ข้อมูลเปิด (Open Data) และเกี่ยวกับ data.go.th

ข้อมูลเปิด (open data)
ข้อมูลเปิด (open data)

Open Data

.. เคยอ่านวัตถุประสงค์ของ data.go.th แล้วก็ชื่นชม
ข้อแรก คือ ทำให้ผู้ใช้บริการทั้งภาคประชาชน ภาคธุรกิจเอกชน รวมถึงหน่วยงานของรัฐ  สามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพของภาครัฐได้ง่าย ข้อมูลที่เปิดให้ Download จากเว็บไซต์พบว่า มีหลายรูปแบบ อาทิ excel, json และ xml แล้วบรรทัดสุดท้ายของหน้า About พูดถึง ข้อมูลเปิด ว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ แล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่ายของหน่วยงานราชการได้

ท่านที่สนใจก็เข้าไปสืบค้นข้อมูลกันได้นะครับ
ที่ https://data.go.th/About.aspx

สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (สรอ.)

[เพิ่มเติม]
เกี่ยวกับข้อมูล Data ผมก็สนใจจึงทำโฮมเพจไว้หลายหน้าที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

http://www.thaiall.com/xml

http://www.thaiall.com/ajax

http://www.thaiall.com/lampang/index.php

http://www.github.com/thaiall

[Top Open Data]

ข้อมูลที่ถูก Download มากที่สุด คือ พิกัดตำบลจาก data.go.th
วันที่ 25 กันยายน 2560 พบมีคนเข้าชม จำนวนการเข้าชม 46423 ครั้ง
เป็นข้อมูลขอบเขตการปกครอง ของ กรมการปกครอง

ได้แฟ้มพิกัดตำบลของทั้งประเทศ
จำนวน 7768 รายการ จาก data.go.th มาในแฟ้ม tambon.xlsx
แล้วแปลงเป็น csv แต่เรียงตามรหัสตำบลเก็บในแฟ้ม tambon.csv
เลือกเฉพาะลำปางได้ 97 ตำบล เก็บในแฟ้ม tambon_lampang.csv
นับจาก tambon.xlsx ด้วย pivot table ในลำปางมี 97 ตำบล
สรุปว่ายืนยันข้อมูลว่าตรงกับรายการข้อมูลที่มีจริงใน tambon_lampang.csv
ตรวจตำแหน่งของ ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง
พบว่า latitude,longitude ไปตกกลางทุ่งนา
หลังศูนย์แสดงสินค้าเซรามิกและหัตถอุตสาหกรรม จังหวัดลำปาง
ห่างทางหลวงไปหลายร้อยเมตร

ทั้งหมดเก็บไว้ที่ https://github.com/thaiall/lampang

AFP บอกไทยไม่ใช่เมืองแห่งรอยยิ้ม อีกวันแบดไทยไปมวยโลก

http://www.youtube.com/watch?v=nF5KkWvqBhI

นักแบดมินตันไทยไล่ต่อยกันกลางสนามแข่ง
http://news.tlcthai.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2/170966.html
ใน “โยเน็กซ์ แคนาดา โอเพ่น 2013” วันที่ 20 กรกณาคม 2556
http://shows.voicetv.co.th/voice-news/76268.html

canada open 2013
canada open 2013

AFP = Agence France Presse เป็นสำนักข่าวของฝรั่งเศส
ตีแผ่ประเทศไทย ไม่ใช่เมืองแห่งรอยยิ้มอย่างที่คิด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
http://hilight.kapook.com/view/88841
19 กรกฎาคม 2556 สำนักข่าวเอเอฟพี ตีแผ่เรื่องราวด้านมืดของประเทศไทยว่า ประเทศไทยที่มีสมญานามว่า สยามเมืองยิ้ม นั้น บางครั้งก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะมีรายงานเกี่ยวกับอาชญากรรม การข่มขืน การชิงทรัพย์ ไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยเอเอฟพี ได้ระบุโดยสรุปว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนที่มีชายหาดที่สวยงาม เหมาะแก่การนอนอาบแดด มีวัดวาอารามอร่ามเรือง และมีสถานบันเทิง-ร้านรวงสำหรับชีวิตยามค่ำคืนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนประทับใจกับการมาเยือนประเทศไทยมาก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอีกหลายคน ประเทศไทยถือว่าเป็นดินแดนห่างไกลเกินกว่าจะเรียกว่า สวรรค์บนดิน อย่างที่หลายคนคาดหวัง

