เมื่อผู้สูงอายุขาหัก

 

happy elderly
happy elderly

เล่าสู่กันฟัง
ประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุของแต่ละท่านก็จะแตกต่างกันไป
ตามที่ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged society)

หลังจากปี 2552 ประชากรที่อยู่ในวัยพึ่งพิงได้แก่ เด็กและผู้สูงอายุ จะมีจำนวนมากกว่าประชากรในวัยแรงงาน
และในปี 2560 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่ประชากรเด็กน้อยกว่าผู้สูงอายุ

คำว่า “ผู้สูงอายุ” ย่อมเกี่ยวข้องกับ “สัจธรรมของชีวิต” ที่ประกอบด้วย เกิด แก่ เจ็บ และตาย

เก็บตะวัน โดย อิทธิ พลางกูร

 

วันที่ 9 พ.ย.2559 ตอนเที่ยงแล้ว หลังเลิกสอนหนังสือ มีโทรศัพท์เข้ามาว่า
ผู้สูงอายุของผมล้มก้นกระแทก คาดว่ากระดูกหักต้องพากันไปหาหมอ
ก็รีบออกไปรับแล้วไปโรงพยาบาลประจำอำเภอทันที
ไปถึงคุณหมอก็ให้ x-ray หลังเห็นภาพแล้ว
ก็รู้ว่ากระดูกขาที่ใกล้กับขาหนีบหัก ต้องผ่าตัดดามเหล็ก
หากผ่าตัดต้องดมยาสลบหลายชั่วโมง ซึ่งเสี่ยงกับการไม่ฟื้น
หากไม่ผ่าตัดก็จะเดินแบบปัจจุบันไม่ได้อีก ต้องเดินด้วยขาหยั่ง หรือนั่งรถเข็น
สรุปคุณหมอส่งเข้าโรงพยาบาลประจำจังหวัด
ผลการวินิจฉัยของคุณหมอก็เป็นไปในทางเดียวกัน
มี 2 ทางเลือก คือ ผ่าตัด กับไม่ผ่าตัด
แต่ปัจจัยที่จะทำให้ไม่ผ่ามีมากเหลือเกิน
คือ อายุ 73 ปี มีอาการอัลไซเมอร์
ปัจจุบันใช้ไม้เท้าอยู่แล้ว และขาข้างที่เป็นก็ไม่แข็งแรง
พบว่า ห้องกระดูกปิดแล้ว ต้องรอวินิจฉัยละเอียดในวันรุ่งขึ้น
คืนนี้ต้องเป็นผู้ป่วยใน ก็ได้นอนที่โรงพยาบาล
นึกอีกที ผมยืนติดเตียงตลอดตั้งแต่เที่ยงถึงหกโมงเย็น
หลังเข้าเตียง เจาะเลือด พบแพทย์ ทานข้าว ทานยาแล้ว
และเห็นท่านเริ่มง่วงนอน เพราะท่านไม่ได้หลับกลางวันเลย
ก็ขอตัวพากันกลับบ้านไปพัก พรุ่งนี้ค่อนไปรบรากับโรคภัยกันใหม่
มีโอกาสติดต่อห้องพิเศษ ตอนทราบว่าต้องเป็นผู้ป่วยใน
แต่ห้องสำหรับเปิดจองห้องพิเศษปิดแล้ว ต้องติดต่อวันรุ่งขึ้น
การนอนห้องพิเศษ ก็มีปัจจัยเรื่องการดูแลที่ต้องเลือกอีกเช่นกัน
ตัดสินใจไม่ง่ายเลย
https://fopdev.or.th/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B9/

สรุปได้ว่า
ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็จะต้องดูแลท่านต่อไป ตราบที่ผมยังมีลมหายใจ

