มีเด็กเรียกผมว่าคุณครู

ประโยคภาษาอังกฤษ

10 พ.ค.53 วันนี้มีเด็กพูดว่า “ขอบคุณค่ะคุณครู” ก็ไม่เคยได้ยินใครพูดอย่างนี้กับผม เห็นแต่ในภาพยนต์ แม้จะเป็นอาจารย์มาแล้วหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดอย่างนี้ อาจเป็นเพราะผมสอนภาษาอังกฤษกับเด็กที่บ้าน คือให้เขาได้ฝึกแปล ฝึกอ่านประโยคภาษาอังกฤษที่ได้จากหนังสือ ขั้นแรกก็ปล่อยให้อ่านและแปลแบบผิดผิดถูกถูก ขั้นที่สองก็บอกว่าที่อ่านมา หรือแปลมาผิด ให้กลับไปทบทวน ให้สละสลวยกว่านี้ ขั้นที่สามก็ให้ปิดบันทึกย่อ แล้วอ่านแปลจากความทรงจำ ขั้นที่สี่ผมก็จะอ่านให้เขาฟัง และให้เขาเขียนเป็นประโยคและคำแปล .. ตอนนี้กำลังดำเนินการขั้นที่สาม ก็ทำเท่าที่ทำได้ตามอัตภาพและศักยภาพของเด็ก .. ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งของคนเป็นครู

รวบเจ้าอาวาสวัดดังเชียงใหม่ยิงกิ๊กแฟนสาว

อย่าอยากเป็นกิ๊ก .. ขอเตือน

9 พ.ค.53 มีคนบอกว่า sanook.com ลงข่าวที่ได้มาจาก innnews.co.th ว่า พ.ต.ต.สุธีระ ปุณณะบุตร ผบก.สส.ภาค 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ นำตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) นำหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าจับกุม ครูบาน้อย เจ้าอาวาสวัดดัง ใน ต.ตลาดขวัญ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พระโต้ง เป็น พระลูกวัดคนสนิท ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากการสอบสวนทราบว่า ครูบาน้อย เป็นคนสั่งให้พระโต้งใช้อาวุธปืนลูกซองยิงผู้ตาย เนื่องจากโกรธแค้นที่ น.ส.กวาง เลิกคบหากับตน แล้วไปคบกับผู้ตายที่ถือว่าเป็นกิ๊ก ทางตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและเข้าจับกุมได้คาวัดดังกล่าว
     ในใจผมคิดว่าบทเรียนในปัจจุบันจะเป็นแนวทางในอนาคต จะได้ไม่เดินพลาดด้วยความตั้งใจของตนเอง เพราะถ้าพลาดจากเหตุสุดวิสัย เช่น ป่วยเป็นมะเร็งที่ผ่านการควบคุมอาหารและการใช้ชีวิตแล้ว การจากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บก็คงเป็นเหตุสุดวิสัย .. ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ถึงอย่างไรก็ยังเป็นสิ่งเดียวที่มีให้ยึดเหนี่ยว คงเปลี่ยนที่หมายของความหวังที่จะได้ขึ้นสวรรค์ ไปพบนางฟ้า ไปนั่งกินนอนกินบนยอดเมฆอย่างมีความสุขนิรันด์กาล .. เพราะถ้าชีวิตสิ้นหวัง สิ้นความเชื่อ ก็จะเป็นทุกอย่างแสนสาหัส ขอเตือนว่าทุกคนอย่าสิ้นหวังในศาสนา ในชีวิตหลังความตายนะครับ .. ไม่งั้นจะเป็นทุกข์ไปชั่วชีวิต
+ http://www.thaiall.com/dhamma

