#เล่าสู่กันฟัง 63-042 swot กับไวรัสโคโรนา covid2019

โลกเรามีมืดมีสว่างเหมือนหนังซีรี่
เรื่อง #สยบฟ้าพิชิตปฐพี
หากโลกสวยงามก็จะมองมุมบวก
แต่ชีวิตจริงในข่าวกลัวไวรัส
ก็จะแสดงพฤติกรรมปกป้องตนเอง
จนไปละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น

การวิเคราะห์ตนเองที่มีด้านต่าง ๆ สมดุล
ก็จะเลืกใช้ข้อมูลได้อย่างเหมาะสม

https://www.bbc.com/thai/international-51446042

ภัยคุกคาม #threat จากภายนอก
ไม่เกี่ยวกับจุดอ่อน พอที่จะแยกได้ชัด
เช่น โรคโคโรนา covid-19
เป็นภัยคุกคามชีวิต จนคนที่รักชีวิต
เริ่มลดการเดินทาง ลดพบปะผู้คน
ภาคธุรกิจ กิจกรรม และปฏิสัมพันธ์ที่ต้องพบตัวตัว
ร้านค้า ท่องเที่ยว ประชุม ตลาด บริการ
สินค้านำเข้าส่งออกกับจีน ได้รับผลชัดเจน
ลดเที่ยวรถ เที่ยวบิน จนถึงปิดกิจการ
ซึ่งคุกคามวิถีชีวิตมนุษย์เราชัดเจน

#Weak
ร่างกาย ที่อ่อนแอของเรา
อายุสูง ที่ร่างกายสู้ไวรัสไม่เท่าหนุ่มสาว
ยิงระบาด ก็ยิ่งเสี่ยงสูง
https://www.nationweekend.com/content/image_news/6964

#Strength
จุดแข็งของมนุษย์เรา คือ รักษาตนเอง
และต่อสู้กับไวรัสได้
บางไวรัส เราต่อสู้ เชื้อตาย และหายขาด

#Opportunity
โอกาสที่เราไม่ติดก็มี
หากเค้าพัฒนาวัคซีนแล้วเราไปรับมา
พอเจอไวรัสเข้าร่างกาย ก็จะไม่เป็นมากนัก
ในร่างยังพอมีอะไรต่อสู้ไวรัสได้บ้าง

นึกถึงการเขียนแผนของภาครัฐ
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/permalink/1567987950018684/

ใช้ SWOT ทำให้อยู่กับร้านเลขเจ็ดได้

seven shop
seven shop

บทแลกเปลี่ยน จาก http://pantip.com/topic/30883540

ไปพบการแชร์เรื่องราวดี ๆ
ใน fb profile ของ zongkiat pavadee อ่านแล้วรับรู้ได้ว่า
ผู้ตอบขั้นเทพใช้ประโยชน์จาก SWOT อย่างเห็นได้ชัด
(SWOT = Strengths, Weaknesses, Opportunities, Threats)
ทำให้ได้บทเรียนว่าสามารถใช้ SWOT เป็น SWORD สำหรับเอาชนะปัญหาในการแข่งขัน
ถ้ามีปัญหา แล้วไม่วิเคราะห์ SWOT จะรู้เขารู้เราได้อย่างไร
นี้เป็นเพียงเทคนิคเดียวที่ผู้ตอบนำมาใช้ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด
อีกเทคนิคที่พบในคำตอบ คือ CSR (Coporate Social Responsibility)
แต่ไม่ได้ขยายความทางวิชาการเหมือน SWOT
ต้องขอชื่นชมผู้ตอบครับ น่าจะเป็นบทเรียนแก่ร้านของชำได้อย่างเป็นรูปธรรม
เป็นมุมมองของการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส .. จริง ๆ ๆ