บริโภคนิยมและใช้แรงงาน

พฤติกรรมที่ถือว่าเป็นคนโง่
พฤติกรรมที่ถือว่าเป็นคนโง่

หลักการ .. บริโภคนิยมและใช้แรงงาน
แต่เขาว่า เป็น ทรมานสัตว์

กาลครั้งหนึ่ง .. มีหมู่บ้านบริโภคนิยมและใช้แรงงานแห่งหนึ่ง
การพัฒนาหมู่บ้าน เน้นการใช้แรงงานสัตว์ และกินสัตว์เป็นอาหาร
หมู่บ้านนี้ไม่มีสัตว์เลี้ยง แต่เลี้ยงไว้กิน หรือใช้งาน
สัตว์ในหมู่บ้านอยู่เพื่อเป็นอาหาร และใช้แรงงาน
กฎของหมู่บ้าน คือ ต้องใช้สัตว์ให้มีประโยชน์สูงสุด
หากมีใครไม่ใช้ประโยชน์ ถือว่าเป็นคนโง่
เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง และคัดแต่คนฉลาดไว้ในหมู่บ้าน
คนโง่จะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน
ไม่ฟังคำโต้แย้ง เพราะคนโง่พูดอะไรก็ไม่น่าฟัง
และไม่มีคำว่าให้อภัยสำหรับคนโง่

และแล้ว
วันหนึ่ง มีตา หลาน นำลาเดินผ่านหมู่บ้าน
โดยตาและหลานเดินนำลา แล้วเดินไปตามทาง
เพียงก้าวแรกที่เหยียบเข้าหมู่บ้าน
ก็ถูกชาวบ้านรุมประนาม ว่าสิ้นคิดอย่างมหันต์
ก่อนจะไปถึงครึ่งหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านก็พาคนออกมาขวาง พูดสุภาพว่าห้ามผ่าน
บอกว่า ทั้งตาและหลานจะผ่านหมู่บ้านนี้ไปไม่ได้นะจ๊ะ
เพราะเป็นกฎ เป็นเกณฑ์ ที่ยึดถือมานับร้อยปี
การกระทำแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้
จงกลับไปทางเดิม และห้ามผ่านหมู่บ้านนี้อีก
เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านบริโภคนิยมและใช้แรงงาน
จะเดินไปโดยไม่ใช้แรงงานสัตว์ไม่ได้
แล้วตาหลานเดินเหนื่อย ปล่อยให้ลาเดินสบายไม่ได้เป็นอันขาด

สรุปว่า .. สองตาหลานเข้าใจ รีบเดินกลับทันที
และตกลงกันว่า
ถ้าผ่านหมู่บ้านต่อไป ตาหลานจะไม่ปล่อยให้ลาเดินสบายอีก
เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป
เข้าเมืองตาหลิ่ว ให้หลิ่วตาตาม .. เสมอ
http://www.dek-d.com/board/view/1397577/
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=585743691439766&set=a.506822259331910.127514.506818005999002


เขาว่ากันว่า
ความถูกต้องมีเพียงหนึ่งเดียว .. เป็นความเชื่อของมนุษย์
แต่ความถูกต้องมีหลายแบบ .. เป็นความจริงของโลก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=141213379294532&set=a.141213375961199.36663.100002176129280

ทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน เห็นใจทุกชีวิต

พฤติกรรมรังแกสัตว์
พฤติกรรมรังแกสัตว์

หลักการ .. รักและเอ็นดูสัตว์

แต่เขาว่า เป็นไอ้โง่

กาลครั้งหนึ่ง .. มีหมู่บ้านรักและเอ็นดูสัตว์แห่งหนึ่ง
การพัฒนาหมู่บ้าน เน้นการให้ความรักและให้เกียรติสัตว์
หมู่บ้านนี้เป็นมังสวิรัต
สัตว์ในหมู่บ้านอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างมีความสุข
อยู่ในบ้าน ในสวน กิน เดิน และนอนได้อย่างเสรี
ไม่มีการเบียดเบียน ซึ่งกันและกัน
สัตว์เป็นเพื่อน มูลสัตว์ให้คุณแก่การเกษตร
ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
กฎของหมู่บ้านคือไม่เบียดเบียนสัตว์
หากมีใครเอาเปรียบสัตว์ ไม่ว่าทางใดก็ตาม
จะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ไม่ฟังคำโต้แย้ง
และไม่มีคำว่าให้อภัยสำหรับการกระทำนั้น