ร่างผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระหว่างอบรมอีเลินนิ่ง

8 พ.ค.53 จากการอบรมอีเลินนิ่งเมื่อ 29-30 เม.ย.53 เพื่อนได้ชวนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (อาจารย์บางท่านขอสงวนนาม) แล้วผมก็บันทึกข้อเสนอแนะไว้ จากนี้ก็จะส่งให้เพื่อนได้ทบทวนก่อนจัดทำรูปเล่มดังนี้ 1) อ.ภามิตร เสนอให้มีการติดตามการใช้งานอีเลินนิ่ง และจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากการใช้งานโปรแกรมภายหลังการอบรมไปแล้วระยะหนึ่ง ซึ่ง อ.ฉัตรแก้ว ให้ความเห็นสนับสนุนให้มีกิจกรรมติดตามผลการอบรมเช่นกัน 2) อ.อดิทอง เสนอให้มีระบบบริการครบวงจรมีพี่เลี้ยงแบบสายฟ้าแล็บที่ใกล้ชิดกับผู้สอนอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ความรู้ตั้งแต่เริ่มต้นหลักสูตร การจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานในแต่ละคณะวิชา การกำกับดูแลมาตรฐาน การออกแบบเนื้อหาสอดรับกับธรรมชาติของหลักสูตรและมหาวิทยาลัย การทดสอบใช้งาน การติดตามช่วยเหลือนักศึกษาในการใช้งานสอดรับกับแต่ละเนื้อหาหรือกิจกรรม และการจัดทำสื่อมัลติมีเดียสนับสนุนให้การพัฒนาอีเลินนิ่งเป็นไปอย่างสมบูรณ์ 3) อ.คงสืบ เสนอให้ผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องมีความจริงใจ มีคุณธรรม จริยธรรม มีความสมเหตุสมผล เห็นประโยชน์ของคนทำงานมากกว่าสิ่งอื่นใด เพื่อให้การทำงาน การสนับสนุนการพัฒนาการเรียนการสอนมีระบบและกลไกที่เอื้อต่อการพัฒนา จัดหาฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และพีเพิลแวร์ที่เพียงพอ 4) อ.เกศลา เสนอให้มหาวิทยาลัยวางแผนเรื่องภาระของบุคลากร เพราะปัจจุบันไม่มีเวลาในการพัฒนาระบบอีเลินนิ่ง หากมีเวลาในการพัฒนาอีเลินนิ่งเพิ่มก็จะดีมาก 5) อ.คนึงภู เสนอว่าการอบรมควรมีคู่มือ เพราะคู่มือในดีวีดีมีเพียงไม่กี่สถาบัน และมีคู่มือของอ.ทนงฝั้น และคู่มือของอ.บุพันธุ์ ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากการบรรยายมีรายละเอียดค่อนข้างมาก หากมีคู่มือที่ละเอียดและมีขั้นตอนตามที่อบรมก็จะดีมาก  ซึ่ง อ.สกุลหล้า ให้เหตุผลสนับสนุนข้อเสนอนี้ 6) อ.สุทธิ์สกุล เสนอให้มีการอบรมนักศึกษาในการใช้งานอีเลินนิ่ง เพื่อให้การพัฒนาอีเลินนิ่งสามารถถูกใช้โดยนักศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการบูรณาการกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพมากกว่าอาจารย์แต่ละคนจะไปอบรมในชั้นเรียนของตนเอง 7) อ.วีรัตน์ เสนอให้มหาวิทยาลัยจัดคอมพิวเตอร์ให้กับอาจารย์ จัดคอมพิวเตอร์ให้หน่วยงานระดับสาขา จัดคอมพิวเตอร์ให้กับนักศึกษา ปรับความพร้อมและทัศนคติของอาจารย์ และนักศึกษา เพราะสิ่งเหล่านี้ยังไม่พร้อม ซึ่ง อ.ศรินขำ มีความเห็นไปในทางเดียวกันกับข้อเสนอนี้