เพราะพวกเขาต้องเจอกับเหตุอาชญากรรม การชิงทรัพย์ การข่มขืน และอีกหลาย ๆ ปัญหาที่ทำให้การมาเที่ยวเมืองไทยไม่ได้สนุกอีกต่อไป โดยเฉพาะเรื่องการชิงทรัพย์ หรือขูดรีด หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ชื่นชอบการดื่มแอลกอฮอล์ ท่องราตรี พวกเขาอาจจะต้องตื่นและสร่างเมาขึ้นมาตอนเช้าแล้วพบว่าตัวเองถูกชิงทรัพย์ไปหมดเนื้อหมดตัว บางครั้งก็ต้องเจอการเก็บเงินค่าอาหารในราคาขูดรีดแบบสุด ๆ และบางครั้งก็เจอใบสั่งปรับจากตำรวจท้องถิ่นข้อหาจอดรถไม่ถูกที่ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ชาวต่างชาติเจอกันบ่อย ๆ

ด้านนายวอล บราวน์ อาสาสมัครชาวออสเตรเลียที่ทำงานร่วมกับตำรวจลาดตระเวนบนถนนอันเนืองแน่นในป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ได้เปิดเผยสิ่งที่เขาได้เจอในประเทศไทยว่า ที่เมืองแห่งรอยยิ้มนี้ มีนักท่องเที่ยวหลายคนโดนฉุด เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็มีชาวอิตาลี 2 คน เดินโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ แล้วก็จำอะไรไม่ได้เลยเป็นเวลา 3 วัน เสื้อผ้าและเงินทั้งหมดก็ถูกขโมยไปด้วย สิ่งที่ติดตัวพวกเขามีอย่างเดียวก็คือกางเกงใน การชิงทรัพย์ชาวต่างชาติเกิดขึ้นอยู่บ่อย ๆ ที่ภูเก็ต และผู้ที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ในที่เปลี่ยวยามค่ำคืนมักจะตกเป็นเป้าหมายของโจรเหล่านี้

และที่ร้ายแรงไปกว่านั้น คือ นักท่องเที่ยวบางรายต้องเผชิญกับอาชญากรรมที่รุนแรงถึงชีวิต อย่างเช่นเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว หญิงชาวออสเตรเลียวัย 59 ปี รายหนึ่ง ก็ถูกโจรโหดฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งคดีนี้ลงเอยที่โจรผู้ก่อเหตุต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง ก็มีชาวอเมริกันรายหนึ่งถูกคนขับรถแท็กซี่ฆ่าตาย หลังจากที่ทะเลาะวิวาทกันเรื่องค่าโดยสาร

นอกจากนี้ ความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทยนั้นยังอยู่ในระดับที่น้อยมาก ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติไม่น้อยที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จากการโดยสารรถราสาธารณะในไทย

จากปัญหาหลาย ๆ อย่างข้างต้น ชาวต่างชาติหลายคนได้เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า พวกเขาหวังเหลือเกินว่าปัญหาเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขปรับปรุง โดยนายเดวิด ลิปแมน หัวหน้าคณะผู้แทนอียู ได้กล่าวว่า เขาหวังว่าทางการไทยจะจัดการปัญหาเหล่านี้ให้ลดน้อยลง หลายคนที่มาเยือนไทย อย่างไปภูเก็ต พวกเขาอยากจะมีช่วงเวลาที่มีความสุขที่นั่นและไม่ต้องเผชิญปัญหาใด ๆ แต่ ณ วันนี้ ปัญหาต่าง ๆ ก็ยังคงอยู่

siam did not smile
siam did not smile

วิธีจัดการกับโทสะด้วยการเจริญสติ

พบปัญหา The file is corrupt and cannot be opened

เครื่องของเพื่อนเปิดแฟ้ม .xlsx ด้วย excel 2010 ไม่ได้ มีอาการดังนี้
1. download แฟ้มจาก email แล้ว double click ไม่ได้ แต่เปิดผ่าน browser ได้
2. download จากเว็บไซต์ แล้ว double click ก็ไม่ได้
3. แต่ไม่พบปัญหา หากสร้างแฟ้มในเครื่อง และเปิดในเครื่อง

