ไทยรัฐ ทำสกู๊ปออนไลน์ได้ตรงไปตรงมา โดยเฉพาะเรื่อง โชว์เซ็กซ์

ไทยรัฐทำสกู๊ปออนไลน์ เรื่อง ถอดรหัส FB หล่อ สวย โชว์ เซ็กซ์ ทำไมฟีเวอร์
ไทยรัฐทำสกู๊ปออนไลน์ เรื่อง ถอดรหัส FB หล่อ สวย โชว์ เซ็กซ์ ทำไมฟีเวอร์

พบว่า ไทยรัฐทำสกู๊ปออนไลน์ เรื่อง ถอดรหัส FB หล่อ สวย โชว์ เซ็กซ์ ทำไมฟีเวอร์
คำว่า ฟีเวอร์ (Fever) ในที่นี้น่าจะหมายถึงชื่นชอบมาก หรือคลั่งไคล้
การเรียบเรียงสะท้อนพฤติกรรมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าผู้ทรงศีลมาอ่านเข้าอาจจะบอกว่าไม่จริงนะ ไม่ใช่มนุษย์ทุกคน
เพราะบางคนหลุดพ้นไปแล้ว

มีระบบแสดงความคิดเห็นว่าชอบเรื่องนี้มากกว่า 50%
ลองกดดู เห็นว่าระบบรับการคลิ๊กของผมหลาย ๆ ครั้งติดต่อกันได้
ทำให้ % เปลี่ยนทุกครั้งต่อคลิ๊ก แสดงว่าคนหนึ่งสามารถทำรัวคลิ๊กได้ด้วย

http://www.thairath.co.th/content/427293

ข้อความข้างล่างนี้จากเว็บไซต์ thairath.co.th ทั้งหมด

“เชื่อมั้ยว่าในปัจจุบันเราเปิดเข้าดูเว็บไซต์เพื่อดูภาพโป๊ ภาพอนาจารน้อยลง ดูหนังโป๊น้อยลง มีผลการวิจัยออกมาว่าการเข้าถึงของเว็บไซต์เพื่อดูรูปโป๊น้อยลง แต่จริงๆ แล้วความต้องการเหล่านั้นมันไม่ได้หายไปเลย” นั่นเป็นเพราะอะไร…” ไทยรัฐออนไลน์” จะพาไปถอดรหัสกับเรื่องราวของความฟีเวอร์ของกระแสแฟนเพจในเฟซบุ๊ก

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ยิ่งในสังคมเฟซบุ๊กด้วยแล้ว ช่างยิ่งใหญ่กว้างขวางซะเหลือเกิน ถ้าถามว่าวันนึงไม่มีเฟซบุ๊กขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็ได้คำตอบกันไปแล้วในวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา ชาวโซเชียลทั้งหลายแทบจะชักดิ้นชักงอที่ “เฟซบุ๊ก” ในประเทศไทย ไม่สามารถใช้งานได้เป็นเวลานานถึง 40 นาที และนอกจากนี้ไม่ว่าประเทศไทยจะอยู่ในภาวะไหน สังคมเฟซบุ๊กก็จะมีอะไรมาเป็นสีสันให้ได้ฟีเวอร์กันอยู่เสมอ นั่นเป็นเพราะอะไร เราไปหาคำตอบกันเลย

เฟซบุ๊ก เซลฟ์โปรโมต…?

ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการด้านสื่อ วิเคราะห์ผ่านไทยรัฐออนไลน์ ถึงเหตุผลที่ทำไมเพจต่างๆ โดยเฉพาะจำพวกขายหน้าตา หนุ่มหล่อ สาวสวย เซ็กซี่ ถึงได้รับความนิยมในเฟซบุ๊ก มีคนไลค์เป็นหมื่นเป็นแสน เหตุผลของมันจริงๆ คือ ปัจจุบันได้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมขึ้น เชื่อมั้ยว่าในปัจจุบันเราเปิดเข้าดูเว็บไซต์เพื่อดูภาพโป๊ อนาจารน้อยลง ดูหนังโป๊น้อยลง มีผลการวิจัยออกมาว่าการเข้าถึงของเว็บไซต์เพื่อดูรูปโป๊น้อยลง แต่จริงๆ แล้วความต้องการเหล่านั้นมันไม่ได้หายไปเลย แต่เมื่อเกิดโซเชียลมีเดียขึ้น ยกตัวอย่างให้ได้เห็นกันชัดๆ อย่างเช่นเมื่อเกิดเฟซบุ๊กขึ้น ได้ทำให้ใครๆ ก็มีช่องทางโพสต์รูป ระบายเรื่องของตัวเอง แล้วเมื่อคนเปลี่ยนจากการดูภาพลามกในเว็บไซต์ต่างๆ จึงหันมาให้ความสนใจจากคนด้วยกันเอง