ผู้ถาม http://pantip.com/profile/962611
บ้านเราเป็นร้านของชำเล็ก ๆ + ร้านก๋วยเตี๋ยว หน้าโรงงานมีผู้คนพลุกพล่านพอสมควร
กิจการนี้พ่อแม่เราทำมา 20 กว่าปีแล้ว  กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนงานและชาวบ้านในซอย
เราเป็นร้านชำร้านเดียวในย่านนั้น เรียกว่าขายดีมาก ๆ ทั้งของชำและก๋วยเตี๋ยว
(ขาย 20 -25 ราคาขายคนงานเพราะขายแพงกว่านี้ก็ไม่มีคนกิน
กำไรจากก๋วยเตี๋ยวแทบไม่เห็น ที่ขายเพราะช่วยดึงลูกค้า ให้ร้านเราคึกคักขึ้น )
ร้านเราเปิดตั้งแต่เช้ายันเย็น ลูกค้าเข้าไม่ขาด ยิ่งช่วงพักของโรงงานทอนตังแทบไม่ทัน
อาชีพนี้ทำให้เรามีกินมีใช้อย่างสุขสบายแม่กับพ่อสามารถเลี้ยงเรากับน้องได้อย่างดี
จนเมื่อปีที่ผ่านมายอดขายตกลง เพราะแรงงานพม่าเข้ามาแทนแรงงานชาวอีสาน
กำลังการซื้อของแรงงานพม่าน้อยว่าชาวอีสานอย่างเห็นได้ชัด
พวกนี้จะกินใช้อย่างประหยัดมาก
แต่เราก็ยังพออยู่ได้เรื่อย ๆ เพราะยังมีชาวบ้านแถวนั้นแวะเวียนมาซื้ออยู่
จนกระทั่งเร็ว ๆ นี้ ร้านเลขเจ็ด มาเปิดใกล้บ้านห่างกันไม่ถึง 20 เมตร
สร้างใหญ่โตอลังการมาก (ประมาณตึกแถว 4 ห้องติด)
ตอนนี้ท้อมากค่ะ คนแห่เข้าร้านสะดวกซื้อหมด ร้านเราเงียบเป็นป่าช้าเลย
ที่พอขายได้ก็แค่บุหรี่แบ่งขาย เหล้าแบ่งขาย เป๊ปซี่น้ำแข็ง
นึกแล้วก็ใจหายสงสารคุณแม่นั่งเฝ้าร้านอย่างเหงา ๆ  ดีที่ยังมีก๋วยเตี๋ยว
แต่อีกไม่ปี่ปีพ่อแม่เราคงขายก๋วยเตี๋ยวไม่ไหว ท่านจะ 60 แล้ว
กลุ้มใจมากค่ะ เลยอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อน ๆ ต่อ เราควรทำอย่างไรดี
ตอนนี้เราจัดร้านใหม่ให้ดูดีขึ้น เรื่องความสะอาดเราก็ตรวจเช็คตลอด
แต่ก็ยังเงียบ ยิ่งวันโรงงานปิดยิ่งเงียบ  คนบ้านไม่แทบไม่เข้าเลย เฮร้ออ
แต่เราก็เข้าใจผู้บริโภคนะคะ ที่นู่นมีพร้อมทุกอย่าง แอร์ก็เย็น
ถ้าเป็นเราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
ณ ตอนนี้ยังมองอนาคตไม่ออกเลยค่ะ ว่าจะไปทางไหนดี
ส่วนตัวเราตอนนี้ก็เพิ่งเรียนจบใหม่ทำงานเงินเดือนหมื่นกว่าบาท
น้องเราก็ยังเรียนไม่จบ  ทุกวันนี้เครียดมากนอนไม่หลับเลย
เวลามองบ้านเรากับร้านเลขเจ็ดเห็นภาพแล้วมันสะเทือนใจค่ะ
เพื่อน ๆ พอมีไอเดีย มาแนะนำมั้ยคะ ว่าเราควรทำยังไงต่อไป
หรือจะเปลี่ยนจากร้านของชำมาขายอย่างอื่นแทน
แล้วควรจะขายอะไรดี