และแล้ว
วันหนึ่ง มีตา หลาน นั่งลาเดินผ่านหมู่บ้าน
โดยตาและหลานนั่งบนลา แล้วให้เดินไปตามทาง
เพียงก้าวแรกที่เหยียบเข้าหมู่บ้าน
ก็ถูกชาวบ้านรุมประนาม ว่าสิ้นคิดอย่างมหันต์
ก่อนจะไปถึงครึ่งหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านก็พาคนออกมาขวาง พูดสุภาพว่าห้ามผ่าน
บอกว่า ทั้งตาและหลานจะผ่านหมู่บ้านนี้ไปไม่ได้นะจ๊ะ
เพราะเป็นกฎ เป็นเกณฑ์ ที่ยึดถือมานับร้อยปี
การกระทำแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้
จงกลับไปทางเดิม และห้ามผ่านหมู่บ้านนี้อีก
เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านรักและเอ็นดูสัตว์
จะเอาเปรียบสัตว์ให้ทำงานหนักแบกคนไม่ได้
แล้วมีตาหลานไปนั่งสบายบนหลังลาไม่ได้เป็นอันขาด

สรุปว่า .. สองตาหลานเข้าใจ รีบเดินกลับทันที
และตกลงกันว่า
ถ้าผ่านหมู่บ้านต่อไป ตาหลานจะไม่นั่งสบายบนหลังลาอีก
เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป
เข้าเมืองตาหลิ่ว ให้หลิ่วตาตาม .. เสมอ
http://www.dek-d.com/board/view/1397577/
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=585743691439766&set=a.506822259331910.127514.506818005999002


เขาว่ากันว่า
ความถูกต้องมีเพียงหนึ่งเดียว .. เป็นความเชื่อของมนุษย์
แต่ความถูกต้องมีหลายแบบ .. เป็นความจริงของโลก

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=141213379294532&set=a.141213375961199.36663.100002176129280

ผู้สูงอายุสำคัญที่สุด

ทรมานคนแก่
ทรมานคนแก่

หลักการ .. ผู้สูงอายุต้องมาก่อน
แต่เขาว่า ทรมานเด็ก

กาลครั้งหนึ่ง .. มีหมู่บ้านผู้สูงอายุแห่งหนึ่ง

การพัฒนาหมู่บ้าน เน้นพัฒนาที่ผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุเป็นที่รักของทุกคนเป็นที่สุด
ผู้สูงอายุเป็นบุคคลวีไอพี ขึ้นรถ ลงเรือฟรี
มีถนน ที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุทุกท่าน
เพราะถ้าไม่มีผู้สูงอายุพวกเราก็จะไม่มีวันนี้
กฎของหมู่บ้านคือไม่เอาเปรียบผู้สูงอายุ
หากมีใครเอาเปรียบผู้สูงอายุ ไม่ว่าทางใดก็ตาม
จะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ไม่ฟังคำโต้แย้ง
และไม่มีคำว่าให้อภัยสำหรับการกระทำนั้น

และแล้ว
วันหนึ่ง มีตา หลาน จูงลาผ่านหมู่บ้าน
โดยหลานนั่งบนลา
แล้วให้ตาจูงนำทาง
เพียงก้าวแรกที่เหยียบเข้าหมู่บ้าน
ก็ถูกชาวบ้านรุมประนาม ว่าสิ้นคิดอย่างมหันต์
ก่อนจะไปถึงครึ่งหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านก็พาคนออกมาขวาง พูดสุภาพว่าห้ามผ่าน
บอกว่า หลานจะผ่านหมู่บ้านนี้ไปไม่ได้นะจ๊ะ
เพราะเป็นกฎ เป็นเกณฑ์ ที่ยึดถือมานับร้อยปี
การกระทำแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้
จงกลับไปทางเดิม และห้ามผ่านหมู่บ้านนี้อีก
เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านคนดีรักผู้สูงอายุ
จะเอาเปรียบผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุเดินจูงลา
แล้วมีหลานนั่งสบายบนหลังลาไม่ได้เป็นอันขาด