ถ้าเราสังเกตคนที่มีจำนวนฟอลโลเวอร์เป็นหมื่นเป็นแสน ส่วนมากจะเป็นพวกผู้หญิงสวย น่ารักๆ และผู้ชายหล่อๆ หุ่นดี มีซิกซ์แพ็ก มันบ่งบอกถึงพฤติกรรมว่าคนเราเริ่มที่จะขายตัวเอง เรียกว่า เซลฟ์โปรโมต คือการทำยังไงให้เราเป็นที่รู้จัก วิธีการที่ง่ายที่สุดในการโปรโมตตัวเองก็คือการโพสต์รูปในลักษณะเย้ายวนทางเพศ วาบหวิว น่ารัก คิขุ อาโนเนะ เพราะว่ามันง่ายที่จำทำให้คนจะรู้จักมากขึ้น ซึ่งต้องบอกไว้เลยว่าการเสพเรื่องเพศในอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องธรรมชาติ พอเราไม่เสพรูปโป๊แบบฉบับเก่าในอินเทอร์เน็ตแล้ว เราจึงต้องมาเสพความสัมพันธ์ของบุคคลที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยตรง

เปลี่ยนช่องทาง…เสพเรื่องเพศ !

การเห็นรูปคนสวย คนหล่อ หน้าตาน่ารัก เซ็กซี่ วาบหวิว มันก็เป็นการสื่อสาร หรือการเสพในเรื่องเพศตามเดิม เพียงแต่มันไม่ได้อยู่ในลักษะเก่า มันแค่เปลี่ยนรูปแบบไป และรูปแบบที่มันเปลี่ยนไปคือ เราเสพหน้าตาของเขาด้วย แต่เราไม่ได้ดูแค่ภาพ เรายังได้ติดตามชีวิตส่วนตัวของคนคนนั้นด้วย และสัญชาตญาณของมนุษย์ทุกคนล้วนมีการอยากดู อยากรู้ อยากเห็นเรื่องของคนอื่น ยิ่งหน้าเพจเฟซบุ๊กคุณจะสามารถดูเรื่องราวของเขาได้ตลอดเลย ไม่ว่าจะทำอะไร เราก็สามารถเข้าถึงเขาได้ และมีสิทธิอย่างเต็มที่

ถ้าย้อนไปแต่ก่อน คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันยิ่งบ่งบอกว่า ในสังคมปัจจุบันมีคนแบบนี้เยอะ มีคนที่ขายตัวเองและตามคนอื่น ด้วยเหตุนี้ก็อาจจะบอกได้ว่าในปัจจุบันการเข้าถึงเรื่องเพศเป็นในลักษณะที่เป็นการติดตามซึ่งกันและกัน คนที่โพสต์ก็จะรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น ว่าฉันมีคนที่แอบดูตั้งเยอะแหน่ะ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นก็จะเป็นจำพวกเพจผู้หญิงที่มีคนติดตามเยอะ เพราะในเชิงจิตวิทยา เรื่องเพศหญิงจะมีความรู้สึกที่พึงพอใจเมื่อได้ถูกมอง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงถึงต้องแต่งตัวสวย

ในเชิงจิตวิทยาบอกไว้ว่า ผู้หญิงจะรูุ้สึกมีคุณค่ามากขึ้นเมื่อเป็นที่หมายปองในลักษณะทางเพศ ส่วนผู้ชายมีความสุขเมื่อได้จ้องมอง นี่เป็นแนวคิดเรื่องสื่อลามก เป็นการตอบสนองเชิงจิตวิทยาในเรื่องเพศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องลามกสัปดนอะไร เพราะว่ามันเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงกลายเป็นตอนนี้ บุคคลที่เป็นคนธรรมดาก็สามารถมีเสน่ห์ดึงดูดและมีคนที่ติดตามเราได้ง่ายขึ้น เป็นเรียลลิตี้ขึ้น แล้วก็ลึกมากขึ้น