ผู้ตอบขั้นเทพ http://pantip.com/profile/972021
อย่ากลัวค่ะน้อง พี่ (น่าจะพี่นะคะ อายุ 33 ค่ะ) ก็ขายของชำค่ะ
(ไม่ใช่สมาชิก pantip ค่ะ แต่สมัครมาตอบกระทู้นี้โดยเฉพาะ)
ร้านอยู่ห่างจาก ร้านเลขเจ็ด ประมาณ 20 ก้าวค่ะ
(ใกล้มากก เพราะทีแรก ร้านเลขเจ็ด จะมาขอเช่าที่บ้านค่ะ
แต่ถามจากรายได้ต่อเดือนแล้วไม่พอ คชจ. ในบ้านแน่นอน เลยตกลงใจไม่ทำค่ะ
เค้าเลยมาเช่าห้องที่ถัดไปจากที่บ้าน 3 ห้อง
)
จะบอกว่าการที่ ร้านเลขเจ็ด มาเปิดนั้นคือโอกาสนะคะ
ก่อน ร้านเลขเจ็ด มาเปิด พี่ก็ทำร้านต่อมาจากแม่ค่ะ (แม่เปิดมาจะ 30 ปีแล้ว)
ขายแต่ของชำอย่างเดียว ร้าน 2 คูหาค่ะ ขายส่งบ้างบางอย่าง
ตอน ร้านเลขเจ็ด มาเปิดวันแรก ร้านเงียบมากเลยวันนั้น
จำได้เลยนั่งดูลูกค้าถือลูกโป่งกับถุง ร้านเลขเจ็ด เดินผ่าน
จนอาทิตย์แรกผ่านไป เริ่มคิดแล้วรายได้ลดไปอย่างเห็นได้ชัด เอาไงดีวะ
(อันนี้บอกตัวเองนะคะ)
เพราะมีอีกหลายชีวิตในบ้านที่ต้องรับผิดชอบ เลยมาเริ่มคิด
ข้อ 1 คือ ร้านเลขเจ็ด มีอะไรและไม่มีอะไร และเรามีอะไรและไม่มีอะไร
.. งงมั้ยคะ จะสรุปให้ฟังทีหลังนะ
ข้อ 2 คือ ลูกค้าไปซื้ออะไรใน ร้านเลขเจ็ด
หาจุดอ่อนจุดแข็งทั้งของเราและของเค้าค่ะ
(SWOT analysis ที่เรียนมาเพิ่งจะได้รู้ประโยชน์จริงจังก็วันนี้ 555 เขียนผิดอย่าว่ากันนะคะ)
จากการวิเคราะห์ข้างต้น จุดแข็งของเราคือเรื่องสินค้า ราคา และลูกค้าค่ะ เอาทีละข้อนะคะ
(ตอบยาวเพราะอยากให้เพื่อน ๆ ร้านชำอีกหลาย ๆ คนสู้ ๆ เหมือนกันค่ะ อย่ายอมแพ้นะคะ)
สินค้า ความหลากหลายเราต้องมีให้มากกว่าค่ะ
ตอนเรียนโชคดีที่บังเอิญอาจารย์ให้หาข้อมูลของ ร้านเลขเจ็ด
เลยรู้ว่า ร้านเลขเจ็ด จะคัดเลือกเฉพาะสินค้าขายดี 3 อันดับต้น ๆ เข้ามาขายค่ะ
ทุกสาขาจะมีสินค้าคล้าย ๆ กัน แต่ความต้องการของลูกค้าแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกันนะคะ
เราคนพื้นที่ คุยกับลูกค้าบ่อย ๆ เวลาเค้ามาซื้อของเราจะได้รู้ว่าเค้าต้องการอะไร
ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ของเรามากกว่าค่ะ
สังเกตดูลูกค้าเราเป็นใคร ชอบอะไร ก็หามาขายค่ะ อีกอย่างต้องไวนะคะ
โฆษณาห้ามเปลี่ยนช่องดูเข้าไปอะไรออกใหม่ ต้องหามาขายให้ทันโฆษณาค่ะ
ร้านเลขเจ็ด  ขายได้เราก็ต้องขายได้
ราคาสินค้า เดินไปดูเลยค่ะที่ ร้านเลขเจ็ด ขายกี่บาท เราตั้งราคาให้ถูกกว่าค่ะ
ร้านเลขเจ็ด จะบวกกำไรเยอะมาก เราลดราคาลงมาหน่อย หาร้านส่งที่ราคาถูก
(ที่บ้านพี่แยกซื้อค่ะ กว่าจะได้ของครบนี่บางทีวนเกือบ 10 ร้าน  -_-“)
ที่สำคัญหมั่นไปดูเค้าขายอะไร แปลก ๆ ใหม่ ๆ ดูจะขายได้ต้องขวนขวายไปหามาค่ะ
ป้ายราคาต้องมีให้ชัดเจนนะคะ ไม่ต้องถึงขนาดไปซื้อป้ายแบบใน ร้านเลขเจ็ด มาก็ได้
แค่ตัวยิงราคาแบบที่ติดที่สินค้าเลย ตัวละ 2-300 บาทก็ใช้ได้แล้ว
ยิ่งอันไหนถูกกว่ามาก มีคอมใช้คอมปรินท์ติดให้เห็นตัวโต ๆ ค่ะ
สร้างความแตกต่าง ของแบ่งขายนี่ตัวได้กำไรเลยค่ะ
บ้านพี่แบ่งทั้งถุงใส่กับข้าว ยางรัดของ ขนมปี๊บ (ทำแพคเกจให้สวยงามนะคะ กำไรดีมาก)
หลัง ๆ มีลูกค้ามาบ่นเรื่องเด็ก ๆ ชอบไปซื้อของเล่นในร้านเลขเจ็ด
ซึ่งราคาแพงมาก พี่เลยไปหาของเล่นแผงมาขายค่ะ
ตอนนี้ลูกค้าเด็ก ๆ เลยกลับมาเพียบแล้วค่ะ อิอิ แต่ขายของเด็กต้องทันเด็กนะคะ
ตอนนี้เค้าเล่นอะไรกัน อะไรกำลังฮิต ถามเอาจากร้านขายส่งนั่นแหละค่ะ
เลือกร้านที่เค้าแนะนำเราดี ๆ
อีกอย่างสินค้าเครื่องแต่งตัว ร้านเลขเจ็ด จะไม่ขายของพวกฮิต ๆ ตามตลาดนัดค่ะ
เช่น พวกสบู่ต่าง ๆ ครีมยอดฮิต
อีกอย่าง ร้านเลขเจ็ด ข้างบ้านเราพนักงานหน้าเป็นตูด
(ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพค่ะ ลูกค้าพูดมาอีกที)
ร้านเราเลยได้เปรียบ เพราะเราอยากให้ลูกค้าออกจากร้านเราไปด้วยรอยยิ้มมากกว่า ยิ้ม
อ้อ รายได้เสริมบ้านพี่คือมีตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ กับตู้เติมเงินมือถือค่ะ
(ตู้ร้านเลขเจ็ด คิดค่าบริการตามยอดที่เติม ตู้ที่บ้านพี่ พี่ตั้งค่าบริการเองถูกกว่า ร้านเลขเจ็ด ค่ะ
รายได้ไปเอาจากส่วนแบ่ง % จากเงินที่ลูกค้าเติมแทน
)
ปีใหม่พี่มีของขวัญให้ลูกค้าจับรางวัลด้วยค่ะ ของเล็ก ๆ น้อย ๆ
แต่ถือว่าเป็นน้ำใจตอบแทนลูกค้า