สรุปว่า .. สองตาหลานเข้าใจ รีบเดินกลับทันที
และตกลงกันว่า
ถ้าผ่านหมู่บ้านต่อไป หลานจะไม่เอาเปรียบตาอีก
เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป
เข้าเมืองตาหลิ่ว ให้หลิ่วตาตาม .. เสมอ
http://www.dek-d.com/board/view/1397577/
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=585743691439766&set=a.506822259331910.127514.506818005999002


เขาว่ากันว่า
ความถูกต้องมีเพียงหนึ่งเดียว .. เป็นความเชื่อของมนุษย์
แต่ความถูกต้องมีหลายแบบ .. เป็นความจริงของโลก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=141213379294532&set=a.141213375961199.36663.100002176129280

ผิดมหันต์ หากเข้าเมืองตาหลิ่ว แล้วไม่หลิ่วตาตาม

ทรมานคนเด็ก
ทรมานคนเด็ก

หลักการ .. เยาวชนต้องมาก่อน
แต่เขาว่า ทรมานคนแก่


กาลครั้งหนึ่ง .. มีหมู่บ้านคนดีรักเด็กแห่งหนึ่ง
การพัฒนาหมู่บ้าน เน้นพัฒนาที่เยาวชน
พวกเขารักเด็กให้เกียรติเยาวชนเป็นที่สุด
เด็กอยากเรียนก็ได้เรียน อยากเล่นก็ได้เล่น
อยากอยู่บ้านเฉย ๆ ช่วยดูแลบ้านก็ได้อยู่
เพราะ เยาวชนคืออนาคตของชาติ
กฎของหมู่บ้านคือไม่เอาเปรียบเด็ก
หากมีใครเอาเปรียบเด็ก ไม่ว่าทางใดก็ตาม
จะถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ไม่ฟังคำโต้แย้ง
และไม่มีคำว่าให้อภัยสำหรับการกระทำนั้น

และแล้ว
วันหนึ่ง มีตา หลาน จูงลาผ่านหมู่บ้าน
โดยตานั่งบนลา
แล้วให้หลานจูงนำทาง
เพียงก้าวแรกที่เหยียบเข้าหมู่บ้าน
ก็ถูกชาวบ้านรุมประนาม ว่าสิ้นคิดอย่างมหันต์
ก่อนจะไปถึงครึ่งหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่บ้านก็พาคนออกมาขวาง พูดสุภาพว่าห้ามผ่าน
บอกว่า ตาจะผ่านหมู่บ้านนี้ไปไม่ได้นะจ๊ะ
เพราะเป็นกฎ เป็นเกณฑ์ ที่ยึดถือมานับร้อยปี
การกระทำแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนี้
จงกลับไปทางเดิม และห้ามผ่านหมู่บ้านนี้อีก
เพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านคนดีรักเด็ก
จะเอาเปรียบเด็ก ให้เด็กจูงลา
แล้วมีตานั่งสบายบนหลังลาไม่ได้เป็นอันขาด

สรุปว่า .. สองตาหลานเข้าใจ รีบเดินกลับทันที
และตกลงกันว่า
ถ้าผ่านหมู่บ้านต่อไป ตาจะไม่เอาเปรียบหลานอีก
เพราะชีวิตต้องดำเนินต่อไป
เข้าเมืองตาหลิ่ว ให้หลิ่วตาตาม .. เสมอ
http://www.dek-d.com/board/view/1397577/
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=585743691439766&set=a.506822259331910.127514.506818005999002