“เมื่อเทียบกับแต่ก่อน พวกรูปโป๊เป็นเพียงแค่การจินตนาการจากการเห็นในสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะเราเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นจากเฟซบุ๊ก เราสามารถเห็นได้ว่า อ๋อ! นี่รูปกินข้าว ว่ายน้ำ ไปเที่ยวทะเล เซ็กซี่ วาบหวิว ดังนั้นการจินตนาการของเราเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเพราะว่าผู้ใช้งานเฟซบุ๊กปัจจุบันได้เผยแพร่ตัวเอง เล่าเรื่องตัวเองแถมรูปอีกด้วย มันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับคนนั้นๆ โดยที่เราไม่ต้องไปจินตนาการแบบแต่ก่อน”

วัฒนธรรม ‘เน็ตไอดอล’ จากไฮไฟว์ สู่เฟซบุ๊ก

นักวิชาการด้านสื่อ ยังบอกอีกว่า กระแสแฟนเพจสวย หล่อ จริงๆ น่าจะเกิดขึ้นประมาณปี 2008 แต่วัฒนธรรมการเป็นเน็ตไอดอลหรือเรื่องที่คนพูดถึงเรื่องตัวเองมันมีมาตั้งแต่ในยุคของไฮไฟว์ ในยุคนั้นผู้คนสนใจในเรื่องของการปรุงประดิษฐ์เว็บไซต์ของตัวเองในการแต่งรูปโปรไฟล์ แบล็กกราวน์ แต่เมื่อเกิดเฟซบุ๊ก มันมีลูกเล่นมากกว่านั้น ไฮไฟว์เป็นแค่หน้าร้าน แต่เฟซบุ๊กมันเป็นเหมือนสมุดไดอารี่ประจำตัว ที่สามารถอัพเดตเรื่องราวแบบเรียลไทม์ได้

เพราะฉะนั้นคนจึงรู้สึกว่ามันง่ายที่ฉันจะปรุงแต่ง ง่ายต่อการเชื่อมโยงกับคนอื่น และมีสถานะทางสังคม (social status) ได้ดี เพราะฉะนั้นการบูมของเรื่องนี้อาจจะบอกได้ว่าการที่เราโพสต์รูปตัวเอง เรื่องตัวเอง มีการเซลฟี่เกิดขึ้น (Selfie คือการถ่ายรูปตัวเองจากกล้องที่ติดกับกล้องถ่ายรูปมือถือ โทรศัพท์มือถือ หรือกล้องจากคอมพิวเตอร์) เพราะเราอยู่ในยุคการสื่อสารที่ทุกคนพูดเรื่องของตัวเอง (you communication) หรือยุคที่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นผู้ผลิตเนื้อหาสารเอง ดังนั้นเนื้อหาสารที่เรารู้ดีที่สุดก็คือเรื่องของเรา

คนปัจจุบันจะพูดเรื่องตัวเองบนเฟซบุ๊ก เพราะว่าเขารู้สึกว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่จริงๆ แล้วเขากำลังใช้พื้นที่ส่วนตัวบนพื้นที่สาธารณะอีกทีหนึ่ง นั่นก็เหมือนการขายตัวเองบนพื้นที่สาธารณะ และเรื่องที่ดีที่สุดที่จะขายก็คือภาพ ทำให้ทุกวันนี้ได้เกิดแฟนเพจหนุ่มหล่อ สาวสวย เซ็กซี่มากมาย

เฟซบุ๊ก ช่องทางอันตราย ขาดความมั่นใจ ขี้เหงา หลงตัวเอง

ธาม เชื้อสถาปนศิริ บอกต่อว่า นอกจากจะมีคนติดตามเราเยอะแล้ว เฟซบุ๊กก็เป็นเหมือนดาบสองคม อาจจะทำให้เกิดผลเสียกับเราได้ เพราะเราจะไม่รู้ตัวว่ามีใครมาหมายปอง ติดตามชีวิตของเรา ในแต่ละวันมีใครเข้ามาบ้าง เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตัวเองมากเกินไป เช่น เปิดเผยเรื่องเพศ กิจวัตรประจำวันมากเกินไป คุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าคุณเปิดเผยช่องทางอันตรายเหมือนเป็นการเปิดประตูบ้านไว้ตลอดเวลา ยิ่งผู้คนในยุคปัจจุบันมีความกังวลใจน้อยลง เมื่อพูดถึงเรื่องข้อมูลส่วนตัว ที่อยู่ ที่ทำงาน ชีวิตส่วนตัว เพราะว่าทุกคนต้องการเปิดเผยเพื่อให้เป็นที่รู้จัก