เรื่องเซ็กส์ระหว่างเด็กแก่แดด มีตัวอย่างในละครทีวี

7 พ.ค.53 วันนี้พบละครทีวีเรื่องมนต์รักสายฟ้าแล็บ แสดงให้เห็นความฉลาดของเด็ก 2 คน ที่ดูจะโตเกินวัย แก่แดด เพราะผู้กำกับกำหนดให้เป็นอย่างนั้น น่าแปลกที่สังคมไทยยอมรับเรื่องนี้ มนุษย์บางคนคงนั่งดูกันอย่างมีความสุข ไม่ได้คิดอะไรกันเลย บางท่านอาจคิดแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ส่วนผมก็ทำได้แค่เขียนนี่หละครับ เป็นการสะท้อนคิดจากมุมมองของปุถุชนครับ ถ้าเขียนมากกว่านี้ก็จะเกินไป และจำต้องยอมรับไปด้วย เพราะการทำตัวแตกต่างจากปุถุชนคงไม่ใช่ผลดี ขนาดเห็นเพื่อนเล่นเกมในเวลางาน เห็นเพื่อนกินเหล้า เห็นเพื่อนกินหมูไหม้ ผมยังเงียบเลย เกรงว่าเขาจะรู้ว่าผมคิดอย่างไร

ทำบุญให้พี่หนุงหนิงที่สนาม

รำลึกถึงพี่สาวผู้ล่วงลับ

7 พ.ค.53 พี่หนุงหนิง หรือพี่พจนีย์ หน่อพรหม ศิษย์เก่ารุ่น 1 และบุคลากรของมหาวิทยาลัยโยนกเสียชีวิตที่สนาม เมื่อคืนวันพุธที่ 27 เม.ย. 2553 เพื่อนร่วมงาน เพื่อนเก่าและญาติต่างเสียใจ ดังนั้นในวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.2553 บุคลากรทั้งผู้บริหาร อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ จึงร่วมกันทำพิธีอุทิศส่วนกุศลให้กับพี่หนุงหนิงอีกครั้ง โดยมีท่านอธิการ ผู้ช่วยอธิการบดี เพื่อนร่วมงานที่หอพัก และเพื่อนบัณฑิตวิทยาลัย ต่างมาร่วมพิธีกันพร้อมหน้า

อบรม TQF ที่มหาวิทยาลัยโยนก โดย อ.อุาณีย์ คำประกอบ

วิทยากร อาจารย์ และทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัย

6 พ.ค.53 ฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยโยนก โดย อ.อติชาต หาญชาญชัย จัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education) ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักประกันคุณภาพจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้เกียรติมาเป็นวิชาการ คือ รศ.อุษณีย์ คำประกอบ สำหรับเนื้อหาประกอบด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับแบบฟอร์มที่ต้องจัดทำทั้งหมด 7 แบบ คือ มคอ.1) การพัฒนามาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา มคอ.2) กรอบมาตรฐานคุณวุฒิกับการพัฒนารายละเอียดของหลักสูตร มคอ.3) การพัฒนารายละเอียดของรายวิชา (Course Specification) มคอ.4) การพัฒนารายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม (Field Experience Specification) มคอ.5) การรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา (Course Report) มคอ.6) การรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม (Field Experience Report) มคอ.7) การรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตร (Programme Report)
     เอกสารของ รศ.อุษณีย์ คำประกอบ ฝากให้กับคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย PowerPoint และแฟ้มตัวอย่างของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่ท่านรวบรวมไว้สำหรับเป็นตัวอย่างให้ทุกคนได้เรียนรู้ เพื่อเป็นตัวแบบในการใช้ประกอบพิจารณา และปรับปรุงให้สอดรับกับการจัดทำ TQF ในหลักสูตรของตนเอง
Download : http://www.yonok.ac.th/doc/oit/TQF_530506.zip
Download : http://www.yonok.ac.th/doc/oit/tqf_yonok_530506.ppt
+ http://www.thaiall.com/tqf
+ http://www.qa.rmutk.ac.th/Download/
+ http://www.mua.go.th/users/tqf-hed/
+ http://www.eqd.cmu.ac.th
+ http://eoffice.pharmacy.cmu.ac.th/mis/person/view_person_detail.asp?id=6246

เว็บรุ่นของเพื่อนเก่า (241)

