เห็นสุนัขนอนเจ็บ ถูกรถชน ตัดใจทำการุณยฆาต

จริยธรรม คำว่า “กรุณา” 
หลายคนก็ตีความจากสิ่งที่เห็นแตกต่างกันไป

สุนัขน่ารัก 5 ตัว
สุนัขน่ารัก 5 ตัว

อีกประเด็นที่มีคนสองกลุ่ม คิดเห็นไม่ตรงกัน
จากการวิจารณ์ในสื่อสังคม หลังเห็นคลิ๊ปทำร้ายสุนัข
โดยใช้ท่อนเหล็กไปตีสุนัขจนตาย
แต่หนุ่มเห็นว่าสุนัขจรจัด ถูกรถชน และนอนเจ็บมาหลายวัน
ตัดใจฆ่าให้ตาย หวังให้สุนัขพ้นทุกข์
น่าจะเรียกว่า “การุณยฆาต” ในแบบของหนุ่มคนนี้
แต่สื่อสังคมเห็นว่าใจร้าย
แล้วตำรวจแจ้งข้อหา “กระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์
โดยไม่มีเหตุอันควร และจำนำส่งฟ้องต่อศาล
http://www.posttoday.com/local/south/469769

 

เรื่องจริยธรรม มีกรณีศึกษามากมาย
มักนำไปแชร์กับนักศึกษา
ที่ http://www.thaiall.com/ethics

เคยฟังเพลง ทหารพิการรัก
ขับร้อง ศรเพชร ศรสุพรรณ

..ฉันเองต้องถูกญาติเธอกีดกัน
เพราะตัวฉันมันพิการอย่างนี้
ไปรบกลับมาแขนขาไม่ดี
เพราะเป็นหน้าที่ชาติชายอย่างฉัน
..แล้วเธอต้องกลับพบความอับอาย
ฉันมีร่างกายไม่เหมือนก่อนนั้น
เธอเหมือนนางฟ้าสวยผ่องพรรณ
เป็นนางพยาบาลที่งามทั้งกายและ ใจ
..ฉีดยาให้ฉันตายไปเถิดหมอ
นี่เป็นคำขอร้องของคนไข้
แม้เราจะเคยรักกันเพียงใด
ฉันก็คงไม่ให้ความสุขสม
..ขอเธอจงปล่อยฉันไว้ห่างตา
เห็นเธอยิ่งพาหัวใจขื่นขม
ฉันนี้อยู่ไปเปลืองน้ำเปลืองนม
ใจร้าวระบมเกินกว่าจะพยาบาล
..ฉีดยาให้ฉันตายไปเถิดหมอ
นี่เป็นคำขอร้องของคนไข้
แม้เราจะเคยรักกันเพียงใด
ฉันก็คงไม่ให้ความสุขสม
..ขอเธอจงปล่อยฉันไว้ห่างตา
เห็นเธอยิ่งพาหัวใจขื่นขม
ฉันนี้อยู่ไปเปลืองน้ำเปลืองนม
ใจร้าว ระบมเกินกว่าจะพยาบาล

 