จริงๆ มนุษย์ทุกคนต้องการเป็น somebody ในสังคม แต่คุณหารู้ไม่ว่าคุณจะต้องเสี่ยงที่จะสูญเสียตัวเองพอสมควร เพราะว่าการสร้างสถานะถูกสร้างมาจากแรงกดดัน ของคนที่อยู่ในโซเชียลมีเดีย คุณอาจจะมีคนฟอลโลว์เป็นหมื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณเป็นคนขี้เหงา ขาดความมั่นใจ และอาจจะเป็นคนหลงตัวเองมากขึ้น เพราะการเล่าเรื่องตัวเองบ่อยๆ เซลฟี่บ่อยๆ ก็จะทำให้คุณเป็นคนที่เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของการสื่อสาร นำมาสู่เรื่องของภาวะซึมเศร้า โรคติดเฟซบุ๊ก เริ่มกระวนกระวายใจเมื่อไม่มีคนมากดไลค์ คอมเมนต์ หรือมีคนมาคอมเมนต์ในทางที่ไม่ดี ความคิดเห็นต่างๆ เหล่านั้นในโซเชียลมีเดียมาคิดปนกับชีวิตจริง เพราะฉะนั้นสถานการณ์ปัจจุบันอยากจะดังมากขึ้น จนต้องยอมที่จะสูญเสียอัตลักษณ์ แต่บางคนก็บอกว่าวิธีการสร้างสถานะให้สังคมยอมรับคือ ต้องสร้างสถานะทางเฟซบุ๊กให้ดีแล้วจะมีคนติดตาม บางครั้งมันก็จะนำมาสู่การสูญเสียความสัมพันธ์ และความสามารถในการที่จะปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างหรือคนในครอบครัว

บางรายมีถึงขั้นโดนหลอกลวงด้วย เนื่องจากมันง่ายมาก เพราะช่องทางในโซเชียลมีเดียเหมือนการคุยกับคนแปลกหน้า อย่าลืมว่าถ้าเราคุยกับคนในชีวิตจริง เราจะเห็นหน้า แต่ในเฟซบุ๊กทุกคนแต่งและประดิษฐ์ได้ คนส่วนมากมักจะโพสต์แต่เรื่องที่ดี ไม่มีใครบอกเรื่องแย่ๆ ของตัวเองมีอะไรบ้าง ทุกคนจะประดิษฐ์ตกแต่งชีวิตตัวเองให้มันดูสวยงาม เพราะเมื่อสวยงามก็ดูเย้ายวนให้น่าติดตาม พอน่าติดตามก็นำไปสู่การที่จะถูกล่อลวง เพราะบางคนเปิดเผยเรื่องตัวเองมากเกินไป มันเป็นช่องทาง 24 ชม. ของอาชญากรที่มุ่งจะจ้องชีวิตเราอยู่ ยิ่งเปิดเผยมากก็อันตรายมาก เพราะฉะนั้นหลายๆ ครั้งสำหรับเด็กที่มีวุฒิภาวะต่ำในการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป เพราะมันนำไปสู่อาชญากรรมทางออนไลน์ คดีที่เกิดขึ้นก็เป็นคดีที่มีแรงจูงใจทางเพศ

นักวิชาการด้านสื่อ ยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ให้ได้คิดอีกว่า มีงานวิจัยออกมาว่า ต่อให้มีเพื่อนประมาณห้าพันคนแต่โดยเฉลี่ยแล้วเพื่อนที่คุณรู้จักจริงๆ เคยเห็นหน้าต่ำกว่า 200 คน แล้วสิ่งที่คุณต้องคิดมากขึ้น หน้าฟีดหรือไทม์ไลน์ข่าวสารของคุณ ระบบทำความสะอาดของเฟซบุ๊กมันจะคำนวณให้ว่าคุณเคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครบ้าง โดยรวมๆ จะอยู่แค่ 20-30 คนเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจว่าความสัมพันธ์ของผู้คนจริงๆ ในโลกออนไลน์มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ในชีวิตจริง มันคนละเรื่องกัน ต้องแยกให้ออก เพราะโลกออนไลน์คือโลกเสมือนจริง อีกอย่างก็คือเฟซบุ๊กทำให้ระยะห่างของความเป็นคนแปลกหน้ามันสั้นลง และที่สำคัญคือความไว้วางใจ เราก็รู้สึกที่จะวางใจเพื่อนในเฟซบุ๊กมากขึ้น มีระยะห่างของคนแปลกหน้าน้อยลงและวางใจอะไรได้ง่าย

นักวิชาการด้านสื่อได้วิเคราะห์ถึงเรื่องความฟีเวอร์ในเฟซบุ๊กไปแล้ว ต่อไป “ไทยรัฐออนไลน์” จะเจาะหาสาเหตุ ที่มาที่ไป และกระบวนการขั้นตอนของแฟนเพจพวกนี้ว่าเกิดขึ้นได้ยังไง และทำไมถึงได้ฮอตขนาดนี้!!