ลูกค้าก็สนุกไปกับเราด้วย
หลายอย่างค่ะ เริ่มเมื่อยมือแล้ว จิ้มในมือถือ -_-”
สรุปคือค่อย ๆ คิดค่ะ แก้ปัญหาทีละอย่าง ความเครียดช่วยอะไรไม่ได้เลยมีแต่ทำให้แย่ลง
สิ่งสำคัญคือ [สติ] นะคะ
ทุกวันนี้ ร้านเลขเจ็ด ทำให้พี่หมดหนี้ค่ะ
ก่อนร้านเลขเจ็ด มาเปิดมีหนี้อยู่ประมาณล้านกว่าบาท ร้านเลขเจ็ด
เปิดได้ 1 ปีกว่า ๆ ยอกขายที่ร้านพี่เพิ่มขึ้นมาก หนี้จากที่ไม่ค่อยขยับไปไหนก็หมดไป
(ขอบคุณ ร้านเลขเจ็ด ค่ะ)
ปัจจุบันร้านจาก 2 ห้องขยายเป็น 3 ห้องแล้วค่ะ สินค้าในร้านเยอะมากขึ้นมาก
ลูกค้าก็เยอะขึ้นตามมามากเหมือนกัน
(ร้านเลขเจ็ด ช่วยดึงลูกค้านะคะ บ้านพี่ไม่ได้อยู่ในตลาด
ตะก่อนลูกค้าจะเลยเข้าตลาด พอ ร้านเลขเจ็ด มาเปิดเลยดึงลูกค้าส่วนนี้มา
)
หนี้ที่หมดเริ่มมีก้อนใหม่แล้วค่ะ เอามาลงทุนเพิ่ม แต่ไม่กลัวแล้วค่ะ
แถมตอนนี้ Big C มาแล้ว ข่าวว่า Lotus กำลังจะตามมา
แต่ก็ไม่ท้อค่ะ ลูกค้าไป bigc มาส่วนใหญ่ว่าของแพง บ้านเราถูกกว่า
(จะไม่ถูกกว่าได้ยังไง เราแอบดูราคาจากในเว็บ bigc อิอิ)
ไม่ได้มีแต่ร้านเรานะคะที่คิดว่า ร้านเลขเจ็ด มาเปิดแล้วไม่ดี คนรู้จักกันเปิดร้านคน

