎในอุปกรณ์ของเพื่อน
สารสนเทศ (Information) คือ หัวใจของ foursquare.com เพราะการที่ท่านไปร้านอาหาร แล้วถ่ายรูปอาหารสุดโปรด แล้วบันทึกความคิดเห็นว่าดีอย่างไร เมื่อเพื่อนท่านเข้าไปในร้านอาหารเดิมก็จะสามารถสั่งตามที่ท่านได้แนะนำไว้ ในทางตรงข้ามหากท่านไม่ประทับใจ เมื่อเพื่อนได้อ่านก็จะไม่เข้าร้านนั้น แต่ไปเลือกร้านอื่นที่ดีกว่า ซึ่งเป็นการใช้สารสนเทศมาประกอบการตัดสินใจ ในด้านการทำงานของพนักงานขายที่ไปพบกลุ่มลูกค้าในพื้นที่หนึ่งก็จะบันทึกภาพกิจกรรม บทเรียน และข้อเสนอแนะในการจัดกิจกรรม หากปีต่อมาตัวท่าน หรือพนักงานขายอีกคนเข้าไปในชุมชนก็จะใช้ประโยชน์จากสารสนเทศเดิม เพื่อให้การเข้าไปครั้งใหม่มีความพร้อม และสามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามแผน

https://th.foursquare.com/user/26190039

https://th.foursquare.com/v/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2/4c0112059a950f479e7a08c6

รายงานสดผ่านบล็อก (itinlife335)

apple : 357 retail stores
apple : 357 retail stores

25 มี.ค.55 การเขียนบล็อกสด (Live Blogging) คือ การเขียนบล็อกแบบมีชีวิต หรือการเล่าเรื่องในเชิงรายงานเหตุการณ์ผ่านบล็อก มักพบการใช้งานแบบนี้ในบล็อกประเภท Micro Blogging ปัจจุบันเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในการรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ คือ twitter.com โดยกลุ่มอาชีพที่มักเขียนบล็อกแบบนี้ ได้แก่ นักข่าว หรือ นักวิชาการ ที่ต้องการรายงานประเด็นจากการฟังบรรยาย หรือผู้ฟังที่ร่วมงานการเปิดตัวสินค้า แล้วเล่าเรื่องผ่านไมโครบล็อก เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัท Apple ที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายคลิ๊ปสดออกไป หรือถ่ายทอดสดผ่าน ustream.tv แต่อนุญาตให้ทำ Live Blogging ได้

จุดเด่นของการทำ Live Blogging คือ การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารออกไปแบบทันทีทันใด หลังฟังในแต่ละประเด็น ทำให้ผู้ติดตามงานเขียน สามารถรับรู้ข่าวสารที่เป็นปัจจุบัน และอาจนำไปใช้ประโยชน์ที่เหมาะกับแต่ละอาชีพ หากมีผู้สื่อข่าวในการประชุมหลายคนก็จะช่วยให้ข้อมูลที่เผยแพร่ ถูกยืนยันความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นการจับประเด็นอย่างระมัดระวัง จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ถ้าจับประเด็นผิดแล้วส่งเข้า twitter.com แล้วมีผู้ใหญ่เข้าไป retweet แล้วนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจที่ผิด ก็อาจก่อให้เสียหายได้