แฟนเพจสุดฮอต ยอดไลค์พุ่งกระฉูด !

แอดมินเพจสมาคมนิยมสาวสวยแห่งประเทศไทย (สสสท.) บอกว่า จุดเด่นของเพจนี้อย่างแรกคือชื่อ “สมาคมนิยมสาวสวยแห่งประเทศไทย (สสสท.)” อ่านง่ายจำได้ ติดตาดีด้วย ในส่วนเรื่องรูปผู้หญิงโป๊นั้น ไม่จำเป็นต้องโป๊แต่เซ็กซี่ต้องมีแน่ๆ เพจเรามีหลายแนว มีทั้งแบบ น่ารัก สวย หมวย อึ๋ม สาวมหาลัย มัธยม วัยทำงาน เราสร้างแฟนเพจนี้ขึ้นมาเพราะเห็นคนอื่นทำก็เลยอยากลองทำดูบ้าง ช่วงนั้นว่างๆ อยู่ด้วย ทำไปทำมารู้ตัวอีกทีก็ทำมาเรื่อยๆ แล้ว ยอดไลค์พุ่งกระฉูดสองล้านกว่า ตอนนั้นก็รู้สึกเกินคาดมาก ไม่คิดว่าจะถึงสองล้านเร็วขนาดนี้เท่านั้นเอง

ในส่วนของกระบวนการในการอัพรูปนั้นคือ ในสมัยก่อนจะเว้นเวลาระหว่างรูปละสิบนาทีก็อัพได้เลย แต่สมัยนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็น สามสิบนาทีถึงหนึ่งชั่วโมงแทน เนื่องมาจากการปรับเปลี่ยนกฎของเฟซบุ๊ก และกลัวว่าสมาชิกจะเบื่อที่รูปจะเยอะเกินไปในหน้า news feed ของแต่ละบุคคล ซึ่งจะทำให้เกิดการ unlike เพจที่มากเกินไป ส่วนแอดมินมีหลายคน ระบุจำนวนแน่นอนไม่ได้ เดี๋ยวมีเข้ามีออก มีทั้งหญิงชาย แต่จะมีคนดูแลเพจที่ใหญ่ที่สุดอยู่คนนึง ที่จะเป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องที่คนอื่นตัดสินใจกันไม่ได้

หนึ่งในแอดมินแฟนเพจ สสสท.
แอดมินเพจ สสสท. เล่าต่ออีกว่า ส่วนเรื่องของการนำรูปมาอัพเราได้มีการขออนุญาตเจ้าตัวด้วย และบางคนก็เสนอตัวขอให้ลงรูปให้ นอกเหนือจากสองอย่างนี้คือหารูปจากที่ต่างๆ ที่หาได้ตามได้อินเทอร์เน็ต บางครั้งก็มีเหตุการณ์ดราม่าเกิดขึ้นบ้าง เป็นเรื่องปกติที่จะมีดราม่าเกิดขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นตัวปลอมมาฝากอัพรูปจนตัวจริงเห็นและตามมาต่อว่าหรือไม่พอใจที่ไม่ยอมอัพรูปให้ซักที

“เราก็คิดว่าจะทำเพจไปเรื่อยๆ ครับ ตอนนี้มีการคุยเรื่องอนาคตของเพจกันบ้าง ว่าจะต่อยอดไปทางไหนดี สมควรเพิ่มเติมอะไรเข้าไปดีนอกจากรูปสาวๆ ไหม หรือจะไปเปิดเป็นบริษัทแมวมอง จัดหาคู่ ฯลฯ เป็นต้น ก็คิดกันไปเรื่อยๆ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ยังไงเราก็ต้องทำวันนี้ให้ดีก่อน เราต้องขอบคุณทุกคนที่กดติดตามและเข้ามาดูรูปของเพจเรา ถ้าไม่มีพวกคุณเพจนี้ก็จะไม่มีใครรู้จัก และเพจเราอาจไม่มีสาระอะไรเลย เพราะมีแค่รูปสาวสวยที่เอาไว้ดูเพลิดเพลินเท่านั้น แต่แค่นี้ก็ทำให้จิตใจที่เหนื่อยล้านั้น กลับมากระชุ่มกระชวยได้ ว่าโลกนี้สาวสวยยังมีอีกเยอะ (หัวเราะ)” แอดมินเพจ สสสท. เล่าอย่างสนุกสนาน