ปัญหาที่พบ คือ เครื่องฟ้องว่า The file is corrupt and cannot be opened
แล้วก็เปิดแฟ้มไม่ได้

วิธีแก้ไขโดยปรับ option บางตัว มี 6 ขั้นตอน
ดังนี้
1. Open Excel 2010.
2. Click on File > Options.
3. Select Trust Center > Trust center settings.
4. Select Protected view.
5. Uncheck all the options under Protected View > OK.
6. Restart Excel 2010 and try to open Excel documents.

http://newsandguides.com/solution-the-file-is-corrupt-and-cannot-be-opened-excel-2010/

เปิดศูนย์นอกที่ตั้ง ต้องมีผลประเมิน สมศ. ระดับดีมาก

ระบบวงเวียนแทนสัญญาณไฟจราจร บริเวณห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง
ระบบวงเวียนแทนสัญญาณไฟจราจร บริเวณห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง
มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า กกอ. จะเข้มงวดกับศูนย์นอกที่ตั้ง ว่าต้องผ่านการประเมินจาก สมศ. ระดับดีมาก
ขอแค่ระดับดี หรือ พอใช้ไม่ได้แล้ว พอไปค้นดูก็พบจาก 2 สื่อ คือ ไทยโพสต์ กับเดลินิวส์ เมื่อกลางสิงหาคม 2555
แล้วได้ยินนักวิชาการพูดเรื่องนี้ว่าต่อไปจะเหมือนออก license เป็นใบเขียว ใบเหลือง และใบแดง ผมฟังแล้วเหมือนสัญญาณไฟตามแยกของถนนเลยครับ ที่มีสัญญาณ 3 ประเภท
1) ออกกฎเหล็กการเปิดศูนย์นอกที่ตั้ง ต้องให้รมว.ศธ.เซ็น/หลังผลตรวจล่าสุดน่าระอาไม่ผ่านประเมินอื้อ (ไทยโพสต์)
สกอ.เตรียมประกาศ เพิ่มขั้นตอนการเปิด และคงหลักสูตรการเรียนศูนย์นอกที่ตั้งมหาวิทยาลัย เบื้องต้นเพิ่มความเข้มงวดมหา’ลัยที่เปิดได้ต้องให้ รมว.ศธ.เห็นชอบ และต้องมีผลประเมิน สมศ. ระดับดีมาก โดยจะเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเร็วๆ นี้ “กำจร” เผยผลตรวจศูนย์นอกที่ตั้งประจำปี 2555 พบหลักสูตรไม่ผ่านการประเมินอื้อ ส่วนใหญ่เป็นระดับ ป.ตรี สั่งออกมาตรการแล้ว หลักสูตรใดไม่ผ่านการประเมินต้องหยุดรับนักศึกษาปี 56 ทันที
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อเร็วๆนี้ ได้รับทราบผลการตรวจประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง ประจำปี 2555 ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ระหว่างวันที่ 10 มี.ค.-30 มิ.ย.นี้ ซึ่งผลสรุปการตรวจประเมินจำนวน 14 สถาบัน 18 ศูนย์ 50 หลักสูตร พบว่า มีหลักสูตรผ่านการประเมิน 2 หลักสูตร 2 สถาบัน 2 ศูนย์ ไม่ผ่านการประเมิน 41 หลักสูตร 8 สถาบัน 11 ศูนย์ และต้องปรับปรุง 7 หลักสูตร 5 สถาบัน 5 ศูนย์ ทั้งนี้ หลักสูตรที่ไม่ผ่านส่วนใหญ่จะเป็นระดับปริญญาตรี อาทิ หลักสูตรบริหารธุรกิจ รัฐประศาสนศาสตร์ และครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ สกอ.ไปตรวจประเมินยังพบว่ามีศูนย์นอกที่ตั้ง ซึ่งยังไม่ถึงคิวประเมินได้ปิดตัวเองไปแล้วจำนวน 57 ศูนย์ ดังนั้นจะมีศูนย์นอกที่ตั้งที่ต้องไปตรวจประเมินในปี 2555 อีกจำนวน 162 ศูนย์ ประมาณ 300 กว่าหลักสูตร