เว็บรุ่น ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย

4 พ.ค.53 เว็บรุ่นของเพื่อนเก่า : กว่าจะโตมาเป็นผู้เป็นคน มนุษย์ในปัจจุบันมักผ่านการศึกษามาจากหลายสถาบันในหลายระดับ และมีเพื่อนใหม่ ครูใหม่ ห้องเรียนใหม่ สังคมใหม่ สั่งสมประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ บางสถาบันการศึกษามีชั้นเรียนหลายระดับและสลับกลุ่มเรียนทุกปีการศึกษา บางสถาบันมีการสลับกลุ่มเรียนในแต่ละวันตามแต่ความสนใจของแต่ละบุคคล เช่น โรงเรียนอนุบาลลำปางมีการสลับกลุ่มเพื่อนในชั้นเรียนทุกปีการศึกษาที่ใช้วิธีการสุ่มโดยการจัดการของครู ในมหาวิทยาลัยจะเปิดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียนวิชาและตอนเรียนได้ตามความสนใจทำให้การเรียนในแต่ละวันอาจพบเพื่อนไม่ซ้ำหน้ากันเลยก็ได้ ทำให้มนุษย์มีโอกาสพบปะผู้คนที่หลากหลายไม่ซ้ำเหมือนเช่นในอดีต แต่ถึงกระนั้นผู้คนในสังคมไซเบอร์ส่วนหนึ่งก็ยังแสวงหาเพื่อนใหม่แปลกหน้าผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ตลอดเวลา
             การศึกษาเริ่มจากประถมศึกษาไปสู่มัธยมศึกษา แล้วเลือกเรียนในสายอาชีพหรือสายสามัญ จากนั้นก็ก้าวต่อไปยังระดับอุดมศึกษา ความสัมพันธ์ของเพื่อนในระดับประถมศึกษาจะเหมือนความสัมพันธ์ตามที่เราพบจากภาพยนต์เรื่องแฟนฉัน คือ ไม่ค่อยจะชัดเจน เรื่องราวที่เกิดขึ้นมักเลือนหายไปกับกาลเวลา แต่ถ้าเป็นระดับมัธยมศึกษาจะมีความผูกพันธ์ที่ลืมได้ยาก เพราะเป็นเหตุการณ์ในช่วงวัยรุ่นที่คึกคะนองและร่วมกันทำอะไรที่น่าจดจำด้วยกันอยู่เสมอ เมื่อก้าวต่อไปสู่ระดับอุดมศึกษาก็ต้องเตรียมพร้อมกับการเป็นผู้ใหญ่ ต้องรับผิดชอบมากขึ้น มีเหตุผลในการใช้ชีวิต ความสัมพันธ์อย่างวัยรุ่นเริ่มหายไป แต่ใช้เหตุผลในการมีปฏิสัมพันธ์ที่เรียกว่าสังคมของนักศึกษา เช่น การทำรายงานกลุ่ม การออกค่ายอาสา การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยร่วมกัน เป็นต้น
                เว็บรุ่นเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคย แต่การสร้างเว็บรุ่นขึ้นมาและทำให้คงอยู่อย่างยั่งยืนนั้นยาก เพราะการรวมกลุ่มเพื่อนครั้งประถมศึกษานั้นไม่ง่าย เนื่องจากทุกอย่างเลือนหายไปกับเวลาและมีภารกิจมากมายที่ถาโถมเข้าใส่ระหว่างเติมโตเป็นผู้ใหญ่ เว็บรุ่นมัธยมศึกษาสามารถเกิดขึ้นและหายไปในเวลาที่รวดเร็วจากเหตุที่ทุกคนต้องให้เวลากับสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ และกิจกรรมใหม่หลังแยกย้ายกันไปเรียนต่อในสถาบันการศึกษาแห่งใหม่ที่แตกต่างกัน แต่การกลับมารวมกันของเพื่อนมัธยมศึกษานั้นมักพบเห็นได้หลังจากทุกคนเริ่มมีความพร้อมทางสังคม มีเวลาให้รำลึกถึงอดีต  และมีชีวิตที่มั่นคงพอจะเข้าร่วมกับสังคมเพื่อนเก่า แล้วย้อนรำลึกเรื่องราวในอดีตที่งดงามรวมกันอีกครั้ง ปัจจุบันเว็บบล็อก เว็บเครือข่ายสังคม เว็บบอร์ดล้วนเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้เขียนได้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางเชื่อมโยงเพื่อนทุกระดับได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ปัญหาที่ตามมาคือเวลาที่ต้องทำกิจกรรมร่วมกันกับแต่ละกลุ่ม จนอาจทำให้ภารกิจในครอบครัวและการงานบกพร่อง ก็ต้องเตือนตนตลอดเวลาว่าต้องมีความสมเหตุสมผลในการเข้าสังคม และตระหนักถึงเป้าหมายสูงสุดของชีวิตมิให้เสียหายได้
http://www.aclalumni.com
+ http://www.thaiall.com/homepage/bwc30
+ http://www.thaiabc.com/ynalumni
+ http://www.facebook.com/profile.php?id=814248894