แอดมินแฟนเพจ BTS cuteguys เพจใหม่มาแรง บอกผ่านไทยรัฐออนไลน์ว่า จุดเด่นของเพจนี้ที่ไม่เหมือนใคร คือ มัน Real และทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ มันเป็น Insight ของผู้หญิงและเกย์หลายๆ คน เวลาเจอผู้ชายน่าสนใจ ถ้ามีโอกาสจะถ่ายรูปให้เพื่อนสาวช่วยพิจารณา/กรี๊ดกร๊าดกันในกรุ๊ปไลน์ เกิดเป็นบทสนทนาฮาๆ ตามมาในกลุ่มเพื่อน เช่น “เค้าคือของฉัน” “ฉันรักเค้า” “เจอแล้วสามีในอนาคต” “ฟินนนนนน” “สิบ สิบ สิบ” etc. ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างเพจ โดยเรามีความเชื่อว่ามันไม่ใช่แค่กลุ่มเราแน่ๆ ที่ทำกัน น่าจะมีผู้หญิงหรือเกย์อีกเยอะที่ทำแบบนี้ในกลุ่มเพื่อน ไหนๆ ก็ไหนๆ สร้างที่ให้มาร่วมกันฟินกันไปเลย ซึ่งตัวแอดมินทั้ง 3 คนเอง ตอนแรกก็แอบถ่ายส่งให้ดูกันในกรุ๊ปไลน์เล่นๆ ขำๆ มีวันนึงแอดมินคนนึงพูดขึ้นมาว่า พี่เปิดเพจเถอะ ก็เลยลองดู ทำเอาฮา
ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อมีคนติดตามเราเยอะ ยอดไลค์พุ่งกระฉูด ภายในเวลาไม่นาน เราก็รู้สึกตกใจเหมือนกันไม่รู้ว่าตัวเพจจะ Viral ได้ขนาดนี้ เพราะว่าตอนเริ่มทำก็เริ่มทำกันเอาฮา คิดว่าคงมีลูกเพจจำนวนนึง แต่ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ ซึ่งทุกวันนี้เราก็ได้รับผลตอบรับจากลูกเพจในหลายๆ รูปแบบที่ส่งเข้ามาใน inbox หลากอารมณ์มาก แต่ส่วนใหญ่จะดีใจที่มีเพจแบบนี้ เราก็มีแอดมินเป็นกลุ่มเพื่อนร่วมงาน 3 คน จริงๆ ก็ไม่ได้แบ่งหน้าที่อะไรกันชัดเจน แรกๆ ก็พยายามช่วยกันถ่ายรูป หลังๆ แทบไม่ต้องเลย เพราะมีส่งมาทาง Inbox เยอะมาก ก็มีพี่ใหญ่หนึ่งคนที่เป็นคนคอยคัดเลือกรูปจาก inbox มาลง
“เราก็อยากจะทำเพจนี้ไปนานๆ จนกว่าจะไม่มีคนส่งภาพมา แต่เราก็อยากให้มองว่าเพจนี้เป็นที่พักสายตา สนุกๆ ขำๆ อย่าซีเรียส อย่าจริงจัง และก็อยากให้มองว่ามันเป็นชุมชนหนึ่งของคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน อยากแบ่งปันความฟินให้กับคนอีกหลายๆ คน แล้วก็ที่สำคัญฝากถึงคุณผู้ชายทุกคนที่รูปปรากฏขึ้นในเพจของเรา ว่าจงภูมิใจเถิด เพราะคุณหล่อ คุณถึงโดนถ่าย แล้วเราก็ไม่ใช่โรคจิตนะค้าาา” แอดมินเพจ BTS cuteguys บอกทิ้งท้าย

นอกจาก 2 เพจนี้ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เพจที่เป็นที่นิยม

เช่น
สมาคมนิยมสาวมหาลัยแห่งประเทศไทย (สสมท)
สมาคมนิยมนิสิต นักศึกษาแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (สนพท.)
สมาคมหนุ่มหล่อแห่งประเทศไทย
หนุ่มไฉไล by นายร้อยครับผม
ทหารหล่อบอกด้วย
สมาคมนิยมผู้ชายมีหนวด