จุดด้อยของการทำ Live Blogging คือ ขณะฟังแล้วนำไปสรุปประเด็น เมื่อรับรู้ประเด็น สมองก็จะประมวลเป็นประโยคที่ไม่ยาวนัก แล้วเขียนลงไปในเว็บบล็อก ซึ่งเกิดช่องว่างระหว่างการรับรู้ การพิมพ์ การฟัง และการสบตากับวิทยากร ทำให้กระบวนการรับรู้ข่าวสารมีประสิทธิภาพลดลง บางครั้งพบว่าการตอบสนองผ่านอวัจนภาษาไม่เหมาะสม เช่น การฟังบรรยายของผู้ทรงวัยวุฒิ ถ้าบรรยายในเรื่องหนัก  แต่ผู้ฟังใช้ Tablet PC ไปพร้อมกับการเสียบหูฟัง แล้วยิ้มแย้มอย่างมีความสุข มือก็มุ่งแต่ Tweet ไม่ตอบสนองกับผู้บรรยายตามควร ย่อมคาดได้ว่าประเด็นที่ผู้ฟังจะได้จากผู้บรรยาย หรือความประทับใจที่เกิดระหว่างผู้ส่งและผู้รับสารจะบกพร่องไป เทคโนโลยีมีทั้งบวกและลบขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ ที่ต้องให้น้ำหนักระหว่างตัวเรา ผู้เกี่ยวข้อง และสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม

http://www.thaimacupdate.com/2011/06/06/live-blog-wwdc-2011/

http://live.theverge.com/Event/Apple_iPhone_5_event_live_blog?Page=0

สโคปชนะประมูลแท็บเล็ตปอหนึ่ง (itinlife333)

11 มี.ค.55 ข่าวการคัดเลือกบริษัทที่เสนอเข้าประมูลแท็บเล็ต (Tablet PC) สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ของประเทศไทยเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2555 พบว่ามี 4 บริษัท คือ หัวเว่ย (Huawei) ทีซีแอล (TCL) ไฮเออร์ (Haier) และสโคป (Scope) โดยเครื่องแท็บเล็ตยี่ห้อสโคปชนะการประมูล มีคุณสมบัติเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich, Linux Kernel 3.0.1 มีจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว หน่วยความจำ 16 GB หน่วยประมวลผลเป็น Dual Core 1 GHz และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi, GPS และ USB 2.0 ด้วยราคา 81 เหรียญ เป็นเงินไทยประมาณ 2,430 บาท

แม้มีการถกเถียงเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในประเด็นนี้ โดยแสดงความห่วงใยเรื่องความสมเหตุสมผลกับสภาพความเป็นจริงของเด็กเล็กในปัจจุบัน เพราะความไม่เหมาะสมของวุฒิภาวะของเด็กเล็กกับทักษะในการใช้งานที่ไปด้วยกันไม่ได้ การใช้งานผิดวัตถุประสงค์ การเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และปริมาณเนื้อหาที่เหมาะสมยังมีไม่มากพอ แต่มีการเดินหน้าตามนโยบายจนมีการเลือกยี่ห้อของแท็บเล็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีงบประมาณสูงถึง 1,900 ล้านบาท ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นนโยบายที่ดีต่อการพัฒนาเยาวชน เพียงแต่มีประเด็นที่น่ากังวลอยู่บ้าง

ข่าวนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับเยาวชน เพราะแท็บเล็ตมีความเหมาะสมในการสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้ที่มีความเข้าใจในอุปกรณ์ และรู้จักการใช้งานอย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ ถ้านักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ไป ก็พอจะแนะนำได้ว่าสามารถใช้เพื่อสืบค้นข้อมูล ใช้หาความหมายของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย หรือราชาศัพท์ ใช้สื่อสารแลกเปลี่ยน ใช้เป็นเครื่องคิดเลข ตารางคำนวณ พิมพ์เอกสาร หรือเตรียมเอกสารสำหรับนำเสนอหน้าชั้นเรียน ใช้ฝึกทักษะการฟัง การอ่าน และการเขียนภาษาที่สองผ่านระบบมัลติมีเดีย สนับสนุนนโยบายการเข้าสู่สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อังกฤษ: Association of South East Asian Nations) หรือ อาเซียนได้อย่างชัดเจน เมื่อหันกลับมาพิจารณาว่าการนำไปใช้ของนักเรียนในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ก็อาจต้องห่วงว่าเด็กเล็ก หรือคุณครูจะตั้งเป้าหมายร่วมกันไว้อย่างไร และจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้อย่างไร ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่ายได้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและสังคม

http://thainews.prd.go.th/en/news.php?id=255503060004

http://tv.ohozaa.com/player/iAz4/

สอบประวัติผู้สมัครงาน (itinlife 332)

twitter @Pat_ThaiPBS
twitter @Pat_ThaiPBS

3 มี.ค.55 มีผลวิจัยว่า พฤติกรรมการใช้งานเครือข่ายสังคม (Social Network) อาจถูกนำใช้ประกอบการคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงาน ประเด็นที่น่าสนใจคือ ความเป็นส่วนตัว และเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมิน ปัจจุบันเราทราบว่าเครือข่ายสังคมที่ได้รับความนิยมมีไม่มากนัก อาทิ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และกูเกิลพลัส ซึ่งทวิตเตอร์ถือเป็นไมโครบล็อก (Micro blogging) ที่มีระดับความเป็นส่วนตัวน้อยกว่าบรรดาเว็บไซต์เครือข่ายสังคม ปัจจุบันผู้ใช้ส่วนใหญ่ในทวิตเตอร์วัดความนิยมจากจำนวนผู้ติดตาม ซึ่งเจ้าของบัญชีไม่จำเป็นต้องรู้จักกับผู้ติดตาม หรืออนุญาตให้มีการติดตาม ผลการจัดอันดับผู้ติดตามเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2555 พบว่า @Khunnie0624 มีผู้ติดตาม 1,064,797 ส่วน @Woodytalk มีผู้ติดตาม 601,370 ส่วน @vajiramedhi มีผู้ติดตาม 501,925 แสดงว่าการมีผู้ติดตามมาก คือ มีคนเข้าถึงเนื้อหาที่เจ้าตัวเผยแพร่ได้มากนั่นเอง

ส่วน facebook และ google+ มีระดับความเป็นส่วนตัวสูงกว่า หากจะเข้าไปดูข้อมูลจะต้องได้รับการอนุญาตจากเจ้าของบัญชี แต่ผู้ใช้บางรายยอมรับเพื่อนใหม่ง่าย และมีไม่น้อยที่เขียนบันทึกอย่างรู้เท่าไม่ถึงภัย จนส่งผลไม่พึงประสงค์ภายหลัง สิ่งหนึ่งที่พึงระวัง คือ นายจ้าง หรือว่าที่เจ้านายอาจเข้ามาดูข้อมูลที่สะท้อนลักษณะเฉพาะบุคคลตาม ทฤษฎีลักษณะนิสัย (Trait Theory) ซึ่งมี 5 เกณฑ์ คือ 1) ชอบเข้าสังคม ชอบแสดงออก (Extraversion) 2) ความซื่อตรง มีคุณธรรม (Conscientiousness) 3) ความเป็นมิตร ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ (Agreeableness) 4) การจัดการกับอารมณ์ (Neuroticism) 5) เปิดกว้างเพื่อประสบการณ์ทำงานหรือเรียนรู้ (Openness to Experience/Intellect) โดยทฤษฎีถูกใช้ในหัวข้อวิจัยที่ Northern Illinois University, Evansville University  และ Auburn University ได้ร่วมกันศึกษาจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษา

เมื่อนำเกณฑ์ข้อ 1 คือ ชอบเข้าสังคม ชอบแสดงออก มาใช้คัดเลือกบุคลากร ก็มักมีการมองหาพฤติกรรมแสดงความคิดเห็นเชิงบวกต่อประเด็นรอบตัว มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เหมาะสม และมีสมดุลในการแสดงออกทั้งภายในและภายนอก มุมมองต่อสังคม การเมือง องค์กร ครอบครัว หรือตนเองเป็นอย่างไร ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้คัดเลือกบุคลากรก็แตกต่างกันไปตามตำแหน่ง เช่น นักประชาสัมพันธ์ หรือนักพัฒนาชุมชน ก็ย่อมต้องการคนที่คิดบวก และชอบแสดงออก แต่ถ้าผู้พิพากษา หรือพนักงานทำความสะอาด เกณฑ์ข้างต้นก็คงไม่จำเป็นต้องนำมาใช้ ประเด็นคือท่านคิดว่าสิ่งที่ปรากฎใน profile ของท่าน เป็นภาพบวกหรือลบ หากปรากฎสู่สายตาของนายจ้าง