ประชุมทบทวนและเสนอเรื่องใหม่

2 พ.ค.53 มีโอกาสทำรายงานการประชุมทบทวนแผนการจัดการความรู้ (KM : Knowledge Management) หลายท่านขอสงวนนามไว้ แต่มีรายละเอียดชวนให้เรียนรู้ เป็นแนวคิดของแต่ละคน ดังนี้
1) วาระ แจ้งเพื่อทราบ อ.อติบุ๋ม แจ้งให้ทราบว่าในปีการศึกษา 2551 มหาวิทยาลัยมีการจัดการความรู้ในระดับมหาวิทยาลัยเป็นปีแรก โดยเริ่มต้นด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัยตามแผนการจัดการความรู้ของมหาวิทยลัย ดังนั้นในปีการศึกษา 2552 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควรมีแผนการจัดการความรู้ที่ดำเนินการภายในคณะที่ชัดเจน จึงได้จัดให้มีการประชุมทบทวน และยกร่างแผนการจัดการความรู้ของคณะในครั้งนี้ขึ้น
2) วาระ ทบทวน อ.อติบุ๋ม ให้ข้อมูลแก่ที่ประชุมว่าการจัดการความรู้ในระดับมหาวิทยาลัย เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจแก่บุคลากร ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกนั้นดำเนินการด้วยความเรียบร้อย
3) อ.วิบุญ แสดงความเห็นสนับสนุนว่าผลการดำเนินงานตามแผนการจัดการความรู้นั้น ได้ให้ความรู้เรื่องการจัดการความรู้ที่มีประโยชน์ ทำให้เข้าใจว่าความรู้ฝังลึก และความรู้ชัดแจ้งนั้นคืออะไร จึงเข้าใจว่าทำไมรัฐบาลสนับสนุนให้มีการจัดการความรู้ในสถาบันการศึกษา และเกิดการยอมรับทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งเครื่องมือหนึ่งที่ใช้ในการจัดการความรู้คือแผนที่ความคิด (Mind Map) ที่สามารถใช้แสดงความคิดที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุม และมีแผนจะนำมาใช้ในการประชุม เพื่อจับประเด็น และหาข้อสรุปที่ได้จากการประชุม
4) อ.ศศิแนน เสนอว่า คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถดำเนินการจัดการความรู้ได้อย่างถูกต้อง เพราะ อ.อติบุ๋มเป็นกำลังสำคัญที่มีความเข้าใจในการจัดการความรู้ และทุกคนให้ความเคารพเชื่อถือ ซึ่งการจัดการความรู้จำเป็นต้องอาศัยความสามัคคี ความเห็นพร้อง ความเป็นผู้นำ ความไม่ยึดมั่นถือมั่น การรับฟัง และแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกัน หากเป็นผู้ที่ไม่มีความเข้าใจมาขับเคลื่อนอาจทำให้การจัดการความรู้ของคณะไม่สำเร็จก็ได้ จึงเสนอให้อ.อติบุ๋ม เป็นผู้นำในการจัดการความรู้ของคณะ
5) อ.ทนงเมือง เสนอว่าการจัดการความรู้ของคณะในปีการศึกษา 2552 ควรแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ มิถุนายน 2552 – พฤศจิกายน 2552 เพื่อให้สอดรับกับการประกันคุณภาพการศึกษาตามเกณฑ์ของ สมศ. ที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีพ.ศ.2552 และช่วงที่สอง คือ มกราคม 2553 – พฤษภาคม 2553 เพื่อให้เข้ากับการประกันคุณภาพการศึกษาตามเกณฑ์ของ สกอ. ซึ่งเป็นความพิเศษเฉพาะของคณะฯ ในปีนี้