ละอำเภอเจอสถานการณ์เดียวกัน
เค้าก็ขายดีขึ้นเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ ร้านเลขเจ็ด เปิดมาได้น่าจะ 3-4 ปีแล้ว
ได้น้องพนักงานขาย ร้านเลขเจ็ด มาเป็นลูกค้าเราด้วยอีก อิอิ

อย่าท้อค่ะ อย่าท้อ มาสู้ ๆ ไปด้วยกันนะคะ

ข้อเสนอแนะการเขียนรายงานการประเมินคุณภาพ

ข้อเสนอแนะการเขียนรายงานการประเมินคุณภาพ
ข้อเสนอแนะการเขียนรายงานการประเมินคุณภาพ

การประเมินว่าสถานศึกษามีคุณภาพหรือไม่ จะมีคนภายนอกเข้าไปมอง หากมองแล้วพบว่าผลการดำเนินงานไม่ตอบเกณฑ์ที่ส่วนกลางตั้งขึ้น ก็จะมองว่า มีจุดแข็ง/จุดอ่อนอะไร ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง แล้วสาเหตุที่ทำให้เกิดสิ่งเหล่านั้น แล้วปิดด้วยข้อเสนอแนะทิศทางการพัฒนา ซึ่งมีเอกสารตัวอย่างแนวทางการให้ข้อเสนอแนะการเขียนรายงานการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา

ประกอบด้วย 1) ผลการประเมินทุกระดับคุณภาพ ต้องให้ข้อเสนอแนะ 2) การให้ข้อเสนอแนะกำหนดให้ระบุไว้ใน 2 แห่ง คือตัวบ่งชี้ และแต่ละมาตรฐานทั้ง 4 มาตรฐาน 3) รูปแบบการเขียนข้อเสนอแนะ ในรูป swot ที่มีเพียงจุดแข็งและจุดอ่อน
ที่ http://www.scribd.com/doc/143112144/

แผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ฉบับที่ 11

SWOT แผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559)
SWOT แผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559)

แผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559)

ยุทธศาสตร์ที่ 1 เปลี่ยนระบบการนำองค์กรให้ขับเคลื่อนอุดมศึกษาแบบองค์รวม
กลยุทธ์ 1.1 กำหนดคุณค่าและสร้างวิสัยทัศน์ร่วมของอุดมศึกษาไทย
กลยุทธ์ 1.2 บริหารอุดมศึกษา โดยยึดเป้าหมายอุดมศึกษาตามกรอบแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2551-2565) อย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ 1.3 สร้างระบบการประเมินศักยภาพ และพัฒนาผู้บริหารระดับสูง กรรมการสภาของสถาบันอุดมศึกษา
กลยุทธ์ 1.4 สร้างระบบการปิดและยุบรวม หลักสูตร/ คณะวิชา / มหาวิทยาลัย
กลยุทธ์ 1.5 พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของสารสนเทศอุดมศึกษา
กลยุทธ์ 1.6 ต่อยอดสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำระดับโลก
กลยุทธ์ 1.7 ยกระดับอุดมศึกษาไทยให้มีบทบาทสูงในประชาคมอุดมศึกษาอาเซียนโดยเฉพาะด้าน Higher Education Manpower Mobilization
กลยุทธ์ 1.8 สร้างระบบและกลไกเพื่อรองรับความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่งกับหน่วยงาน ภาคการผลิตในด้านการเรียนการสอนและการวิจัย
กลยุทธ์ 1.9 พัฒนาโครงสร้างและบทบาทหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา

ยุทธศาสตร์ที่ 2 พัฒนาอาจารย์ให้เป็นมืออาชีพ และพัฒนาผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพให้เป็นอาจารย์
กลยุทธ์ 2.1 เพิ่มปริมาณอาจารย์ให้ตรงตามความต้องการในการผลิตบัณฑิต
กลยุทธ์ 2.2 พัฒนาอาจารย์ให้เป็นมืออาชีพอย่างเป็นระบบ
กลยุทธ์ 2.3 พัฒนาคุณภาพอาจารย์ให้มีความแข็งแกร่งในการทำวิจัย
กลยุทธ์ 2.4 ปฏิรูประบบค่าตอบแทนอาจารย์
กลยุทธ์ 2.5 พัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญ

ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับคุณภาพบัณฑิตอย่างก้าวกระโดด
กลยุทธ์ 3.1 พัฒนาระบบการเข้าศึกษา การเรียนรู้ และการสำเร็จการศึกษาที่ยืดหยุ่น หลากหลายตอบสนองในทุกกลุ่มวัย
กลยุทธ์ 3.2 ยกระดับคุณภาพของหลักสูตร ให้ได้รับการรับรองในระดับอาเซียนและระดับโลก
กลยุทธ์ 3.3 สร้างระบบและกลไก เพื่อจัดสอบใบรับรองคุณวุฒิเฉพาะสาขาแห่งชาติของทุกหลักสูตร
กลยุทธ์ 3.4 ปรับปรุงระบบติดตาม และประเมินบัณฑิตรวมทั้งพัฒนาบัณฑิตหลังเข้าสู่ตลาดงาน