แมวไม่น้อยหน้าหมาครับ .. เมนูแนะนำเช่นกัน

ในมุมของคนกินแมว
ในขณะที่คนไทยนิยมซื้อกระต่ายมาเลี้ยงต้อนรับปีเถาะ (2554) ด้วยความเชื่อที่ว่ากระต่ายเป็นสัตว์นำโชคที่จะนำพาสิ่งดี ๆ มาให้ผู้เลี้ยงตลอดปีนี้ ที่เวียดนามเองก็ไม่น้อยหน้า สำหรับปีนี้ที่เป็นปีแมวของเวียดนาม แมวก็กลายเป็นสัตว์ยอดนิยมของชาวเวียดนามที่ถือว่าจะนำโชคดีมาให้ตลอดปีเช่นกัน แต่แตกต่างกันที่ชาวเวียดนามเขาไม่ได้เอาแมวมาเลี้ยงเหมือนกับกระต่ายบ้าน ที่บอกว่าเป็นสัตว์ยอดนิยมนั้นหมายถึงนิยมนำมาทำอาหารรับประทานกันต่างหาก
โดยเฉพาะในจังหวัดถายบิ่ง ทางตอนเหนือของเวียดนาม ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ที่นิยมการนำแมวมาทำอาหารมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ เมนูต้มซุปแมว เนื้อแมวทอด เนื้อแมวย่าง และลูกชิ้นแมว กลายเป็นอาหารเลิศรสที่เจ้าของร้านอาหารหลายร้านภูมิใจนำเสนอแก่แขกที่มารับประทานอาหารในร้าน แม้ว่าทางจังหวัดจะมีการประกาศสั่งห้ามขายและฆ่าแมวก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของร้านหยุดเสิร์ฟเมนูแมวแต่อย่างไร เพียงแต่ตัดปัญหาง่าย ๆ ด้วยการไม่ติดป้ายโฆษณาเมนูแมวไว้หน้าร้านเท่านั้น
สำหรับ วิธีการนำแมวมาประกอบอาหารนั้น พ่อครัวจะเลือกฆ่าแมวด้วยวิธีการนำพวกมันไปถ่วงน้ำให้ขาดใจตาย แทนการตีหรือเชือดคอเหมือนกับฆ่าหมู เพราะจะทำให้แมวกลัวและเกร็ง จนถุงน้ำดีแตก และนั่นทำให้เนื้อแมวเสียรสชาติ จากนั้นพ่อครัวก็จะนำแมวมาผ่าท้องและแล่เนื้อ โดยส่วนที่นิยมนำมาประกอบอาหารมากที่สุด ได้แก่ กระเพาะ ลำไส้ และเนื้อส่วนสะโพกของแมว ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด และเป็นยาอายุวัฒนะ ให้พลังงานสูง ทำให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวของเวียดนามที่กำลังหนาวติดลบอยู่ในขณะนี้ แต่หากเป็นเมนูแมวย่าง พ่อครัวจะควักเครื่องในออกทั้งหมด แล้วนำไปย่างบนไฟอ่อน ๆ ให้เนื้อแมวค่อย ๆ สุกกลายเป็นสีน้ำตาล จากนั้นก็เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ
ส่วนราคาเมนูแมวนี้ จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่า แมวนั้นเป็นแมวลักษณะแบบไหน และมาจากที่ไหน โดยเนื้อแมวดำจะมีราคาแพงที่สุด เพราะเชื่อว่ามีรสอร่อยที่สุด อาจมีราคาถึงตัวละ 15,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนเนื้อแมวสดทั่วไปนั้น ขายกันในราคากิโลกรัมละ 100 บาท (แมวบ้าน 1 ตัว มีน้ำหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัม) และหากเป็นแมวนำเข้าจากจีนก็จะมีราคาถูกลงไปอีก เนื่องจากไม่อร่อยเท่ากับเนื้อแมวสดจากเวียดนามเอง
ทั้งนี้โดยปกติแล้ว ชาวเวียดนามจะกินแมวกันเป็นปกติ ไม่ต่างกับชาวจีนที่มีความเชื่อว่าแมวเป็นเมนูนำโชค แต่ในปีนี้ซึ่งตรงกับปีแมวของเวียดนาม แมวกลายเป็นเมนูเลิศรสที่ใคร ๆ ก็ปรารถนาอยากจะกินมากกว่าปกติ เพราะเชื่อว่าหากได้กินแล้วก็จะช่วยปัดเป่าโชคร้ายออกไป ทำให้แมวกลายเป็นสัตว์ที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในตอนเหนือของเวียดนามในขณะนี้ และหากบ้านไหนเลี้ยงแมว แต่ไม่ดูแลแมวของตัวเองดี ๆ ก็จะเกิดกรณีแมวหายได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าถ้าหากแมวตัวไหนถูกปล่อยให้มาเดินเพ่นพ่านในที่สาธารณะ ก็จะถูกจับไปใส่กรงขังไว้ เพื่อรอวันแปรสภาพกลายเป็นเมนูแมวในที่สุด
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว องค์กรพิทักษ์สัตว์ในประเทศจีนได้เคยแฉพฤติกรรมสุดโหดร้ายของนายหน้าค้าแมว ที่ขโมยแมวไปขายให้ภัตตาคารต่าง ๆ ในมณฑลกวางตุ้ง ที่แสดงให้เห็นว่าแมวกว่าร้อยตัวถูกขังไว้ในกรงแคบ ๆ และได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้าย ซึ่งทางองค์กรพิทักษ์สัตว์ในนครเซี่ยงไฮ้ก็สามารถช่วยชีวิตแมวเคราะห์ร้าย เหล่านั้นออกมาได้กว่า 300 ตัว และส่งพวกมันคืนเจ้าของได้ในที่สุด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้นายหน้าค้าแมวหยุดล่าแมวแต่อย่างไร ทุกวันนี้ก็ยังคงมีเมนูแมวขายในภัตตาคารจีนกันตามปกติ อีกทั้งยังเป็นเมนูแนะนำอีกด้วย
http://vdowww.dek-d.com/board/view.php?id=2043319