6) อ.เกศลา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจากการอบรมทำให้ทราบว่าขั้นตอนของการจัดการความรู้ตามแนว กพร. มีทั้งหมด 7 ขั้นตอน คือ 1) การบ่งชี้ความรู้ คือ การระบุประเด็นความรู้ รูปแบบ และผู้รู้ที่สอดรับกับนโยบาย ขอบเขตและเป้าหมายขององค์กร 2) การสร้างและแสวงหาความรู้ คือ การรวบรวมความรู้ใหม่ รักษาความรู้เดิม และกรองความรู้ที่ไม่ใช้ออกจากแหล่งรวบรวม 3) การจัดความรู้ให้เป็นระบบ คือ การวิเคราะห์และคัดแยกความรู้เป็นกลุ่มประเด็นให้ง่ายต่อการเข้าถึงอย่างมีขั้นตอน 4) การประมวลและกลั่นกรองความรู้ คือ การปรับปรุงให้ความรู้มีรูปแบบมาตรฐาน ไม่ซ้ำซ้อน มีความสมบูรณ์ มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ 5) การเข้าถึงความรู้ คือ การสร้างแหล่งเผยแพร่ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา 6) การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ คือ การนำความรู้เข้าสู่เวทีแลกเปลี่ยนที่มีฐานความรู้หรือฐานข้อมูลรองรับให้ง่ายต่อการเข้าถึงและสืบค้น 7) การเรียนรู้ คือ การใช้ความรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เป็นวงจรความรู้ที่มีการเรียนรู้และพัฒนาให้เกิดประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน และนำไปปฏิบัติได้
7) ที่ประชุมมีมติ ว่าการจัดการความรู้ในปีที่ผ่านมาเป็นการปูพื้นฐานให้บุคลากรที่เพียงพอแล้ว ในครั้งต่อไปให้คณะมีแผนการจัดการความรู้ของคณะที่ชัดเจน และถือเป็นงานประจำของคณะที่ต้องดำเนินการทุกปี และมอบให้อ.อติบุ๋ม เป็นผู้ขับเคลื่อนงานการจัดการความรู้ของคณะต่อไป
8) เสนอหัวเรื่อง อ.อติบุ๋ม แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จากการหารือกับ อ.ศศิแนน ได้ข้อสรุปว่า คณะควรมีหัวเรื่องการจัดการความรู้ที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2552 เป็นการจัดการความรู้สำหรับช่วงแรกในกรอบปีพ.ศ.2552 และจัดทำรายงานตามเกณฑ์ของ สมศ. จึงขอให้อาจารย์ร่วมเสนอหัวเรื่องแล้วพิจารณาร่วมกัน และอ.อติบุ๋ม จะนำหัวเรื่องที่ได้ไปจัดทำแผนการจัดการความรู้ เพื่อเสนอในที่ประชุมผู้บริหารคณะพิจารณาอนุมัติต่อไป
9) อ.บุพันธุ์ เสนอเรื่องหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพราะปัจจุบันผู้คนขาดความรู้ความเข้าใจในหลักสำหรับการดำรงชีวิตในสังคมบริโภคนิยม และไม่ปฏิบัติตนอย่างสมเหตุสมผล มีความโลภ โกรธ หลงเป็นที่ตั้ง ชีวิตจึงวุ่นวายไม่สิ้นสุด
10) อ.วิบุญ เสนอเรื่องการพัฒนาการเรียนการสอน เพราะเป็นหัวข้อที่สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ทุกคน และสอดรับกับพันธกิจของมหาวิทยาลัยด้านการเรียนการสอน
11) ที่ประชุมมีมติ เลือกเรื่องการพัฒนาการเรียนการสอน เป็นหัวข้อการจัดการความรู้ของคณะในช่วงที่หนึ่งส่วนช่วงที่สองให้ดำเนินการช่วงที่หนึ่งให้แล้วเสร็จก่อน