http://www.thaiall.com/blogacla/admin/1128/

http://www.lab.in.th/thaitrend/rank-follower.php

สถิติการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก (itinlife330)

asia statistic
asia statistic

17 ก.พ.55 มีโอกาสฟัง คุณธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ เจ้าพ่อสื่อเครือเนชั่น เล่าถึงความเป็นมาของสื่อในอดีต ซึ่งใช้เพื่อการสื่อสารระหว่างคน ไปถึงประเภทของสื่อเพื่อใช้สื่อสารกับมหาชน และแนวโน้มของสื่อในอนาคต พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติ หรือสารสนเทศเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการบริหารงานสื่ออย่างมืออาชีพ มีศัพท์ 2 คำที่ชวนให้ตระหนัก คือ below the line และ above the line โดยสื่อประเภทแรกถูกใช้เป็นเครื่องมือเข้าถึงผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มได้ตรงกว่า มีประสิทธิภาพกว่า และเป็นไปได้ว่าอาจใช้งบประมาณสูงกว่าสื่อหลัก แต่ถึงอย่างไรก็ยังทิ้งสื่อหลักไปไม่ได้

สื่อหลักหรือสื่อแบบ above the line คือ สื่อที่ใช้สร้างการรับรู้ในตราสินค้า เผยแพร่ในวงกว้างในระยะเวลาสั้นอย่างรวดเร็ว มักใช้โฆษณาแนะนำสินค้า อาทิ โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา ส่วนสื่อรอง หรือสื่อแบบ below the line คือ สื่อที่เข้าถึงลูกค้าโดยตรง มักเน้นการสร้างกิจกรรมกับลูกค้า (Event) มีผลให้ลูกค้าจดจำสินค้าจากประสบการณ์ที่ได้ร่วมกิจกรรม (Road Show) อาจเป็นการออกนิทรรศการแนะนำสินค้า เปิดบูทให้ทดลองสินค้า หรือจัดกิจกรรมผ่านเว็บไซต์ แต่สื่อทั้งสองแบบจะต้องดำเนินควบคู่กันไป เพราะกฎทางการตลาดมี 2 ข้อ คือ ผู้บริโภคคือเจ้านาย ถ้าผู้บริโภคผิดให้ย้อนกลับไปดูข้อแรก ดังนั้นการใช้สื่อที่หวังผลทางการตลาดจำเป็นต้องเลือกใช้อย่างสมดุล เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

ข้อมูลทางสถิติปี 2011 เกี่ยวกับจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต พบว่าโลกของเราประชากรมากกว่าหกพันเก้าร้อยล้านคน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าสองพันสองร้อยล้านคน คิดเป็นร้อยละ 32 ของประชากรโลก แต่ประเทศไทยมีประชากรมากกว่าหกสิบหกล้านคน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าสิบแปดล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27 ของประเทศ ซึ่งยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของโลก ถ้าเปรียบเทียบในระดับทวีปแล้ว ทวีปเอเชียใช้อินเทอร์เน็ตร้อยละ 26 แต่ทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปออสเตรเลียใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าร้อยละ 60 ประเทศมาเลเซียใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าร้อยละ 60 ประเทศกรีนแลนด์ และไอซ์แลนใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่าร้อยละ 90 ดูจากสถิติแล้ว ประเทศไทยคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าประชาชนจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเกินร้อยละ 50 ซึ่งข้อมูลทางสถิติทำให้เรารู้ตำแหน่งของตนเองในประชาคมโลก

http://www.internetworldstats.com/stats3.htm
http://www.thaiall.com/topstory/