รองเลขาฯ กกอ.กล่าวต่อว่า ผลการตรวจประเมินดังกล่าวทำให้ กกอ.มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน แต่ให้ปรับเพิ่มเล็กน้อย ก่อนที่จะเสนอนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ลงนาม จากนั้นจะต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อประกาศใช้ต่อไปหากมีร่างดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้สถาบันอุดมศึกษาทั้งรัฐและเอกชนจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งมีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่สถาบันไหนจัดการศึกษาไม่มีคุณภาพจะต้องปิดตัวไป และที่สำคัญการเปิดสอนนอกที่ตั้งไม่สามารถดำเนินการได้ง่ายเหมือนที่ผ่านมาจนเกิดปัญหาเหมือนปัจจุบันนี้
ส่วนสาระสำคัญของร่างดังกล่าว หากสถาบันอุดมศึกษาใดจะเปิดสอนนอกสถานที่ตั้งจะต้องขออนุญาตจาก รมว.ศึกษาธิการ ก่อนที่จะไปเปิดการเรียนการสอน ขณะที่หลักสูตรที่จะเปิดจะต้องเป็นความต้องการของสังคมและชุมชน รวมทั้งเปิดสอนในหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ อีกทั้งหลักสูตรที่จะเปิดสอนนั้นจะต้องรับการประเมินจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในระดับดีมาก และสถาบันอุดมศึกษาจะต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่จะสิ้นสุดการดำเนินการ จำนวนอาจารย์ที่มีอยู่และจำนวนนิสิตนักศึกษาที่จะรับด้วย ซึ่งถ้าทำได้ตามนี้จะทำให้การศึกษานอกสถานที่ตั้งมีคุณภาพแน่นอน
สำหรับผลการตรวจประเมินศูนย์นอกที่ตั้ง ทาง สกอ.จะแจ้งผลให้สถาบันอุดมศึกษาที่เข้ารับการประเมินรับทราบ และหากสถาบันใดต้องการจะทักทวงผลการตรวจประเมินต้องดำเนินการภายใน 30 วัน ตั้งแต่ได้รับทราบผลจาก สกอ. สำหรับหลักสูตรที่ไม่ผ่านการประเมินนั้นจะต้องไม่เปิดรับนิสิตนักศึกษาในหลักสูตรนั้นในปีการศึกษา 2556 แต่จะไม่มีผลกระทบกับนิสิตนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่.
2) สกอ.มั่นใจจัดระเบียบสอนนอกที่ตั้งได้ผล (เดลินิวส์)
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา  (กกอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการตรวจประเมินการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้ง ประจำปี 2555 ระหว่างวันที่ 10 มี.ค.- 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตรวจประเมินใน 14 สถาบัน 18 ศูนย์ 50 หลักสูตร โดยพบว่า มีที่ผ่านการประเมิน 2 หลักสูตร 2 สถาบัน 2 ศูนย์ ไม่ผ่านการประเมิน 41 หลักสูตร 8 สถาบัน 11 ศูนย์ และต้องปรับปรุง 7 หลักสูตร 5 สถาบัน 5 ศูนย์  ซึ่งหลักสูตรที่ไม่ผ่านส่วนใหญ่จะเป็นระดับปริญญาตรีบริหารธุรกิจ รัฐประศาสนศาสตร์ และครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ และจากการตรวจประเมินยังพบว่ามีศูนย์นอกที่ตั้งได้ปิดตัวเองไปแล้วจำนวน 57 ศูนย์ ทำให้เหลือศูนย์นอกที่ตั้งที่ต้องไปตรวจประเมินในปี 2555 อีกจำนวน 162 ศูนย์ ประมาณ 300 กว่าหลักสูตร