ร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจรับงานจัดทำเว็บไซต์

เว็บไซต์จากอินเทอร์เน็ต

2 เม.ย.53 มีเพื่อนชวนไปเป็นกรรมการตรวจรับงานจัดทำเว็บไซต์หนึ่ง มีงบจัดจ้าง 133200 บาท แบ่งเป็นค่าบริการออกแบบและจัดทำทั้งหมด 5 รายการ คือ a) เว็บหลัก 36000 b) เว็บสองภาษา 37000 c) โครงการเยส 21000 d) สังคมออนไลน์ 34000 e) เว็บบอร์ด 5200 การเป็นกรรมการครั้งนี้ได้ใบส่งของ (invoice) ซึ่งมีรายละเอียดว่าจะทำอะไรบ้าง แล้วผมก็ลองหยิบมาตรวจตามรายการ  ตรวจ a) เว็บหลัก พบว่า  1) สิ่งที่ยังไม่ทำ 2 หน้า คือ สารจากผู้บริหาร และติดต่อ ส่วนที่พิมพ์ผิดมีหลายหน้า คือ วิสัยทัศน์ เจ้าของ ชื่อผู้บริหาร กรรมการบริหาร แผนที่ 2) สินค้า สิ่งที่พบคือ ปัดบรรทัดผิด และผู้บริหารยังไม่ยอมรับเนื้อหาที่ขัดกับคุณภาพขององค์กร เช่น ไม่เช็คชื่อบ้าง 3) รายการระดับไม่ครบ
     ตรวจ b) เว็บสองภาษา พบรายการที่ทำแล้วเพียงกึ่งหนึ่ง ตรวจ c) โครงการเยส พบรายการที่ทำแล้วไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ตรวจ d) สังคมออนไลน์ รายการน่าจะครบ แต่มีข้อสังเกตเรื่อง back office ว่าใครได้หรือไม่ ตรวจ e) เว็บบอร์ด เห็นคำว่าปรับปรุง กับคำว่า re-design คนละรายการ .. ที่เล่านี่ก็เป็นประสบการณ์หนึ่งที่อยากจะแบ่งปัน .. ยามตรวจงานเสร็จ

ด้วยอาลัย นางสาวพจนีย์ หน่อพรหม

พี่หนิง พจนีย์ หน่อพรหม

30 เม.ย.53 ผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษามหาวิทยาลัยโยนก ไปร่วมพิธีงานศพของนางสาวพจนีย์ หน่อพรหม (พี่หนุงหนิง) ณ คริสตจักรลำปางแบ๊บติสท์ ตรงข้ามสวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ถ.ศิรินาวิน ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ในวันศุกร์ที่ 30 เมษายน 2553 เวลา 19.30 น. พี่หนุงหนิงเป็นคนแรกที่เสียชีวิตในมหาวิทยาลัย และเป็นศิษย์เก่ารุ่นแรกของมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุที่มีโรคประจำตัวรุ่มเร้าทั้ง เบาหวาน และความดัน มีเพื่อนร่วมรุ่น ศิษย์เอ็มบีเอ และบุคลากรไปร่วมพิธีกันมากมาย เพราะพี่หนิงเป็นคนน่ารัก โดยมีกำหนดตั้งศพที่ลำปางวันเดียว และเคลื่อนศพไป อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอนหลังเสร็จพิธี เพื่อนหลายคนวางแผนไปร่วมพิธีเผาศพที่แม่ฮ่องสอน (อ.แป๋ว ผู้นำประกอบพิธี ได้เล่าว่า พี่เขาเกิดวันที่ 5 พฤษภาคม 2508 อีกไม่กี่วันก็ครบรอบวันเกิดของเขาแล้ว)  ด้วยอาลัยรักจากเพื่อนรุ่น 1