ยุทธศาสตร์ที่ 4 ปฎิรูปการบริหารการเงินอุดมศึกษา เพื่อขับเคลื่อนสถาบันอุดมศึกษาสู่ความเป็นเลิศ
กลยุทธ์ 4.1 วิเคราะห์ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อหน่วยคุณภาพ
กลยุทธ์ 4.2 จัดทำแผนกลยุทธ์การเงินให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสถาบันอุดมศึกษา และแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาฉบับที่ 11 (พ.ศ.2555-2559)
กลยุทธ์ 4.3 จัดสรรทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาโดยคำนึงถึงความต้องการกำลังคนของประเทศ
กลยุทธ์ 4.4 กำกับ ติดตามประเมินผลการใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม (utilization management) ตามพันธกิจของสถาบันอุดมศึกษา

http://www.thaiall.com/swot/planhedu11.htm

http://www.mua.go.th/~bpp/developplan/download/higher_edu_plan/PlanHEdu11_2555-2559.pdf

ปรับโปรแกรมวิเคราะห์ swot ให้มี 15 ช่อง

วิเคราะห์ swot
วิเคราะห์ swot

18 ส.ค.55 ได้รับอีเมลจาก อ.พรรณี ท่านเคยมาเป็นผู้ประเมินคุณภาพที่มหาวิทยาลัย ส่ง comment ผ่าน web form เข้ามาทักว่า ระบบจัดทำวิเคราะห์ swot : so st wo wt เมื่อกรอกข้อมูลบางส่วนแล้วมีปัญหา ผมคาดว่าท่านกำลังทำแผนยุทธศาสตร์ เพราะ swot เป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยวิเคราะห์ แล้วกราฟช่วยแสดงความสัมพันธ์ของ swot ที่มีตัวเลขซับซ้อน ก็จำเป็นต้องถูกนำมา plot graph เมื่อทดสอบตาม comment ก็ไม่พบปัญหา จึงคาดว่าอาจเป็นที่เครื่องท่าน หรือเน็ต หรือลักษณะข้อมูล แล้วผมก็ถือเป็นโอกาสนี้ปรับโปรแกรม ประกอบกับเคยมีเพื่อนชาวไทยขอให้เพิ่มช่อง เกิน 10 ช่อง ผมจึงปรับโปรแกรมให้มี 15 ช่อง และเพิ่มตัวอย่างแบบ full sample คือ ใส่ข้อมูลไปให้ครบทุกช่อง เวลากรอกข้อมูลก็ดูเป็นตัวอย่างได้เลย โดยเพิ่มฟอร์ม 2 form และย้ายฟอร์มขึ้นมาบนสุดของเว็บเพจ

เพิ่มช่องในโปรแกรมวิเคราะห์ SWOT

swot draw
swot draw

6 เม.ย.55 คงเพราะหลายองค์กรเริ่มมีการวิเคราะห์ SWOT อย่างจริงจัง
เป็นผลให้เริ่มมีเพื่อนโทรมาถาม ขอโปรแกรมวิเคราะห์ SWOT
โปรแกรมนี้ก็เขียนไว้หลายปีแล้ว พอถามมาผมก็นึกไม่ค่อยออก

ล่าสุดถามมา ในขณะที่ผมอยู่หน้าเครื่อง และเขาขอเพิ่มช่อง
จึงปะติดปะต่อเรื่องได้ เพราะเดิมทำไว้เพียง 5 ช่อง
แล้วก็รับปากจะเพิ่มเป็น 10 ช่อง

อีกเรื่องที่อธิบายยาก คือ เขาขอโปรแกรมไปใช้
แต่ที่ผมเขียนเป็น Web App ที่ใช้งาน online ได้ทันที
ผู้ที่ขอคงชินกับการใช้ Win App แต่ของผมเป็น Web App
ก็ต้องอธิบายว่า web app กับ win app ต่างกันอย่างไร