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะสรุปผลการตรวจประเมินแจ้งให้สถาบันอุดมศึกษารับทราบ เพื่อให้สถาบันทักท้วงผลการตรวจประเมินภายใน 30 วันนับจากได้รับทราบผล ทั้งนี้หลักสูตรที่ไม่ผ่านการประเมินนั้นมีผลทำให้สถาบันไม่สามารถเปิดรับนิสิตนักศึกษาในหลักสูตรนั้นในปีการศึกษา 2556 แต่จะไม่มีผลกระทบกับนิสิตนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่แล้ว
รองเลขาธิการ กกอ.กล่าวต่อไปว่า กกอ.ยังได้เห็นชอบ ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน แต่ให้ปรับปรุงเล็กน้อยก่อนที่จะเสนอ รมว.ศึกษาธิการลงนาม และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าเมื่อกฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับจะทำให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษานอกสถานที่ตั้งมีคุณภาพมากขึ้น ส่วนสถาบันที่จัดไม่มีคุณภาพจะต้องปิดตัวไป ที่สำคัญการเปิดสอนนอกที่ตั้งจะไม่สามารถดำเนินการได้ง่ายเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
“สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง คือ หากสถาบันอุดมศึกษาใดจะเปิดสอนนอกสถานที่ตั้งจะต้องขออนุญาตจาก รมว.ศึกษาธิการก่อนที่จะไปเปิดการเรียนการสอน หลักสูตรที่เปิดจะต้องเป็นความต้องการของสังคมและชุมชน รวมทั้งต้องเป็นหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ และต้องรับการประเมินจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในระดับดีมาก และสถาบันจะต้องมีการกำหนดระยะเวลาที่จะสิ้นสุดการดำเนินการ จำนวนอาจารย์ที่มีอยู่และจำนวนนิสิตนักศึกษาที่จะรับด้วย ซึ่งถ้าทำได้ตามนี้จะทำให้การศึกษานอกสถานที่ตั้งมีคุณภาพแน่นอน” รศ.นพ.กำจร กล่าว.
ระบบวงเวียนแทนสัญญาณไฟจราจร บริเวณห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง

open house @nation_university

open house @nation_university
open house @nation_university

29 ก.ค.55 Check in @ Nation University กับงาน Open House เสวนาหลักสูตร ป.ตรีภาคพิเศษ ก่อนตัดสินใจเรียนกับเรามหาวิทยาลัยเนชั่น (Nation University) / ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์ (Charnnarong Porndilokrad)

วิทยากรโดย คุณสุทธิชัย หยุ่น ประธานเครือเนชั่นกรุ๊ป  คุณต่อบุญ พ่วงมหา อดีตผู้บริหาร sanook.com  อ.ภรภัทร ปิติโชตินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ และ อ.จักรกฤษ เพิ่มพูล บรรณาธิการสำนักข่าวเนชั่นและประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเนชั่น
ณ อาคารมหาวิทยาลัยเนชั่น ชั้น 6 ห้อง 602 ลงทะเบียน 9.30น.

http://77.nationchannel.com/video/272498/

ในคลิ๊ปนาทีที่ 3.19 มีผู้ฟังท่านหนึ่งสะท้อนปัญหาของบัณฑิตไทยในปัจจุบันว่า “ปัจจุบันบัณฑิตใหม่ไม่เก่ง ขอเงินสูง ๆ ขี้เกียจ ทวิตทั้งวัน เฟซบุคส์ทั้งวัน หาคู่ครองในเวลางาน” แล้วคุณต่อบุญ ก็แลกเปลี่ยนว่ารูปแบบของความคิดแบบนั้น เนชั่นพยายามจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เราจะเอาความเป็นเจ้าของ entrepreneurship ใส่เข้าไปในความคิดของเด็ก เราจะทำให้แตกต่าง

openhouse ม.เนชั่น
openhouse ม.เนชั่น