ในมุมของความเชื่อเรื่องแมว
ลางร้าย ภัย อาถรรพณ์ ในคติความเชื่อโบราณ เปรียบดังเงาร้าย ที่เชื่อว่าหากเข้าใกล้ชีวิตเรา จะหาความสุขไม่ได้ มีทุกข์ภัยที่ประดังเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน ในบรรดาลางร้ายที่แสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ นั้น “แมวดำ” จัดเป็นหนึ่งในตัวแทนแห่งลางร้าย ความเชื่อเรื่องแมวดำ ไม่ได้มีระบุที่มาแน่ชัด หากเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ที่นักประวัติศาสตร์ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ เนื่องจากคติความเชื่อเรื่องแมวดำไม่ได้มีเฉพาะในไทยเท่านั้น หากมีในหลากชาติหลายภาษาโดยในตำนานเก่าแก่ของอินเดียโบราณ เชื่อว่า แมวดำเป็นสัตว์ผี เป็นพาหนะของพระษัษฐี เทวีแห่งความตายของทารก หรือ ผีแม่ซื้อประจำตัวเด็กในวันที่ 6 ซึ่งพระษัษฐีเป็นเทวีที่มีอิทธิฤทธิ์ หากใครเห็นแมวดำที่ไหน มักต้องเห็นพระษัษฐีปรากฏกายที่นั่น และจะมีเด็กหรือคนตายที่นั่นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในงานศพจะระมัดระวังไม่ให้แมวมาถูกต้องศพ ด้วยเชื่อว่าจะเกิดมนทินกับศพนั้น ๆ ไปตลอด
ในคติความเชื่อของจีนโบราณ ถือว่าหากแมวข้ามศพ ผีนั้นจะดุร้ายมาก ต้องเอาตะไกรหรือเหล็กวางไว้บนอกศพ จึงจะไม่เป็นไร เช่นเดียวกับในความเชื่อของแขกมาลายู ที่ต้องเอาตะไกรหนีบมาวางบนอกศพ เผื่อว่าแมวกล้ำกรายเข้ามาใกล้ศพหรือถูกศพ เหล็กตะไกรจะเป็นเครื่องบังคับไม่ให้ศพลุกขึ้นมา กลายเป็นผีร้าย เป็นที่หวาดเกรงของชาวบ้านได้ แมว จัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีมากกว่าความเป็นสัตว์เลี้ยงธรรมดา ในแง่ที่ว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเชื่อของคน เป็นตัวแทนความศักดิ์สิทธิ์ และเหนือจริง จนมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า “หากฆ่าแมวสักตัวถือว่าบาปหนักหนา เท่ากับฆ่าเณรรูปหนึ่งเลยทีเดียว
http://learners.in.th/blog/sukanyanonmai/391609
http://board.postjung.com/412380.html

ร่ำเปิงเรื่องเวทีของสุนัข

เรื่องของสุนัข

9 ก.พ.53 ร่ำเปิง คือรำพึงหรือระลึก เมื่อผมอายุมากขึ้นก็จะมีเรื่องให้นึกถึงมากมาย เรื่องหนึ่งคือบทเรียนจากการอ่านการ์ตูนเรื่องสุนัขกัดกัน ต่อสู้กันในเวทีที่มีคนจัดให้ แล้วคนก็ไปมุงดู เสียเงินดูและพนันขันต่อว่าตัวไหนจะชนะ ไปเชียร์ด้วยความเมามันส์ ไม่นึกกันเลยว่าสุนัขก็มีชีวิต ไหนไหนก็เกิดมาในยุคเดียวกันแล้ว ถ้าเราไม่กินเขาเป็นอาหารก็ไม่ควรเอาความทุกข์ของเขามาเป็นความสุขของเรา ปัจจุบันมีมนุษย์บางกลุ่มชอบเห็นเผ่าพันธุ์ของตนต่อสู้ฮั่มหั่นกันและชื่นชอบกับการเฝ้าดูฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มกันไปข้างหนึ่ง .. น่าแปลกที่เสี้ยวเวลาน้อยนิดที่เรามาใช้เวลาร่วมกัน กลับไม่มุ่งมั่นที่จะใช้เวลาที่เหลืออย่างมีคุณค่าที่สุด