โปรแกรมนี้ ค้นจาก google.com ว่า “โปรแกรมวิเคราะห์ SWOT

http://www.thaiall.com/swot

การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ของ MCU

plan strategy
plan strategy

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตแพร่ ห้องเรียนวัดบุญวาทย์วิหาร จัดทำโครงการจัดสัมมนาทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง ระดมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง (stakeholder) ร่วมวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก (SWOT) เพื่อให้ได้มาซึ่งแผนยุทธศาสตรืการพัฒนาของสถาบัน ระยะ 5 ปี ซึ่งสอดรับการพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นระบบ และกลไกเชิงบูรณาการ ในวันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554

โปรแกรมวิเคราะห์ SWOT ช่วยวาด SWOT Graph

โปรแกรมวิเคราะห์ swot

18 มี.ค.53 การวิเคราะห์สถานการณ์ประกอบด้วยจุดแข็งจุดอ่อนโอกาสและภัยคุกคาม (SWOT = Strength, Weakness, Opportunity และ Threat) คือ การสำรวจตรวจ สอบสภาพภายในองค์การและสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวางแผน เพื่อให้แผนนั้นได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่และแก้ปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ โดยอาศัยทั้งปัจจัยจากภายในและภายนอกมาเป็นฐานคิดสำหรับกำหนดแผนงานโครงการ
     เป้าประสงค์ (GOAL) ขององค์กร คือ การกำหนด วิสัยทัศน์ และพันธกิจขององค์กรที่ชัดเจน แล้วจึงวางแผนกลยุทธ์ระยะยาว และวางแผนปฏิบัติการรายปีที่ประกอบด้วยกิจกรรม/โครงการที่ชัดเจน ซึ่งการวางแผนกลยุทธ์ที่สมเหตุสมผลควรมาจากการวิเคราะห์สวอต สำหรับลำดับการเขียนแผนกลยุทธ์ ประกอบด้วย 1) เป้าประสงค์ (GOAL) 2) วิเคราะห์สวอท (SWOT Analysis) 3) เลือกกลยุทธ์และตัวชี้วัด (Select Strategy & KPI)  4) เขียนแผนปฏิบัติการ (Action Plan with PI) 5) วงจรเดมมิ่ง (PDCA with CQI = Continuous Quality Improvement)
     โปรแกรมวิเคราะห์ SWOT ออนไลน์ ช่วยนำ จุดแข็ง (Strength)  จุดอ่อน (Weakness)  โอกาส (Opportunities) และ ภัยคุกคาม (Threat)  ที่มีการกำหนดน้ำหนัก และคะแนนร่วมกันในองค์การแล้ว นำค่าที่ได้มาวาดเป็นกราฟแบบ Strategic Map พร้อมกับการเปรียบเทียบ SO, ST, WO และ WT ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาเลือกให้ความสำคัญกับประเด็นที่ได้ และออกแบบแผนงานโครงการที่จะนำมาแก้ปัญหา หรือเสริมจุดแข็งที่มีอยู่อย่างสมเหตุสมผล 
     โปรแกรมนี้พัฒนาขึ้นจากการที่ อ.ศศิวิมล นำผมไปรับการอบรมกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์วุฒิชัย ธนาพงศธร แล้วกลับมาเขียนที่มหาวิทยาลัยร่วมกับเพื่อนในคณะจนพอเข้าใจเรื่องการเขียน SWOT เบื้องต้น และ อ.ภาณี สอบถามถึงโปรแกรมที่จะนำมาใช้ ทำให้ผมมีโอกาสพัฒนาโปรแกรมที่ใช้ภาษา PHP + PHP Graphic จนได้ SWOT graph

+ http://www.thaiall.com/swot
+ http://www.thaiall.com/mis/mis10.htm
+ http://www.champa.kku.ac.th/QA/doc/shair/swot/swot.pdf
+ http://marketingteacher.com/Lessons/lesson_swot.htm
+ http://www.pnru.ac.th/upload-files/pictures/93/6_1053.pdf
+ http://www.opdc.go.th/oldweb/thai/E_Newsletter/july48/