เลือกไม่ได้กับชีวิตหลังเกษียณ

ชีวิตหลังเกษียณ
ชีวิตหลังเกษียณ

4 มิ.ย.54 วันนี้อายุเต็ม 41 ปี นับแต่วันที่ลืมตาดูโลก จากการสื่อสารกับ อ.หนุ่ย ทำให้มีข้อสงสัยว่า ถ้าผมอายุถึง 60 ปี จะเลือกทำงานต่อ หรือพักผ่อนอยู่บ้านเฉย ๆ เพราะหลายครั้งที่คุยกับเพื่อนร่วมงาน ก็พบว่าหลายคนประสงค์จะ early retire หรือออกจากงานไปอยู่บ้านก่อนเวลา ในสังคม MLM ก็มีการหยิบเรื่องนี้มาเป็นจุดขายกันมากว่า คนที่สำเร็จก็จะ retire ก่อนเวลาได้ ไม่ต้องรอให้ถึง 60 ปี คนในครอบครัวหลายท่านก็เกษียณออกมานั่งนั่งนอนนอนไปวัน ๆ ไม่ได้หางานทำหลังเกษียณ

แต่ในอีกมุมหนึ่ง พบว่า ผู้บริหารในบางองค์กรเกษียณอายุราชการมาทำงานต่อในองค์กรเอกชน แม้จะพ้นอายุ 60 ปีก็ยังหางานทำ ดูเหมือนประสงค์จะทำงานจนกว่าจะทำต่อไปไม่ได้ บางท่านเกษียณได้เพียงไม่กี่เดือนก็ออกมาหางานทำแล้วก็มี จึงเห็นความแตกต่างของคน 2 กลุ่ม คือ อยากหยุดทำงาน กับ อยากทำงานไปชั่วชีวิต

ประเด็นที่มองย้อนกลับมาที่ตนเอง คือ อีกไม่ถึง 20 ปี เมื่ออายุครบ 60 ปี ลูกก็จบหมดแล้ว เงินเก็บเพื่อซื้ออาหารวันละ 100 บาท ก็คงจะพอมีใช้ไปอีกหลายปี การเลือกว่า 1) หยุดทำงานหลังเกษียณ หรือ 2) ทำงานไปชั่วชีวิต .. นั่งกลุ่มใจอยู่ว่าผมตัดใจไม่ได้ที่จะเลือกใช้ชีวิตอย่างไรหลังเกษียณ

หลังจากไปอาบน้ำมา ตอนนี้คิดได้แล้ว ..
อ้างถึงคำของพระพุทธเจ้า ให้ไว้ก่อนนิพพานว่า
“มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ”

ดังนั้น ถ้าเลือกทำงานต่อหลังเกษียณ
แสดงว่ายังยึดติดกับลาภ ยังใคร่ได้ใครดีกับยศ

สรุปคือผมตัดสินใจว่า
ถ้าเกษียณเมื่อใดก็จะทิ้งลาภ และยศ
ก่อนที่ลาภ และยศ จะทิ้งเรา

หวนนึกถึงคุณตาในวันพญาวัน (4)

รดน้ำดำหัว
รดน้ำดำหัว

วันที่ 15 เมษายนของทุกปีเป็นวันพญาวัน หรือสุดยอดวันขึ้นปีใหม่ของไทยในรอบปี วันนี้จะเป็นวันที่ผู้น้อย ผู้เยาว์ ไปรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ก็หวนนึกถึง 10 ปีที่ผ่านมาหลังผมแต่งงาน จะมีตาแสน(นายแสน ชำนาญการ)  ซึ่งเป็นคุณลุงของภรรยาอายุ 76 ปี เป็นผู้สูงอายุท่านหนึ่งในบ้านไหล่หิน  ทุกวันพญาวันจะมีผู้เยาว์ในหมู่บ้านถือขันมารดน้ำดำหัวท่านทุกปี แต่ปีนี้ไม่มีแล้ว เพราะท่านจากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยอุบัติเหตุวันลอยกระทงปี 2551 โดยทำพิธีเผาศพเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2551 เรื่องราวในอดีตเป็นสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้ แต่การหวนกลับไปนึกถึงก็ทำให้เรามีรอยยิ้มเล็ก ๆ กับความสุขน้อย ๆ และยังเป็นบทเรียนสำหรับการดำเนินชีวิตต่อไป เพราะการที่เรายังมีลมหายใจ แสดงว่ายังมีพรุ่งนี้รอเราอยู่